|
ซัวสะเดย..เนียงลออ ซัวสะเดย..เนียงลออ โดยพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#41
|
||||
|
||||
ไหน ๆ ก็ลงไปแล้ว จึงช่วยกันทำความสะอาดไปเลย แม้ว่าจะมีป้าย “No passing on the carving” ปักอยู่ก็ตาม แต่เมื่ออาตมามองซ้ายมองขวา ไม่เห็นมีใครเลยนอกจากคณะของพวกเรา จึงลุยลงไปใน “แม่น้ำคงคาน้อย” เพื่อถ่ายรูปบรรดาศิวลึงค์และอุมาโยนี ที่บางช่วงก็เป็นอันเล็กประมาณสากตำน้ำพริก เรียงรายแน่นไปทั้งลำห้วย บางช่วงก็เป็นอันใหญ่เท่าเสาเรือน คนอื่น ๆ เลยตามลงมากันหมด... “ท่านนี่ไม่ค่อยจะดื้อเท่าไรเลยนะ..” มัคคุเทศก์เถื่อนได้ที “กัด” คืนบ้าง จะไปเรียกว่าดื้อได้อย่างไร ก็ Passing แปลว่า “ข้าม” นี่อาตมาแค่เดินไปเรื่อย ๆ ตามลำห้วย ไม่ได้เดินข้ามไปฝั่งโน้นสักหน่อย จอมคนแห่งกัมโพชเจอการเถียงแบบหน้าด้าน ๆ ของอาตมา ถึงกับส่ายพระเศียร แล้วฉวยโอกาส “แวบ” หายไปเลย... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-04-2015 เมื่อ 02:04 |
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#42
|
||||
|
||||
เตียงเถาวัลย์ อาตมาวักน้ำลูบแขนลูบขาเพื่อให้ได้ชื่อว่าอาบน้ำมนต์แล้ว จากนั้นเดินเก็บใบไม้ที่ลอยมาติดบริเวณที่น้ำตื้นทิ้ง ทุกคนจึงช่วยกันทำความสะอาดเป็นการใหญ่ ทำให้เห็นว่าบางช่วงมีรูปสลักพระนารายณ์บรรทมสินธุ์องค์ไม่ใหญ่นักอยู่ด้วย อาตมาก้ม ๆ เงย ๆ จนเมื่อยหลัง เลยกลับขึ้นฝั่ง เห็นเถาวัลย์กระไดลิงเส้นใหญ่เอนได้มุมพอดี จึงขึ้นไปนอนพักเสียเลย... การนอนบนเถาวัลย์เส้นเดียวแบบนี้ อาจจะเป็นของยากสำหรับคนอื่น แต่อาตมาที่ผ่านการฝึกท่าร่าง สะพานเหล็ก มาแล้ว กลับเห็นว่าเป็นของง่าย เพราะคนที่เก่ง ๆ เขานอนบนเชือกเล็ก ๆ เส้นเดียวด้วยซ้ำไป เถาวัลย์เส้นเท่าขาจึงเหมือนกับเตียงดี ๆ นี่เอง... |
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#43
|
||||
|
||||
แก่เกินกว่าที่จะเป็นเจนหรือทาร์ซานแล้ว แม่ป๋อมเห็นอาตมานอน เตียงเถาวัลย์ จึงย่องมาถ่ายรูป แล้วตีใบ้ชี้โบ๊ชี้เบ๊ให้คนอื่น ๆ ดู ทุกคนเลยขึ้นจากน้ำกันหมด พี่มุกดาถึงกับลืมความแก่ กระโดดโหนเถาวัลย์อีกเส้นที่อยู่ไม่ไกลนัก แต่ทาร์ซานหญิงไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเถาวัลย์เส้นเท่าแขนทำให้โหนไม่ออก จึงเปลี่ยนไปขึ้นต้นกุเลนต้นใหญ่ ที่เอนต้นอยู่ปีนได้สะดวก แล้วตะโกนบอกแม่ป๋อมถ่ายรูปให้หน่อย... อาตมาลงจากเตียงเถาวัลย์แล้ว ถึงได้เห็นว่าคุณอารีหายไปไหนก็ไม่รู้ ? คุณราญขับรถตู้เข้ามาเทียบ คุณปัญญาเปิดประตูให้พวกเราขึ้นรถ กำลังสงสัยว่าจะไปที่ไหนต่อ พลขับก็พารถตู้วิ่งข้ามสะพานไม้ แล้วเลี้ยวไปทางขวามือ ซึ่งมีถนนดินลัดป่าเลาะไปตามลำห้วย ผู้คนเดินกันขวักไขว่ไปหมด พวกเรานั่งยังไม่ทันตูดร้อนก็ต้องลงเดินกันอีกแล้ว... |
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#44
|
||||
|
||||
ด้านนี้มีร้านค้ามากกว่าทางวัดอีก คุณราญเอารถตู้จอดอยู่ข้างร้านค้าที่ปูเสื่อแบกับดิน มีผลไม้จำพวกสับปะรด มะไฟ คอแลน วางขายกองพะเนิน ด้านหลังร้านมีศาลเล็ก ๆ แบบศาลตายายของบ้านเรา แต่ข้างในเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นลงสี หน้าตักประมาณ ๑ ศอก ตั้งอยู่ ๒ องค์... ส่วนร้านค้าที่ตั้งอย่างเป็นทางการ น่าจะเป็นเพิงที่ทางอุทยานสร้างไว้เก็บค่าเช่า มีพระพุทธรูป เทวรูป ทั้งที่แกะจากไม้ หินทราย และที่เป็นสัมฤทธิ์เลียนแบบของเก่า เครื่องประดับทั้งสายสร้อย แหวน ลูกประคำ พลอยเทียม ชิ้นส่วนของสัตว์ของป่าทั้งเขี้ยว เขา หนัง กระดูก ดีหมี (ปลอมชัด ๆ) กระเพาะเม่น กระเพาะค่าง ว่านยาต่าง ๆ วางขายอยู่เต็มไปหมด ฯลฯ |
สมาชิก 118 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#45
|
||||
|
||||
เป็น "พระยาน้อย" ชมตลาด ร้านหนึ่งมีของเลียนแบบโบราณมากมาย ทั้งพระพุทธรูป ขัน ไห ตรีศูล พระขรรค์ ทำจากสัมฤทธิ์ทั้งนั้น แต่ฝีมือไม่ถึง เพราะดูด้วยตาก็เห็นว่าเนื้อใหม่เกินกว่าที่จะเป็นของเก่าแท้ อาตมาหยิบเอาพระขรรค์มาลองน้ำหนักดู เบากว่าพระขรรค์โสฬส ๘๔ พรรษาธรรมิกราชของอาตมาหน่อยเดียว เจ้าของร้านรีบโฆษณาสรรพคุณเป็นการใหญ่ ถึงขนาดผู้มีบุญยกแกว่งแล้วฟ้าจะผ่าด้วย อาตมาจึงรีบวางคืนไป ไม่อย่างนั้นอาจจะพาซวยทั้งเขาและเรา..! ผ่านร้านถ่ายรูปที่เสนอรูปน้ำตกพนมกุเลน และพระพุทธไสยาสน์ที่พวกเราเพิ่งไหว้มา อาตมาก็เพิ่งรู้ว่า พระพุทธไสยาสน์เรียกว่า "พระองค์ธม" (หลวงพ่อโต) สงสัยว่าร้านนี้นางกวักจะไม่ขลัง เพราะพวกเราเดินผ่านไปโดยไม่สนใจรูปภาพเลย ร้านขายหมวกสานประดับดอกไม้และริบบิ้นสารพัดสียังได้รับการสนใจมากกว่า... |
สมาชิก 126 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#46
|
||||
|
||||
คุณอารีมาจองร้านอาหารเอาไว้ให้ ทางนี้ค่ะ คุณอารีกระโดดโลดเต้นโบกสองมือเรียก ที่แท้ย่องมาอยู่ทางด้านนี้นี่เอง พวกเราเดินตามคุณอารีกันเป็นขบวน ผ่านร้านค้าต่าง ๆ แล้วปีนข้ามกำแพงศิลาแลงเตี้ย ๆ ที่น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของโบราณสถานอะไรสักอย่าง มาถึงริมห้วยที่มี ศาลา หลังไม่ใหญ่นัก เป็นทรงสี่เหลี่ยมเปิดโล่ง หลังคามุงสังกะสีสีเขียว เรียงรายอยู่หลายหลัง... ที่แท้คุณอารีมาจองศาลา ปูเสื่อ เตรียมถ้วยชามและสั่งอาหารกลางวันไว้ให้พวกเรา แถมยังซื้อมะม่วงทั้งสุกและดิบเอาไว้สองถุง แต่ยังไม่ได้เวลาที่นัดกับทางร้านอาหาร พี่วิไลจึงให้พวกเราไปเดินชมสถานที่กันก่อน... |
สมาชิก 116 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#47
|
||||
|
||||
สะพานแขวนข้ามลำห้วยสีชา ลำห้วยทางด้านนี้น้ำลึกกว่าทางด้านที่เราผ่านมา ถึงน้ำจะใสมากแต่เป็นสีน้ำชา หากใครเคยอยู่บ้านหลังคามุงจากมาก่อน แล้วรองน้ำฝนจากหลังคาเอาไว้ดื่ม ก็จะเห็นว่าเป็นสีเดียวกันเลย น่าจะเกิดจากการที่น้ำไหลผ่านดินหรือหินอะไรบางอย่าง แล้วทำปฏิกิริยาจนเป็นสีนี้ก็เป็นได้ มีผู้คนโดยเฉพาะเด็ก ๆ ลงไปว่ายน้ำเล่นสนุกสนานกันอยู่หลายคน... มีสะพานแขวนที่เป็นลวดสะลิงประกอบแผ่นไม้กระดาน ขนาดกว้างประมาณเมตรครึ่ง ทอดข้ามลำห้วยไปยังหมู่โบราณสถานที่ปรักหักพังอยู่ทางฝั่งโน้น นั่นเป็นเมืองเก่าที่สร้างมาตั้งแต่ยุคสมเด็จพระบรมมหาปัยกาเจ้าชัยวรมันที่ ๒ สมัยนั้นการเดินทางมาที่นี่นับว่าทุรกันดารที่สุด ต่อให้ข้าศึกยกทัพมาตี ก็สามารถที่จะหนีไปในพื้นที่ป่าได้รอบทิศทาง พระองค์ท่านจึงทรงประกาศอิสรภาพจากอาณาจักรศรีวิชัยของราชวงศ์ไศเลนทร์ที่นี่.. มัคคุเทศก์เถื่อนโผล่มาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง บรรยายเหมือนกลัวโดนใครแย่งพูดก็ไม่ปาน... |
สมาชิก 120 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#48
|
||||
|
||||
ประวัติศาสตร์ตอนนี้ค่อนข้างจะ "ดราม่า" ไปหน่อย จนต้องหนีลงน้ำ “อ้าว..อาณาจักรไศเลนทร์ก็เป็นเชื้อสายเดียวกันไม่ใช่หรือ ? แล้วทูลกระหม่อมปู่ทวดของพระองค์ท่านทำไมถึงโดนพี่น้องกัน "ตื้บ" เสียเล่า ?” จอมคนแห่งกัมโพชสรวลหึ..หึ..ตามวิสัย ก่อนที่จะบรรยายประวัติศาสตร์ฉบับ “ผีบอก” ต่อไปว่า... “ท่านก็ศึกษาประวัติศาสตร์มามาก เคยเห็นว่าผู้มีอำนาจในยุคก่อนมีใครเห็นแก่พ่อแม่พี่น้องบ้าง ? มีแต่จะช่วงชิงกอบโกยผลประโยชน์ไว้กับตนเองให้มากที่สุด สมเด็จพระบรมมหาปัยกาเจ้าชัยวรมันที่ ๒ ทรงทนเห็นความเดือดร้อนของประชาชนต่อไปไม่ไหว จึงได้รวบรวมผู้คนประกาศอิสรภาพ ตั้งอาณาจักรกัมโพชขึ้นมา ตั้งแต่ก่อนข้าพเจ้าเกิดถึงสามร้อยกว่าปี..” โอหนอ..การกิน การนอน การเสพกาม การเสวยอำนาจ หากไม่ใช่ผู้ที่เห็นภัยในวัฏสงสารอย่างแท้จริงแล้ว ไม่มีใครเบื่อหน่าย มีแต่กระหายใคร่อยากมากขึ้นไปเรื่อย ๆ แม้แต่พ่อแม่พี่น้องร่วมสายเลือด ก็สามารถที่จะเข่นฆ่าเพื่อช่วงชิงอำนาจและสมบัติได้ จอมคนแห่งกัมโพชนิ่งไปเหมือนกับสะท้อนพระทัย อาตมาจึงเดินลุยลงในลำห้วยไปเพราะไม่อยากจะรบกวน... |
สมาชิก 123 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#49
|
||||
|
||||
สงสัยว่าเขาล้อมอะไรไว้ น้ำช่วงนี้ลึกประมาณครึ่งแข้ง พื้นห้วยก็เป็นหินทรายไม่ลื่นมาก อาตมาเห็นเสาปูนทาสีขาวแดงสี่หลัก มีเชือกขึงกั้นเป็นรูปสี่เหลี่ยม จึงเดินเข้าไปดูว่าเป็นอะไร พี่มุกดา ป้ามอย แม่ป๋อม น้องเล็กและลูกปุ๊ก พากันลุยน้ำตามมาด้วย ส่วนพี่วิไลกับคนอื่น ๆ เคยมากันหลายหนแล้ว จึงนอนเขลงรออยู่ที่ศาลากันหมด... |
สมาชิก 116 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#50
|
||||
|
||||
นารายณ์บรรทมสินธุ์กำเนิดพรหม ตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ไวษณพนิกาย ตอนแรกดูไม่ออกว่าพื้นที่ซึ่งถูกล้อมไว้แกะสลักเป็นรูปอะไร จนกระทั่งวนมาอีกด้านหนึ่งถึงได้เห็นว่า เป็นรูปพระนารายณ์บรรทมสินธุ์ มีบัวดอกใหญ่งอกออกจากพระนาภี บนดอกบัวเป็นพระพรหม สองข้างเห็นเทพบริวารคอยรับใช้อยู่ใกล้ ๆ ทางขวามือมีศิวลึงค์และอุมาโยนีชุดไม่ใหญ่นักอยู่อีกชุดหนึ่งด้วย... |
สมาชิก 120 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#51
|
||||
|
||||
ผลัดกันถ่ายรูป (ภาษาขแมร์ว่า "ถอดรูป") แม่ป๋อมถ่ายรูปให้กับอาตมา แล้วก็เป็นหน้าที่ของอาตมาที่ต้องถ่ายรูปให้กับทั้งหมดบ้าง จากนั้นเดินลุยกันต่อไปทางปลายน้ำ มีเสียงน้ำตกและเสียงคนเล่นน้ำกันอยู่อื้ออึง พวกเราต้องเดินกันแบบระมัดระวังเต็มที่ เพราะไม่ได้คิดจะมาเล่นน้ำกับใคร ผ้าที่จะเปลี่ยนก็ไม่มี ถ้าหกล้มก็แปลว่าต้องทนเปียกไปจนกว่าจะกลับถึงที่พักนั่นแหละ... |
สมาชิก 115 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#52
|
||||
|
||||
ตกลงมาสีขาวใสแท้ ๆ ลงไปถึงข้างล่างก็เป็นสีชาเหมือนเดิม เมื่อไปถึงจึงเห็นว่าน้ำตกพนมกุเลนนี้แบ่งออกเป็นสองด้าน ด้านตรงเป็นชั้นน้ำตกที่มีลักษณะเหมือนกับบันไดสามขั้น แต่ละขั้นไม่สูงมากนัก คล้ายกับถูกคนสกัดขึ้นมาให้เป็นขั้นบันได ส่วนทางด้านซ้ายมือเป็นหน้าผาน้ำตกสูงเกือบสิบเมตร น้ำที่เทจากทางด้านตรงจะไหลต่อไปเป็นลำห้วย ซึ่งก็คือต้นแม่น้ำเสียมเรียบ ส่วนทางหน้าผาน้ำตกเป็นแอ่งใหญ่ เมื่อน้ำล้นออกมาก็ไหลไปรวมกับลำห้วยด้านตรง ภายในแอ่งมีญาติโยมเล่นน้ำกันอยู่มากมายทีเดียว... |
สมาชิก 115 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#53
|
||||
|
||||
หน้าน้ำตกช่วงที่เป็นบันไดสามขั้น แม่ป๋อมให้น้องเล็กนั่งที่ริมน้ำตกตรงจุดที่ไม่เปียกแล้วถ่ายรูปให้ พี่มุกดาก็มาขอถ่ายด้วย จากนั้นแม่ป๋อมเดินตามมาอีก แต่อาตมาเดินเร็วกว่า เพราะสมัยธุดงค์ลุยน้ำลุยห้วยมามาก จึงเดินขึ้นไปทางฝั่งขวามือ แล้วอ้อมลงมาที่หน้าน้ำตก ตรงจุดนี้ก็มีคนทำชิงช้าไว้ให้นั่งถ่ายรูปเช่นกัน แต่ประดับดอกไม้ปลอมไว้ฉูดฉาดจนเกินทน อาตมาจึงเดินเลยไปถ่ายรูปบริเวณหน้าน้ำตก น้ำช่วงนี้มีแค่พอท่วมหลังเท้าเท่านั้น แต่เพราะตื้นจึงมีตะไคร่มาก แล้วก็ลื่นมากเช่นกัน ต้องเดินแบบระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง... |
สมาชิก 114 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#54
|
||||
|
||||
ถ่ายรูปข้างหน้าพร้อมกับถูกถ่ายด้านหลัง "หลวงพ่อ..ทางนี้ค่ะ" ลูกปุ๊กตะโกนมาจากทางด้านบนน้ำตก มีป้ามอย พี่มุกดากับน้องเล็กอยู่ด้วย อาตมาจึงถ่ายรูปหมู่ให้ ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักชอบใจทางด้านหลัง ก็รู้ว่าโดนแม่ป๋อมถ่ายทำ "เบื้องหลัง" ไปอีกแล้ว บอกเท่าไรไม่เคยฟัง ภาพพวกนี้เก็บไว้เป็นความภูมิใจเองก็ดี แต่บางภาพเมื่อหลุดออกไปแล้ว สาธารณชนจะเกิดคำถามขึ้นมาโดยใช่เหตุ เสียเวลาอธิบายเปล่า ๆ... |
สมาชิก 111 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#55
|
||||
|
||||
ได้เวลาฉันเพลแล้ว "เพลแล้วค่ะ" พี่มุกดาตะโกนลงมา อาตมาจึงเดินลุยน้ำขึ้นฝั่ง แล้วอ้อมกลับมาทางเดิม เมื่อไปถึงศาลาที่จองเอาไว้ พี่วิไลเอามะพร้าวอ่อนลูกเบ้อเริ่มมาประเคนให้ เขาเฉาะเปิดฝามาแล้ว มีหลอดเสียบมาให้ด้วย อาตมารับแล้ววางเอาไว้ก่อน เพราะติดนิสัยก่อนฉันอาหารอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงจะไม่ฉันน้ำ ลูกปุ๊ก คุณปัญญา คุณอารี กับคุณราญ ลำเลียงอาหารตามมาติด ๆ... |
สมาชิก 114 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#56
|
||||
|
||||
หาเพื่อนร่วมวงไม่เจอจึงต้องกินคนเดียว พี่วิไลรับอาหารมาประเคนให้ มีผัดผักบุ้งไฟแดง ไข่เจียว (แน่นอนว่าต้องใส่น้ำปลาร้ามาด้วย) ต้มยำทะเลที่ตักแบ่งใส่ถ้วยเล็ก เครื่องในไก่ผัดกระเพรา น้ำพริกมะขามพร้อมผักสด ไก่ปิ้ง และปลาช่อนเผาเกลือ ตามมาด้วยมะม่วงทั้งสุกและดิบที่ปอกใส่จานมาเรียบร้อยแล้ว อาตมามองหาจอมคนแห่งกัมโพช ไม่รู้ว่าไปแอบปลงอนิจจังอยู่ที่ไหน ว่าจะชวนพระองค์ท่าน "เหวย" อาหารกลางวันเสียหน่อย กลายเป็นต้องฉันคนเดียวตามเคย... |
สมาชิก 113 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#57
|
||||
|
||||
วงนี้ครึกครื้นมาก "ไม่ต้องเหลือนะหลวงพี่ ทางด้านนี้มีแล้ว" พี่วิไลที่กำลังยกหม้อไฟของต้มยำทะเลตะโกนบอกมา พลางจัดการตั้งวงที่ศาลาด้านขวามือ หลังถัดไปก็มีหนุ่มสาวกำลังอร่อยกับอาหารกลางวัน กินไปก็ทำตาหวานใส่กันไปด้วย ส่วนอีกหลังหนึ่งมีทั้งพระทั้งเณรสิบกว่ารูปเหลืองไปหมด ญาติโยมทั้งหญิงและชาย ๖ - ๗ คนกำลังบริการแก่พระเณรอย่างกระตือรือร้น... ป้ามอยเห็นว่ามีมะม่วงเหลืออยู่อีกมาก จึงเอาไปถวายพระเณรวงนั้นด้วย อาตมาฉันเร็วจนเป็นนิสัย เพราะติดมาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นนักเรียนทหาร ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีก็อิ่มเรียบร้อย จึงยกอาหารที่เหลือให้คุณปัญญากับคุณราญ แล้วเดินข้ามสะพานลอยไปดูซากปรักหักพังของเมืองเก่าทางฝั่งโน้น... |
สมาชิก 107 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#58
|
||||
|
||||
บริเวณเมืองเก่าที่ปรักหักพัง เนื่องจากซากเมืองเก่าค่อนข้างจะรก อาตมาจึงไม่ได้เดินลึกเข้าไป แค่วนดูรอบนอกแล้วเดินดูร้านค้าของฝั่งนี้แทน ข้าวของเครื่องใช้ที่นำมาขายก็คล้าย ๆ กัน เพียงแต่ฝั่งนี้มีพวกเสื้อผ้า ผ้าพาด ผ้าถุง หมวก ย่าม มากกว่าทางฝั่งโน้น หยิบเขากวางคุดขึ้นมาอันหนึ่ง ก็เห็นว่าเป็นของปลอมทำขึ้นมาจากไฟเบอร์ เขี้ยวเสือก็เป็นไฟเบอร์ เขี้ยวหมีเป็นของแท้แต่ดันมีข้างเดียว เดินดูไปก็ไม่มีอะไรให้ซื้อ เห็นพอสมควรแก่เวลาจึงเดินกลับ... |
สมาชิก 111 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#59
|
||||
|
||||
แจกขนมตามประสานางงามที่ต้องรักเด็ก..! สวนทางกับญาติโยมและพระเณรที่เพิ่งฉันเสร็จ และกำลังข้ามมาเที่ยวฝั่งนี้ เห็นคุณอารีนั่งห้อยขาอยู่ริมสะพานลอย ส่วนป้ามอยยงโย่ยงหยกอยู่ริมน้ำ กำลังส่งขนมให้กับเด็ก ๆ ที่เล่นน้ำกันอยู่สามสี่คน เมื่อกลับไปถึงศาลาก็เห็นพี่วิไลเอาอาหารที่เหลือเลี้ยงเด็กผู้ชายสามคน แต่เด็กแถวนี้คงกินจนไม่มีปัญญาจะกินแล้ว จึงนั่งจิ้ม ๆ เขี่ย ๆ ไก่ปิ้งเล่นมากกว่าที่จะรีบกิน... |
สมาชิก 103 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#60
|
||||
|
||||
นอนภาวนา (เสื้อดำคือคุณราญ ส่วนคุณปัญญาเห็นแต่มือกับขาอย่างละข้างเดียว) เพิ่งจะเลยเพลไปสิบกว่านาที ยังไม่สามารถลงจากเขาได้ อาตมาจึงนอนภาวนา ตั้งใจอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้าที่เจ้าทางทั้งหลาย จะเป็นอากาศเทวดา รุกขเทวดา หรือภุมมเทวดาก็ดี ตลอดถึงเหล่าสัมภเวสี เปรต อสุรกาย หรือสัตว์เดรัจฉานก็ดี "ขอให้ท่านทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลที่อาตมาได้บำเพ็ญแล้วและอุทิศให้ ประโยชน์และความสุขจะเกิดแก่อาตมาเพียงใด ขอทุกท่านจงได้รับประโยชน์และความสุขนั้นด้วยเถิด.." แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-09-2014 เมื่อ 10:02 |
สมาชิก 108 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|