|
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#41
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวกับญาติโยมที่ไม่ได้พบกันหลายปีว่า "ก่อนหน้านี้อยู่ที่บ้านอนุสาวรีย์ฯ พอปี ๒๕๕๓ ก็ย้ายมาที่นี่ เพราะว่าทางด้านโน้นพื้นที่ไม่พอ ตอนกลางคืนเจริญกรรมฐานแทบจะขี่คอกัน เลยทำให้คนส่วนหนึ่งเสียโอกาส เพราะว่าพอเบียดกันมาก ๆ เขาก็ไม่มา ท้ายสุดก็เลยต้องหาที่ใหม่
พอหาที่ใหม่ก็กะว่าให้ญาติโยมเขาสะดวกหน่อย จึงหาที่มีรถไฟฟ้าผ่าน ปรากฏว่าคนอื่นรู้เร็วกว่า เมื่อรู้เร็วกว่าอาตมาเลยต้องซื้อตรงนี้แพง ๒๔๐ ตารางวา จะให้เขาสร้างเป็นศาลายาว ๆ แบบศาลาปฏิบัติธรรม ช่างไม่ยอมทำให้ บอกว่าไม่มีฝีมือ โห..ว่าเสียเลย เขาว่าแบบนั้นให้ใครทำก็ได้ ไม่ต้องให้เขาทำหรอก แล้วเขาก็ทำอีกอย่างหนึ่ง ไว้ฝีมือ..ไม่ยอมทำตามใจ จึงเท่ากับว่าเสียพื้นที่ไปส่วนหนึ่ง ตอนนี้ช่วงปฏิบัติธรรมภาคค่ำก็เริ่มแน่นแล้ว ถ้ามีอีกครึ่งหนึ่งอย่างที่อาตมาต้องการ ก็จะใช้งานได้ดี ตอนนั้นซื้อตรงนี้ไป ๑๓ ล้าน ๕ แสนบาท เพราะเขารู้ว่ารถไฟฟ้าจะผ่านจึงขายแพง คราวนี้พอสร้างบ้านเสร็จ รัฐบาลนายกฯ ทักษิณโดนล้ม รถไฟฟ้าสะดุดไปปีกว่าเกือบสองปี เพิ่งมีปีที่แล้วกับปีนี้ที่สะดวกจริง ๆ ก่อนหน้านี้ก็เอารถมากันบ้าง นั่งแท็กซี่มากันบ้าง ตอนนี้มารถไฟฟ้า ใคร ๆ ก็มาได้สะดวก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-02-2015 เมื่อ 03:24 |
สมาชิก 242 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#42
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "มีดหมอสมัยก่อนก็คือมีดใช้งานนั่นแหละ ส่วนใหญ่ชาวบ้านไปไหนก็มีมีดติดตัวไปเล่มเดียว ไปหากินเอาข้างหน้า ขุดเผือกขุดมันแทนข้าว หาหอยหาปูหาผักเป็นกับข้าว มีดเล่มเดียวเขาอยู่ได้
เวลาไปเจอพวกกะเหรี่ยงอาตมารู้สึกเขาสมถะกว่าพระอีก มีมีดอยู่เล่มหนึ่ง นุ่งกางเกงขาสามส่วน ผ้าขาวม้าเคียนหัว เสื้อบางทีก็ใส่บ้างไม่ใส่บ้าง แล้วมีย่ามเล็ก ๆ นิดเดียวประมาณ ๒ ฝ่ามือ ส่วนใหญ่ก็ใส่พวกยาสูบกับไฟแช็กก็ไปได้แล้ว ของอาตมามีทั้งกลด ทั้งบาตร ทั้งจีวรทั้งกระติกน้ำ โห..หนักอย่าบอกใครเลย มาระยะหลังที่ออกธุดงค์ ส่วนใหญ่แทบจะไม่ได้พกอะไรไปเลย พระอื่นเจอเข้าก็ตกใจ ถามว่าพวกท่านมาทำอะไรกันนี่ ? “ก็มาธุดงค์เหมือนกับคุณนั่นแหละ” แล้วไม่มีอะไรเลยหรือ ? บอกไปว่า “มีเยอะแล้ว” เขาไม่รู้หรอกว่าที่ไม่มีอะไรเลยของอาตมา อยู่ป่าได้นานกว่าเขาอีก นี่ถ้าไม่ติดขัดด้วยพระวินัยว่า พระไปไหนจะต้องเอาผ้าไตรไป ดีไม่ดีผ้าไตรก็อาจเหลือแค่ชุดที่ใส่นี่แหละ ที่อาตมาเป็นมาลาเรียก็เพราะอย่างนี้ เพราะว่าระยะหลังไม่ได้เอากลดไป ถึงเวลาก็ใช้จีวรตีโปงนอน ไปนึกถึงพระสมัยโบราณว่าท่านก็ไม่ได้ใช้กลด สมัยพุทธกาลท่านก็อยู่ใต้โคนไม้ ท่านจะเอากลดที่ไหนมา แล้วอากาศที่อินเดียร้อนหนาวดุเดือดกว่าเราตั้งเยอะ บทหนาวขึ้นมาก็หนาวจะแย่ ท่านยังอยู่กลางแจ้งกันได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-02-2015 เมื่อ 03:35 |
สมาชิก 244 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#43
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวถึงพระปิดตามหาอุตม์รุ่นนี้ว่า “จะบอกว่าของใหม่ก็ไม่ใหม่หรอก เป็นพระปิดตามหาอุตม์ที่อาตมาซ้อมทำไว้หลายปีแล้ว เพิ่งจะไปค้นเจอ ด้านหลังที่เป็นเลข ๕ นั้นเป็นสัญลักษณ์ว่าพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ถ้าหากว่าสัญลักษณ์นะโมตาบอดนั้นเป็นของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จังหวัดชัยนาท ใช้ได้ทั้งแคล้วคลาด คงกระพัน ล่องหนหายตัว หน้าตาอาจจะออกมาไม่สวยนัก เพราะว่าเวลาพิมพ์แล้วเนื้อเกินเขาก็ใช้มีดตัดเอา บางองค์ตัดมาเป็นเหลี่ยม ๆ เลย แต่ว่าคุณภาพคับแก้ว”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-02-2015 เมื่อ 03:37 |
สมาชิก 250 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#44
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “หล่อพระงวดนี้อาตมามีชนวนประหลาดที่คาดว่าคนอื่นคงไม่มีกัน ก็คือปลอกกระสุนปืนชาตรีที่เข้าพิธีตั้งแต่สมัยหลวงพ่อวัดท่าซุง มีปลอกกระสุนเป็นลังเลย ถ้าอยากรู้ว่าทำไมมือปืนถึงเก่ง ก็เพราะเขายิงกันชนิดที่ปลอกกระสุนเป็นลัง ช่วงนั้นญาติโยมฝากปืนเข้าพิธี ๕ กระบอก ปืน ๕ กระบอกนี่ไม่ต้องถามว่ากระสุนปืนเท่าไร ส่วนใหญ่กล่องละร้อยนัด แล้วคนละ ๒-๓ กล่อง”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-02-2015 เมื่อ 03:37 |
สมาชิก 237 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#45
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “ถ้ามีดหมอหลวมให้เอาผ้าแดงใส่ไปในฝักเลย เพราะว่าเรื่องของเทวดาโดยเฉพาะชั้นจาตุมหาราชนี่ สีแดงเป็นเครื่องหมายของท่าน ในเมื่อมีถุงแดงแล้วก็เอาผ้าแดงใส่ไปอีกชั้นหนึ่ง”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-02-2015 เมื่อ 03:38 |
สมาชิก 243 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#46
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “มีดใช้งานจะสวยทุกเล่ม เพราะว่าพอใช้ ๆ ไปแล้ว ทั้งด้ามทั้งใบจะเข้าที่ไปเอง ด้ามจะลื่น ใบก็จะลับจนคมกริบ”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-02-2015 เมื่อ 03:38 |
สมาชิก 242 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#47
|
||||
|
||||
ทิดตู่มากราบเรียนว่าจะไปแสดงเป็นพระยาพิชัยดาบหัก พระอาจารย์จึงกล่าวว่า “อย่างไรก็จุดธูปบอกกล่าวท่านเป็นการต่างหากด้วยนะ ไม่อย่างนั้นหัวขาดไม่รู้ด้วย ท่านเองถ้าไม่มีอารมณ์ก็ไปนอนบนพรหม ถ้ามีอารมณ์ท่านก็ลงมาที่ชั้นจาตุมหาราช”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-02-2015 เมื่อ 03:39 |
สมาชิก 253 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#48
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ท่านที่เอามีดหมอไปเข้าพิธีเพชราวุธ ถ้าจะให้อานุภาพเหมือนมีดหมอเพชราวุธเลยก็ไม่ได้หรอกนะ เพราะว่าไม่มีตะกรุด ๓ กษัตริย์ ไม่มีตะกรุดมหาสะท้อน ขณะเดียวกันครูบาอาจารย์ท่านก็ไม่ได้สงเคราะห์ให้เหมือนกับที่ท่านตั้งใจให้มีดหมอเพชราวุธ แต่ไม่ต้องห่วงหรอก ระเบิดนิวเคลียร์พอ ๆ กันนั่นแหละ เพียงแต่ว่ามีดหมอเพชราวุธเหมือนกับเป็นสมาร์ทบอมบ์ ใช้งานได้สารพัดอย่าง แต่ของเราอาจจะต้องแบกวิ่งไปเอง อานุภาพเหมือนกัน เพียงแต่ต้องแบกวิ่งไปเอง แต่ว่าท่านให้ทุกด้านจริง ๆ แม้กระทั่งด้านลาภผล"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2015 เมื่อ 05:15 |
สมาชิก 238 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#49
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้ทองคำได้ประมาณ ๓๑ กิโลกรัมกว่า ๆ แล้ว เหลือประมาณ ๘ กิโลกรัมเศษ ใครจะถวายให้ครบทีเดียวก็ยินดีรับ ...(หัวเราะ)... ไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อทองหรอก ถวายเป็นปัจจัยก็ได้ เพราะว่าถึงเวลาจะได้สั่งซื้อทีเดียว กำลังรอช่วงหลังตรุษจีนนิดหนึ่ง ช่วงนี้ที่ราคาทองขึ้นแล้วทรงตัวอยู่ เพราะอยู่ในภาวะพร้อมที่จะเกิดสงคราม ในเมื่อจะเกิดสงคราม ประเทศต่าง ๆ ก็ตุนทองไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2015 เมื่อ 05:16 |
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#50
|
||||
|
||||
ถาม : ที่ผ่านมาท่านอาจารย์ผู้นำคณะมักจะพูดว่า เวลาที่เราทำอะไร ควรผลักดันให้คนเข้าใจในความสามัคคี ให้คนทำความดี ทำโดยเบื้องหลังซึ่งเขาไม่ได้กล่าวถึง คนเขาไม่รู้ว่าเราทำ เราก็ได้อานิสงส์ของความดีแล้ว แต่อย่างในบางคนที่เขายังไม่มั่นใจในตรงนี้ อยากถามว่า จะให้เขาเข้าใจได้อย่างไรคะว่าได้อานิสงส์แล้ว ?
ตอบ : ขอให้ได้ทำหน้าที่ก็พอแล้ว มีอยู่ ๒ อย่าง อย่างแรกคือตั้งใจทำก็เป็นบุญแล้ว อย่างสองคือ ทำโดยไม่ต้องหวังความสำเร็จก็ได้ แค่ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ก็พอ เอาแค่นั้นเป็นหลัก อย่างอื่นไม่ต้องไปใส่ใจ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2015 เมื่อ 05:17 |
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#51
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "คาถาเงินล้านดีตรงที่ว่ามีให้พร้อมทุกอย่าง มีลาภผล มีป้องกัน มีปัดอุปสรรค กลายเป็นว่าภาวนาคาถาเงินล้านอย่างเดียว ความปลอดภัยก็มาด้วย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2015 เมื่อ 05:18 |
สมาชิก 236 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#52
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงนี้ที่จะเกิดภาวะสงครามเพราะว่าสหรัฐบ้าอำนาจ ไปแส่หาเรื่องด้วยการเข้าไปเปลี่ยนแปลงการปกครองในยูเครน ถ้าสหรัฐทำสำเร็จ นาโตจะเข้าไปตั้งขีปนาวุธได้ เท่ากับจ่อคอหอยรัสเซียเลย รัสเซียก็ไม่ยอมจึงต้องแทรกแซง คราวนี้พอรัสเซียแทรกแซง สหรัฐก็บีบรัสเซียด้วยการร่วมมือกับทางตะวันออกกลาง โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบียด้วยการทำให้ราคาน้ำมันตก เพราะรัสเซียอยู่ได้ด้วยน้ำมันกับแก๊สธรรมชาติ พอราคาน้ำมันตก รัสเซียก็อยู่ไม่ได้
แต่เขาลืมของตัวเองไป ลืมไปว่าตัวเองปล่อยกู้ให้บริษัทต่าง ๆ ไปทำโครงการที่เกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง ๙ ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเขาประมาณการว่า ถ้าน้ำมันอยู่ในระดับ ๑๐๐-๑๓๐ ดอลลาร์ต่อบาเรล บริษัทถึงจะมีกำไร คราวนี้อยู่ ๆ ลดฮวบลงมาเหลือไม่ถึงบาเรลละ ๕๐ ดอลลาร์ดีกระมัง ? บริษัทที่เอาเงินกู้ไปจะทำอย่างไร ? ก็ไม่มีปัญญาจ่ายคืน เศรษฐกิจจะไปไม่รอด ฉะนั้น..มีทางเดียวคือต้องล้มรัสเซียให้ได้ก่อน ก่อนที่บริษัทพวกนี้จะเจ๊ง กลายเป็นภาวะครึ่ง ๆ กลาง ๆ ต้องบอกว่าให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว ลืมไปว่าตัวเองปล่อยกู้ให้บริษัทน้ำมันไปตั้ง ๙ ล้านล้านดอลลาร์" ถาม : เดี๋ยวนี้คนฆ่ากันง่ายมาก ? ตอบ : ต้องบอกว่าเกิดจากการกระทำของเรา ความดีความชั่วไม่ได้ไปไหน พลังงานพวกนี้รวมตัวกัน พอรวมตัวกันอยู่ ความดีก็ดึงดูดคนดี ความชั่วก็ดึงดูดคนชั่ว แต่ตอนนี้คนทำชั่วมีมากกว่า พลังงานจำนวนมหาศาล ทำให้สติสัมปชัญญะของคนน้อยลง ทำความชั่วได้ง่าย ถ้ายิ่งเป็นผู้นำประเทศ แค่ตัดสินใจกดปุ่มนิวเคลียร์ แค่นี้ก็บรรลัยแล้ว คราวนี้ไม่ได้รบกันระหว่างรัสเซียกับอเมริกาเฉย ๆ เพราะว่าจีนที่ผูกค่าเงินตัวเองไว้กับดอลลาร์ก็จะดึงตัวเองออกมา ถ้าจีนดึงตัวเองออกมา ดอลลาร์จะกลายเป็นเศษกระดาษเลย กลายเป็นว่าอเมริกาต้องเปิดศึกสองด้าน โดยการที่ยุให้ใครสักสองสามประเทศไปเล่นงานจีน ก็ไปยุพวกที่มีเขตแดนติดต่อกัน หรือที่มีข้อพิพาทระหว่างแดน เช่น ญี่ปุ่น เวียดนาม ไปเล่นงานจีน พอมองภาพรวมแล้ว ต้องบอกว่าพวกนี้ชั่วจริง ๆ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของตัวเอง ไม่คำนึงวิธีที่ใช้ ชาวโลกเขาจะเดือดร้อนแค่ไหนก็ไม่สนใจ อย่างที่ยื่นมือเข้ามาในเมืองไทย แล้วโดนด่าเช็ด แต่จะว่าไปแล้วก็คือไทยเราเชิงอ่อนมาก อย่างเรียกอุปทูตสหรัฐเข้ามาพบ จะมีประโยชน์อะไร ? ถ้าเขาไม่มาพบจะไปบังคับเขาได้ไหม ? หรือถึงเวลาถ้าเขามาแล้วยืนยันตามที่พูดไว้ แล้วไทยจะทำอะไรได้ไหม ? ถาม : แล้วตลาดหุ้นละครับ ? ตอบ : แค่ได้ข่าวว่ายกขีปนาวุธขึ้น หุ้นก็ตกแล้ว ไม่ต้องคิดถึงขนาดว่าจะยิงกันหรอก โลกทั้งใบเหมือนบ้านหลังเดียว ตีกันหลังบ้าน หน้าบ้านก็เจ๊งไปด้วย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2015 เมื่อ 05:23 |
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#53
|
||||
|
||||
ถาม : หลวงพ่อเก็บ วัดสวนลำใย ?
ตอบ : ท่านเองท่านไม่ค่อยแสดงตัว แต่วัตถุมงคลของท่านลูกศิษย์สายตรงเก็บเรียบไม่มีหลุดเลย ส่วนอาตมามีปรอทกับสีผึ้งจมน้ำ ต่อไปว่าจะทำบ้าง ถ้าสมมติว่าไปในป่าในดง ไม่มั่นใจความปลอดภัยว่าน้ำเป็นอย่างไร ก็หย่อนสีผึ้งลงไป ถ้าลอยก็ใช้ไม่ได้ ถ้าจมก็ใช้ได้ ถ้าหากจะทำกิจการงาน จะเดินทางให้อธิษฐานก่อน หย่อนลงน้ำถ้าจมก็ใช้ได้ ถ้าลอยก็ใช้ไม่ได้ เพราะว่าขี้ผึ้งปกติจะลอยน้ำอยู่แล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2015 เมื่อ 05:24 |
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#54
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "โลกเราร้อน ในเมื่อโลกร้อนเราก็ต้องเย็น ถ้าไม่เย็น ก็ไปต่อไม่ได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2015 เมื่อ 05:25 |
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#55
|
||||
|
||||
ถาม : มีข่าวว่ามีเหล็กไหลเงินยวง ?
ตอบ : จริง ๆ แล้วพวกนี้เป็นของปลอมทั้งนั้น เหล็กไหลจริง ๆ ดูง่ายมากเพราะมีแสงในตัว มืดแค่ไหนก็สว่างในตัว ถ้าเข้ามาในห้องนี้ไฟจะดับหมด เพราะอานุภาพไปตัดกำลังไฟหมด ขึ้นรถยนต์หรือพาหนะอะไร เครื่องยนต์ดับหมด มีวิธีเดียวที่จะทำได้ก็คือต้องหุ้มด้วยขี้ผึ้งให้หนา ๆ เพราะขี้ผึ้งสามารถตัดพลังงานของเหล็กไหลได้ ลักษณะเดียวกับยูเรเนียมที่แพ้ตะกั่ว พวกที่เห็น ๆ ก็คือที่เขาตั้งชื่อกันขึ้นมาเอง แล้วพยายามจะสร้างประวัติ สร้างเนื้อหา ให้เข้ากับของที่ตัวเองมีอยู่ เพื่อที่จะได้ขายได้ อย่างเฮมาไทต์สมัยโบราณเขาเรียกว่าเหล็กตับเป็ด เป็นส่วนผสมของอาวุธในตำรามหาศาสตราคม เขาไปเรียกว่าเหล็กไหลตาแรด เขาจะเรียกเพื่อให้ขายได้ ถ้าเหล็กไหลหาได้ง่ายขนาดนั้นก็ดีสิ โบราณเขาบอกว่า "เหล็กไหลไพลดำ พูดพล่ามทำบ้า เล่นแร่แปรธาตุ ผ้าขาดตั้งวา คิดสะระตะโสฬส นอนอดเหมือนหมา" ไปทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง ไม่ทำมาหากินก็อดสิ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2015 เมื่อ 05:27 |
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#56
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "พ่อแม่เป็นครูคนแรก เขาเรียก บูรพาจารย์ บุรพ คือ ตะวันออกหรือแรกเริ่ม ก็คือทิศที่ตะวันเริ่มขึ้น เขาเลยถือเป็นทิศแรก บูรพาจารย์เปรียบเหมือนอาจารย์คนแรก หมายถึงพ่อแม่ เราอาจสงสัยว่าทำไมเวลาบวงสรวงขึ้น ปุริมัญจะ ทิสัง ราชา... เพราะว่าต้องขึ้นบูรพาก่อน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2015 เมื่อ 05:27 |
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#57
|
||||
|
||||
ถาม : เปลี่ยนชื่อ แต่ไม่ได้เปลี่ยนนิสัย ?
ตอบ : อาตมายืนยันอยู่ตลอดว่าไม่ต้องไปเปลี่ยนชื่อหรอก แค่คุณเปลี่ยนความประพฤติก็ใช้ได้เลย ไม่ได้สำคัญที่ชื่อ สำคัญที่ความประพฤติ ถ้าความประพฤติไม่ได้เรื่อง เปลี่ยนชื่อไปก็เท่านั้น เปลี่ยนชื่อไปก็มีแต่คนใหม่เขาเรียกกัน คนเก่าก็เรียกชื่อเดิม อาตมาเจอประสบการณ์ตอนเป็นทหาร จ่าสิบเอกแสวง ผินวงศ์ดวง เพื่อนร่วมรุ่นเป็นนายสิบอาวุโสเตรียมติดว่าที่ร้อยตรี จ่าแหวงไม่ได้อะไรกับใครเลย เพราะเมาทั้งวัน ท้ายสุดไปหาหมอดู หมอดูบอกชื่อเป็นกาลกิณีให้เปลี่ยน จึงเปลี่ยนเป็นมณเฑียร ทำหนังสือขออนุญาตกองร้อย กองร้อยส่งถึงกองพัน กองพันส่งถึงกองพล กองพลส่งถึงบก.สูงสุด เพราะตอนนั้นยัง พล.ร.๙ ยังไม่ได้สังกัดกองทัพภาค เสร็จแล้วพอทางบก.สูงสุดอนุมัติ ก็ส่งกลับมาที่กองพล ส่งกลับมาที่กองพัน ส่งกลับมาที่กองร้อยของตัวเอง ใช้เวลา ๖ เดือนกว่า เปลี่ยนชื่อเสร็จเขาก็เรียกไอ้แหวงเหมือนเดิม ก็ไม่เห็นจะได้อะไรกับเขา เพราะยังเมาอยู่ทั้งวัน ต้องนึกถึงบรรพบุรุษของเรา ยุคเก่า ๆ ชื่อตาสี ตาสา ยายมี ยายมา นายหมู นายหมา ถ้าหากว่าชื่อมีอิทธิพลจริง ๆ พวกเราคงไม่ได้เกิดกันหรอก เพราะกว่าจะมาถึงเรา บรรพบุรุษคงตายหมดแล้ว..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2015 เมื่อ 05:29 |
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#58
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "สำหรับพระสมเด็จ หลวงพ่อวัดระฆังท่านให้พรไว้ว่า ถ้านึกถึงท่าน จะเก่าจะใหม่ จะจริงจะปลอม ก็มีอานุภาพเหมือนกัน ฉะนั้น..บูชาไปเถอะ ใครจะว่าปลอมก็ช่าง อยู่ที่ใจเรายึดมั่น
มีนายทหารอากาศยศนาวาโทคนหนึ่ง อยากได้สมเด็จวัดระฆังมากเลย แล้วไปโดนเซียนหลอก ขนาดต้องวิ่งไปเอาที่เชียงใหม่ จ่ายให้เขาไป ๖ หมื่นบาท ปรากฏว่าขากลับรถคว่ำ นายทหารคนนั้นไม่เป็นอะไรเลย แต่เซียนคนนั้นคอหักตาย นายทหารคนนั้นก็มั่นอกมั่นใจว่า "เป็นบุญของผมเหลือเกิน ถ้าไม่ได้ท่านคุ้มครองผมคงตายไปแล้ว" พอเอาไปให้เซียนคนอื่นดูกลับไม่ใช่ หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า หลวงพ่อวัดระฆังท่านให้พรไว้อย่างนี้ จะจริงจะปลอม จะแท้จะเทียม ถ้านึกถึงท่านก็ใช้ได้เหมือนกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2015 เมื่อ 05:31 |
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#59
|
||||
|
||||
ถาม : แล้วที่เกาะพระฤๅษี ?
ตอบ : พอปรับปรุงเสร็จได้ ๒ วัน เขาก็มาตามให้ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ที่เกาะทำไป ๒๐ กว่าล้าน ต้องให้คนอื่นอยู่แทน คนเขาไปก็นึกว่าสร้างรีสอร์ท สวยเกินไป มีการปรับทางน้ำใหม่ เอาเรือนไม้ไปลง ตอนนี้ให้ลูกศิษย์ไปอยู่ ๓-๔ รูป อาตมากะจะวางมือมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่มาเจอวัดท่าขนุนต่อ ยังวางไม่ลงมาจนถึงป่านนี้ ศาลายังสร้างไม่เสร็จ หมดไปตั้ง ๕๐ กว่าล้านแล้ว ถ้ามีโอกาสต้องทำไปเลย คนรุ่นหลังเขาทำไม่ไหว หลังจากนั้นค่อยหากองทุนให้ไว้เขาดูแลรักษา ในศาลามีของสำคัญ ๒ อย่างคือ พระประธานในศาลาที่เป็นสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๔ ศอก จะหล่อวันที่ ๒๖ นี้ เวลา ๑๒.๓๙ น. ที่วัดท่าขนุน แล้วก็มณฑปตั้งพระพุทธรูปทองคำ เซ็นสัญญาไปแล้ว ๑๒ ล้าน ๕ แสนบาท ช่างเขากำลังเริ่มลงมือทำอยู่ เหลืออย่างเดียวคือรอจนอายุ ๖๐ ปี จะหล่อพระพุทธรูปทองคำไปตั้งในมณฑป ไม่ต้องสงสัยว่าจะเอาพระพุทธรูปไปตั้งได้อย่างไร ความสูงประมาณเกือบ ๗ เมตร ช่างคณะนี้คือช่างที่ไปซ่อมพระที่นั่งจักรีพระมหาปราสาท หาสุดยอดฝีมือมาเลย ในรูปองค์นี้คือพระทองคำที่จะหล่อ สององค์นี้คือพระที่ในหลวงรัชกาลที่ ๗ ถวายไว้ตั้งแต่สมัยหลวงปู่พุกอดีตเจ้าอาวาส ส่วนองค์ที่ตั้งตรงกลางนี้จะหล่อเดือนหน้า เพื่อถวายกุศลสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่เจริญพระชนมายุ ๖๐ พรรษา ส่วนสององค์ข้างนี้มีอยู่แล้ว เป็นพระหยกองค์หนึ่งและพระเนื้อนากองค์หนึ่ง จึงให้เขาออกแบบมาอย่างนี้ โชคดีที่ลูกศิษย์เขาทำให้ฟรี ไม่อย่างนั้นค่าออกแบบ ค่าถ่ายแบบ ๑ ต่อ ๑ ราคาเป็นล้านเลย เพราะค่าออกแบบเขาคิด ๒ เปอร์เซ็นต์ของราคา ค่าถ่ายแบบอีก ๕ เปอร์เซ็นต์ของราคา
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2015 เมื่อ 05:34 |
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#60
|
||||
|
||||
ถาม : หน้าตักเท่าไรคะ ?
ตอบ : หน้าตักพระพุทธรูปทองคำ หน้าตัก ๑๖ นิ้ว ต้องใช้ทองประมาณ ๔๐ กิโลกรัม ปีนี้อาตมาอายุ ๕๗ ยังมีเวลาอีก ๓ ปีไว้หาเงิน ทำโครงการต้องเผื่อ ๆ ไว้ก่อน ตอนเรียนปริญญาโทเขาให้เขียนโครงการว่าภายในปีนี้จะทำอะไร ภายใน ๓ ปีจะทำอะไร ภายใน ๕ ปีจะทำอะไร ตลอดชีวิตจะทำอะไร อาตมาเขียนไปว่า ภายในปีนี้จะทำมณฑปหลังนี้ให้เสร็จ ภายใน ๓ ปี จะทำโครงการสร้างพระใหญ่ถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถครบ ๘๐ ปี ภายใน ๕ ปี จะสร้างศาลา ๑๐๐ ปีของหลวงปู่สายให้เสร็จ ตลอดชีวิตที่เหลือจะหาเงินเข้ากองทุนของวัด อาจารย์ท่านดูแล้วบอกว่า นิสิตทั้งห้องมีของท่านเท่านั้นแหละที่เป็นโครงการที่ทำได้เลย ของคนอื่นมีแต่ใฝ่ฝันว่าจะทำโน่นทำนี่ คือของอาตมาทำได้จริง ของท่านอื่นประเภทจะสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม ซึ่งที่ดินก็ยังไม่มี แล้วจะไปทำอะไรได้ แต่ละโครงการเสร็จแล้วก็คือจบไป ส่วนที่เหลือจะได้ทำหรือไม่ได้ทำก็ช่าง งานที่ทำอยู่จะเสร็จหรือไม่เสร็จก็ช่าง เราได้ทำแล้ว เอาแค่นั้นก็พอ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2015 เมื่อ 05:37 |
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|