กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 21-01-2024, 18:15
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 346
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 18,899 ครั้ง ใน 824 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 22-01-2024, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,190 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ช่วงเช้ากระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังวัดประเสริฐสุทธาวาส ถนนราษฎร์พัฒนา แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร เพื่อทำการปลุกเสกวัตถุมงคล ตามที่ได้รับนิมนต์จากพระครูสมุห์อานนท์ อานนฺโท ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบึงลาดสวาย

หลวงพ่อหมู (พระครูปลัดพรหมจริยวัฒน์) เจ้าอาวาสวัดประเสริฐสุทธาวาส ซึ่งได้รับพระราชทานตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรที่พระครูประสิทธิ์จริยาภิวัฒน์ใหม่เอี่ยมอ่อง มาทำการต้อนรับ แจ้งว่าวัตถุมงคลเป็นของพระครูสมุห์อานนท์ แต่ไม่สามารถจะทำพิธีที่วัดบึงลาดสวายได้ จึงมาขออาศัยมณฑลพิธีอุโบสถวัดประเสริฐสุทธาวาสนี้แทน

เมื่อคุยกันพอหายคิดถึงแล้ว ญาติโยมก็นิมนต์กระผม/อาตมภาพไปปล่อยปลาลงในคลองราษฎร์บูรณะหลังวัด เจ้าภาพใหญ่ก็คือไอ้อ้วน (นางสาวดวงฤทัย ตั้งวรกุลกิจ) ซึ่งเจ็บไข้ได้ป่วยเพราะความเกเรของตนมากกว่ากระผม/อาตมภาพอีก หลังจากที่กินฮอร์โมน กินยาเข้าไป จากสาวสวยก็กลายเป็นลูกชิ้นปิงปอง..! แต่ถ้าหากว่าคนอื่นไปเรียก "ไอ้อ้วน" อาจจะโดนกระโดดทับเอาได้..!

"ไอ้อ้วน" เกรงว่าหลวงพ่อกายสังขารมาถึง ๖๕ ปี ย่าง ๖๖ ปีแล้ว กลัวว่าจะอยู่ได้ไม่นาน อุตส่าห์ไปเหมาปลามา ๑๗๐ กิโลกรัม ให้ปล่อยลงในคลองราษฎร์บูรณะ ซึ่งความจริงการปล่อยปลาแบบนี้ อานิสงส์น้อยมาก เพราะว่าได้แค่ความเมตตาอย่างเดียว

การที่ปล่อยปลาแล้วจะได้อานิสงส์ต่อชีวิตนั้น ต้องเป็นปลาที่เขาขายหน้าเขียง เพื่อที่จะฆ่าหรือว่าทำเป็นอาหาร การที่เราสั่งปลาทีละมาก ๆ แล้วมีการตีอวนจับมา เตรียมไว้ให้เราปล่อย ก็ได้แค่อานิสงส์ช่วยให้เขาได้รับความสะดวกปลอดภัยเท่านั้น แล้วที่แน่ ๆ ก็คือ ปลาจำนวนมาก ถ้าหากว่ามาทับถมกัน ก็อาจจะมีหลายตัวที่ทนไม่ไหว แล้วโดนเพื่อนฝูงเบียดจนตายไปเลยก็มี..!

หลังจากนั้นแล้วกระผม/อาตมภาพก็ได้เข้าสู่มณฑลพิธีอุโบสถ ทำการบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย กราบขอบารมีครูบาอาจารย์ คือหลวงปู่พริ้ง วัดบางปะกอก ซึ่งเป็นเจ้าของถิ่น หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ที่เป็นครูบาอาจารย์ตามสายกรรมฐาน ให้ช่วยอนุเคราห์สงเคราะห์ ปลุกเสกวัตถุมงคลครั้งนี้ด้วย แล้วก็ทำตามกรรมวิธีที่ครูบาอาจารย์ท่านได้บอกได้กล่าวมา ปรากฏว่ามีนักเลงดีถ่าย
ได้รูปแปลก ๆ ขึ้นมาอีก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-01-2024 เมื่อ 01:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 22-01-2024, 00:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,190 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเสร็จสรรพจากพิธีการแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ขอตัวเดินทางกลับ เพราะว่าช่วงบ่ายมีนัดกับหมอเอาไว้ในเรื่องของการซ่อมสุขภาพ โดยเฉพาะการซ่อมสุขภาพนั้น ต้องบอกว่าคนกับรถอาการคล้ายคลึงกัน ก็คือรถยนต์ประจำตัวเมื่ออายุครบ ๑๐ ปี ตรงโน้นก็พัง ตรงนี้ก็เสีย ยิ่งซ่อมก็ยิ่งมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ตัวคนก็ลักษณะเดียวกัน พออายุหลัง ๖๐ ปีมา ก็มีแต่กำลังตกลงไปเรื่อยยังไม่พอ สุขภาพก็ยังชำรุด เดินเหินก็เริ่มไม่ค่อยถนัด มีอาการปวดร้าวลงขาบ่อย ๆ ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เกิดจากการนั่งพับเพียบในพิธีพุทธาภิเษกต่าง ๆ เป็นระยะเวลานาน ๆ นั่นเอง

แต่คราวนี้ด้วยความที่ว่าผศ.ชวัชชัย ไชยสา ซึ่งเคยเป็นครูบาอาจารย์สอนกระผม/อาตมภาพมา ในสมัยที่เรียนปริญญาโทการจัดการเชิงพุทธ ท่านได้เสียชีวิตลง และตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดด่านสำโรง กระผม/อาตมภาพจึงไม่มีเวลาที่จะกลับไปเปลี่ยนผ้าเปลี่ยนผ่อนแต่งตัวให้เรียบร้อย ออกจากโรงหมอมาได้ก็ต้องนั่งรถแท็กซี่ตรงไปยังงานของท่านเลย ยังโชคดีที่ว่าไปในฐานะที่ปรึกษาคณบดีคณะสังคมศาสตร์ ถือว่ามีอาวุโสสูงสุดในงาน ต่อให้แต่งตัวไม่เรียบร้อยหน่อย เขาก็คงจะฟังเหตุผลว่า เป็นเพราะอะไรถึงมาในลักษณะแบบนี้ ?

ในเรื่องของครูบาอาจารย์นั้น ต้องบอกว่าการเป็นครูบาอาจารย์ผู้ให้วิชาการ ให้ความรู้ ถือว่าเป็นบุคคลที่มีบุญคุณเป็นอย่างยิ่ง เมื่อท่านเสียชีวิตลง เป็นไปได้ก็คือไปร่วมเป็นเจ้าภาพงานศพด้วย อย่างน้อย ๆ ไม่ได้ใกล้ชิดกันตอนเป็นมากนัก ก็ยังคงได้เห็นกันตอนตาย โดยเฉพาะทางครอบครัว ก็จะได้มีกำลังใจว่า บรรดาลูกศิษย์ลูกหาไม่ได้ทอดทิ้งครูบาอาจารย์ เมื่อถึงเวลาก็ยังมาคงร่วมงานศพ มาช่วยเหลือกัน

กระผม/อาตมภาพเองเป็นตัวตั้งตัวตีคนหนึ่ง ในการที่เริ่มเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรม โดยมอบหมายให้พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน ช่วยโอนปัจจัยให้ไปก่อน ในเมื่อวันนี้สามารถที่จะปลีกตัวได้ ก็ต้องรีบเดินทางมาร่วมงาน ไม่เช่นนั้นแล้วในวันต่อ ๆ ไป ต้องเดินทางไปถึงจังหวัดเชียงราย อาจจะไม่มีเวลากลับมา แม้กระทั่งมาเพื่อร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ..!

สำหรับคณะสังคมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ปัจจุบันนี้องค์คณบดีก็คือท่านเจ้าคุณกำพล หรือบางคนก็เรียกตามสมณศักดิ์ว่าเจ้าคุณอุดมฯ คือ พระอุดมสิทธินายก (กำพล คุณงฺกโร ป.ธ.๙), รศ.ดร. รองเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี ซึ่งท่านเรียนจบปริญญาเอกรุ่นเดียวกับกระผม/อาตมภาพนี้เอง เพียงแต่ว่าท่านเรียนสาขารัฐประศาสนศาสตร์ กระผม/อาตมภาพเองเรียนสาขาการจัดการเชิงพุทธ ต้องถือว่าเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกัน ไม่นึกว่าท่านจะเจริญก้าวหน้าขึ้นมารวดเร็ว จนกระทั่งท้ายสุดก็มาทำหน้าที่คณบดีคณะสังคมศาสตร์ในปัจจุบัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-01-2024 เมื่อ 01:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 22-01-2024, 00:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,190 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนกระผม/อาตมภาพกับหลวงพ่อแดง วัดอินทาราม หรือ หลวงพ่อเจ้าคุณพระเมธีวัชรประชาทร, ผศ.ดร. ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๕ เจ้าอาวาสวัดอินทาราม อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของคณบดี ตามที่ท่านเจ้าคุณอุดมฯ ได้นิมนต์มา

บรรดาครูบาอาจารย์อื่น ๆ ในคณะสังคมศาสตร์นั้น ส่วนใหญ่บางท่านก็เคยเป็นผู้สอนกระผม/อาตมภาพมาบ้าง บางท่านก็เป็นในระดับรุ่นน้องบ้าง รุ่นลูกศิษย์บ้าง จึงทำให้คนแก่อย่างกระผม/อาตมภาพมีสถานภาพค่อนข้างจะสูง เมื่อไปร่วมงาน จึงไปในลักษณะที่ไม่ค่อยจะเรียบร้อยได้ แต่ก็ไม่รู้สึกว่าดีเหมือนกัน เนื่องเพราะว่า
งานศพนั้น เราจำเป็นต้องให้เกียรติผู้วายชนม์ โดยเฉพาะท่านเป็นครูบาอาจารย์ด้วย แต่กระผม/อาตมภาพมาในลักษณะอย่างนี้ คนทั่ว ๆ ไปเขาอาจจะดูไม่ออก เพราะไม่รู้ว่าลักษณะการแต่งตัวเต็มยศของพระเป็นแบบไหน เห็นพระมาก็ดีใจแล้ว แต่ว่าสำหรับพระด้วยกัน มองปราดเดียวก็รู้ว่า แต่งตัวไม่ครบเต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น..!

แต่เมื่อไปนึกถึงบรรดาญาติโยมต่าง ๆ ในสมัยนี้ บางท่านก็แต่งตัวกันตามสบาย ไม่ได้ดูกาลเทศะ ขนาดไปร่วมงานศพ ยังนุ่งสั้นชะเวิกชะวาก จนเป็นที่ถอนใจ หรือไม่ก็ทำให้เจ้าภาพถึงขนาดขมวดคิ้วไปเลยก็มี เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าอยู่ที่จิตสำนึกเฉพาะของแต่ละคน เนื่องจากว่าถ้าตัวเราไม่รู้จักให้เกียรติคนอื่น เมื่อถึงเวลาจะให้คนอื่นให้เกียรติตัวเรานั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้..!

ดังนั้น..บรรดาเด็กรุ่นเก่า ๆ ที่เคยกล่าวว่ารุ่นของกระผม/อาตมภาพนั้นเป็น "ไดโนเสาร์เต่าพันปี" กระผม/อาตมภาพเห็นว่า สิ่งที่ครูบาอาจารย์สอนมานั้น ถ้าทำให้สังคมของเราดีงาม ต่อให้เป็น "ไดโนเสาร์เต่าพันปี" กระผม/อาตมภาพก็ยินดีที่จะเป็น..!

โดยขอยกตัวอย่างศิลปินระดับโลกชาวไทยท่านหนึ่ง ก็คือ น้องลิซ่า (นางสาวลลิษา มโนบาล) ซึ่งปัจจุบันนี้ไปโลดแล่นอยู่ในระดับโลกแล้ว ได้รับการยกย่องว่าเป็นบุคคลที่มีกิริยามารยาทงดงาม สมกับเป็นคนไทยเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ ให้เกียรติต่อผู้ใหญ่ ถึงเวลาเจอใครก็ยกมือไหว้ก่อน ทั้ง ๆ ที่เขาเองเป็นฝรั่ง เราแค่เช็คแฮนด์ก็ได้ แล้วด้วยอานุภาพของกิริยามารยาทแบบไทยนั่นแหละ ที่ทำให้บรรดาฝรั่งทั้งหลาย เห็นแล้วก็อดจะหลงเสน่ห์ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความอ่อนน้อมถ่อมตนของเธอไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-01-2024 เมื่อ 01:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 22-01-2024, 00:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,190 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องพวกนี้ถ้าหากว่าเธอยังคงเป็น "ไอดอล" ไปอีกระยะหนึ่ง อาจจะทำให้บรรดาแฟนคลับ ซึ่งติดตามอยู่ได้เลียนแบบในสิ่งที่ดี ๆ ทั้งหลายเหล่านี้ เพื่อที่จะช่วยกันเผยแพร่กิริยามารยาทไทยให้เป็น Soft Power ดึงเอาเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศไทยของเราได้อีกมาก

ปัจจุบันนี้แม้ว่าประเทศรอบข้างในอาเซียนของเรา ประเทศลาวจัดปีส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่หานักท่องเที่ยวได้น้อยมาก ประเทศเวียดนามพยายามที่จะแข่งขันกับไทยทุกอย่าง แต่ว่าบุคคลของเขานั้นไม่ได้มีความเป็นมิตรเหมือนกับคนไทย ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวไปครั้งเดียวก็เข็ดแล้ว..! ส่วนประเทศกัมพูชา หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า "เขมร" นั้น มีอะไรที่เป็นของไทยแล้วดี ก็พยายาม "เคลม" ว่าเป็นของเขมรเสียทั้งหมด จนกลายเป็นตัวตลกให้ชาวโลกเขาหัวเราะเยาะอยู่แทบทุกวัน..!

ทางด้านมาเลเซีย สิงคโปร์นั้น ประเทศของเรากลายเป็นแดนสวรรค์ โดยเฉพาะมาเลเซีย ซึ่งมีพลเมืองส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม บ้านเขาเคร่งครัด หลายสิ่งหลายอย่างไม่สามารถที่จะทำได้ ก็ข้ามมาเที่ยวบ้านเรา จนกลายเป็นนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเป็นอันดับหนึ่งเลย เพราะว่าเมื่อเข้ามาบ้านเราเมืองเราแล้ว ความเป็นเมืองพุทธของเรามีแต่ความเป็นมิตร สิ่งหนึ่งประการใดที่ทำไม่ได้ในประเทศของตนเอง เมื่อมาเมืองไทยแล้วไม่ได้ผิดกฎหมาย ก็สามารถทำได้อย่างเต็มที่

ประเทศอื่น ๆ ซึ่งแห่กันมาเที่ยวเมืองไทย เพราะว่าติดใจในอาหารไทย ในชุดไทย ในจริตนิสัยแบบไทย ๆ ในมวยไทย ตลอดจนกระทั่งสิ่งต่าง ๆ ที่คนไทยของเราช่วยกันสร้าง ช่วยกันเสริมขึ้นมา จึงเป็นเรื่องที่บรรดา "ไดโนเสาร์เต่าพันปี" อย่างกระผม/อาตมภาพ ยังรู้สึกว่า
สิ่งที่ครูบาอาจารย์สอนพวกรุ่นของเรามานั้น ความจริงเป็นสิ่งที่ดีงาม เพียงแต่ว่าคนรุ่นหลังไม่ให้ความสำคัญเท่านั้นเอง จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง

ตอนนี้ก็ใกล้ถึงจุดหมายปลายทางแล้ว สำหรับวันนี้จึงขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๒๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-01-2024 เมื่อ 01:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:00



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว