กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 14-08-2023, 19:20
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 351
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 19,129 ครั้ง ใน 830 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๖



แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พิชวัฒน์ : 14-08-2023 เมื่อ 20:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 14-08-2023, 23:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,727
ได้ให้อนุโมทนา: 152,085
ได้รับอนุโมทนา 4,419,182 ครั้ง ใน 34,317 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพต้องนำญาติโยมผู้บวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ รุ่นที่ ๖/๒๕๖๖ เจริญพระกรรมฐานตั้งแต่ตี ๓ ครึ่ง ต่อด้วยการทำวัตรเช้า แล้วออกบิณฑบาตตามปกติ เมื่อกลับมาฉันเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็นำญาติโยมทั้งหมดภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมง

เมื่ออุทิศส่วนกุศลและรับการทำบุญจากญาติโยมแล้ว
กระผม/อาตมภาพก็ขอตัวออกเดินทาง มุ่งไปยังวัดอุทยาน ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี เพื่อใช้หนี้ที่ญาติโยมได้ช่วยจ่ายให้ก่อน ในการสร้างพระแก้วประจำพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุน ซึ่งงวดสุดท้ายก็จำนวน ๖๐๐,๐๐๐ บาท แต่ว่าทางด้านบริษัท แอลดับบลิวเอ็น ทรีดี จำกัด ได้ลดให้ ๕๐,๐๐๐ บาท โดยถวายคืนมาเป็นการร่วมบุญกับทางวัดท่าขนุน

เมื่อใช้หนี้เสร็จเรียบร้อย
กระผม/อาตมภาพก็เดินทางตรงมายังจังหวัดสระบุรี ซึ่งจะต้องทำการตรวจประเมินหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ ที่วัดนิคมวาสี ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ซึ่งวัดนี้จะอยู่ใกล้เคียงกับวัดซับชะอม ของ ดร.พระมหาชยันต์ (พระครูพิพิธปริยัติกิจ, ผศ.,ดร.) เจ้าอาวาสวัดซับชะอม เจ้าคณะตำบลเขาวง ซึ่งเป็นเพื่อนฝูงกัน

เมื่อเดินทางมาถึง ทางด้านคณะกรรมการต้อนรับของจังหวัดสระบุรีแจ้งว่า ให้เข้าพักที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมธรรมมงคลนานาชาติ แต่ปรากฏว่ากูเกิ้ลแมพพา
กระผม/อาตมภาพวนอยู่รอบใหญ่ หาศูนย์ฯ ไม่เจอ จนกระทั่งต้องโทรหาผู้ประสานงาน ซึ่งแจ้งว่าเป็นอารมณ์ดีรีสอร์ท สถานที่แห่งนี้ได้ปิดตัวลงในช่วงเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาดหนัก จนกระทั่งป่านนี้ก็ยังไม่ได้เปิดอย่างเป็นทางการ จึงได้ประเดิมด้วยการเปิดให้คณะกรรมการตรวจประเมินหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบของหนกลาง เข้ามาพักก่อนเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย กระผม/อาตมภาพเมื่อได้ที่พักเรียบร้อยแล้ว จึงมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนให้กับทุกท่านอยู่ในขณะนี้

ในเรื่องของจังหวัดสระบุรีนั้น ต้องบอกว่ามีสิ่งสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ก็คือพระพุทธบาท (สระบุรี) แล้วอีกสถานที่หนึ่งซึ่งสำคัญพอ ๆ กันก็คือพระพุทธฉาย (สระบุรี)

แต่เนื่องจากว่าพระพุทธบาทนั้น ได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชูจากสถาบันพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่สมัยพระเจ้าทรงธรรมของกรุงศรีอยุธยา จึงทำให้มีชื่อเสียงเลื่องลือมาตั้งแต่โบราณ จนทำให้หลายท่านไม่รู้จักพระพุทธฉายไปเลย ทั้ง ๆ ที่ทางด้านวัดพระพุทธฉายนั้น นอกจากพระพุทธฉายแล้ว ก็ยังมีรอยพระพุทธบาทอยู่อีกหนึ่งรอย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-08-2023 เมื่อ 23:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 14-08-2023, 23:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,727
ได้ให้อนุโมทนา: 152,085
ได้รับอนุโมทนา 4,419,182 ครั้ง ใน 34,317 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

รอยพระพุทธบาททั้ง ๒ รอยนี้ ถ้าจะว่าไปแล้ว ก็คือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเหยียบพระบาทขวาเอาไว้ที่ยอดเขาพระพุทธบาท แล้วเหยียบพระบาทซ้ายเอาไว้ที่ยอดเขาพระพุทธฉาย อยู่ในลักษณะเหมือนคนก้าวเดินตามปกติ เพียงแต่ว่าก้าวของพระองค์ท่านนั้นมากกว่าคนปกติทั่วไป จึงได้ไกลเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร..!

ทางด้านประเทศพม่านั้น ไม่ว่าสิ่งสำคัญอะไรในพระพุทธศาสนา ก็พยายามที่จะดึงเอาไว้ในบ้านของตนเอง อย่างเช่นว่าสถานที่ซึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดญาติโยมที่สุวรรณภูมิ ทางด้านพม่าก็ไปปักหลักหินเอาไว้ที่
วัดชุยซายาน เมืองตะโทง (สุธรรมวดี) อ้างว่านั่นเป็นสถานที่แห่งแรกที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจาริกสู่สุวรรณภูมิ ซึ่งคำว่า ชุยซายาน ก็คือจาริกสุวรรณภูมินั่นเอง

ส่วนในเรื่องของรอยพระพุทธบาทของพม่านั้นอยู่ที่เมืองมินบู โดยที่รอยพระพุทธบาทรอยขวานั้นอยู่ที่ตีนเขา รอยพระพุทธบาทรอยซ้ายอยู่ที่ยอดเขา ซึ่งดูแล้วไม่เป็นธรรมชาติ และไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องเพราะว่าเปรียบเสมือนอย่างกับเก้าอี้ตัวหนึ่ง แล้วเรายืนชิดเก้าอี้ด้วยเท้าขวา ยกเท้าซ้ายขึ้นเหยียบเก้าอี้ โดยอ้างว่าเดินไปนั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้..!

แต่ทางพม่าก็พยายามที่จะหาประวัติมา แล้วอ้างให้ได้ว่าสถานที่แห่งนั้นอยู่ในประเทศของตนเอง เพื่อสร้างความสำคัญขึ้นมา ซึ่งกระผม/อาตมภาพได้ไปค้างคืนค้างแรมที่นั่นเพื่อร่วมงานฉลองรอยพระพุทธบาทประจำปีมาแล้ว เมื่อพิจารณาดูแล้ว ไม่มีความใกล้เคียงเป็นรอยพระพุทธบาทเลย เนื่องจากว่าเป็นหลุมกลม ๆ ขนาดใหญ่ ถ้าหากว่าเป็นรอยเท้าของไดโนเสาร์บรอนโตซอรัส เหยียบเอาไว้ก็จะน่าเชื่อถือมากกว่า..!

แต่ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้นั้น เราไม่สามารถที่จะไปเอาความแท้ความเทียมได้ เนื่องเพราะว่า
ขึ้นอยู่กับศรัทธาของบุคคล ถ้าหากว่าบุคคลศรัทธา ระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จัดเป็นพุทธานุสติเหมือนกัน

เพียงแต่ว่าการที่จะดึงอะไรเอาไว้ที่ในประเทศของตนเองนั้น ขอให้คำนึงถึงความเป็นจริงด้วย เพราะว่าหลายต่อหลายอย่างนั้น ถ้าหากว่านับตามระยะทางในพระไตรปิฎกแล้ว ระยะทางก็ไกลเกินกว่าที่ประเทศพม่ามีอยู่ แต่ทางด้านประเทศพม่าก็พยายามที่จะอ้างอิง แม้กระทั่งสถานที่โปรดอสุรินทราหู ทางด้านพม่าก็กำหนดจุดไว้ที่พระเจดีย์ไจ๊กะเลาะ เมืองย่างกุ้ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-08-2023 เมื่อ 23:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 14-08-2023, 23:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,727
ได้ให้อนุโมทนา: 152,085
ได้รับอนุโมทนา 4,419,182 ครั้ง ใน 34,317 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เราลองมานึกถึงว่า พระมหาเจดีย์ชเวดากอง หรือที่เรียกตามภาษาพม่าว่า ชุยดากงพะยา นั้น ก็อยู่ห่างจากพระเจดีย์ไจ๊กะเลาะไปไม่ไกล และเป็นสถานที่ซึ่งพม่าอ้างว่าตปุสสะกับภัลลิกะ พาณิชย์สองพี่น้องซึ่งถวายสัตตุก้อน-สัตตุผงแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และปฏิญาณตนเป็นเทววาจิกอุบาสก ก็คืออุบาสกผู้ถึงรัตนตรัยแค่เพียงสอง คือพระพุทธและพระธรรมเท่านั้น เพราะว่าช่วงที่พระองค์ตรัสรู้ใหม่ ๆ ยังไม่มีพระสงฆ์ แล้วองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ประทานเกศา ๘ เส้นให้แก่ตปุสสะกับภัลลิกะ พาณิชย์สองพี่น้องรับไปแล้ว ได้สร้างพระสถูปเจดีย์บรรจุไว้

ทางด้านประเทศพม่าบอกว่าพระสถูปเจดีย์นั้น คือ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง โดยที่อ้างว่าพาณิชย์สองพี่น้องนั้นเป็นพ่อค้าชาวมอญ ซึ่งเดินทางไปค้าขายที่ประเทศอินเดียหรือชมพูทวีปในสมัยนั้น โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงว่าชมพูทวีปในสมัยนั้น เป็นการครอบคลุมพื้นที่ทั้งเอเชียกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกือบทั้งหมด..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าบอกว่าตปุสสะกับภัลลิกะเป็นคนไทยก็น่าจะอ้างได้ โดยว่าคนไทยชื่อนายพันและนายบุตร เดินทางไปค้าขายที่ชมพูทวีป แล้วได้พบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ฟังชื่อเสียงแล้ว
ยังใกล้เคียงกว่าภาษาพม่าตั้งเยอะ เป็นต้น

เรื่องพวกนี้เราจะไม่เสียเวลามาถกเถียงกัน เพียงแต่ว่าถ้าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ประเทศพม่าทั้งหมด ต้องคำนึงด้วยว่ามหาชนบทในสมัยนั้น รวมพื้นที่กันแล้วใหญ่โตกว่าประเทศพม่าตั้งมากมาย แล้ว ๗ แคว้นที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดเป็นประจำนั้น ก็กว้างใหญ่ไพศาลกว่าประเทศพม่าในปัจจุบันนี้มาก นอกจากนั้นพระองค์ท่านยังเสด็จไปโปรดที่สุวรรณภูมิอีกต่างหาก

ถ้าอ้างว่าเมืองเวสาลีอยู่ในประเทศพม่า แล้วจะทำให้ทางด้านอื่น ๆ ของเขา อย่างเช่นว่าสุวรรณภูมิอยู่ในประเทศพม่าด้วยก็ย่อมไม่ใช่ เพราะว่าต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลถึงจะเป็นสุวรรณภูมิ จะอ้างว่าเดินทางทางเรือ แล้วเข้ามาทางด้านอ่าวเบงกอลก็ได้ แต่ว่าเราต้องคำนึงว่า ในเมื่อสถานที่หนึ่งอยู่ภายในประเทศของตนเองแล้ว ทำไมถึงต้องลงเรืออ้อมโลกไปด้วย ? สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าสามารถดึงศรัทธาญาติโยมให้เกาะอยู่กับอนุสติได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าคำนึงถึงความเป็นจริงสักหน่อย ทำให้ประวัติศาสตร์อ้างอิงนั้นน่าเชื่อถือมากขึ้น ก็จะทำให้ดียิ่งไปกว่านี้

จังหวัดสระบุรีนั้นพวกเราจะต้องไม่ลืมว่า มีเจ้าคุณหลวงตาวัชรชัย (พระราชภาวนาพัชรญาณ วิ.) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี เจ้าอาวาสวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ท่านก็อยู่ที่นี่ และท่านเคยดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอพระพุทธบาทมาก่อน เพียงแต่ว่าเจ้าคุณหลวงตาท่านรำคาญเรื่องราววุ่นวายในการปกครอง จึงได้ลาออกจากงาน แล้วได้รับการยกขึ้นเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสระบุรีแทน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-08-2023 เมื่อ 00:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 14-08-2023, 23:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,727
ได้ให้อนุโมทนา: 152,085
ได้รับอนุโมทนา 4,419,182 ครั้ง ใน 34,317 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อกระผม/อาตมภาพได้ห้องพักแล้ว ลงมาเพื่อที่จะนำข้าวของขึ้นสู่ห้องพัก ก็ได้พบพระเดชพระคุณพระเทพเสนาบดี (ประเทือง อาภาธโร ป.ธ.๔) เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี หรือที่เรียกกันแบบคุ้นเคยว่า หลวงพ่อเจ้าคุณประเทือง เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี คณะกรรมการบริหารกลาง โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ (หนกลาง) และเมื่อเดินมาถึงปากประตู เจ้าของสถานที่ก็คือ พระเดชพระคุณพระราชวชิรมงคลวิสิฐ (อาทิตย์ สิริวฑฺฒโน) เจ้าอาวาสวัดมงคลชัยพัฒนา เจ้าคณะจังหวัดสระบุรีรูปปัจจุบัน ก็เข้ามาต้อนรับพอดี

เมื่อปฏิสันถารกันเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพได้ถวายของดีจังหวัดกาญจนบุรี ก็คือแหวนพิรอดวงใหญ่ ของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ๑ ใน ๙ เครื่องรางสะท้านแผ่นดินในตำนาน ก็คือ "แหวนอักขระวัดหนองบัว" เป็นการมุทิตาสักการะ ที่ท่านได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณชั้นราช เพราะว่าในงานของท่าน กระผม/อาตมภาพก็ไม่สามารถที่จะปลีกตัวมาได้ เนื่องจากติดภารกิจที่อื่น จึงได้ทำการมุทิตากันตรงนี้เอง

ช่วงนี้บรรดาพระเถระที่มาร่วมงานตรวจประเมิน ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการอำนวยการกลางก็ดี คณะกรรมการดำเนินงานกลางก็ดี หรือว่าคณะอนุกรรมการดำเนินกลางก็ตาม ได้ทยอยกันเข้ามายังที่พัก

อารมณ์ดีรีสอร์ทนั้น มีทั้งอาคารเดี่ยวและอาคารรวม พวกเราได้พักอยู่ที่ตึกใหญ่อาคารรวม โดยเฉพาะชั้น ๔ เป็นของพระเถระที่มาร่วมงานตรวจประเมินหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบครั้งนี้ ส่วนชั้น ๓ เป็นของบรรดาพนักงานขับรถ แต่ละห้องก็มี ๒ เตียงใหญ่ ๆ ให้ใช้งานกัน กระผม/อาตมภาพเองก็คงจะใช้งานแค่ครึ่งเตียงเหมือนเดิม เนื่องเพราะว่าเป็นคนนอนไม่ดิ้น

ด้วยความที่สมัยเรียนอยู่โรงเรียนทหารนั้น เขาจะมีเตียงให้ เป็นแผ่นประตูไม้ ซึ่งแผ่นประตูห้องนั้นก็คือกว้าง ๘๐ เซนติเมตร ยาว ๒.๔๐ เมตร ถ้าหากว่าท่านใดนอนดิ้น ก็มีหวังได้ลงไปนอนใต้เตียงแน่นอน..! ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ด้วยความที่นอนระมัดระวังจนเคยชิน ทำให้มาเจอเตียงขนาดปกติ จึงใช้แค่ครึ่งซีก ถ้าหากว่าเป็นเตียงคู่ ก็ใช้แค่ ๑ ใน ๓ เท่านั้น บรรยากาศด้านหลังห้องพักเป็นทิวเขาที่เขียวขจีงดงามมาก เพราะว่าช่วงนี้เป็นหน้าฝน

ส่วนในเรื่องของน้ำปานะและลงไปพูดคุยนั้น กระผม/อาตมภาพคงไม่ได้ไปร่วมวงด้วย เพราะว่าไม่เคยชินกับการฉันน้ำปานะต่าง ๆ มาเป็นระยะเวลา ๓๐ กว่าปีแล้ว เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า รำคาญที่เวลาออกธุดงค์แล้วต้องขนเอาสิ่งโน้นสิ่งนี้ไปด้วย จึงตัดใจละทิ้งทั้งหมด เหลือเพียงน้ำร้อนหลังอาหารมื้อเพลเท่านั้น มาระยะหลัง ท่านอาจารย์บ๊ะ (พระศิริชัย ชยธมฺโม) วัดโพธิ์ลังกา ตรวจอาการเจ็บไข้ได้ป่วยแล้ว สั่งให้ฉันน้ำชาเป็นประจำให้ได้อย่างน้อยวันละ ๒ ลิตร จึงเปลี่ยนมาเป็นน้ำชาแทนในทุกวันนี้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเราและบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๑๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-08-2023 เมื่อ 00:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:08



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว