|
ซัวสะเดย..เนียงลออ ซัวสะเดย..เนียงลออ โดยพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#61
|
||||
|
||||
เดินทางกลับ (ทำไมไม่มีสาวน่ารักแบบนี้มาเดินด้วยบ้างหนอ ?) นอนหลับไปตื่นหนึ่ง ลุกขึ้นมาก็พอดีพี่วิไลชวนกลับ แต่มีผู้ประท้วงขอเข้าห้องน้ำก่อน บรรดาสาว ๆ จึงไปห้องน้ำกัน อาตมาเดินดูของเป็นการรอไปในตัว จนทั้งหมดตามมาทันจึงเดินไปหารถ ผ่านร้านถ่ายรูปเจ้าเก่า เจ้าของร้านหอบรูปในกรอบมาดักหน้า พลางส่งรูปมาเสนอให้ เฮ้ย..นี่รูปอาตมาเองนี่หว่า..! ไอ้เจ้านี่ร้ายกาจมาก แอบถ่ายรูปอาตมาตั้งแต่ตอนเดินเข้า แล้วเอาไปตัดต่อกับน้ำตกพนมกุเลน ใส่กรอบมาเรียบร้อยเลย ป้ามอยกับลูกปุ๊กก็โดนไปด้วย แต่พวกเราไปไหนก็ "เก็บไว้เพียงความทรงจำ ทิ้งไว้แต่เพียงรอยเท้า" จึงปฏิเสธไปว่าไม่ต้องการ แต่ขอคิดค่าลิขสิทธิ์ที่คุณเอารูปอาตมาไปหากินด้วย ทำเอาเจ้าของร้านถอยกรูด น่าจะรีบไปเปลี่ยนนางกวักใหม่ เพราะไม่ได้ลูกค้าซ้ำยังจะพาเสียเงินอีกด้วย..! |
สมาชิก 119 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#62
|
||||
|
||||
ประตูผาของอุทยานแห่งชาติพนมกุเลน มาถึงรถที่คุณราญติดเครื่องรออยู่ คุณปัญญาเปิดประตูให้พวกเราขึ้นจนครบ พอปิดประตูคุณราญก็นำรถออกทันที เลี้ยวขวาเพื่อเข้าทางหลัก มีรถกำลังลงหลายคัน มีอยู่คันหนึ่งจอดตายเกือบจะปิดทาง ต้องรอเขาเข็น แอบ ทางซ้ายมือ รถตู้ของเราจึงผ่านไปได้... มีรถหกล้อวิ่งนำหน้าอยู่คันหนึ่ง แม้จะกินฝุ่นตามหลัง แต่คุณราญก็ยังหาจังหวะแซงไม่ได้ จนเลยบริเวณประตูผาที่เป็นก้อนหินใหญ่ ทางช่วงนี้กว้างขึ้น คุณราญบีบแตรขอแซงขึ้นไป จึงเห็นว่าข้างหน้ามีรถอีก ๓ ๔ คันวิ่งนำหน้ารถหกล้ออยู่ พลขับของเราแซงไปรวดเดียวทุกคันเลย... |
สมาชิก 120 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#63
|
||||
|
||||
คุณอารีพามาซื้อของที่ระลึก ลงมาถึงด่านของทางอุทยาน มีรถจอดเข้าห้องน้ำอยู่หลายคัน คันหนึ่งเป็นรถเก๋งโตโยต้า คัมรี เอารถแบบนี้ลุยป่าขึ้นเขาพนมกุเลน ถ้าไม่รวยจนสิ้นคิดก็นับว่ากล้าหาญมาก พวกเราวิ่งแซงออกมาจนถึงร้านที่คุณอารีลงไปซื้อมะม่วง ไม่รู้ว่าเจ้าของร้านแอบไปนอนที่ไหนแล้ว... ด่านบุญทั้งสองด่านก็เลิกทำงานไปแล้ว น่าจะไปนอนพักกลางวันเช่นกัน ขึ้นทางลาดยางได้คุณราญก็พาวิ่งยาวกลับเข้าเมืองเสียมเรียบ พี่วิไลให้แวะตลาดเพื่อซื้อของที่ระลึกกัน ซึ่งมีแต่พวกเสื้อผ้า เครื่องเงิน อัญมณี และของเก่า เจ้าของร้านพอเห็นก็ทักทายพวกเราเป็นภาษาไทยเกือบทุกร้าน ชักชวนให้ซื้อสินค้าของตนเป็นการใหญ่... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-09-2014 เมื่อ 01:40 |
สมาชิก 114 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#64
|
||||
|
||||
บริเวณนี้ "หามจดร็วด" ไม่มีใครมีอารมณ์ซื้อ เพราะนอกจากราคาแพงเพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว ยังต้องหอบขึ้นเครื่องบินกลับพนมเปญอีกด้วย พี่วิไลเห็น แขก อย่างพวกเราเดินดูของแบบเซ็ง ๆ จึงชวนไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์เมืองเสียมเรียบ แต่ก็ไม่มีใครสนใจอีก ท้ายสุดจึงต้องให้พลขับไปส่งคุณอารี เพื่อเปลี่ยนตั๋วรถกลับพนมเปญ เนื่องจากตั๋วเดิมรถออกตั้งหนึ่งทุ่ม... ในเมื่อจะจากกันแล้ว อาตมาจึง ถีบ ให้คุณปัญญากับคุณราญคนละ ๑๐ ดอลลาร์ แล้วแอบยัดให้คุณอารีไป ๑๐๐ ดอลลาร์ เพราะเหนื่อยมากกว่าเพื่อน คุณอารีทำตาโตแต่พอเห็นอาตมาตีใบ้เกรงว่าสองหนุ่มจะน้อยใจ จึงได้แต่ ขอบคุณค่ะ ลืมภาษาขแมร์เสียแล้วอีหนูเอ๊ย... คุณราญมาจอดที่หน้าบริษัทขายตั๋วรถ ตรงป้ายที่มีภาษาขอมว่า หามจด พอดีเลย เฮ้อ..ขืนอ่านตรง ๆ แบบนี้ฟังแล้ว เก๊กซิมซี่ คุณอารีไหว้ลาทุกคนแล้ว เข้าไปเปลี่ยนตั๋วและรอรถมารับ ส่วนคุณราญพาพวกเราตรงไปยังสนามบินเสียมเรียบเลย... |
สมาชิก 113 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#65
|
||||
|
||||
ฝึกโยคะกับครู "ร้อนวิชา" ล่ำลากันแบบไม่ต้องอาลัย ข้าวของติดตัวของแต่ละคนอย่างมากก็เป็นแค่เป้ใบเดียว เดินเข้าไปในอาคารสนามบินยังคิดว่าผีหลอก เพราะหาคนไม่ได้เอาเลย ส่วนใหญ่คงจะเที่ยวจนหมดวันจึงเดินทางกลับ ที่ขนาดเที่ยวยังขี้เกียจแบบพวกเรานี่ไม่ค่อยจะมี... เข้าห้องน้ำกันแล้วก็ยึดมุมอาคารสนามบินไปมุมหนึ่ง แม่ป๋อมเห็นว่ายังมีเวลาเหลืออีกมาก จึงชวนพี่วิไลเล่นโยคะ เพื่อจะได้หุ่นสวยเป็นธิดาช้างบ้าง ทุกคนจึงไปยก ๆ ยืด ๆ ตามคุณแม่กันหมด ใครทำผิดทำพลาดก็ฮากันแบบไม่ต้องเกรงใจเจ้าหน้าที่ซึ่งนั่งมองตาปริบๆ ปล่อยให้อาตมานั่งอ่าน “คู่มือทหารอาชีพ” ไปคนเดียว... |
สมาชิก 114 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#66
|
||||
|
||||
นักท่องเที่ยวเริ่มมากันมากขึ้น บ่ายสามโมงครึ่งเริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามายังสนามบิน ทุกคนออกกำลังกายเล่นโยคะจนหมดสภาพไปตาม ๆ กัน อาตมาจึงชวนให้ไปตรวจตั๋วได้แล้ว พอได้บัตรขึ้นเครื่องมา พี่วิไลก็แจกให้กับทุกคน ของอาตมาเป็นหมายเลข 2D แปลว่าอยู่ด้านหัวเครื่องติดหน้าต่างเลย เพราะเครื่องบินเล็กจึงมีที่นั่งแค่ด้านละ ๒ แถว โดยทางซ้ายมือเป็นแถว A กับ B ทางขวามือเป็นแถว C กับ D... อาตมาเอากล้องถ่ายรูปกับหนังสือใส่ถาดส่งเข้าเครื่องตรวจ อาราธนาพระบารมีแล้วเดินผ่านเครื่องตรวจจับอัตโนมัติ ผ่านตลอดไม่มีเสียงตามเคย พี่วิไล แม่ป๋อมกับลูกปุ๊ก ที่ตามมาก็ไม่มีปัญหา เครื่องมาดังตอนน้องเล็กเดินผ่าน เจ้าหน้าที่เอาเครื่องตรวจมือถือมากวาดรอบตัว เจอเสียงดังตรงกระเป๋ากางเกง พอล้วงออกมากลายเป็นเศษสตางค์ไปเสียนี่... |
สมาชิก 114 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#67
|
||||
|
||||
กะเม็ด..จากบ้านจ่าตุ่ม พี่มุกดาเอาเป้ใส่เข้าเครื่องตรวจ ตัวเองเพิ่งเดินผ่านไป เจ้าหน้าที่ซึ่งคอยดูจออยู่หน้าสายพานก็ตาเหลือก เอะอะกันใหญ่ กะเม็ด (มีด) .. กะเม็ด (มีด) เพราะภาพในจอมีทั้งมีดพับและกรรไกร แค่นี้ก็ทำเป็นตกใจ ถ้าเป็นที่เมืองไทยพี่เขาอาจจะพก กำเพลิง (ปืน) มาด้วยซ้ำไป... มีดพับเป็นฝีมือบ้านจ่าตุ่ม ของ ทำมือ ราคาแพงเสียด้วย อยากจะยึดก็ให้ยึดไปแต่กรรไกร เป็นตายพี่เขาก็ไม่ยอมให้ยึดมีดพับบ้านจ่าตุ่ม จึงต้องเอากระเป๋าเป้ไปโหลดเข้าท้องเครื่องแทน เสียเวลาไปตั้งนาน... ไปนั่งพักกันที่ห้องพักผู้โดยสาร พี่มุกดาบ่นเสียงอ่อย ๆ ว่า ลืมขอให้พระท่านช่วย หมั่นลืมบ่อย ๆ เข้า คงได้ไปนอนใน พันธนาคาร (คุก) เข้าสักวัน อาตมามองออกไปนอกห้องที่เป็นประตูกระจก เห็นเมฆมามืดไปหมด ลักษณะแบบนี้อีกสักครู่ต้องมีฝนตกหนักแน่ ๆ... |
สมาชิก 111 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#68
|
||||
|
||||
ข้างนอกฝนกระหน่ำจนเป็นห่วงว่าเครื่องบินจะลงไม่ได้ ผู้โดยสารที่เป็นนักท่องเที่ยวทั้งจีนและฝรั่งเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ อีกพักใหญ่สายฝนก็กระหน่ำลงมาอย่างหนัก... “พลิงคะลัง” อาตมาบอก พี่วิไลทำหน้างง ๆ “อะไรนะหลวงพี่ ?” “ฝนตกหนัก” “เฮ้ย..คำนี้วิไลยังฟังไม่ออก” อ้าว..แล้วกัน ดูท่าว่าครูชาวบ้านที่ชายแดน จะสอนภาษาเขมรให้เพื่อน ๆ ของอาตมามากกว่าที่คิด ลองว่าคนที่อยู่เขมรมาหลายปีอย่างพี่เขายังฟังไม่ออก แปลว่าอาตมา “ได้มา” มากทีเดียว... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2014 เมื่อ 02:02 |
สมาชิก 111 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#69
|
||||
|
||||
น้ำท่วมใครว่าดีกว่าฝนแล้ง ? ค่าเครื่องบินคนละเท่าไรคะพี่วิไล ? น้องเล็กถามขึ้น ๑๙๓ ดอลลาร์ คนละเกือบหกพันบาท ไม่ใช่ของถูกเลยนะนี่ มิน่าล่ะ..ถึงต้องให้คุณอารีนั่งรถทัวร์ทั้งขาไปและขากลับ อากาศเย็นจากฝนตก บวกกับความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ ทำให้อาตมาปวดฉี่ จึงขอตัวไป ปุรุสะตบตึ๊ก (ห้องน้ำชาย) ก่อน... กลับออกมาจากห้องน้ำ เห็นสนามบินด้านนอกมีแต่น้ำเจิ่งนองไปหมด ซ้ำฝนก็ยังตกไม่เลิก อาตมาชักจะเป็นห่วง อย่ากังวลไปเลย ข้าพเจ้าขอรับรองว่าไปได้ และปลอดภัยด้วย จอมคนแห่งกัมโพชที่ผ่านเครื่องตรวจเข้ามาตอนไหนก็ไม่รู้ ช่วยบอกให้คลายกังวล... |
สมาชิก 110 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#70
|
||||
|
||||
คนที่เตรียมพร้อมที่สุดในเที่ยวบินนี้ ๑๖.๔๐ น. เครื่องจากพนมเปญลงจอด มีรถบัสของทางสนามบินวิ่งไปรับผู้โดยสารแบบทุลักทุเล เพราะเจ้าหน้าที่ต้องกางร่มให้ผู้โดยสารลงมาขึ้นรถทีละคน แล้วค่อยวิ่งรถมาเทียบอาคารสนามบิน ส่งผู้โดยสารลงจากรถอีกที แบบนี้ทำงวงจอดเครื่องบินได้แล้ว... ต้องรอจนเขาทำความสะอาดเครื่องบินเสร็จ รถบัสจึงมารับพวกเราไปขึ้นเครื่อง เจ้าหน้าที่ขอดูบัตรขึ้นเครื่องตั้งแต่เดินเข้าประตูรถบัสเลย พอรถไปเทียบบันไดเครื่องบินก็กางร่มให้ขึ้นเครื่องทีละคน อาตมาซึ่งยืนอยู่ท้ายรถ เห็นมีคนใส่เสื้อกันฝนสีเหลืองมีที่คลุมหัว เดินขึ้นบันไดอย่างสง่างาม ไม่ต้องไปกังวลกับร่มที่บังตัวเองไม่ค่อยมิดเหมือนคนอื่น ๆ... ใครกันนะ.? เตรียมพร้อมดีจัง รำพึงกับตัวเองยังไม่ทันจบ แม่ป๋อมที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็บอกว่า มณีวรรณค่ะ หา..ป้ามอยเองหรอกหรือ ? นึกว่าเป็นคนอื่นเสียอีก พอดีถึงคิวของตัวเอง อาตมาจึงให้เขากางร่มเดินขึ้นเครื่องไปแบบตัวลีบ ๆ หน่อย เพราะร่มเล็กเกินไป... |
สมาชิก 109 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#71
|
||||
|
||||
แม่น้ำโขงที่ขุ่นคลั่กเป็นสีกาแฟใส่นมเยอะ ๆ นั่งยังที่ของตัวเอง รัดเข็มขัดเรียบร้อยแล้ว ก็หลับตาส่งจิตถึงเจ้าที่เจ้าทางทั้งหลาย ที่รักษาตลอดเส้นทางเสียมเรียบ พนมเปญ ขอให้ช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยให้ด้วย ลืมตาขึ้นมาพอดีเจ้าหน้าที่บนเครื่องเอาผ้าเย็นมาส่งให้ พอเขาสาธิตการช่วยชีวิตเสร็จเครื่องก็ออกทันที... มองออกไปทางหน้าต่าง เห็นแม่น้ำโขงที่คดเคี้ยวเป็นงูเลื้อย และโตนเลสาบซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของเขมร มีน้ำสีโคลนขุ่นคลั่ก คงมาจากฝนที่ตกหนักนั่นเอง ยังดีที่มาตกเอาตอนพวกเรากลับแล้ว ถ้าตกตอนกำลังเที่ยวอยู่มีหวังงานกร่อยแน่ ๆ จะ "ขอบพระทัยฝ่าบาท" ก็ไม่ทราบว่าฝ่าบาทไปอยู่เสียที่ไหน สงสัยว่าคงจะลืมซื้อตั๋วเครื่องบิน สักครู่หนึ่งเมฆหนาทึบก็บังทิวทัศน์ข้างล่างไปหมด... |
สมาชิก 108 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#72
|
||||
|
||||
ภายในสนามบินโปเชงตง พนักงานสาวเอาอาหารกล่องมาส่งให้ อาตมาหยิบเอามาเฉพาะน้ำ ที่เหลือส่งให้แม่ป๋อมที่นั่งอยู่แถวหลังไป เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรน่าสนใจ อาตมาก็ส่งใจไปกราบพระ รักษากำลังใจให้สงบเย็นอยู่ที่นั่น จนกระทั่งได้ยินเสียงประกาศให้รัดเข็มขัด จึงลืมตาขึ้นมาดูโลกใหม่... กัปตันนำเครื่องลดระดับลงสู่สนามบินโปเชงตง พอลงจากเครื่องพวกเราก็เผ่นไปเข้า “ตบตึ๊ก” กันก่อน ไม่รู้ว่าตึกไปทำอะไรให้โกรธนักหนา ถึงได้โดนตบอยู่ทุกบ่อย พอตบเสร็จก็มารอกระเป๋าของพี่มุกดา กว่าจะมาได้ก็เล่นเอาเกือบค่ำ ออกมาเจอนายลอนมารอรับอยู่ "จุมเรียบซัวครับโลก" เออ..สวัสดี..ตกลงว่าคุณจะใช้ภาษาอะไรกันแน่วะ ? แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-10-2014 เมื่อ 01:53 |
สมาชิก 105 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#73
|
||||
|
||||
ตลาดรัสเซีย นายลอนกุลีกุจอช่วยหิ้วกระเป๋าขึ้นรถให้ ออกจากสนามบินมาก็เจอรถติดหนุบหนับ พี่วิไลบอกว่าที่นี่เขาถือว่าวันเสาร์เป็นวันเที่ยว วันอาทิตย์เป็นวันพักผ่อน วันนี้เป็นวันเสาร์ คนจึงเฮกันออกมาเที่ยวนอกบ้าน ทำให้รถติดมากเป็นพิเศษ ต้องกระดืบไปทีละคืบทีละศอก ยังดีที่ไป "ตบตึก" กันมาแล้ว ไม่อย่างนั้นคงทรมานน่าดู... เฮ้ย..กางเกงยีนส์ตัวละ ๔ เหรียญเอง แม่ป๋อมตะโกนพลางชี้ให้ดู เล่นเอาหลายคนทำท่าจะตะกายลงจากรถ พี่วิไลหัวเราะพลางบอกว่า "ใจเย็น ๆ ตรงนี้เรียกว่าตลาดรัสเซีย มีของดีราคาถูกเยอะแยะ พรุ่งนี้ค่อยมาดูก็ยังทัน วันนี้ค่ำแล้ว กลับไปบ้านกันก่อน เรื่องเสื้อผ้าราคาถูกจึงกลายเป็นจุดสนใจจนลืมรถติดไปเลย... |
สมาชิก 100 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#74
|
||||
|
||||
กรุงพนมเปญในยามค่ำคืน ผ่านย่าน “กะบาลมอนไจย (ถนนหัวไก่)” จนเลี้ยวเข้าบ้านแล้ว ยังคุยกันเรื่องกางเกงยีนส์ไม่เลิก อาตมาเผ่นขึ้นลิฟท์ไปยังห้องพักชั้นดาดฟ้า ไม่ใส่ใจแม้แต่การลาของจอมคนแห่งกัมโพช รีบสรงน้ำเปลี่ยนผ้า แล้วหอบชุดเก่าลงมาหาที่ซัก พี่วิไลตะโกนบอกลูกน้องให้มารับเอาไปใส่เครื่องปั่นให้... อาตมาไปยืมที่ชาร์จแบตเตอรี่กล้องถ่ายรูปจากแม่ป๋อม แม้ว่าจะเป็นยี่ห้อเดียวกันแต่เป็นคนละรุ่น จึงไม่สามารถที่จะใช้แทนกันได้ ต้องกดให้จุดสัมผัสของก้อนแบตเตอรี่ไปชนกับเขี้ยวของแท่นชาร์จ แล้วเอาหนังสือทับไว้จึงยอมชาร์จให้... เกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว อาตมาฝากให้พี่วิไลช่วยเอาผ้าไปตากให้ด้วย แล้วกลับขึ้นไปยังห้องพัก นอนภาวนาแผ่เมตตาไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอให้ทุกชีวิตจงล่วงพ้นจากกองทุกข์ มีแต่ความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป แล้วส่งใจไปกราบพระตามปกติ... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-03-2015 เมื่อ 02:55 |
สมาชิก 96 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|