|
มิงกะละบาร์ เมียนมาร์ มิงกะละบาร์ เมียนมาร์ โดยพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
|||
|
|||
มิงกะละบาร์ เมียนมาร์ ตอนที่ ๑๕
กราบถวายบูชาพระมหาเจดีย์ชุยดากง และพระมหาเจดีย์มหาวิสะยะเป็นการส่งท้าย กลับมาฉันเช้า หลวงปู่วาระยังไม่ออกมา จัดการมอบที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ไว้กับท่านนันทะสาระแทน...
ท่านนาวินหายไปไหนหว่า ? รออยู่นานสองนานครูบาน้อยจึงโผล่มา บอกว่าท่านวังสะธัมมะรองเจ้าอาวาสชวนคุย ท่านเคยไปอยู่แถวมหาชัยมาเมื่อสี่สิบปีก่อน ยังพอพูดไทยได้หลายคำ... จับแท็กซี่ไปลงขนส่ง จ่ายค่ารถไปสี่ร้อย แถมยังเดินเสียอานเลย แท็กซี่ไม่รู้ว่ารถไปปะโกอยู่ที่ไหน พอถามทางเขาดันบอกท่ารถสองแถวให้...สองแถวก็สองแถวละวะ..! แหม...มันแย่งผู้โดยสารแทบจะชกกัน... จะชกกันก็เรื่องของเอ็ง ขอให้ข้าไปได้ก็แล้วกัน..! รถสองแถวพม่าชอบจอดแช่ป้ายนาน ๆ กราบขอท่านปู่พระอินทร์สงเคราะห์ ขอขึ้นถึงพระบรมธาตุอินทร์แขวนในวันนี้ เพื่อประหยัดเวลาไปหนึ่งวัน ท่านปู่รับปากจะช่วย...คราวนี้เอ็งมีปัญญาก็เชิญแช่ไปเถอะ...ข้าจะหลับละนะ..!
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-07-2013 เมื่อ 02:13 |
สมาชิก 54 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
|||
|
|||
หลับเพลินมาถึงปะโกไม่ทันจะรู้ตัว จ่ายค่ารถอีกสี่ร้อย เดินหารถเช่าเพื่อไปไหว้พระ เจอรุ่นคุณทวดยังหนุ่ม เขาคิดพันสอง ถังน้ำมันเป็นสายยางจุ่มไว้ในแกลลอน ซ้ำยังใช้สายไฟช็อตกันเพื่อสตาร์ทรถ ไอ้กรรมเผาบ้านเผาเมืองเขาอย่ามาตามทันตอนนี้แล้วกัน ตูขี้เกียจถูกย่างสด..!
ไปกราบหลวงพ่อโตสี่ทิศไจ๊ปอ เขาผูกนั่งร้านทาสีใหม่ ถึงหลวงพ่อพระนอนชุยตาเลียว เขารื้อซ่อมซุ้มทางเดินตลอดแนว แม่ค้าที่นี่พอพูดไทยได้ทุกคน แต่ขายของราคาแพงหูดับ คงจะคิดค่าฝึกภาษาด้วยกระมัง..? พระราชวังกัมโพชศาสตร์ของพระเจ้าบุเรงนองมหาราช ไม่ได้มีความก้าวหน้าในการบูรณะเลย ภมรบัลลังก์ที่สวยงามมากเมื่อปีที่แล้ว มาปีนี้สีลอกเป็นขี้กลากไปทั้งหลัง..! พระตำหนักสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยายังจมดินจมหญ้าอยู่เหมือนเดิม ขนาดบ้านเรางบประมาณยังมาได้ช้ามาก บ้านเขาก็คงจะไม่ต่างกันนัก... เข้าร้านอาหารฉันเพล กวาดผักเขาจนหมดถาด เจ้าของร้านต้องเอามาเติมใหม่ จ่ายค่าผักไปเจ็ดร้อย อย่างอื่นคิดเสียว่าเป็นของแถม ฮิ...ฮิ..! หาซื้อดอกไม้ธูปเทียนไปไหว้พระมหาธาตุชุยมอดอ พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของหงสาวดี...
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-07-2013 เมื่อ 02:14 |
สมาชิก 52 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
|||
|
|||
พระมหาธาตุสุวรรณมุเตานี้ มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ไทยมาก ยอดฉัตรนั้นสมเด็จพระนเรศวรมหาราชยกถวายเป็นพุทธบูชาเมื่อครั้งยกทัพมาตีพม่า นับเป็นพระเจดีย์สำคัญองค์เดียวในพม่าที่มียอดฉัตรเป็นแบบไทย..! พม่าเขาไม่กล้าเปลี่ยนยอดฉัตร เกรงว่ายอดวีรกษัตริย์ไทยจะอธิษฐานอะไรเอาไว้ เปลี่ยนส่งเดชเดี๋ยวซวย...!
อธิษฐาน อุทิศส่วนกุศล แล้วให้คุณทวดไปส่งที่ท่ารถไปพระบรมธาตุอินทร์แขวน จ่ายค่ารถเพิ่มให้อีกหนึ่งร้อย แต่ไอ้รถเมล์ไม่ยอมจอดรับ รถสองแถวก็แน่นเป็นปลากระป๋อง ต้องนั่งข้างหลังเบียดไปกับเขา... เป็นเรื่องละซิ..! ยายหนูผิวเข้มตาคมขึ้นมา ไม่มีที่แม้จะยืน แม่เจ้าประคุณมุดเข้ามา หย่อนสะโพกนิ่ม ๆ ลงบนตักอาตมา คงจะเห็นเป็นที่นั่งเสริม หลบไปทางไหนก็ไม่ได้ ต้องนั่งปลงไปจนกระทั่งแม่คุณลง ค่อยถอนหายใจโล่งอก..! มาอีกแล้ว..ทีนี้เป็นห้านิ้วสั้น ๆ ตีนครับตีน..! เขาปีนไปนั่งบนหลังคา ดันเห็นหลังพระเป็นบันได เหยียบขึ้นไปหน้าตาเฉย..! ยังไม่ทันจะหายจุก คุณป้าอีกคนมุดพรวดเข้ามาตรงหว่างขา รถเบรกที ทิ้งโค้งที คุณป้าทิ้งน้ำหนักมาทั้งตัวแบบสบายอกสบายใจ “ท่านนาวินโว้ย..ลงเถอะ..ตูไม่ไปกับมันแล้ว..!”
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-07-2013 เมื่อ 02:16 |
สมาชิก 52 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
|||
|
|||
ลงกลางทางหารถไม่ได้ ต้องเรียกสามล้อปั่นน่องโป่งไปลงข้างสถานีรถไฟ เจอค่ารถไปเจ็ดสิบ ตรงนี้เป็นท่ารถของเมืองไจ๊โทที่จะขึ้นไปพระบรมธาตุอินทร์แขวน คราวนี้ปีนตามพระพม่าขึ้นไปนั่งบนหลังคา ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า เจอสาวนั่งตักบ่อย ๆ เดี๋ยวปลงไม่ลง..!
รถวิ่งเป็นม้าควบไปตามทางคดเคี้ยว เก้าไมล์ต่อมาถึงเชิงดอยอินทร์แขวน คิดว่าต้องพักที่ร้านประจำเสียแล้ว แต่ท่านปู่พระอินทร์ทำได้ ยังมีรถหลงอยู่อีก ๑ เที่ยว ซื้อตั๋วคนละร้อยห้าสิบ อาตมาเพิ่มค่าที่นั่งตอนหน้าอีกห้าสิบ ไปโลด..! แหม..พอขึ้นนั่งก็ออกรถเลย อยากจะเชื่อว่าเขารออาตมากับครูบาน้อยอยู่จริง ๆ... รถทหารรักษาด่านสวนมากลางทาง เอะอะสอบถามเป็นการใหญ่ ว่ามืดค่ำแล้วมาได้อย่างไร ? พอรู้ว่าออกตามคิวก็ปล่อยผ่าน ขนาดด่านตรวจยังเลิกแล้ว ไม่รู้ว่าท่านปู่จัดการอีท่าไหนถึงมากันได้ ? กราบขอบพระคุณอย่างยิ่งครับ...
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-07-2013 เมื่อ 02:17 |
สมาชิก 51 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
|||
|
|||
หกโมงสี่สิบห้ามาสุดทางรถแปดไมล์ คราวนี้เดินกันละเน้อ... ทางขึ้นเขาชันดิ่งหนึ่งไมล์เต็ม ๆ เรียกเหงื่อท่วมตัว ทั้งที่อากาศเย็นเอาเรื่อง องค์พระบรมธาตุเหลืองอร่ามกลางแสงไฟ ทำให้เดินได้ไม่รู้จักเหนื่อย...
ถึงแล้ว...หนึ่งทุ่มสี่สิบห้าพอดี ใช้ผ้าเย็นเช็ดหน้าตาเนื้อตัวแบบซักแห้ง ครองผ้าสวดมนต์แล้วปิดทองถวายเป็นพุทธบูชา (ใช้ทองที่ซื้อจากมัณฑะเลย์) จากนั้นเดินหามุมถ่ายรูปงาม ๆ ยามค่ำคืนกันหน่อย... คราวนี้ถึงเรื่องที่พักบ้าง ร้านจูจูลวินรีบเปิดห้องให้ในฐานะแขกประจำ ร้านนี้เป็นพี่น้องกับมิตตาลวินที่เชิงดอย เขาประมูลร้านนี้มาในราคาห้าล้านสองแสน มีเวลาทำเงินแค่เจ็ดเดือน เพราะต้องปิดร้านช่วงหน้าฝน ปีต่อไปต้องประมูลกันใหม่ อาตมาทั้งสองมุดเข้าห้องได้ก็ไปยาวแบบไม่ร่ำไม่ลากันเลย..! คลิกเพื่ออ่านตอนต่อไป
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย คิมหันต์ : 20-07-2013 เมื่อ 14:56 |
สมาชิก 48 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|