กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนตุลาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 02-10-2023, 19:40
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,573
ได้ให้อนุโมทนา: 216,993
ได้รับอนุโมทนา 748,558 ครั้ง ใน 36,463 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 03-10-2023, 01:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,741
ได้ให้อนุโมทนา: 152,155
ได้รับอนุโมทนา 4,419,960 ครั้ง ใน 34,331 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ อีกไม่กี่วันก็จะออกพรรษาแล้ว ช่วงนี้วัดท่าขนุนของเราก็ต้องเตรียมการสำหรับรับงานออกพรรษาและตักบาตรเทโว กระผม/อาตมภาพก็ต้องเข้ากรรมฐาน ๓ วันก่อนออกพรรษา

เรื่องของกรรมฐาน ๓ วันนี่เป็นเรื่องอัศจรรย์มาก ตั้งแต่ปีแรกที่เข้ากรรมฐานเลย คือปกติแล้วถ้ามีการงานทุกอย่างก็จะโดนจัดหลีก จนกระทั่งสามารถที่จะเข้ากรรมฐานได้ แม้กระทั่งการสอบนักธรรมชั้นตรีก็ยังโดนเลื่อน ไม่เช่นนั้นแล้วในฐานะผู้บังคับบัญชาชั้นสูง
กระผม/อาตมภาพก็ต้องไปร่วมงานสอบ โดยเฉพาะบรรดาผู้เข้าสอบต่างก็รอกระผม/อาตมภาพทั้งนั้น ดังนั้น..อะไรก็ตาม ถ้าหากว่าเป็นคำสั่งของพระหรือว่าครูบาอาจารย์ จะมีการจัดการจนกระทั่งลงตัว ให้เราสามารถทำสิ่งนั้น ๆ ได้เอง

แม้กระทั่งงานทำบุญถวายหลวงปู่สาย เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายนที่ผ่านมา ท่านทั้งหลายก็จะเห็นว่า กระผม/อาตมภาพต้องตรวจประเมิน เพื่อยกหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบ จนกระทั่งถึงเย็นวันที่ ๑๓ กันยายน แต่วันที่ ๑๔ เขาเว้นให้ ๑ วัน แล้วไปต่อที่วันที่ ๑๕ กันยายน แล้วเรื่องพวกนี้ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่เรากำหนดได้ เพราะว่าผู้บังคับบัญชาท่านจะกำหนดในวันที่ท่านสะดวก แต่ทำไมถึงเว้นวันที่ ๑๔ กันยายน ซึ่งสามารถที่จะทำต่อเนื่องกันไปได้ ?

เรื่องบางอย่างก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรคิด ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่าอจินไตย ก็คือไม่ควรที่จะไปคิด ถ้าหากว่าคิด ท่านใช้คำว่า "พึงมีส่วนของความเป็นบ้า" บาลีใช้คำว่า "อุมฺมตฺตกภาโค" เพราะฉะนั้น..บางคนก็ไม่เข้าใจ คำว่า อุมฺม ภาษาบาลีแปลว่าบ้า บางคนก็ตั้งชื่อลูกสาวไพเราะว่า อรอุมา แปลตรง ๆ ว่า "หญิงบ้า" เรื่องบางอย่างถ้าเราไม่รู้ก็ไม่เป็นไร พอรู้เข้าไปแล้วความหมายออกจะประหลาดอยู่สักหน่อย แต่คนก็ยังคงชอบและตั้งกันแบบนั้นหลายต่อหลายรายด้วยกัน แม้กระทั่งนักร้องชื่อดังก็ยังชื่ออรอุมา..!

คำว่า อุมาเทวี ก็คือนางฟ้าผู้เป็นใหญ่แต่บ้าคลั่ง เขาหมายถึงภาคหนึ่ง ซึ่งแสดงออกในเรื่องโทสะของพระอุมา ส่วนใหญ่ก็เอาไว้ปรามปราบหรือว่ากำราบพวกเหล่าอสูร คนไทยไม่เข้าใจที่มาที่ไป แถมยังไม่รู้ว่าคำนั้นแปลว่าอะไร ก็ตั้งชื่อกันด้วยความเพลิดเพลินเจริญใจ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-10-2023 เมื่อ 13:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 03-10-2023, 01:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,741
ได้ให้อนุโมทนา: 152,155
ได้รับอนุโมทนา 4,419,960 ครั้ง ใน 34,331 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องที่ไม่ควรคิด ๔ ประการประกอบไปด้วย ประการที่ ๑ พุทธวิสัย ความสามารถของพระพุทธเจ้า บุคคลที่สร้างบารมีมาอย่างน้อย ๔ อสงไขยกับแสนมหากัป ความรู้ความสามารถของพระองค์ท่านมีแค่ไหน อย่าเสียเวลาไปคิดถึง

เนื่องเพราะว่าพระองค์ท่านสามารถที่จะคาดคำนวณเรื่องราวต่าง ๆ ซึ่งต่อให้ใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันนี้ ก็คงต้องคำนวณกันเป็นวันเป็นคืน แต่ของพระองค์ท่านได้คำตอบเดี๋ยวนั้นเลย เพราะว่าพระองค์ประกอบไปด้วยญาณ คือเครื่องรู้ต่าง ๆ ด้วยการบำเพ็ญบารมีมาอย่างครบถ้วนสมบูรณ์

ดังนั้น..ถ้าท่านใดอ่านพระไตรปิฎก จะเห็นว่า คำสอน ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นอกจากไม่มีอะไรขัดกันแล้ว ทุกอย่างยังสอดคล้องและหนุนเสริมกันได้ทั้งหมด เพียงแต่ว่าเราจะมองเห็นมุมเหล่านั้นหรือเปล่าเท่านั้นเอง

ประการที่สองคือฌานวิสัย ความสามารถของผู้ได้ฌานได้สมาบัติ สามารถที่จะผาดแผลงสำแดงฤทธิ์ต่าง ๆ ที่เราคาดคิดไม่ถึง อย่างเช่นว่าสามารถแปลงกายให้ใหญ่โต ลูบคลำพระอาทิตย์ พระจันทร์เล่นได้ แต่ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่สรรเสริญ เพราะว่าการที่จะเข้าถึงธรรมนั้นจะต้องมีความเคารพเลื่อมใสในพระรัตนตรัยจากใจจริง ไม่ใช่เลื่อมใสในการมีฤทธิ์มีอภิญญา ซึ่งเป็นการยึดติด หากแต่เป็นการเลื่อมใส เพราะเห็นคุณความดีของพระรัตนตรัยแย่างแท้จริง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงสั่งห้ามพระภิกษุ ภิกษุณี แม้กระทั่งสามเณรแสดงฤทธิ์ เพราะว่าจะเป็นการชักชวนให้ญาติโยมหลงผิด

ประการที่สามคือกรรมวิบาก การส่งผลของกรรม บางทีก็พิลึกพิลั่นเกินกว่าที่เราจะเข้าใจ อย่างเช่นว่า ทำไมมีเด็กเกิดมาแล้วตัวแฝดติดกัน ? ก็เพราะว่าชาติก่อน ๆ ไปอธิษฐานว่า "เราจะไม่พรากจากกัน" ความตั้งใจตรงจุดนี้ก็เลยกลายเป็นชนกกรรม กรรมที่นำไปเกิด เป็นอุปัตถัมภกกรรม กรรมที่คอยหนุนเสริมให้เป็นไปตามความตั้งใจของตนเอง

และท้ายที่สุด โลกจินไตย ความเป็นไปของโลก สิ่งต่าง ๆ ถ้าหากเราเห็นว่าปกติธรรมดาเป็นอย่างนั้นก็น่าจะจบ แต่ถ้าหากว่าเราจะไปคิดเอาเหตุเอาผล เอาเป็นเอาตายกัน บางทีก็เครียด ประสาทกินเสียเปล่า ๆ พระองค์ท่านจึงใช้คำว่า ผู้ที่คิด พึงมีส่วนของความเป็นบ้า..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-10-2023 เมื่อ 13:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 03-10-2023, 01:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,741
ได้ให้อนุโมทนา: 152,155
ได้รับอนุโมทนา 4,419,960 ครั้ง ใน 34,331 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะกล่าวถึงก็คือ วันนี้ลูกกิฟท์ (นางสาวอันตรา ลักษณะ) ส่งรูปแร่ธาตุชิ้นหนึ่งมาให้ ถามว่าสิ่งนี้เขาเรียกว่าเจ้าน้ำเงินใช่หรือไม่ ?

คำว่า เจ้าน้ำเงิน ในที่นี้คือโลหะธาตุอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นส่วนผสมในนวโลหะ ก็คือโลหะ ๙ ประการ ปัจจุบันนี้ในส่วนของเจ้าน้ำเงิน คนส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิด หรือว่าครูบาอาจารย์บอกผิด ๆ ก็เชื่อถือกันไป เจ้าน้ำเงินนั้นโบราณเรียกว่า สุวรรณขีด บางคนเรียกว่าทองคำดำ บางคนเรียกว่าแร่โคตรเศรษฐี ฝรั่งเรียกว่ารูทีเนียม มีอยู่ในตารางธาตุ ไปดูคำย่อว่า Ru ก็แล้วกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะใช้อยู่ในอุตสาหกรรมของการเคลือบสีหรือว่าชุบโลหะต่าง ๆ

แต่เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่ว่า รูทีเนียมนี้จะหลอมละลายในอุณหภูมิ ๒,๐๐๐ กว่าองศาเซลเซียส แต่โบราณของเราใช้เบ้าหลอมโลหะ ซึ่งถ้าหากว่าเราดูแล้ว ในส่วนของโลหะแข็งอย่างพวกทองแดง ทองเหลือง ๘ - ๙๐๐ องศาเซลเซียสก็น่าจะที่จะหลอมละลายได้แล้ว แล้วทำไมในส่วนที่ใช้ ๒,๐๐๐ กว่าองศาเซลเซียส ถึงสามารถหลอมละลายไปได้ด้วย ?

ก็ขอให้ท่านทั้งหลายไปนึกถึงส่วนผสมของทองคำ ซึ่งประกอบไปด้วยสารปากนกแก้ว แร่เพียงไฟ ตะกั่วเถื่อน ทองแดงเถื่อน ส่วนที่หลอมยากที่สุดคือทองแดงเถื่อน เพราะว่าจุดหลอมเหลวค่อนข้างสูง ก็คือ ๙๐๐ องศาเซลเซียส แต่โบราณผสมทองด้วยการหลอมในกระทะใบบัว..! ซึ่งถ้าหากว่าหลอมทองแดงเถื่อนให้ละลายได้ กระทะก็น่าจะละลายไปด้วย ก็แปลว่าในส่วนของสารปากนกแก้ว หรือว่าแร่เพียงไฟนั้น จะเป็นตัวลดจุดหลอมเหลวของโลหะที่มีจุดหลอมเหลวสูง ๆ แล้วในส่วนของนวโลหะก็คงจะลักษณะเดียวกัน ก็คือต้องมีตัวลดจุดหลอมเหลวของสุวรรณขีดหรือว่าเจ้าน้ำเงินนี่ลงมา ไม่อย่างนั้นก็ไม่สามารถที่จะหลอมพร้อมกันได้

เพราะว่ากระผม/อาตมภาพเคยทดลอง ต้องการที่จะสร้างวัตถุมงคลเนื้อโลหะ ก็นำเอาสิ่งที่เขาเรียกกันว่าเหล็กไหล ซึ่งตามตำราที่หลวงปู่หวล วัดพุทไธศวรรย์ ท่านเรียกมา แล้วหลวงป๋า - พระเทพญาณมงคล วิ. (เสริมชัย ชยมงฺคโล ป.ธ.๖) วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม ศึกษาต่อมา เอาไปหลอมรวมกับโลหะอื่น ๆ เพื่อทำเป็นชนวน ปรากฏว่าโลหะอื่นหลอมละลายหมดแล้ว เจ้าเหล็กไหลยังยิ้มหน้าตาเฉย ทำอะไรไม่ได้เลย ทั้ง ๆ ที่ใช้ถ่านหินและเร่งไฟจนสุดแล้ว ก็ไม่สะทกสะท้าน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-10-2023 เมื่อ 13:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 03-10-2023, 01:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,741
ได้ให้อนุโมทนา: 152,155
ได้รับอนุโมทนา 4,419,960 ครั้ง ใน 34,331 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ในเรื่องของโลหะศาสตร์ คนโบราณก้าวหน้ากว่าเรามาก แค่ "เหล็กแข็ง เหล็กเหนียว" ในปัจจุบันนี้เราเองก็ทำไม่ได้แล้ว ท่านทั้งหลายลองไปดูปืนใหญ่หน้ากระทรวงกลาโหม ผ่านระยะเวลาตากแดดตากฝนมาเป็นร้อย ๆ ปี ก็ยังเขียวปลอด ไม่มีสนิมจับเลย หรือว่าเหล็กเหนียวอย่างที่เขาใช้หลอมดาบ ที่เรียกว่าเหล็กกำพล หลอมเป็นดาบหรือกระบี่แล้วสามารถที่จะเคียนเอวได้ ก็คือม้วนทำเป็นเข็มขัดได้..!

พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเคยเจออยู่ครั้งหนึ่ง เป็นหัวหน้าโจรรายหนึ่ง ซึ่งพกดาบเล่มหนึ่งติดตัวอยู่ตลอดเวลา หลังจากที่โดนปราบปรามเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อท่านยึดดาบเล่มนั้นมา บอกว่าดาบนั้นอ่อนมาก สามารถที่จะจับปลายดาบกับด้ามดาบมาชนกันได้ แต่ดูเหมือนกันไม่มีคม เพียงแต่ว่าฟันลงไป สามารถตัดเหล็กได้..!

ดังนั้น..หลายต่อหลายเรื่องเราจะไปว่าโบราณล้าหลังเป็นไดโนเสาร์เต่าพันปี แต่ปัจจุบันนี้เราตามโบราณไม่ทัน เพราะว่าโบราณไม่ได้ใช้แค่กำลังกายและเครื่องมือ หากแต่ใช้กำลังใจ ก็คือเรื่องของฌานสมาบัติที่ฝึกฝนมาดีแล้ว ในการผสานศาสตร์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งพวกเราอย่าเสียเวลาไปคิด แม้กระทั่งจะถามยังมีส่วนของความเป็นบ้า..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-10-2023 เมื่อ 13:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:18



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว