กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 08-08-2023, 20:05
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 346
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 18,902 ครั้ง ใน 824 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๖


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 08-08-2023, 22:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,694 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพได้ไปร่วมงานประชุมชี้แจงการบังคับใช้ผังเมืองของชุมชนทองผาภูมิ โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งต้องบอกว่าเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของอำเภอทองผาภูมิ

เนื่องเพราะว่าในจังหวัดกาญจนบุรีนั้น มีแค่อำเภอเมือง อำเภอท่าม่วง และอำเภอท่ามะกาเท่านั้น ที่มีการประกาศบังคับใช้ผังรวมชุมชน อำเภอที่ ๔ ก็คืออำเภอทองผาภูมิ การประกาศใช้ผังเมืองรวมนั้น ต้องบอกว่าเป็นความเจริญอย่างหนึ่งของพื้นที่ การบังคับใช้ก็จะต้องมีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วน ๆ ว่าพื้นที่ไหนใช้ทำอะไรได้บ้าง

เหตุที่อำเภอทองผาภูมิของเราสามารถประกาศบังคับใช้ผังเมืองรวมของชุมชนได้เร็ว ก็เพราะว่าไม่มีโรงงานอุตสาหกรรม อำเภอทองผาภูมิเป็นเขตต้นน้ำระดับ A ซึ่งต้นน้ำหรือระดับ A หรือว่า A1 ก็ตาม เป็นพื้นที่ที่ห้ามตั้งโรงงานหรือว่าผลิตสิ่งที่ก่อให้เกิดสารพิษ เพราะว่าเป็นต้นน้ำที่ชาวบ้านต้องใช้รวมกัน

ปัจจุบันนี้ทางด้านกรุงเทพฯ และปริมณฑล ใช้น้ำประปาที่ผลิตจากเขื่อนวชิราลงกรณ อำเภอทองผาภูมิ และเขื่อนศรีนครินทร์ อำเภอศรีสวัสดิ์ ซึ่งเขื่อนศรีนครินทร์นั้นจะไหลลงไปพักส่วนหนึ่งที่เขื่อนท่าทุ่งนา อำเภอเมือง แล้วก็ไหลรวมกับทางด้านแม่น้ำแควน้อย ตรงไปยังเขื่อนแม่กลอง อำเภอท่าม่วง แล้วจะมีคลองส่งน้ำกว้าง ๒๐ เมตร ยิงตรงไปยังโรงกรองน้ำธนบุรีและโรงกรองน้ำบางกรวย ผลิตน้ำประปาให้คนกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้ใช้กัน ในเมื่อเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น A อยู่แล้ว จึงทำให้การประกาศใช้ผังเมืองรวมนั้นง่ายมาก

แต่กระผม/อาตมภาพได้ฝากคำถามเอาไว้ก่อนที่จะกลับมาฉันเพลว่า "การอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ตั้งโรงงานต่าง ๆ ตามที่ระบุเอาไว้ท้ายราชกิจจานุเบกษานั้น ส่วนใหญ่แล้วชาวบ้านไม่ได้ตั้งเป็นโรงงานอุตสาหกรรม แต่ทำงานที่เราเรียกว่างานอุตสาหกรรมนั้นในที่อยู่อาศัย ซึ่งส่วนนี้เป็นปัญหาของใคร ? และจะแก้ไขอย่างไร ?" แต่ในส่วนที่กระผม/อาตมภาพไม่ได้พูดถึงก็คือ ไปบังคับใช้กฎหมายเมื่อไร ก็จะมีมวลชนออกมาร้องเรียนว่า "รังแกคนจน" แต่ก็ถือว่าในส่วนของการประกาศใช้นั้น เป็นประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งของอำเภอทองผาภูมิของเรา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2023 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 08-08-2023, 23:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,694 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนทางด้านท่านนายกเทศมนตรีตำบลทองผาภูมิ ก็คือ นายศราวุธ ศรีทันดร หรือ ท่านนายกฯ ปาล์ม ได้ส่งเจ้าหน้าที่กองโยธาของเทศบาลตำบลทองผาภูมิ มาช่วยซ่อมแซมตลาดริมแควเมืองท่าขนุน ที่แตกหักเสียหายจากการโค่นต้นราชพฤกษ์ ๗ ยอดยืนตายพราย ถ้ารุกขเทวดาเขาไม่เกรงใจคนสร้างตลาด ก็จะพังบรรลัยมากกว่านั้นอีก..!

เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากที่เขากลัวอันตรายอย่างเดียว แต่ลืมนึกไปว่าต้นไม้ตายพรายนั้นสำคัญขนาดไหน และโดยเฉพาะต้นราชพฤกษ์หรือว่าต้นคูนต้นนี้ มียอดขนาดไล่เลี่ยกันถึง ๗ ยอด

ส่วนโคนที่สูงขึ้นมา ก่อนที่จะแตกยอดนั้น ก็สูงถึง ๒ เมตรกว่า ๓ เมตร และโตเกือบ ๒ คนโอบ ถ้าเป็นสมัยโบราณก็คือศักดิ์ศรีระดับเสาหลักเมืองเลย จึงพูดไว้เผื่อเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ของทองผาภูมิว่า เราเคยมีสิ่งที่สำคัญขนาดนี้ แต่โดนโค่นไปทำรั้วเรียบร้อยแล้ว..!

ในเรื่องสิ่งที่เป็นอันตราย ทางราชการก็ต้องระมัดระวัง แต่ถ้าหากว่าเป็นอย่างของพวกเรา ซึ่งต้องบอกว่าในส่วนของไสยศาสตร์หรือวัตถุมงคลนั้น ต้นไม้ยืนตายที่เรียกตายพรายนั้นขลังมาก ประมาณว่าขนาดตายแล้วยังไม่ยอมล้ม ต้องมีพิธีการในการ "พลี" เพื่อขออนุญาตเอาไปใช้งาน ไม่ใช่ไปตัดส่งเดช

ในเมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้แล้ว ก็ขอกล่าวอีกเรื่องหนึ่ง ก็คือมีญาติโยมผู้หวังดีส่งนอแรดมาให้กระผม/อาตมภาพ เพราะเห็นว่าใช้ทำยาจินดามณีอยู่หลายรอบ แต่ขอโทษ..ที่คุณส่งมานั้นเป็นของปลอม เป็นเขาวัว กระผม/อาตมภาพย้ำนักย้ำหนาว่า ถ้าพวกเราไม่มีความชำนาญ อย่าไปแตะต้องของพวกนี้ เพราะว่าราคาแพงสาหัส

นอแรดเป็นวัสดุธรรมชาติจากซากสัตว์ ที่ราคาแพงกว่าทองคำเสียอีก ลองไปชั่งน้ำหนักกันกรัมต่อกรัมดูก็ได้ และที่แน่ ๆ ก็คือถึงเป็นของแท้ คุณก็กำลังเอาคุกมาแจกให้เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน..! เพราะว่า
แรดเป็นสัตว์ป่าสงวน ห้ามครอบครองแม้กระทั่งซาก..!

ที่กระผม/อาตมภาพใช้ในการทำยาจินดามณีนั้นเป็นผงนอแรด ไม่ใช่มาเป็นนอแบบนี้ เรื่องของผงนอแรดนั้น หมดสภาพการเป็นซากสัตว์แล้ว ก็ถือว่าคุณรอดตัวไป แต่คราวหน้ากรุณาอย่าได้ส่งของประเภทนี้มาอีก เพราะว่าแม้จะเป็นเขาสั้น ๆ แต่ถ้าสังเกตเป็น จะเห็นว่าหัวท้ายเกือบจะเท่ากัน ลักษณะแบบนี้เป็นเขาวัว และเป็นเขาวัวเก่าที่ตายฝังจมดินมานาน ไปขุดคุ้ยขึ้นมาได้ก็กะเทาะเอาแต่เปลือกเขามา คนขายก็น่าจะเห็นว่าพอที่จะหลอกคนได้ เพราะว่าสั้น ๆ คล้ายกับนอแรด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2023 เมื่อ 02:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 08-08-2023, 23:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,694 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ถ้ารู้จักสังเกตจะรู้ว่านอแรดนั้นโคนใหญ่มาก ไม่มีอยู่ในลักษณะที่เรียวปลาย แล้วต้นปลายเกือบเสมอกันขนาดนี้ ต่อให้เป็นนอแรดแอฟริกาที่ค่อนข้างยาวก็โคนใหญ่มาก และถ้าเป็นนอแรดจริง เขาตัดจนกระทั่งติดกะโหลกเลย ไม่มาแค่ปลอกเขาแบบนี้ เพราะว่าเสียดาย เนื่องจากว่าราคากรัมต่อกรัม ก็คือแพงกว่าทองคำ

ถ้าหากว่าท่านไปเสียสตางค์ซื้อมาราคาแพง ก็เป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง ของพวกนี้ถ้าเราไม่มีความชำนาญ อย่าไปแตะ ขอเตือนไว้ก่อนเพราะว่าของแพง เปลืองเงินโดยเปล่าประโยชน์ แล้วกระผม/อาตมภาพก็ไม่ได้ขาดแคลนด้วย ขนาดผงงาช้าง ยังมีอยู่ตั้ง ๖๐ กว่ากิโลกรัม ญาติโยมไปเหมาซื้อมาจากสุรินทร์ที่เขาผลิตวัสดุจากงาช้าง เห็นว่าเป็นผง น่าจะเอามาผสมสร้างวัตถุมคลได้ ก็เลยเอามาถวายกระผม/อาตมภาพเอาไว้ เอาเข้าพิธีมาหลายรอบแล้ว ระยะเวลาก็ผ่านไปหลายปีแล้ว ยังไม่สามารถที่จะทำวัตถุมงคลด้วยเนื้อผงงาช้างล้วน ๆ ได้ ต้องบอกว่าเทคโนโลยียังไม่พอ พอถึงเมื่อไรแล้วค่อยว่ากันอีกที

ส่วนอีกเรื่องที่อยากจะกล่าวถึงในวันนี้นั้น มีสำนักสอนมโนมยิทธิแห่งหนึ่ง..เก่งมาก สอนให้ลูกศิษย์ของตนเป็นพระอริยเจ้าไปเป็นพันคนแล้ว..! มีการทำนายมรรคผลกันเป็นระยะ ๆ โดยที่บอกว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง เป็นผู้ทำนายให้ แต่ในส่วนที่อยากจะบอกกับพวกท่านก็คือว่า พระอริยเจ้าของเขานั้นเสื่อมได้..! ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นพระอริยเจ้าสำนักไหน ? เพราะว่าอริยะแปลว่าผู้เจริญโดยส่วนเดียว ต่อให้ข้ามชาติข้ามภพก็ไม่เสื่อมไปจากใจ

อย่างบุคคลที่เข้าถึงความเป็นพระโสดาบันหรือว่าเป็นพระสกทาคามีนั้น ถ้าไปเกิดใหม่ ความเป็นพระโสดาบันหรือพระสกาทาคามี ก็จะติดไปโดยอัตโนมัติ หลายท่านไม่รู้ตัวว่าตนเองเป็นพระอริยเจ้า แต่กฎเกณฑ์กติกาความเป็นพระอริยเจ้า ท่านทำได้ครบถ้วนสมบูรณ์ และไม่ละเมิดอย่างเด็ดขาด
ดังนั้น..สำนักไหนที่สามารถสอนลูกศิษย์ให้เป็นพระอริยเจ้าได้ง่าย ๆ แต่ดันเสื่อมได้ ก็ขอให้พิจารณากันเอาเองก็แล้วกัน ว่าควรที่จะเชื่อถือหรือไม่ ?

เนื่องเพราะว่าแม้แต่พระอัสสชิเถระ หนึ่งในปัญจวัคคีย์ ใกล้วาระสุดท้ายของชีวิต เจ็บป่วยอาพาธหนักถึงขนาดร้องครวญคราง ฝากพระไปกราบเรียนถามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า "มรรคผลของกระผมท่าจะเสื่อมเสียแล้ว เพราะว่าเจ็บปวดมากเหลือเกิน" องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถามว่า "อัสสชิ..เธอเห็นว่าร่างกายนี้เป็นของเธอหรือไม่ ?" พระอัสสชิเถระตอบว่า "ไม่เคยเห็นเลยพระเจ้าข้า" ท่านบอกว่า "ถ้าอย่างนั้นมรรคผลไม่ได้เสื่อม การเจ็บปวดเป็นเรื่องปกติธรรมดาของร่างกาย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2023 เมื่อ 02:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 08-08-2023, 23:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,694 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนนี้กระผม/อาตมภาพเองมีโอกาสถวายการรับใช้ โดยเฉพาะหลวงปู่มหาอำพัน - ท่านเจ้าคุณพระภาวนาปัญญาวิสุทธิ์ (อำพัน อาภรโณ บุญ-หลง) วัดเทพศิรินทราวาส ท่านป่วยเป็นโรคเก๊าท์ ต้องฉันยาคุมเก๊าท์อยู่ตลอดเวลา ปรากฏว่าวันนั้นคุณหมอไม่ได้นำยามาส่งให้ เพราะว่าถวายให้เดือนละ ๑ ครั้ง เมื่อฉันจนหมด อาการเก๊าท์จึงกำเริบ หลวงปู่นอนครางโอย ๆ ขนาดกระผม/อาตมภาพเอามือแตะหน่อยเดียว ท่านเจ็บถึงขนาดสะดุ้งทั้งตัว

ด้วยความสงสัยจึงกลับไปกราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ว่า "พระแบบหลวงปู่ยังเจ็บปวดอยู่อีกหรือครับ ?" หลวงพ่อท่านบอกว่า "ถ้าไม่ใช่ทรงฌานคล่องตัวจนสามารถเข้าฌานหนีเวทนาได้ทุกเวลาแล้ว ยิ่งเป็นพระอริยเจ้าชั้นสูงมากเท่าไร ยิ่งเจ็บปวดมากเท่านั้น เพราะว่าสภาพจิตของท่านละเอียดกว่า สามารถรับรู้เวทนาทุกอย่างได้มากกว่าเราหลายเท่า"

กระผม/อาตมภาพจึงได้เข้าใจว่า ทำไมหลวงปู่อัสสชิเถระถึงได้เจ็บปวดจนกระทั่งคิดว่าตนเองมรรคผลเสื่อม แล้วทำไมหลวงปู่มหาอำพันที่เราเคารพรัก และรู้ว่าท่านเป็นพระอริยเจ้าแน่นอน ทำไมถึงได้เจ็บปวดจนครางโอย ๆ แต่ทั้งสองท่านนี้มรรคผลไม่เสื่อม ป่วยหนักขนาดนั้นก็ไม่เสื่อม สำนักไหนที่ทำนายมรรคผลแล้วมีการเสื่อม ก็ปล่อยเขาบรรเลงกันต่อไป เราอย่าไปยุ่งก็แล้วกัน..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2023 เมื่อ 02:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:36



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว