|
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#101
|
||||
|
||||
ถาม : พระอรหันต์จี้กง ?
ตอบ : จะว่าไปแล้วท่านจี้กงก็เหมือนกับหลวงพ่อขี้วัวของเรา ถึงเวลาท่านก็เอะอะเฮฮาไปเรื่อยเพราะต้องการปิดจริยาตัวเอง คนเห็นคิดว่าท่านบ้า ๆ บอ ๆ จะได้ไม่ไปยุ่งกับท่าน ไม่อย่างนั้นแล้วคนแห่ไปกวนตายเลย คราวนี้เมื่อท่านต้องการปิดจริยาตัวเอง ท่านก็ทำอะไรเหมือนอย่างกับหลุด ๆ ไม่ค่อยจะถือศีลอะไรหนักหนา แบบสมัยก่อนหลวงปู่จ้อย วัดบางช้างเหนือ แบกไหน้ำตาลเมาซดไปเรื่อย เอาเข้าจริง ๆ เทออกมาเป็นน้ำชา ฉันน้ำชาเสร็จสรรพเรียบร้อยที่เหลือติดก้นถ้วยกลายเป็นน้ำตาลเมา เอากับท่านสิ แล้วพระแบบนั้นใครจะไปทำอะไรท่านได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-09-2013 เมื่อ 06:31 |
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#102
|
||||
|
||||
ถาม : ช่วงเข้าพรรษาพระอาจารย์มารับสังฆทานที่นี่ได้อย่างไรครับ ?
ตอบ : ถ้ามีเหตุจำเป็นไปได้ แต่ให้ไปได้ไม่เกิน ๗ วัน ภาษาบาลีเขาเรียกว่า สัตตาหะกรณียะ จะมีระบุไว้ว่า ถ้าพ่อป่วย แม่ป่วย ครูบาอาจารย์ป่วยไปเพื่อรักษาพยาบาลได้ สหธรรมิกที่อยู่ต่างวัดจะสึกไปเพื่อห้ามปรามได้ วัดพังไปหาทัพสัมภาระมาซ่อมวัดไปได้ ได้รับกิจนิมนต์ไปเจริญศรัทธาไปได้ ของอาตมาอยู่ในข้อนี้ จะว่าไปแล้วเรื่องการจำพรรษาเริ่มจากศาสนาเชนเขาก่อน ศาสนาเชนที่มีนักบวชแก้ผ้าเกิดก่อนศาสนาพุทธ เขาถือว่าถ้ายังมีเสื้อผ้าอยู่แสดงว่ายังมีกิเลส แต่จะว่าไปแล้ว ถ้าปัจจุบันนี้ไปดูให้ไปดูที่เมืองฤๅษีเกศ เขายังมีนักบวชศาสนานี้อยู่มาก แต่ละคนจะได้รับการฝึกมาอย่างอุกฤษฏ์เลย ต้องบอกว่าถ้าออกมาต้องไม่ทำให้ขายหน้าครูบาอาจารย์ของเขา ไปนึกถึงในทักขิณาวิภังคสูตร ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่า ให้ทานแก่นักบวชนอกพุทธศาสนาที่ระงับกามราคะได้ มีผลเป็นแสนเท่า นั่นก็คือนักบวชพวกนี้ เขาเป็นนักบวชแก้ผ้าก็จริง แต่เขาทรงฌานระงับกามราคะได้เป็นปกติเลย เขาจะไม่หวั่นไหว ไม่ตื่นเต้นอะไรกับใคร เดินไปตามปกติของเขา คนอื่นจะเห็นเป็นของแปลกหรือไม่แปลก จะเคารพไม่เคารพไม่รู้ เขาก็เฉย ๆ อาตมาก็ว่า เออ..ให้ทานกับคนที่มีศีลสมบูรณ์มีอานิสงส์มากกว่าให้ทานกับคนที่มีศีลแล้วศีลบกพร่อง ๑๐๐ เท่า แต่ปรากฏว่าให้ทานกับนักบวชนอกศาสนาที่ระงับกามราคะได้มีผลเป็นแสนเท่า เรื่องอภิญญาสมาบัติของเขาเป็นเรื่องปกติเลย เคยมีคลิปวีดีโออันหนึ่งที่เขาถ่ายสถานที่ แล้วไปติดโยคีกำลังเหาะพอดีเลย เขาอุตส่าห์หลบไปหลังเสาแล้ว คนถ่ายคลิปดันถ่ายติดพอดี อาตมาเองก็ยังเสียว ๆ อยู่ เป็นโรคหวาดระแวงไม่รู้เมื่อไรจะโดนออกคลิปบ้าง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-09-2013 เมื่อ 06:33 |
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#103
|
||||
|
||||
ถาม : นักบวชเชนเขาทำอรูปฌานได้ไหมครับ ?
ตอบ : เขาทำได้เป็นปกติ อรูปฌานสำหรับเขาก็เป็นหลักสูตรท้าย ๆ ประเภทเตรียมจบปริญญาแล้ว ถาม : การที่เรามั่นใจว่าทำได้ เป็นเพราะมีของเก่า ? ตอบ : ความที่มีของเก่าอยู่ ทำให้เกิดความมั่นใจ แต่อย่าเชื่อเฉย ๆ ต้องไปทบทวนด้วย เชื่อเฉย ๆ ไม่ยอมทวนของเก่าก็ไม่ได้สักที เชื่ออย่างเดียวไม่ได้ ต้องซักซ้อมไว้ด้วย พอซักซ้อมเคยชินแล้วของเก่าก็คืนมาเอง เหมือนอย่างกับมีเงินอยู่ในเซฟอยู่แล้ว จำรหัสได้ก็เปิดเอาเงินมาใช้ได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-09-2013 เมื่อ 12:32 |
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#104
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมามีโครงการทำหนังสือสวดมนต์เป็นบาลีโรมัน แต่ยังไม่มีเวลาตรวจทานต้นฉบับ แล้วก็จะแปลพระธรรมเทศนาเป็นภาษาอังกฤษ แต่ก็ไม่มีเวลาทำ งานบางอย่างนอกจากมีเวลาแล้ว ยังต้องมีทีมงานด้วย
ข้อธรรมบางอย่างแค่แปลเป็นภาษาอังกฤษอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเข้าใจว่าความหมายของธรรมะนั้นเป็นอย่างไร แล้วก็แปลให้ใกล้เคียงที่สุด แปลตรง ๆ เป็นสากกะเบือไม่ได้หรอก...ไม่ได้ความ ภาษาอังกฤษอธิบายธรรมะยากมาก เคยลองดูแล้ว แค่คำว่า “ทุกข์” คำเดียวเหนื่อยลิ้นห้อยเลย ไปบอกว่า Suffering เขาไม่เข้าใจหรอก จะถือว่าเป็นความลำบากเฉย ๆ ก็ได้ แบบเดียวกับเรื่องกรรม อธิบายยากมาก จะบอกว่าเป็นการกระทำ แล้วทำไมยังมีกรรมดี ยังมีกรรมชั่ว ท้ายสุดอธิบายกันเป็นชั่วโมงได้แค่คำเดียว" ถาม : น่าจะใช้ทับศัพท์ไปก่อนนะคะ ตอบ : พอเราทับศัพท์ ด้วยความที่เขาไม่ใช่พุทธศาสนิกชนก็ไม่ชิน เขาจะไม่เข้าใจ จริง ๆ แล้วควรจะเป็นตำราภาษาอังกฤษ แต่ทับศัพท์แล้วมีวงเล็บคำอธิบาย ไปนึกถึงพวกชาวต่างชาติที่ศึกษาพุทธศาสนาในยุคแรก ๆ เขาต้องไปอยู่ในประเทศอินเดียหรือลังกา เรียนอักขรานุกรมจนหมดแล้วก็เขียนกลับมาเป็นภาษาของตัวเอง ต้องใช้ความพยายามกันทั้งชีวิตเลย กว่าจะเรียนภาษาถึงขนาดใช้เขียนข้อธรรมได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ทีมงานปัจจุบันนั้นมีอยู่ แต่การเข้าถึงธรรมของทีมงานยังไม่พร้อม
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2013 เมื่อ 00:10 |
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#105
|
||||
|
||||
ถาม : แม่ของบ้านนี้เขาไปดูดวงมาว่า ที่บ้านมีใครมาสิงอยู่ในศาลพระภูมิ จะทำอย่างไรดีคะ ? เหมือนกับว่าเมื่อก่อนเขาเคยรุ่งเรือง ตอนนี้ตกจนไม่เหลืออะไรค่ะ ?
ตอบ : ถ้าไปดูดวงอย่างนั้นก็จะเจอแบบนี้ไปเรื่อย ๆ อนาถบิณฑิกเศรษฐีกินข้าวมธุปายาสทุกมื้อ ตอนหลังต้องไปกินข้าวต้มผสมน้ำผักดอง วาระของคนเรามี พอถึงเวลากรรมไม่ดีเข้าเราก็โดน แต่ถ้าเวลามั่นคงกับความดีไว้เดี๋ยวก็กลับคืนมาดีตามเดิม เพราะว่าเราไม่ได้สร้างกรรมอย่างเดียว บุญเราก็ทำ พอถึงเวลาวาระกรรมผ่าน วาระบุญให้ผลก็ดีเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าตอนนี้วิ่งไปพึ่งเขา ก็เปะปะโทษฟ้าโทษดินไปเรื่อยเปื่อย บางทีของดี ๆ อยู่ในบ้านแท้ ๆ เขาว่าไม่ดีก็เอาออกไป อย่าดันทะลึ่งไปหาหมอดูอีก..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2013 เมื่อ 00:16 |
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#106
|
||||
|
||||
ถาม : ผู้หญิงที่บวชเป็นพระ ทำไมถึงถือศีลมากกว่าพระผู้ชายครับ ?
ตอบ : ศีลพระส่วนใหญ่ตั้งขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้ชาวบ้านนินทาพระ คราวนี้ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง ผู้หญิงจะโดนนินทามากกว่า ก็เลยต้องมีศีลเยอะกว่า ศีลของผู้ชาย ๒๒๗ ข้อก็พอป้องกันได้ ศีลของผู้หญิงต้องมีถึง ๓๑๑ ข้อ จริง ๆ ก็คือกันชาวบ้านตกนรก เพราะเขาชอบนินทาพระกัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2013 เมื่อ 00:13 |
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#107
|
||||
|
||||
ถาม : การบริจาคร่างกายทีละส่วน ค่อย ๆ ทำไปทุกปี ?
ตอบ : คุณต้องคิดว่าความตายอาจจะมาถึงเราได้ทุกขณะ เราบริจาคครั้งนี้อาจจะอยู่ไม่ถึงครั้งหน้า เพราะฉะนั้น..ให้ไปทีเดียวทั้งตัวเลย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2013 เมื่อ 00:14 |
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#108
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ทุกศาสนาจะกล่าวถึงเรื่องของเทพกับมาร ก็แปลว่าบุคคลแรกเริ่มจะมีความรู้เหมือน ๆ กัน แต่พอถ่ายทอดไปนาน ๆก็อาจจะมีผิดเพี้ยนไปบ้าง อย่างของศาสนาคริสต์ก็จะมีเทวดากับซาตาน ของศาสนาอิสลาม ก็มีพระเจ้ากับไซตอน ของไทยเราก็พระพุทธเจ้ากับพญามารมาผจญ ของทางด้านมหายานไม่ต้องพูดถึงเลย เราไม่ลงนรกใครจะลงนรก มหายานเขามาแบบพระโพธิสัตว์"
ถาม : ปลายพระศาสนาเรื่องเหล่านี้จะไม่เป็นที่ยอมรับ ? ตอบ : การยอมรับหรือไม่ยอมรับอยู่ที่ตัวบุคคล ส่วนการมีอยู่ คงอยู่ เป็นไป เป็นเรื่องของความจริง เราไม่ยอมรับความจริง ก็ไม่ได้แปลว่าความจริงไม่ได้อยู่ตรงนั้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2013 เมื่อ 00:15 |
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#109
|
||||
|
||||
ถาม : ผมกับเพื่อน ๆ รวมเงินกันเป็นกองกลาง เพื่อนำไปทำบุญวัดต่าง ๆ ด้วยกัน จะถามว่าเพื่อน ๆ ทุกคนจะได้อานิสงส์เหมือนกันหรือเปล่า ?
ตอบ : อานิสงส์เหมือนกันแต่อาจจะได้ไม่เท่ากัน คำว่าอานิสงส์เหมือนกันคือ เขาทำบุญแบบไหนทุกคนก็ได้บุญแบบนั้น เหตุที่ได้ไม่เท่ากันคือ แต่ละคนบางทีอาจจะออกเงินมากน้อยไม่เท่ากัน ถาม : มาจากเรื่องที่คนในกลุ่มบางคนไม่มีโอกาสทำบุญ แต่ผมผ่านวัดทุกวัน ได้หยอดตู้ทุกวัน เลยอยากให้เขาได้ทำบุญด้วย ตอบ : ถ้าสถานะแค่นั้นเราจะได้บุญมากกว่าเขา เราไปได้ตัวบุญในเวยยาวัจมัย ที่ช่วยให้งานบุญของคนอื่นสำเร็จด้วย ขณะที่คนอื่นเขาอาจจะได้แค่ทานมัย คือได้ทำทาน ในลักษณะนั้นเราได้เพิ่มมาอีกอย่างหนึ่ง ถาม : ถ้าเอามารวมกันแล้วแบ่งกันไปตามวัดต่าง ๆ ใกล้บ้าน ของแต่ละคนก็ได้ด้วยหรือครับ ? ตอบ : แรกเริ่มได้เท่ากัน หลังจากนั้นก็ดูเหตุการณ์พิเศษ อย่างเช่น ถ้าเราเป็นคนนำบุญเขาให้สำเร็จ เราก็ได้เวยยาวัจมัยเพิ่มขึ้นมา หรือถ้าเราออกเงินมากกว่าเราก็ได้มากกว่าคนอื่นเขา แต่พื้นฐานได้เท่ากัน ถาม : แล้วถ้าเงินหมดไปแล้วครึ่งหนึ่ง เราเอาเงินส่วนตัวเติมไป โดยที่ตั้งใจให้เป็นกองกลาง เพื่อนำไปทำบุญต่อ อย่างนี้เพื่อน ๆ ยังจะได้ด้วยหรือเปล่าครับ ? ตอบ : เขาได้ส่วนของเขา บอกแล้วว่าพื้นฐานได้เท่ากัน แต่เราได้เพิ่มส่วนที่เติมมา
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2013 เมื่อ 20:01 |
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#110
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวถึงผู้ที่ติดของหวานว่า "พวกเรากินของหวานมากไป ถ้าหยุดได้จะเป็นคุณแก่ตัว ทรมานแค่ ๓ วันแรกเท่านั้นแหละ เราต้องเข้มแข็งพอที่จะสู้ ไม่อย่างนั้นพอร่างกายเรียกร้องเราก็มืออ่อนตีนอ่อนยอมแพ้ อย่างนั้นก็แพ้ทั้งชาติแหละ..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2013 เมื่อ 20:02 |
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#111
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาเองสร้างเวรสร้างกรรมไว้เยอะ ถึงเวลาจึงไม่มีหมอที่มารักษาแล้วทำให้ไม่เจ็บ คราวนี้ญาติโยมหาหมอมา ถ้าไม่รักษาเขาก็บอกว่า “เห็นไหม ที่ไม่หายเพราะไม่ยอมรักษา” เพราะฉะนั้นใครมาก็ให้เขารักษาไป อาตมาก็ทนเจ็บเอา เอายาอะไรมาก็กิน กินให้หมด ให้รู้ ๆ ไปว่ารักษาได้หรือไม่ได้ โยมเขาจะได้ว่าอะไรไม่ได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2013 เมื่อ 20:02 |
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#112
|
||||
|
||||
ถาม : นั่งสมาธิสักพักหนึ่ง พิจารณาผม ขน ฟัน หนังแล้ว ตัวโยกแต่ก็กำหนดรู้ว่าตัวโยกหนอ พอสักพักหนึ่งโยกมากขึ้น ก็หลุดแล้วออก ?
ตอบ : ปล่อยให้โยกเต็มที่ ตึงตังโครมครามไปเลย พอเต็มที่แล้วสมาธิจะทรงตัวแนบแน่น ก้าวพ้นตรงนั้นไป ไม่อย่างนั้นแล้วเราไปห้ามให้หยุด ถึงเวลาอารมณ์ใจทรงตัวระดับนั้นก็จะโยกอีก ปล่อยให้เป็นเต็มที่ทีเดียวแล้วจะเลิก ถาม : โยกแล้วล้มเลยนะครับ ตอบ : ถ้ามัวแต่กลัวล้มอยู่ก็อย่าไปปฏิบัติ การปฏิบัตินี่แม้แต่ตายเขาก็ยอม ถาม : บางครั้งถ้านั่งสมาธิแล้วไม่สงบ เปลี่ยนไปสวดมนต์ให้จิตสงบขึ้นได้ไหมครับ ? ตอบ : ได้..ถ้าสภาพจิตไม่สงบ เราภาวนาอย่างไรก็ไม่ยอมลง มีวิธีไหนที่ทำให้สงบลงได้ให้ทำวิธีนั้น ไม่ได้จำกัดตายตัว ถาม : ก็คือปล่อยให้ไปตามกิริยาอย่างนั้น ? ตอบ : ปล่อยให้เต็มที่ไปเลย ถ้ามีคนรอบข้างบอกเขาด้วยว่า ถ้ามีเสียงตึงตังโครมครามไม่ต้องตกใจ เป็นอาการปกติ ถ้าเรารู้จักสังเกตจะเห็นว่า จริง ๆ แล้วจิตจะนิ่งสงบมาก เป็นแค่อาการของร่างกายที่ดิ้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2013 เมื่อ 20:03 |
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#113
|
||||
|
||||
ถาม : มีคดีความ แล้วเขาส่งคนมาจะทำร้าย ?
ตอบ : อย่าไปคิดว่าคาดว่า เรื่องของคดีความต้องเอาหลักฐานข้อเท็จจริงมาสู้กัน ไม่ใช่เราคิดว่าเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ อายุจนป่านนี้แล้ว ถ้าเขาช่วยฆ่าให้ตายก็ขอบคุณเขาเถอะ อาตมาเองหาที่ตาย เสี่ยงทุกเรื่อง แต่ไม่ตายสักเรื่อง ยังเซ็งอยู่จนป่านนี้ ถ้ามีใครช่วยฆ่าให้ตายจะขอบคุณเป็นอย่างยิ่งเลย ถ้ามัวแต่กลัวนั่นกลัวนี่อยู่แล้วในชีวิตจะทำอะไรได้สักกี่อย่าง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2013 เมื่อ 20:04 |
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#114
|
||||
|
||||
ถาม : หนูไม่เห็นว่าผีจะกลัวพระเลย ?
ตอบ : ผีที่เราเห็นว่ากลัวพระ คือผีชั้นต่ำทั่ว ๆ ไป ส่วนผีที่เราเห็นว่าไม่กลัวพระ ส่วนใหญ่ไม่ใช่ผีจริง ๆ ส่วนใหญ่เป็นเทวดาแกล้งเป็นผี ถ้าประเภทหลังนี่คาถากี่บทก็ไม่มีประโยชน์หรอก เขาท่องได้เยอะกว่าเราอีก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2013 เมื่อ 20:04 |
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#115
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เพื่อน ๆ เขาสงสัยว่าอาตมาจดตามที่อาจารย์สอนตั้งแต่เช้ายันเย็นได้อย่างไร จะไปอธิบายว่าเป็นผลจากสมาธิพวกนั้นก็ไม่รู้เรื่องหรอก ก็เลยบอกว่า “กูไม่อยากสอบตก” อธิบายง่ายที่สุดแค่นั้นแหละพอ ของบางอย่างพูดไปก็ไร้ประโยชน์ อะไรที่ทำให้เขาเข้าใจง่าย ๆ ได้ก็เอาแค่นั้นแหละ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2013 เมื่อ 20:05 |
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#116
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า "มีอยู่วันหนึ่งนั่งรถไปสอนหนังสือที่วัดใต้ ไปถึงแถวแยกชุกโดนประมาณ ๗ โมงกว่าเกือบ ๘ โมง เห็นโยมผู้ชายคนหนึ่ง ถือเครื่องช่วยเดินแบบคอก ค่อย ๆ เดินทีละก้าว ๆ ไม่มีลูกไม่มีหลานหรอก ไปคนเดียว เดินไปเรื่อย ๆ เขามีความพยายามดี ถ้าคนมุ่งมั่นขนาดนั้นทำอะไรก็สำเร็จ จะตั้งใจกายภาพบำบัดหรือซ้อมหัดเดิน ถ้าทำแบบนั้นทุกวันเดี๋ยวก็แข็งแรงพอเดินเองได้
ส่วนใหญ่คนเราพอป่วยแล้ว พอที่จะกายภาพบำบัดหรือว่าออกกำลังตัวเองได้ แต่ก็ไม่ได้ทำ กล้ามเนื้อเลยอ่อนแรงไปเรื่อย ๆ อย่างโยมคนนั้นดูแล้วยังชื่นใจว่า เขากำลังใจเข้มแข็งดี เดินก๊อก ๆ อยู่ข้างถนนคนเดียว ถึงเวลาก็ยกเครื่องช่วยเดินค้ำไปข้างหน้า แล้วก็ลากขาตามไป ค้ำอีกแล้วก็ลากขาตามไปอีก ไปนึกถึงสมัยอาตมากายภาพบำบัดมือตัวเองอยู่ ๔ เดือนกว่าจึงจะกำมือได้ตามปกติ ตอนนั้นไปโดนหมากัดในฝ่ามือเดียว ๑๑ เขี้ยว ป่นเป็นแป้งเลย เหลือนิ้วโป้งกระดิกได้นิ้วเดียว ต้องค่อย ๆ กำจนกระทั่งสามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ ใช้เวลา ๔ เดือน แรก ๆ เหมือนกับไฟช็อต พอกำแล้วแปลบปลาบไปหมด เพราะว่ากระทบพวกเส้นประสาทเส้นเอ็น หมากัดเขาก็ไม่ได้สนใจว่าจะโดนอะไรบ้าง งับแหลกหมด ๑๑ เขี้ยวในฝ่ามือเดียว" ถาม : ทำไมถึงโดนกัด ? ตอบ : จำเป็นต้องให้กัดเพราะเขากัดที่อื่นไม่เข้า ได้แค่นอกข้อมือกับนอกข้อเท้า ตอนนั้นไปทายาให้หมาเพราะเป็นขี้เรื้อน หมาตัวนี้ดุมาก กัดทุกคน กัดกระทั่งหลวงพ่อวัดท่าซุง เห็นเป็นขี้เรื้อน สงสารก็เลยผสมยาทาให้ แรก ๆ ก็ให้ทา แต่พอเริ่มร้อนดิ้นจะหนีอาตมาก็ล็อกมันไว้ เจ้านี่ถ้าใครล็อกเขาคิดว่าทำร้าย..ก็กัด อาตมาก็ทายาไป เอ็งมีปัญญากัดก็กัดไป ทาไปเรื่อย คราวนี้วิชาของหลวงพ่อวัดท่าซุงมีจุดอ่อน คือข้อมือข้อเท้าลงมาจะกันไม่ได้ ครั้งนั้นเห็นชัดเลย เพราะแถวแขนที่โดนกัดก็เป็นแค่รอยขูดนูน ๆ แต่ในมือนี่ ๑๑ รูพรุนหมดเลย เพราะฉะนั้น..จำไว้ว่ามือกับเท้าอย่าแหย่เข้าไปหา ถ้าจะกัดต้องยื่นหัวเข้าไปให้หมากัดก่อน..! ก็ที่อื่นเหนียวแต่นอกข้อไม่เหนียวนี่..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2013 เมื่อ 20:09 |
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#117
|
||||
|
||||
เก็บตกเดือนสิงหาคมปี ๕๖ หมดแล้วค่ะ
ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา คะน้า เถรี รัตนาวุธ และคะน้าอ่อน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) | |
|
|