กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 24-07-2023, 19:46
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,648
ได้ให้อนุโมทนา: 216,888
ได้รับอนุโมทนา 747,524 ครั้ง ใน 36,418 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 25-07-2023, 00:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,109 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพกำลังอยู่ในอาการ "แบตฯ หมด" เพราะว่าวันนี้วิ่งไปทำภารกิจหลายที่ แห่งแรกเลยก็ต้องไปงานทำบุญอายุวัฒนมงคล ๖๕ ปี พระครูปิยกาญจนธรรม (นเรศ ปิยธมฺโม) หรือที่เรียกชื่อเดิมกันว่า หลวงพ่อโนรี เจ้าอาวาสวัดหนองหญ้าปล้อง รองเจ้าคณะอำเภอด่านมะขามเตี้ย หลวงพ่อโนรีอายุมากกว่ากระผม/อาตมภาพ ๑ ปี แต่พรรษาน้อยกว่า ๑ พรรษา ก็คือท่านบวชทีหลังหนึ่งปี

ออกจากตรงนั้นก็วิ่งไปทำภารกิจส่วนตัวให้กับพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ซึ่งต้องไปติดต่อกับธนาคารกสิกรไทยให้ท่าน แต่..เจ้ากรรมเถอะ..เดินเข้าธนาคารไป เจ้าหน้าที่ก็ถามว่า "หลวงพ่อเล็กใช่ไหมคะ ?" แล้วตอนนี้ตูจะไปไหนได้วะ..!

ระยะนี้เรื่องของการเดินทางแวะที่ไหนไม่ได้เลย แวะเมื่อไรต้องมีคนรู้จัก อย่างที่เคยเล่าให้ฟังก็คือ เข้าห้องน้ำในสถานีบริการน้ำมัน เดินไปยังไม่ทันจะถึงห้องน้ำ ก็มีคนวิ่งมากราบ ดีอกดีใจ บอกว่าไปหาที่วัดมา ๗ - ๘ ครั้งแล้วไม่เจอ มาเจอกันที่หน้าห้องน้ำนี่เอง เขานั้นดีใจมาก แต่กระผม/อาตมภาพออกอาการน้ำตาจิไหล..! เพราะปวดฉี่จะเล็ดอยู่แล้ว แต่ต้องคุยกับเขาก่อน..!

เมื่อทำธุระให้กับหลวงพ่อเจ้าคณะภาค ๑๔ เสร็จ ฉันเพลแล้วก็ต้องวิ่งไปวัดพุตะเคียน ไปเป็นเจ้าของบ้านแทนหลวงพ่อต๋อง (พระครูสุทธิสารโสภิต) เจ้าอาวาสวัดพุตะเคียน รองเจ้าคณะอำเภอไทรโยค เพราะว่าท่านก็ไปกิจนิมนต์เหมือนกัน แต่ว่าทางด้านสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ไปจัดงานประเมินชุมชน องค์กร อำเภอ และจังหวัดคุณธรรมที่นั่น หลวงพ่อต๋องโทรมาหากระผม/อาตมภาพ บอกว่า "ผมฝากความหวังไว้ที่หลวงพ่อเล็กเลยนะ" เป็นเสียอย่างนั้น..! ก็คือเจ้าตัวก็ไปกิจนิมนต์เหมือนกัน งานเดียวกันด้วย แต่ท่านมั่นใจว่าท่านออกมาไม่ทันอย่างแน่นอน

เพราะว่าหลวงพ่อโนรีกับกระผม/อาตมภาพ สนิทสนมกันมา ไม่ถึง ๓๐ ปีก็ใกล้เคียง สามารถที่จะแจ้งท่านว่ามีภารกิจที่อื่น แล้วไปต่อได้เลย แต่ของหลวงพ่อต๋องกับหลวงพ่อโนรี ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะอำเภอไล่ ๆ กัน เพิ่งจะเจอหน้าเจอตากันในงานต่าง ๆ ไม่กี่ครั้ง ความสนิทสนมยังไม่เพียงพอ ที่จะหนีงานเขาต่อหน้าต่อตาได้ ก็เลยลำบากหน่อย

ในเมื่อโดนเข้าไปหลายงาน
กระผม/อาตมภาพจึงเกิดอาการ "แบตฯ หมด" คนอื่นส่วนใหญ่แล้วเขาลืมไปว่ากระผม/อาตมภาพอายุย่าง ๖๕ ปีแล้ว มีอะไรก็ขอให้ช่วย ใช้งานอย่างเดียว คนแก่นี่ถึงเวลากำลังไม่พอ ก็จะนั่งหลับเอา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-07-2023 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 25-07-2023, 00:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,109 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้กลับมาอย่างแรกเลยก็ต้องเข้าไปตรวจการณ์ในเว็บวัดท่าขนุน ปรากฏว่าเหรียญหลวงปู่อยู่ (พระครูรัตนาภิรมย์) วัดบ้านแพน พระอุปัชฌาย์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง หมดเกลี้ยงไปแล้ว ประมาณว่าหมดไปตั้งแต่หน้าที่ ๓ แล้ว แต่คนยังจองไปยันหน้าที่ ๖..!

ในเมื่อต้องการกันมาก เดี๋ยวคงต้องหาอย่างอื่นไปลงแทน ตอนนี้ของครูบาอาจารย์ ก็น่าจะเหลือแต่เหรียญของหลวงปู่สาย วัดท่าขนุนนี่แหละ แต่ก็เหลืออยู่ไม่เท่าไร แล้วก็ไม่ใช่ของเดิมที่กระผม/อาตมภาพได้มาด้วย เป็นของแม่ชีชื่น (อุบาสิกาชื่น ศรีสองแคว) ถวายมา เป็นเหรียญที่พวกเราเรียกกันแบบรู้กันในวงในว่า "เหรียญรอดตายจากควายขวิด" เพราะว่าลูกศิษย์หลวงปู่แขวนเหรียญ แล้วไปโดนควายเปลี่ยวขวิดเอา ล้มกลิ้งล้มหงาย แต่ไม่มีบาดแผลอะไรเลย..!

ในเรื่องวัตถุมงคลของหลวงปู่สาย ต้องหลุดไปที่อื่นเราถึงจะมีสิทธิ์ที่จะหาได้ ถ้าอยู่ในทองผาภูมินี่ไม่ต้องเลย ลูกศิษย์หลวงปู่แต่ละคนเลี่ยมทองแขวนขึ้นคอกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเหรียญรุ่นแรกหรือว่ารุ่นสุดท้าย แล้วสิ่งที่ชาวบ้านเขาอยากได้ที่สุด ไม่ใช่เหรียญรุ่นแรกของหลวงปู่สาย เขาอยากได้ธงมหาระงับ โดยเฉพาะช่วงนี้ฝนฟ้าตก ถึงเวลาจะจัดงานสำคัญอะไร ก็เอาธงมหาระงับของหลวงปู่ท่านไปปักไว้

กระผม/อาตมภาพเคยบ่นโรงงานไผ่สมจิตร ที่เขาจัดงานบวชลูกชาย ตั้งโต๊ะจีนเย้ยฟ้าท้าดิน ทั้ง ๆ ที่เป็นหน้าฝน ถามว่า "ไม่กลัวฝนหรือ ?" เขาชี้ให้ดู "ธงหลวงปู่ปักอยู่โน่น..!" เรื่องของธงมหาระงับนี่ต้องบอกว่าฝืนธรรมชาติไปหน่อย กระผม/อาตมภาพออกแบบเสร็จแล้ว แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำ ต้องรอจังหวะมาหลายปีแล้วว่าเมื่อไรจะได้สักที

ต้นตำรับธงมหาระงับก็คือหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม หลวงพ่อคงมีลูกศิษย์ก็คือหลวงพ่อแช่ม กับ หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี แล้วหลวงปู่สายไปเรียนมาจากหลวงปู่เนื่องอีกที

ถ้าถามว่าธงมหาระงับดีขนาดไหน ? ก็ต้องไปหาประวัติดู หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อมถึงขนาดต้องเอาไปทิ้งทะเล เพราะว่าลูกศิษย์พอได้ไป แล้วก็ไปเป็นโจรปล้นชาวบ้านเขา ถึงเวลาตำรวจไล่มา หนีไม่ทันก็เอาธงปักพื้น แล้วก็ยิงสู้ตำรวจ ตำรวจมีปัญญาก็ยิงไปเถอะ ไม่รู้ว่ากระสุนหายไปทางไหนหมด แต่โจรยิ่งมานี่..ตำรวจทั้งเจ็บทั้งตาย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-07-2023 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 25-07-2023, 01:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,109 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยเฉพาะตอนช่วงพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม เป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ เครื่องบินญี่ปุ่นบินทิ้งระเบิดอยู่ทุกวัน ตรงไหนสว่างตรงนั้นโดน เพราะเขาต้องการจะตัดสาธารณูปโภค โดยเฉพาะพวกน้ำ พวกไฟ หรือไม่ก็การขนส่ง ปรากฏว่าลูกศิษย์จัดงานศพถวายหลวงพ่อคงแบบเย้ยฟ้าท้าดิน ไฟมีกี่ดวงเปิดหมด แต่บนยอดเมรุปักธงมหาระงับหลวงพ่อคงเอาไว้..!

หลวงพ่อคงท่านทำทั้งธงมหาระงับและตะกรุดมหาระงับ ตอนหลังหลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราชก็ทำตะกรุดมหาระงับเหมือนกัน อย่างที่กระผม/อาตมภาพเอาดอกพิเศษมาไว้ในศาลา ๑๐๐ ปีหลังนี้ ดอกนี้ไม่มากไม่มาย ความยาวน่าจะ ๓๐ นิ้ว..! มียาวกว่านี้อีกนะ เขาเรียกมหาระงับพิสดาร เพราะว่าหลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช ท่านลงความรู้ของท่านไว้หมดเลย แต่หลัก ๆ เลยก็คือมหาระงับ

โดยปกติที่ท่านทำก็คือ ๘ นิ้ว เกิน ๘ นิ้วขึ้นไปส่วนใหญ่ทำให้ลูกศิษย์ที่อุปถัมภ์อุปัฏฐากวัดอยู่ ท่านทำให้เป็นของประจำตระกูล แต่พอมาถึงรุ่นหลัง ๆ ลูกหลานไม่ค่อยรู้คุณค่า อยากได้เงินก็เอามาจำหน่าย พวกเราเห็นที่ไหนโดดคว้าไว้เลยนะครับ ไม่ใช่ของที่หาง่าย ตอนนี้กระผม/อาตมภาพตามอยู่ดอกหนึ่ง ยาว ๔๐ นิ้ว หรือ ๓๙ นิ้วก็ไม่รู้ ? จีบมาหลายรอบแล้วยังไม่ติด เขาจะเอาราคาสูงเกินไป เราก็ต้องรอไปจนกว่าเขาจะร้อนเงิน..!

เรื่องของพวกบรรดานักเล่นวัตถุมงคลนั้นใจร้อนไม่ได้ บางรายเขารู้ว่า
กระผม/อาตมภาพมีอะไร เขาเทียวกันมา ๘ รอบ ๑๐ รอบ ประเภทเขาไม่ได้อะไร มาถึงก็เอาข้าวเอาของมาฝาก ขอส่องดูให้ชื่นใจหน่อยแล้วก็กลับบ้านได้ เขามาส่องอยู่บ่อย ๆ ท้ายสุดเขาก็ตื๊อจนเราใจอ่อนจนได้

คราวนี้เมื่อมาถึงยุคหลวงปู่สาย สิ่งที่ท่านทำมีแต่คนใกล้ที่ได้เห็นอานุภาพชัด..ก็เลยหวง ถ้าถามว่าหวงขนาดไหน ? ก็ขนาดหลวงพ่อเจ้าคุณทอมสันต์ - พระโสภณกาญจนาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี เอาเหรียญรุ่น ๑ หลวงปู่สายไปชุบสามกษัตริย์ เลี่ยมทองอย่างดี ติดตัวไว้ เพิ่งจะยอมปลดถวาย
กระผม/อาตมภาพมาตอนที่ฉลองอายุ ๖๐ ปี บอกว่า "ไม่มีอะไรจะให้อาจารย์เล็ก อาจารย์เล็กช่วยงานผมบ่อย ๆ จึงถวายของรักของตัวเองมา"

อยู่วัดใต้ท่านน่าจะแขวนเหรียญหลวงปู่เปลี่ยน แต่กลับแขวนเหรียญหลวงปู่สาย เพราะว่าท่านมาเป็นเจ้าคณะอำเภอที่นี่ สองหรือสามปีก็ไม่รู้ ตอนช่วงที่หลวงปู่สายหนีเข้าป่าไป ทางด้านในเมืองก็ผลัดเปลี่ยนกันมาเป็นเจ้าคณะอำเภอ หลวงพ่อเจ้าคุณทองดำ - พระราชวิสุทธาภรณ์ก็ขึ้นมาเป็นอยู่ช่วงหนึ่งเช่นกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-07-2023 เมื่อ 02:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 25-07-2023, 01:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,109 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ว่าส่วนใหญ่พระในเมืองมาแล้วอยู่ไม่ได้ เพราะว่าช่วงนั้นมาลาเรียดุมาก อย่างที่พวกท่านทั้งหลายเป็น ๆ กันอยู่ทุกวันนี้ ต้องบอกว่าห่างมาก ยุคนั้นนี่ยุงกัดเมื่อไรเป็นมาลาเรียเมื่อนั้น พระในเมืองท่านสู้มาลาเรียไม่ไหวก็เลยหนีหมด ตอนหลังชาวบ้านไปรับหลวงปู่สายกลับมา ท่านต้องกลับมาเป็นเจ้าคณะอำเภอใหม่ ฉะนั้น..ถ้าหากว่าค้นเจอเหรียญท่าน จะเอามาลงให้ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเหลือกี่เหรียญ เพราะว่าเคยเอามาลงในเว็บไปทีหนึ่งแล้ว

ของครูบาอาจารย์ส่วนใหญ่แล้วเราไม่ค่อยรู้คุณค่า กระผม/อาตมภาพเองเก็บของครูบาอาจารย์ไว้องค์ละ ๑ ชิ้น เอาไว้เป็นที่ระลึกถึงครูบาอาจารย์ อย่างน้อยท่านก็เคยสั่งเคยสอนมา เคยให้คำแนะนำมา
กระผม/อาตมภาพจะมีถุงเล็กอยู่ใบหนึ่ง ถึงเวลาก็เลี่ยมพลาสติกเสร็จสรรพเรียบร้อย ใส่รวมกันไว้ ก็เป็น ๑๐ รูปเหมือนกัน ครูบาอาจารย์ที่เคยขอความรู้ท่านมา

แต่ว่าครูบาอาจารย์บางท่านก็ต้องรอแล้วรออีก อย่างหลวงปู่ดู่ วัดสะแก เพราะว่าพระท่านรุ่นหลัง ๆ ที่เป็นผงจักรพรรดิแตกหักง่ายมาก กระผม/อาตมภาพจึงต้องหารุ่นเก่า ๆ ที่ท่านโขลกผงแล้วก็ผสมน้ำมันยาง พวกนั้นจะแข็งแรงหน่อย หรือไม่ก็หาตะกรุดมหาจักรพรรดิตราธิราชไปเลย

ตะกรุดหลวงปู่ดู่นี่หายาก เพราะว่าท่านใช้ไม้ไผ่ตันมา แล้วก็ค่อย ๆ เอามีดลนไฟ ขีดทีละเส้น ประณีตสุด ๆ บางอันท่านก็ใช้เหล็กเส้นลนไฟแล้วก็เจาะรู คุณลองนึกเอาก็แล้วกันว่าลนไฟทีหนึ่ง เจาะได้ไม่ถึงครึ่งมิลลิเมตรกระมัง ? แล้วตะกรุดยาว ๔ นิ้ว ๖ นิ้ว ถ้าเจาะตลอด ต้องใช้เวลาเท่าไร ? พูดง่าย ๆ ว่าถ้าไม่ใช่ฝึกหัดเพื่อรักษากำลังใจของตนเอง ไม่มีใครเขาเสียเวลาไปทำหรอก

เพราะว่าในเรื่องของวัตถุมงคลต่าง ๆ เป็นอุปเท่ห์อย่างหนึ่งที่ครูบาอาจารย์สอนให้พวกเราภาวนา สอนให้พวกเราใช้สมาธิ ก็คือหางานทำ ลบผง เขียนยันต์ นับลูกประคำอะไรเหล่านั้น บางทีก็เคี้ยวหมาก เคี้ยวไปก็ภาวนาไป คายออกมาก็ลองยิงได้เลย ดูว่าเหนียวจริงหรือเปล่า ?!

คนที่เข้าไม่ถึงก็โวยวายว่าเล่นไสยศาสตร์ หารู้ไม่ว่าท่านกำลังทำกรรมฐานแบบสุด ๆ โดยเฉพาะพวกผงวิเศษ ๕ ประการ ไม่ได้สมาบัติ ๘ อย่าเสียเวลาไปเขียน ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก ไปขอคนอื่นที่ท่านทำดีกว่า ขนาดหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ยังขอคนอื่นเลย ท่านบอกเลยว่า "ไม่ชำนาญด้านนี้"

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม , ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-07-2023 เมื่อ 03:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:57



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว