กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 22-05-2023, 18:07
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,642
ได้ให้อนุโมทนา: 216,883
ได้รับอนุโมทนา 747,459 ครั้ง ใน 36,409 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 22-05-2023, 23:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,949 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ตั้งแต่ตี ๔ พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน ก็เอารถไปส่งกระผม/อาตมภาพที่สนามบินนานาชาติดอนเมือง เพื่อที่จะเดินทางลงไปสงเคราะห์ญาติโยมที่จังหวัดภูเก็ต การเช็คอินในระยะนี้สะดวกสบายขึ้นมาก เพราะว่าแค่ส่งบัตรประชาชนให้ ทางด้านเจ้าหน้าที่ของสายการบินก็ออกตั๋วที่นั่งให้เรียบร้อย

เมื่อเข้าไปถึงทางด้านในแล้ว กระผม/อาตมภาพต้องไปนั่งอ่านหนังสือ รอเวลาขึ้นเครื่องประมาณ ๑ ชั่วโมง ปรากฏว่าเมื่อขึ้นเครื่องและออกเดินทางแล้ว ถึงได้ทราบว่า เดี๋ยวนี้ทางสายการบินไม่มีการแจกอาหารเช้าหรือน้ำดื่มใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ ถ้าเป็นการเดินทางช่วงเช้า ไม่เกิน ๙ โมง จะมีการแจกอาหารให้ด้วย ก็พยายามเข้าใจว่าเป็นการลดรายจ่ายอย่างหนึ่ง

แต่ว่าทำให้กระผม/อาตมภาพต้องนั่งอมลิ้นไปจนกระทั่งถึงสนามบินภูเก็ต ซึ่งกำลังชุ่มโชกไปด้วยน้ำฝน โดยกัปตันกฤษณะพล นำเครื่องลงก่อนเวลา ๑๓ นาที ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ภูเก็ตมีฝนตก เนื่องจากว่าในระยะอาทิตย์ก่อนที่ผ่านมา ภูเก็ตติดอันดับจังหวัดที่ร้อนที่สุดของภาคใต้ เมื่อมีฝนมา ก็ทำให้ทุกอย่างเย็นลง

ท่านอาจารย์หนึ่ง (อาจารย์สุรศักดิ์ ทศกาญจน์ ) พร้อมด้วยเพื่อน คือทิดรัตน์ (นายรัตน์ เพื่อนรักษ์) อดีตนักบิณฯ ประจำวัดท่าขนุนนำรถมารับ ขับหนีรถติด อ้อมออกมาทางเส้นทางลัดริมทะเล แต่เมื่อหลุดเข้ามาในตัวเมือง บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร ก็ติดอีรุงตุงนังเหมือนเดิม ภูเก็ตของเรานั้น ความเจริญต้องบอกว่าถึงขีดสุดแล้ว ไม่สามารถที่จะขยายอะไรให้มากไปกว่านี้ แต่ว่ามีบุคคลผู้เข้ามาทำมาหากินก็ดี ท่องเที่ยวก็ดี ในแต่ละปีมีแต่จะมากขึ้นไปเรื่อย ๆ

เมื่อไปถึงบ้านเลขที่ ๙๑ ถนนเยาวราช ๑ ซึ่งต้องขออภัยที่ลงข้อมูลผิดในเฟซบุ๊กว่าเป็นบ้านเลขที่ ๙๘ ทางด้านคุณสหัสชัย - คุณวนิดา ทศกาญจน์ เจ้าของบ้านก็มาต้อนรับ กระผม/อาตมภาพต้องรับสังฆทานและสนทนากับญาติโยมอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะขอตัวตอนประมาณ ๑๐ โมงขึ้นไปพักชั่วคราวทางด้านบน แล้วค่อยลงมาฉันเพล จากนั้นหลังเพลก็ลุยกันยาวตั้งแต่ประมาณเที่ยงครึ่งจนถึง ๔ โมงครึ่ง แล้วมาหยุดสรงน้ำ และบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนอยู่ในขณะนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-05-2023 เมื่อ 04:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 22-05-2023, 23:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,949 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพไม่ได้ลงภูเก็ตมาประมาณ ๓ ปี เนื่องเพราะว่าเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาด แม้ว่าจะมาครั้งนี้ก็ยังต้องใส่หน้ากากอยู่ดี เพราะว่าตอนช่วงที่ไปแคชเมียร์ - เลห์ - ลาดัก ได้ใช้ออกซิเจนถังเดียวกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ในคณะ เมื่อกลับมาถึงเมืองไทย ไอ้ตัวเล็กที่มาส่งงานก็ดันติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ อีก..! กระผม/อาตมภาพกลายเป็นผู้เสี่ยงสูง จึงต้องป้องกันญาติโยมด้วยการใส่หน้ากากดีกว่า แม้ว่าตลอดระยะการระบาด ๘ ระลอกที่ผ่านมา กระผม/อาตมภาพถึงจะอยู่ปฐมพยาบาลดูแลผู้ป่วย ก็ไม่ได้ติดเชื้อกับใคร เรียกว่าป้องกันไว้ก่อน ด้วยความไม่ประมาท

แต่ว่าจากที่ได้นั่งสนทนากับญาติโยมที่มีคำถามต่าง ๆ แล้วก็รู้สึกเสียดาย ที่ว่ารู้สึกเสียดายก็คือแต่ละคนถามคำถามที่ไม่น่าถาม เพราะว่าเป็นเรื่องนอกทุ่งนอกท่า ไกลจนเกินไป อย่างเช่นสถานการณ์บ้านเมือง สถานการณ์โลก ฯลฯ

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ เราควรที่จะให้ความสนใจให้น้อยที่สุด เนื่องเพราะว่าเราทั้งหลายเป็นผู้เริ่มในการปฏิบัติธรรม บุคคลที่เริ่มปฏิบัติธรรมนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสั่งสมกำลังของตนเองให้เพียงพอ เพื่อที่อันดับแรก จะได้มีกำลังพอที่จะกด รัก โลภ โกรธ หลง ให้นิ่งสนิทลงชั่วคราว แล้วหลังจากนั้นจะได้อาศัยกำลังนี้ในการพิจารณา ตัด ละ สิ่งต่าง ๆ โดยเฉพาะถ้ากำลังไม่พอ ก็ไม่สามารถที่จะตัด ละ และก้าวข้ามไปได้

แต่ว่าท่านทั้งหลายก็มักจะอยู่ในลักษณะของบุคคลที่ฟุ้งซ่าน ไปสนใจเรื่องภายนอก ตาเห็น หูได้ยิน จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส กายสัมผัส สนใจทุกอย่าง สนใจทุกเรื่อง ยกเว้นการรักษาใจตนเอง จึงทำให้กำลังในการปฏิบัติของเรานั้นรั่วไหลไปหมด ทำเท่าไรก็ไม่เพียงพอที่จะกดกิเลสให้นิ่งสงบ ทำเท่าไรก็ไม่เพียงพอที่จะ ลด ละ เลิก กิเลสต่าง ๆ ลงไปได้..!

แต่เราท่านทั้งหลายก็มักจะอยู่ในลักษณะของคนที่ "คัน" ในเมื่อคันก็ต้องเกา แต่ว่าเกาไปแล้วจะถลอกปอกเปิก ได้รับบาดเจ็บ แสบร้อนตนเองอย่างไรนั้นไม่ค่อยคำนึงถึง ทำให้กระผม/อาตมภาพเสียดายมากว่า เมื่อท่านทั้งหลายมีเวลาควรที่จะทุ่มเทกับการภาวนา รักษาอารมณ์ใจให้อยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-05-2023 เมื่อ 04:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 23-05-2023, 00:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,949 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเราทั้งหลายตั้งเป้าไว้ว่า "ปรารถนาพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้" ก็เปรียบเหมือนกับว่าเราต้องการจะซื้อรถยนต์สักคันหนึ่ง ตีเสียว่าราคารถยนต์ในปัจจุบันระดับที่ใช้งานได้ อยู่ที่ราคาคันละหนึ่งล้านบาท ท่านทั้งหลายพอเก็บเงินได้สองหมื่น สามหมื่น ก็เที่ยวไปซื้อโน่นซื้อนี่ ให้ตา ให้หู ให้จมูก ให้ลิ้น ให้กาย ให้ใจเสียหมด แล้วเมื่อไรถึงจะมีเงินเพียงพอที่จะซื้อรถตามที่เราต้องการ ?

การปฏิบัติธรรมหวังความหลุดพ้นของท่านทั้งหลายก็เช่นกัน อันดับแรกเลย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเจริญจิตภาวนา สั่งสมกำลังให้มากพอ เพื่อที่จะได้กด รัก โลภ โกรธ หลง ให้ดับลงชั่วคราว เราจะได้ไม่ส่งส่าย ไม่วุ่นวายมาก ทำให้มีสติ รู้จักคิด พิจารณาให้เห็นความเป็นจริง ตามแต่วาสนาบารมีที่สั่งสมมา ถ้าหากว่าของเดิมทำเอาไว้มาก ก็สามารถที่ จะลด จะละ จะเลิก รัก โลภ โกรธ หลง ต่าง ๆ ลงไปได้มากน้อยตามแต่ตนเองได้ทำมา

แต่ว่าทุกคนกลับอยู่ในลักษณะของบุคคลที่ฟุ้งซ่าน อยากรู้ทุกเรื่อง สนใจไปทุกเรื่อง ซึ่งถ้าหากว่าผิดท่าผิดทางในลักษณะนอกทุ่งนอกท่ามา หลายท่านก็จะโดนกระผม/อาตมภาพด่าไปตรง ๆ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ากระผม/อาตมภาพนั้น
"เข็ดแล้ว" กับเรื่องของการให้ความสนใจกับเรื่องนอกตน ไม่ฟุ้งซ่านไปในอดีต ก็ฟุ้งซ่านไปในอนาคต แล้วทำให้ รัก โลภ โกรธ หลง กำเริบ เกิดอาการจิตตก สมาธิตก กรรมฐานแตก ครั้งแล้วครั้งเล่า บางทีวันหนึ่งก็ตกแล้วตกอีกเป็นสิบเป็นร้อยครั้ง..!

แต่ด้วยความที่ท่านทั้งหลายยังคันอยู่ ยังไม่เข็ด ก็ทำให้ท่านทั้งหลายยังไม่รักษากำลังที่เราภาวนาเอาไว้ พยายามที่จะปล่อยให้รั่วเสียด้วยซ้ำไป เพราะว่าไปสนใจเรื่องไม่เป็นเรื่องทั้งหลายเหล่านั้น

กระผม/อาตมภาพยืนยันว่า ถ้าเป็นปัญหาในการปฏิบัติธรรม แล้วท่านทั้งหลายตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติไป จะได้คำตอบอยู่ในตัวอยู่แล้ว แต่ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายไม่ทำ เอาแต่ถาม นั่นไม่ใช่วิสัยของนักปฏิบัติธรรมที่ดี เพราะว่าการถามของท่านนั้น เมื่อได้รับคำตอบไปก็เกิดความฟุ้งซ่าน อยากมี อยากได้ อยากเป็น อย่างที่กระผม/อาตมภาพตอบไป

ในเมื่อเอาความอยากนำหน้า ก็คือเอากิเลสนำหน้า เอาตัณหานำทาง แล้วการปฏิบัติธรรมของท่านทั้งหลายจะประสบความสำเร็จนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ต้องหวัง เพราะว่าเราฟุ้งซ่านนำหน้าไปก่อน จิตของเราไม่สงบพอ แล้วเราจะเอากำลังที่ไหนไปต่อสู้กับกิเลสได้ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-05-2023 เมื่อ 04:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 23-05-2023, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,949 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านทั้งหลายซึ่งประสบภาวะที่ปฏิบัติธรรมมาเป็นปี หลายปี หรือว่าหลายสิบปี แต่เอาดีไม่ได้เสียที ต้องรู้จักพินิจพิจารณาในตรงนี้ด้วย ว่าตัวเราเองทำแล้วเอาไปถวายกิเลสจนหมดหรือเปล่า ? อย่างเช่นว่านั่งภาวนาครึ่งชั่วโมง แต่ไปเขี่ยไลน์ไปส่องเฟซฯ เสียสองชั่วโมง แล้วจะเหลือกำลังที่ไหนมาสู้กิเลส ?

ดังนั้น..นักปฏิบัติที่หวังความดีจริง ๆ ในระยะแรก พึงปลีกตัวออกจากหมู่ ตัดการสื่อสารจากโลกภายนอกไปได้เลยยิ่งดี ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติตน จนกระทั่งกำลังใจมั่นคงแล้ว ค่อยออกมาทดสอบ ชนกับกิเลสข้างนอก ถ้าหากว่าพังก็ปลีกตัวไปปฏิบัติใหม่ แล้วก็ออกมาทดสอบดูใหม่ จนกระทั่งเรามั่นคงพอที่จะไม่พังง่าย ๆ

หลังจากนั้นแล้วกำลังของท่านทั้งหลายก็จะเพียงพอจากด้านของสมถภาวนา ก็ให้ก้าวเข้าไปหาวิปัสสนาภาวนา พยายามพิจารณาให้เห็นว่าร่างกายนี้ไม่เที่ยงอย่างไร เป็นทุกข์อย่างไร ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเราอย่างไร จนกระทั่งเห็นชัดเจน สภาพจิตยอมรับ ก็จะเกิดความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด หมดความปรารถนาในร่างกายนี้

เมื่อหมดความปรารถนาในร่างกายตัวเอง ก็หมดความปรารถนาในร่างกายคนอื่น หมดความปรารถนาที่อยากจะมาเกิดในโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากเร่าร้อนแห่งนี้ ถ้าอย่างนั้น ท่านก็จะค่อย ๆ ถอนจิตของตนออกมาจากบ่วงกิเลส เข้าถึงมรรคถึงผล มากน้อยตามกำลังที่ตนเองกระทำมา


สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-05-2023 เมื่อ 04:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:53



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว