กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 15-11-2023, 19:48
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,642
ได้ให้อนุโมทนา: 216,883
ได้รับอนุโมทนา 747,459 ครั้ง ใน 36,409 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 15-11-2023, 23:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,949 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๑๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ ก่อนที่ท่านทั้งหลายจะทำวัตรรอบแรกเสร็จ กระผม/อาตมภาพก็สั่งโอนเงินไปเกือบ ๒๐ ล้านบาท เพราะว่าทางพิพิธภัณฑ์ขอเบิกมา ๒ งวด แล้วก็มีทางโรงหล่อปฏิมากรรม ทั้งรูปพระโพธิสัตว์ รูปพระพุทธเจ้า ก็ขอเบิกมาอีก

คราวนี้ในส่วนของเรื่องเงิน กระผม/อาตมภาพไม่ได้มีความหนักใจอะไร เนื่องเพราะว่าทำพระคาถาเงินล้าน "ขึ้น" มาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว มีความมั่นใจเลยว่า ถ้าต้องการใช้เงินเท่าไรก็จะมี ในส่วนของความมั่นใจตรงนี้ต้องเกิดจากประสบการณ์ที่เราได้พบบ่อย ๆ แล้วความเชื่อมั่นก็จะเพิ่มขึ้นไปตามระยะเวลาและประสบการณ์ที่มีขึ้น

ดังนั้น..ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมเบื้องต้น ก็คือเรื่องของเวทมนตร์คาถาต่าง ๆ นั้น ความจริงแล้วเป็นพื้นฐานของอภิญญา ถ้าหากว่าใครสามารถใช้เวทมนตร์คาถาได้ดี เมื่อถึงเวลาที่เราจะฝึกฝนอภิญญาสมาบัติ ก็จะมีพื้นฐานที่ดี ทำให้ฝึกได้ง่าย ประสบความสำเร็จได้เร็ว

วันก่อนที่ไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกที่วัดป่าวังน้ำเย็น มีพระท่านมาถามว่า "อยากจะทรงฌานต้องทำอย่างไร ?" ซึ่ง
กระผม/อาตมภาพต้องตอบแบบกำปั้นทุบดินว่า "ฝึกภาวนาบ่อย ๆ แล้วพยายามรักษาอารมณ์ภาวนานั้นไว้ให้ได้"

โบราณาจารย์เขาก็เลยสอนพวกเราฝึกในรูปแบบต่าง ๆ กันไป อย่างเช่นว่า ภาวนาคาถาอาคมต่าง ๆ บ้าง นับลูกประคำบ้าง ลบผงวิเศษเพื่อเอาไว้ใช้งานบ้าง เขียนยันต์บ้าง เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ต้องการพื้นฐานของสมาธิทั้งนั้น ไม่อย่างนั้นแล้วก็ไม่สามารถที่จะทำให้สำเร็จดังใจได้ เมื่อสามารถทำได้แล้ว ครูบาอาจารย์ที่ท่านมีความฉลาด ก็จะปรับพื้นฐานเหล่านี้เข้ามาหากรรมฐาน ๔๐ หรือว่ามหาสติปัฏฐานสูตร ก็จะกลายเป็นการปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาไปเอง

เพียงแต่ว่ามีบุคคลส่วนหนึ่ง จะเรียกว่ามองโลกในด้านเดียวก็ได้ หรือจะเรียกว่าโง่ก็พูดได้เต็มปากเต็มคำ ก็คือมักจะไปตำหนิเรื่องของไสยเวทย์อาคมต่าง ๆ ว่าเป็นเดรัจฉานวิชา ขวางการประพฤติปฏิบัติธรรม ต้องบอกว่าถ้าคนทำไม่เป็นก็เป็นเช่นนั้น แต่ถ้าหากว่าคนทำเป็น ครูบาอาจารย์ทั้งหลายเหล่านั้นหลุดพ้นเข้าพระนิพพานไปนับไม่ถ้วนแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-11-2023 เมื่อ 03:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 15-11-2023, 23:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,949 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในส่วนที่กระผม/อาตมภาพเคยกังวลก็คือว่า เรื่องของการใช้เวทมนตร์คาถานั้น จำเป็นที่จะต้องหน่วงจิต ยึดเกาะสมาธิ หรือว่ายึดเกาะนิมิต จนกระทั่งมีความชำนาญ นึกเมื่อไร สมาธิก็ทรงตัว หรือว่านึกเมื่อไร ก็สามารถที่จะเกาะนิมิตได้ทันที

แต่ว่าสิ่งทั้งหลายที่ว่ามานี้ก็คือการทำให้เรายึดติด ถ้าต้องการความหลุดพ้นจริง ๆ จะเป็นตัวที่คอยขัดขวาง เนื่องเพราะว่าการชำนาญของเราทำให้เกาะนิมิต หรือว่าเกาะสมาธิแบบไม่ปล่อย ทำอย่างไรที่เราจะซักซ้อมการเข้าออกสมาธิจนมีความคล่องตัว นึกจะเข้าในระดับไหนก็ได้ นึกจะออกเมื่อไรก็ได้ และที่แน่ ๆ พร้อมที่จะปล่อยวางได้ทุกเวลา..!?

คราวนี้การที่พระท่านถามว่า "ทำอย่างไรจะทรงฌานได้ ?" จึงเป็นแค่ปัญหาเบื้องต้นเท่านั้น และคาดว่าผู้ถามไม่ได้ลงมือทำเลย เพราะว่าถ้าลงมือทำอย่างจริง ๆ จัง คำตอบแทบทุกอย่างในการปฏิบัติธรรมอยู่ที่สมาธิแทบทั้งนั้น เนื่องเพราะว่าถ้าสมาธิทรงตัวก็จะรักษาศีลทุกสิกขาบทได้บริสุทธิ์บริบูรณ์ เนื่องจากว่าสมาธิทรงตัว สติก็ตั้งมั่น ไม่พลั้งเผลอไปละเมิดศีล ทำให้มีกำลังในการหักห้ามใจตนเองไม่ให้ละเมิดศีล

ขณะเดียวกันเมื่อสมาธิทรงตัว สภาพจิตก็จะสงบระงับ ทำให้ปัญญาเกิดขึ้นได้ง่าย ก็จะทำให้เราสามารถใช้ปัญญาพินิจพิจารณา จนกระทั่งรู้แจ้งเห็นจริง ว่าสิ่งทั้งหลายทั้งปวง ไม่มีอะไรควรแก่การยึดมั่นถือมั่น เพราะว่าประกอบไปด้วยความไม่เที่ยง เกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงไปในท่ามกลาง สลายไปในที่สุด

ถ้าเราไปยึดถือมั่นหมาย เราก็จะเป็นทุกข์ เพราะว่าไม่มีอะไรเป็นตัวตนเราเขาให้ยึดถือมั่นหมายได้ ถ้าสามารถปลดใจจากการยึดเกาะได้มากเท่าไร เราก็สามารถเข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าได้มาเท่านั้น ต่อให้ไม่สามารถหลุดพ้นได้ในชาตินี้ ก็ยังเป็นพื้นฐานให้ชาติต่อ ๆ ไป เราสามารถเข้าถึงมรรคถึงผลได้ง่ายกว่าผู้อื่น

หรือว่าบางท่านเป็นพระอริยเจ้า อย่างเช่นพระโสดาบัน หรือว่าพระสกทาคามี เกิดชาติต่อไปก็ทรงความเป็นพระอริยเจ้าอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าหลายท่าน ถ้ามาในสายสุกขวิปัสสโก เป็นผู้เข้าถึงมรรคถึงผลโดยที่ไม่มีความรู้พิเศษอย่างอื่น บางทีต่อให้เป็นพระโสดาบัน ก็ไม่รู้ว่าตนเองเป็นพระโสดาบัน แต่ถ้ามีผู้รู้มาบอกกล่าวว่า พระโสดาบันมีคุณสมบัติอะไรบ้าง ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็จะเห็นว่าตนเองทำได้แล้วทั้งสิ้น เพียงแต่ไม่ได้ทึกทักว่าตนเองเป็นพระโสดาบัน
เนื่องเพราะว่าพระอริยเจ้าทั้งหลายจะทรงความไม่ประมาทเป็นปกติ ต่อให้รู้ว่าตนเองเป็นเพราะคุณสมบัติเหล่านี้ ก็ยังคงรักษาคุณสมบัติเหล่านั้นต่อไป แล้วพยายามทำให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-11-2023 เมื่อ 03:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 15-11-2023, 23:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,949 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตัวอย่างของพระโสดาบันนั้น ในชีวิตของกระผม/อาตมภาพเจอมามาก ไม่ว่าจะเป็นในพระไตรปิฎก หรือว่าประสบพบเห็นชนิดที่ภาษาวัยรุ่นเรียกว่า "ตัวเป็น ๆ" แต่สำหรับพระสกทาคามีแล้วยังไม่เคยเจอ "ตัวเป็น ๆ" ถ้าเป็นในพระไตรปิฎกน่าจะมีอยู่แค่คู่เดียวเท่านั้น ที่ทรงความเป็นพระสกทาคามีได้ชัดเจนที่สุด ก็คือคู่ของปิบผลิมาณพและนางภัททกาปิลานี ซึ่งภายหลังก็คือพระมหากัสสปเถระกับภัททกาปิลานีภิกษุณี

เนื่องเพราะว่าต่างคนต่างไม่ปรารถนาการครองเรือน แปลว่ากำลังใจใกล้ความเป็นพระอนาคามี ซึ่งจะมีก็แค่พระสกทาคามีเท่านั้น แต่ว่าโดนพ่อแม่บังคับให้แต่งงาน เมื่อถึงเวลาอยู่ร่วมหอกัน ก็เอาพวงมาลัยคั่นกลางไว้ โดยที่เป็นสัญญาณบอกกันว่า ถ้าพวงมาลัยด้านไหนเหี่ยวเฉาก่อน แสดงว่าบุคคลผู้นั้นเกิดไฟราคะขึ้นมา เป็นอย่างนั้นอยู่หลายปี

เราจะได้เห็นชัดว่าคุณสมบัติอย่างหนึ่งที่ในตำราระบุไว้ของพระสกทาคามีก็คือ สามารถทำให้ราคะและโทสะเบาบางลง ถ้าไม่ได้กำลังใจระดับนั้น ย่อมไม่สามารถที่จะหักห้ามใจได้ เพราะว่าผู้หญิงกับผู้ชายเป็นเครื่องดึงดูดกันเองโดยอัตโนมัติ ต่อให้อยู่คนละประเทศ คนละจังหวัด ก็ยังตะเกียกตะกายไปหากัน อย่าว่าแต่อยู่ในห้องเดียวกันแบบนั้นเลย..!

เมื่อถึงเวลาพ่อแม่ตายแล้ว ทั้งสองคนก็แจกจ่ายทรัพย์สมบัติให้กับผู้อื่น แล้วถือเพศเป็นนักบวช เป็นการบวชเอง โดยใช้คำว่า บวชอุทิศพระอรหันต์ในโลก แปลว่ามีพระอรหันต์อยู่ที่ไหนก็ตาม ทั้งสองคนตั้งใจบวชเพื่อพระอรหันต์ทั้งหลายเหล่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-11-2023 เมื่อ 03:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 15-11-2023, 23:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,949 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อถึงเวลาก็เดินทางออกจากบ้านเกิดซึ่งตอนนี้ยกให้คนอื่นไปหมดแล้ว พอไปถึงทางแยก ต่างคนต่างก็มีความเห็นเหมือนกัน ว่าผู้หญิงกับผู้ชายต่างถือเพศนักบวช ถ้าเดินไปด้วยกัน จะเป็นเรื่องไม่งามให้คนอื่นตำหนิได้

นางภัททกาปิลานีจึงขอแยกไปทางซ้าย ไปพบสำนักภิกษุณี ได้ศึกษาธรรมจนเป็นพระอรหันต์ พระมหากัสสปะแยกไปทางขวา ไปถึงพหุปุตตนิโครธกึ่งกลางระหว่างราชคฤห์กับนาลันทา พบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เสด็จมารับ ประทานโอวาทให้สามข้อ ปฏิบัติตามกลายเป็นพระอรหันต์ ทางประเทศจีนเขายกย่องให้เป็นพระสังฆปรินายกองค์แรกของโลก เพราะว่าเป็นประธานในการสังคายนาพระธรรมวินัย

ดังนั้น..ในเรื่องของพระสกทาคามีตัวเป็น ๆ กระผม/อาตมภาพยังไม่เคยเจอ เจอแต่มากกว่านั้น..! แต่ว่าถ้าในพระไตรปิฎก มีกล่าวถึงค่อนข้างมาก บางทีก็กล่าวรวม ๆ กัน แต่ว่าที่ชัดเจนที่สุดก็คือคู่ของปิบผลิมาณพกับนางภัททกาปิลานี จึงเป็นเรื่องที่เราทั้งหลายควรที่จะเอาไว้เป็นต้นแบบ ในการประพฤติปฏิบัติของเรา ถือว่าเป็นเป้าหมายในเบื้องต้นที่เราต้องเข้าถึงให้ได้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๑๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-11-2023 เมื่อ 03:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:54



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว