กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 13-02-2015, 18:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : รอยพระพุทธบาท ?
ตอบ : ของวัดท่าขนุนก็มี อยู่ในพื้นที่ของเทศบาลตำบลท่าขนุน รอให้โครงการในวัดเสร็จก่อน จะอาสาทำบันไดขึ้นไป แล้วทำเจดีย์หรือมณฑปครอบไว้สักหน่อย พระที่วัดท่าขนุนปีนขึ้นไปดูกันแทบทุกรูป ถึงเวลาใครอยากจะไปก็มีพระเณรช่วยนำทางให้ปีนขึ้นไป ไปนั่งกรรมฐานเสร็จแล้วก็ลงมา เดี๋ยวนี้สบาย ประเภทเดินกันจนเป็นร่อง สมัยเก่าของอาตมาต้องงมทางขึ้นไป ต้องเลาะก้อนหินก้อนโน้นก้อนนี้ ขึ้นไปใหม่ ๆ ต้องเอาสีฉีดบอกทางไว้ กลัวคนตามหลังจะไปไม่เป็น

ถาม : เจอมานานหรือยัง ?
ตอบ : ตั้งแต่ปี ๒๕๓๒

ถาม : ขนาดเท่าไรคะ ?
ตอบ : ๖๐ กว่าเซนติเมตร อยู่บนยอดเขา เหมือนกับเหยียบลงไม่เต็มรอยดี แต่มีอีกรอยหนึ่ง ขนาดเท่ากับรอยเท้าของพวกเรา รอยนี้ชัด ๆ เลย อย่างกับเหยียบลงในโคลน หลวงปู่สายเป็นผู้ที่แนะนำให้ขึ้นไป ก็เลยสงสัยว่า รอยเล็กนั่นท่านเหยียบไว้เองหรือเปล่า ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2015 เมื่อ 02:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 13-02-2015, 19:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงหลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวล ว่า "ความสามารถไม่ได้ยิ่งหย่อนกว่ากัน แต่ว่าคนรู้จักแต่หลวงพ่อเดิม เพราะว่าวัดหนองโพไปง่าย ลงรถไฟที่สถานีหน้าวัดเลย ส่วนหลวงปู่รุ่ง ท่านย้ายไปวัดหนองสีนวล อยู่ในป่า เพราะทางด้านบ้านเกิดของท่านแล้ง ท่านก็เลยเดินป่าเสาะหาที่ใหม่ ไปเจอหนองสีนวลอุดมสมบูรณ์ จึงชวนญาติโยมย้ายตามไปอยู่ในป่ากันหมด

หนองน้ำนั้นมีนกเขาฝูงหนึ่งลงกินน้ำกันเป็นปกติ มีตัวหนึ่งสีประหลาด สีออกนวล ๆ แทนที่จะสีเหมือนนกเขาทั่วไป ชาวบ้านเรียกกันว่า "ไอ้นวล" ก็เลยเรียกหนองน้ำนั้นว่าหนองสีนวล

แต่ก่อนแถวบึงบอระเพ็ดมีจระเข้เยอะแยะ ชาวบ้านที่มีมีดหมอหลวงพ่อขำ มีดหมอหลวงพ่อเทศ
มีดหมอหลวงพ่อรุ่ง มีดหมอหลวงพ่อเดิม คาบใส่ปากว่ายผ่านไอ้เข้กันหน้าตาเฉย..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2015 เมื่อ 02:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 13-02-2015, 19:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมพวกมีดหมองาช้างอานุภาพถึงเอาไว้ตีรันฟังแทงโดยเฉพาะครับ ?
ตอบ : เขาถือว่าช้างเป็นสัตว์ใหญ่ มีอำนาจ อยู่ในป่าช้างยังต้องกลัวใครล่ะ ? มายุคหลวงปู่รุ่งนี่แหละ ที่ผลิตมีดหมอมีอานุภาพครอบจักรวาล มีดหมอรุ่นเก่าเขาเอาไว้รักษาโรคอย่างเดียว ถึงได้เรียกกันว่า "มีดหมอ" เพราะเป็นของที่หมอใช้รักษาโรค
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2015 เมื่อ 02:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 13-02-2015, 20:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์ให้คุณตัวเล็กเอาเหรียญจตุคามไปออกในกระทู้ให้บูชา

"เป็นเหรียญรุ่นเดียวกับที่อาตมาหาไว้ใช้ อาตมาหาเหรียญจตุคามไว้ใช้เอง ๒ รุ่น ก็คือรุ่นอัครมหาเศรษฐีกับรุ่นปัญจบารมี ซึ่งเป็นฝีมือแพรนด้าจิวเวลรี่ทั้งคู่ เลี่ยมทองสวิสฝีมือบ้านอัมพวันเอาไว้สมัยโน้นเหรียญ ๕ หมื่นกว่าบาท เก็บไว้เพราะว่าขอให้ท่านช่วยงานมานานแล้ว ก่อนที่ท่านจะดัง เวลาลงปักษ์ใต้ก็ขออนุเคราะห์สงเคราะห์จากท่านมาตลอด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2015 เมื่อ 02:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 224 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 13-02-2015, 20:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในกลุ่มจะมีบางคนที่มีเวลาไม่พอที่จะมาช่วยงานตรงนี้ ทำให้กำลังใจบางคนในกลุ่มที่ไม่มาช่วยมีปมในใจ จะต้องวางกำลังใจอย่างไร ?
ตอบ : ทำแค่ที่ไปช่วยได้ ต้องโลกไม่ช้ำ ธรรมไม่เสีย ไม่ใช่ว่าเรามาทางด้านนี้จนกระทั่งงานส่วนตัวเสีย แบบนั้นก็บรรลัยสิ เอาแค่ที่ไปช่วยได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2015 เมื่อ 02:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 13-02-2015, 20:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ส่วนใหญ่ญาติโยมมักจะเข้าใจว่า ทำความดีแล้วต้องได้ดี แสดงว่ายังวางกำลังใจผิด ความดีแค่ตั้งใจทำก็เป็นความดีของเราแล้ว ส่วนทำแล้วผลตอบแทนจะเป็นอย่างไรไม่ต้องไปใส่ใจ ขอให้ได้ทำก็พอ แค่ตั้งใจทำ มหากุศลก็เกิดขึ้นแล้ว

สมมติว่าตั้งใจจะมาถวายสังฆทาน มหากุศลเกิดขึ้นแล้ว อานิสงส์เป็นของเรา ถ้ายังมาไม่ถึงวัด เกิดมีอันเป็นไปก่อน พระก็ขาดทุน ฉะนั้น..เรื่องของการทำความดี ตั้งใจทำแล้วให้ได้ทำก็พอ ไม่ต้องไปใส่ใจว่าผลตอบแทนจะมีหรือไม่มี เพราะถ้าต้องการผลตอบแทนตรงนั้น เท่ากับว่ามีโลภเจตนา พอโลภเจตนาเกิดขึ้น ผลบุญจะโดนตัดไปเยอะเลย เพราะกำลังใจไม่บริสุทธิ์เสียแล้ว การให้ทานนั้น ต้องมีเจตนาบริสุทธิ์ วัตถุทานบริสุทธิ์ ผู้ให้บริสุทธิ์ ผู้รับบริสุทธิ์ ถึงจะมีผลเต็มร้อยส่วน

ฉะนั้น...ต่อไปให้วางกำลังใจเสียใหม่ เรื่องของความดี เมื่ออยากทำ ขอให้ได้ทำเท่านั้น ส่วนจะดีตอบหรือไม่ดีตอบก็ช่างเถอะ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2015 เมื่อ 02:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 230 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #67  
เก่า 13-02-2015, 22:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระพุทธเจ้า พระอรหันตเจ้า ย่อมมีความรักความเมตตา ต่อทุกคนที่อยู่รอบข้างเสมอกัน ไม่มีผิดเพี้ยนไปเลยใช่ไหมครับ ?
ตอบ : มีความรักเท่ากันหมด แต่วาระกรรมของแต่ละคนไม่เท่ากัน ทำให้ท่านต้องแสดงออกต่างกันไป บางคนวาระกรรมไม่เปิดจริง ๆ ท่านก็จะเหลือแต่อุเบกขาเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2015 เมื่อ 02:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #68  
เก่า 13-02-2015, 22:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ที่หล่อพระวันที่ ๒๖ นี่ใช้เฉพาะเนื้อเงินหรือครับ ?
ตอบ : เนื้อโลหะปกติ ช่างเขาเตรียมไว้พร้อมแล้ว ก็คือเอาทองเหลืองเป็นหลัก ทีนี้เราจะเอาเงิน เอาทอง เอานากไปร่วมหลอม ก็เอาไปร่วมในวันนั้นก็แล้วกัน ส่วนองค์เนื้อเงินล้วน เป็นสมเด็จองค์ปฐม ขนาด ๙.๙ นิ้ว จะหล่อวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๘ (วันทำบุญฉลองบ้านวิริยบารมี)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2015 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #69  
เก่า 14-02-2015, 10:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คณะสงฆ์ประพฤติชอบหรือมิชอบ เราไม่สามารถตัดสินโดยการอ่านพระไตรปิฎก ไม่สามารถจะตกลงใจได้ว่าท่านผิดหรือไม่ผิด อย่างนี้ในฐานะที่ไม่ได้เป็นพระสงฆ์หรือพระสังฆาธิการ ควรจะวางตนอย่างไรดีครับ ?
ตอบ : อย่ายุ่งได้เลยเป็นดี เอาอย่างที่โบราณบอกว่า ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์ เพราะส่วนใหญ่ที่ผ่านมา คนไม่รู้ว่าเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จ แต่ช่วยกันด่าไปก่อนแล้ว ถ้าดูตัวอย่างของกปิลมัจฉา ที่ด่าพระแล้วลงอเวจีมหานรก เกิดมาใหม่เป็นปลาปากเหม็น แล้วจะรู้ว่าโทษที่ด่าพระเป็นอย่างไร

ถาม : ถ้าอุบาสกอุบาสิกาทุกคนปล่อยวางแล้วพระศาสนาจะเสื่อมไหมครับ ?
ตอบ : เรื่องของศาสนาไม่เสื่อม เป็นเรื่องเฉพาะคน พระพุทธองค์ยืนยันว่า พระศาสนาของพระองค์เหมือนอย่างกับมหาสมุทร ที่ซัดซากศพขึ้นฝั่งอยู่เสมอ เพียงแต่ว่าบางศพลอยลึกไปหน่อย ขึ้นฝั่งช้าไปนิดหนึ่ง เราก็ใจร้อน ไปช่วยกันยำเละเสียก่อน

ต่อให้พระท่านศีลขาด ๕ ข้อ ท่านก็ยังเหลืออีกตั้ง ๒๒๒ ข้อ ซึ่งมากกว่าเราเยอะ ต่อให้ท่านไม่เหลือสักข้อ สิ่งที่ห่มกายท่านอยู่คือธงชัยพระอรหันต์ การที่เราไปปรามาสล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ มีโอกาสขาดทุนมาก ถ้าดูตัวอย่างพระยาฉัททันต์กับพรานโสณุดร พรานโสณุดรยิงพระยาฉัททันต์ด้วยธนูอาบยาพิษ พระยาฉัททันต์จับตัวได้ เห็นเคียนหัวด้วยผ้าเหลืองก็เลยปล่อยลง แม้จะตำหนิว่าคนอย่างท่านไม่สมควรกับการที่เอาผ้าเหลืองมาพันกาย แต่เห็นแก่ธงชัยพระอรหันต์ จะไม่เอาชีวิต

รายไหนถ้าเรารู้เห็นว่าผิดจริงจัง ก็สามารถเป็นโจทก์ฟ้องได้ ฟ้องต่อผู้บังคับบัญชา หรือ
ถ้าคดีเหล่านั้นเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญา ก็แจ้งความได้ แต่ถ้าไม่รู้ว่าท่านผิดจริงหรือไม่ผิดจริง ก็อย่าเพิ่งไปยุ่ง ไม่อย่างนั้นเราเองอาจจะขาดทุนมาก

ถาม : ใครเป็นพระอรหันต์หรือไม่เป็นพระอรหันต์บางทีเราไม่รู้ บางรูปท่านก็ห้าว บางรูปท่านก็เงียบเรียบร้อย รูปไหนท่านห้าว คนก็อาจจะไปปรามาสหรือว่าตำหนิในใจ ทีนี้เมื่อท่านนิพพานไปแล้วทำอย่างไรจึงจะปลดหนี้สงฆ์ครับ ?
ตอบ : ไม่ได้เป็นหนี้สงฆ์ แต่เป็นโทษในการล่วงเกินพระรัตนตรัย ให้กราบขอขมาต่อหน้าพระพุทธรูป ถ้าท่านมีชีวิตอยู่ เรารู้จริงก็ไปขอขมาตรงกับท่าน แต่ถ้าท่านมรณภาพหรือนิพพานไปแล้ว เราก็ไปกราบขอขมาต่อหน้าพระพุทธรูป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2015 เมื่อ 10:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #70  
เก่า 14-02-2015, 11:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนี้สงฆ์ประกอบด้วยหนี้อะไรบ้างครับ ที่เราจะต้องสร้างพระหน้าตัก ๔ ศอก ปิดทองเพื่อปลดหนี้ ?
ตอบ : อะไรก็ตามที่เอาไปจากวัด ไม่ว่าจะมีค่ามากหรือมีค่าน้อย ถือว่าเป็นหนี้สงฆ์ทั้งหมด ยกเว้นว่าพระทั้งวัดพร้อมใจกันอนุญาตให้

ถาม : เราเด็ดมะยมในวัดแล้วเจ้าอาวาสอนุญาต ถือว่าเป็นหนี้สงฆ์ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าเป็นมะยมที่ท่านปลูกด้วยตัวท่านเองก็อนุญาตให้ได้ แต่ถ้าไม่ใช่ เป็นของวัดมาแต่เดิม ต้องพระทั้งวัดจึงอนุญาตให้ได้

ถาม : ก่อนตายเราไปชำระหนี้สงฆ์ โดยการสร้างพระขนาดหน้าตัก ๔ ศอก ไปขอขมาต่อหน้าพระพุทธรูปพระประธานในโบสถ์ ถือว่าเราได้ชำระหนี้สงฆ์และถือเป็นการขอขมาพระรัตนตรัยได้อย่างสมบูรณ์ไหมครับ ?
ตอบ : รู้ได้อย่างไรว่าจะตายเมื่อไร ? ต้องมีโอกาสแล้วทำเลย ไม่ใช่รอก่อนตาย ตอนก่อนตายอาจจะคลานไม่ไหวแล้วก็ได้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2015 เมื่อ 12:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #71  
เก่า 14-02-2015, 11:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : บทสวดมนต์บางบท เช่น บทเมตตา ที่กล่าวว่าทำให้ผู้สวดมีบารมี จริงเท็จประการใดครับ ?
ตอบ : การสวดมนต์ได้สมาธิ สมาธิสูงเท่าไร บุญที่เราได้รับก็มากเท่านั้น การสั่งสมบุญมีมากเท่าไร บารมีก็เพิ่มขึ้นเท่านั้น

ถาม : ถ้าเราสวดเป็นประจำ จะทำให้เรา.. ?
ตอบ : สวดบทไหนก็ได้ ทำไปเถอะ

ถาม : จะทำให้เราเจริญสมาธิได้ดีขึ้นหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : การสวดมนต์เป็นสมาธิอยู่แล้ว ถ้าไม่มีสมาธิเราจะสวดผิด ถ้าคนที่มีความชำนาญจะอาศัยบทสวดมนต์แทนคำภาวนา สามารถทรงฌานในขณะสวดมนต์ได้ ท่านที่ต้องการทิพจักขุญาณ เวลาสวดมนต์ให้นึกถึงอักขระที่เราสวดขึ้นมาเป็นตัว ๆ สามารถเห็นได้ชัดเท่าไร ก็เห็นผีเห็นเทวดาได้ชัดเท่านั้น

ใครที่สามารถยกจิตขึ้นพระนิพพาน ยกจิตขึ้นไปสวดมนต์ถวายพระบนนั้น ถ้าตายตอนนั้นก็ไปพระนิพพานเลย ใครที่สามารถแปลออกว่า คำสวดของเราเป็นคำสอนให้ประพฤติปฏิบัติอย่างไร สามารถปฏิบัติตามนั้นก็สามารถหลุดพ้นจากกองทุกข์ เข้าสู่พระนิพพานได้ ถือว่าเป็นการสวดมนต์ที่ได้ประโยชน์สูงสุด ฉะนั้น..เรื่องของการสวดมนต์ได้สมาธิแน่นอนอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าสมาธิจะสูงจะต่ำ อยู่ที่เราว่าสามารถทำได้แค่ไหน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2015 เมื่อ 12:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #72  
เก่า 14-02-2015, 11:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ครั้งที่พระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นไปโปรดพุทธมารดาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีเทวดามาเข้าเฝ้า ซึ่งเทวดาท่านหนึ่งให้ทานตลอดหมื่นปี ส่วนเทวดาอีกท่านให้ทานกับพระสารีบุตรแค่ครั้งเดียว แต่มีอานิสงส์มากกว่า ถ้าอย่างนั้นทานที่พวกเราทำในครั้งที่เป็นมนุษย์ในพระพุทธศาสนานี้ ก็กินก็ใช้ไม่หมดแล้วสิครับ ?
ตอบ : สำคัญตรงที่ว่า เราทำแล้วเราจะไปกินไปใช้ตอนไหน ถ้าตั้งใจเพื่อพระนิพพานในชาตินี้ก็ยังไม่พอ แต่ถ้าจะเอาสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ก็เหลือกินแล้ว ก็เลือกเอาแล้วกันว่าจะเอาอะไร ?

เทวดาท่านนั้นไม่ได้ใส่บาตรกับพระสารีบุตร ท่านใส่บาตรกับพระอรหันต์ที่ธุดงค์ผ่านไป ๖ รูปด้วยกัน กลายเป็นสังฆทานใหญ่ นอกจากมีอานิสงส์สังฆทานแล้ว ผู้รับยังบริสุทธิ์อย่างแท้จริงด้วย ตัวท่านคือผู้ให้ก็บริสุทธิ์ วัตถุทานที่ท่านให้ก็เป็นของบริสุทธิ์ เจตนาที่ให้ก็บริสุทธิ์ อานิสงส์จึงเต็มที่ ส่วนอีกท่านหนึ่งนั้นให้ทานอยู่ตลอด ๒ หมื่นปี เปิดโรงทานตั้ง ๘๐ โรง เลี้ยงคนทั้งกลางวันกลางคืน แต่เป็นในช่วงที่โลกไม่มีพระพุทธศาสนา คนไม่ได้อยู่ในศีลในธรรม บุญที่ทำจึงดีกว่าทำกับสัตว์เดรัจฉานไม่เท่าไรเอง ต้องบอกว่าท่านเกิดผิดยุค ถ้าเกิดถูกยุค อานิสงส์ที่ท่านทำคาดว่าพระอินทร์สู้ไม่ได้แน่นอน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2015 เมื่อ 12:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #73  
เก่า 14-02-2015, 11:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเรานั่งกรรมฐานตอนกลางวัน ๑๐-๑๕ นาที และระลึกถึงนิพพานก่อนนอนไปตลอด จะมีโอกาสเข้าถึงพระนิพพานไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าสามารถรักษากำลังใจมั่นคงแน่วแน่ ไม่เห็นว่าร่างกายนี้หรือโลกนี้เป็นสถานที่น่าสนใจมาเกิดอีก ก็สามารถไปได้ ไม่ต้องถึง ๑๐ นาทีหรอก เอาแค่ ๕ นาทีก็ได้ ให้เว้นได้จริง ๆ เท่านั้นแหละ ทำให้สม่ำเสมอทุกวัน

ส่วนใหญ่ "พุท" ไม่ทันจะ "โธ" ก็ฟุ้งซ่านแล้ว ยิ่งสมัยนี้โอกาส "พุทโธ" ไม่ค่อยจะมีหรอก เพราะมัวแต่นั่งเขี่ยจออยู่ โดนแย่งเวลาไปหมด..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2015 เมื่อ 12:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #74  
เก่า 14-02-2015, 11:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนบางคนมีโอกาสได้ทำบุญสำคัญในพระพุทธศาสนา ได้สร้างโบสถ์ที่ยิ่งใหญ่ ได้มีโอกาสทำบุญกับพระอรหันต์ กับพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยบุญด้วยกุศลอะไรครับที่ทำให้เรามีโอกาสได้ทำบุญใหญ่ ๆ อย่างนั้น ?
ตอบ : ทำดีในอดีตแล้วอธิษฐานตั้งความปรารถนาอย่างนั้นไว้ ปัจจุบันจึงมีโอกาสได้ทำเช่นนั้นบ้าง แต่ถ้าทำชาตินี้แล้วหวังต่อไปว่าจะได้ทำอย่างนั้น ก็แปลว่าต้องเกิดแล้วก็ทุกข์อีก เลือกเอาแล้วกันว่าอยากทำอย่างนั้นไหม ? ถ้าอยากทำอย่างนั้นก็ทำบุญใหญ่ แล้วอธิษฐานขอไปเกิดแล้วให้ได้ทำอย่างนั้นบ้าง ส่วนใหญ่เวลาย้อนดูอดีต แต่ละท่านล้วนแต่ทำกุศลใหญ่แล้วตั้งจิตอธิษฐานเพื่อสิ่งนั้น ๆ เสมอ ฉะนั้น..อธิษฐานบารมีตัวนี้จึงส่งผลให้ท่านได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2015 เมื่อ 12:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #75  
เก่า 14-02-2015, 12:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูนอนไม่หลับค่ะ
ตอบ : นอนไม่หลับ แต่อาตมานี่หลับแต่ไม่ได้นาน เอาเป็นว่าไปหาต้นไมยราบมาสัก ๔-๕ ต้น ล้างให้สะอาด ทั้งต้นทั้งรากใส่หม้อต้มกินแทนน้ำไปเลย คราวนี้จะนอนไม่ค่อยอยากจะตื่น ไมยราบโบราณเขาเรียก "กระทืบยอบ" เพราะสะเทือนแล้วใบจะหุบ

ถาม : แกงขี้เหล็ก ?
ตอบ : ขี้เหล็กก็ช่วยได้จ้ะ แต่ต้องมื้อเย็น ยกเว้นถ้าไม่กินมื้อเย็นก็ต้องมื้อกลางวัน

ถาม : ต้องกินเรื่อย ๆ ?
ตอบ : เรื่อย ๆ ช่วยผ่อนคลาย นอกจากนอนได้ดีแล้วก็ยังทำให้ถ่ายสะดวก เพราะขี้เหล็กเป็นยาระบายด้วย

ไม่ต้องไปใส่ใจหรอก อะไรที่เคยทำมา อาตมาปลงเสียแล้ว ตัวเองที่นอนไม่ค่อยได้ เวลานอนต้องมีคนกวนให้ตื่น เพราะสมัยก่อนไปรบกวนข้าศึกไม่ให้หลับไม่ให้นอน ตัวเองจะได้ไปตีเขาได้ง่าย อาศัยคนแค่ไม่กี่คนหรอก ส่งเสียงดังเอะอะโวยวายให้เขาคิดว่าจะเข้าตี พวกนั้นก็ตาลีตาเหลือกลุกมาป้องกัน ถึงเวลาเราก็ไปนอน พอเขาจะนอนเราก็มากวนใหม่ ไปทำเขาไว้แบบนี้ ถึงเวลาจะนอนจึงโดนกวนตลอด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2015 เมื่อ 12:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #76  
เก่า 14-02-2015, 17:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : โยมมาทำบุญอุทิศให้กับผู้เกิดอุบัติเหตุตายหมู่ ?
ตอบ : พวกนี้เขาโชคดีอยู่อย่างหนึ่งว่าตายก่อนอายุ เราจะทำบุญอะไรไปให้เขาโมทนาได้หมด จะว่าเขาตายไม่ดีก็ไม่ได้หรอก ต้องถือว่าเป็นความโชคดีอย่างหนึ่ง

ถาม : เป็นกรรมอะไรคะ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่ก็ปาณาติบาต ฆ่าคนหรือสัตว์ใหญ่ไว้ แล้วก็ไปทำพร้อม ๆ กัน ถึงเวลาก็โดนคืนพร้อม ๆ กัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-02-2015 เมื่อ 03:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #77  
เก่า 14-02-2015, 17:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่มีนิสัยอาฆาตพยาบาท ทำกรรมอะไรมาคะ ?
ตอบ : พวกนี้อยู่ที่สภาพจิตของเขา ไม่ใช่เรื่องของการสร้างเวรสร้างกรรม ถ้าหากว่าสภาพจิตไม่ยอมให้อภัยคน ก็จะอาฆาตพยาบาทไปเรื่อย จนกว่าเขาจะเห็นทุกข์เห็นโทษของความอาฆาตแล้วคิดได้เอง ว่าจะอาฆาตหรือไม่อาฆาต อีกฝ่ายเขาก็มีทุกข์เป็นปกติอยู่แล้ว อาฆาตหรือไม่อาฆาตอีกฝ่ายเขาก็ต้องป่วยต้องตายเป็นปกติอยู่แล้ว ถ้ามีปัญญามาถึงระดับนี้ก็จะค่อย ๆ เลิกอาฆาตไปเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-02-2015 เมื่อ 03:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #78  
เก่า 14-02-2015, 19:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เหล็กไหลคืออะไรครับ ?
ตอบ : เหล็กไหลคือโลหะธาตุอย่างหนึ่ง ที่เกิดจากการผสมผสานของแร่ธาตุโดยธรรมชาติ แต่ในส่วนที่ผสมผสานเข้าไปนั้น มีวิญญาณคือเครื่องรับความรู้สึกด้วย ก็เลยทำให้มีความรู้สึก กินได้ หนีได้ เพียงแต่ขาดดวงจิตที่เป็นธาตุรู้เท่านั้น ถ้ารออีกสักหน่อยก็อาจจะมีธาตุรู้เข้าไปผสมด้วย กลายเป็นตัวเป็นตนกำเนิดมนุษย์ขึ้นมาใหม่ แต่ก็อีกนานเหลือเกิน นานจนประมาณไม่ได้

เพราะฉะนั้น..การกำเนิดมนุษย์จากธรรมชาติก็ยังคงมีการกำเนิดเป็นปกติ เพราะพวกบรรดาธาตุ ๆ ต่างในจักรวาลโคจรหมุนเวียนชนกันไปผสมกันมา ท้ายสุดก็เกิดขึ้นมาเป็นธาตุโน้นธาตุนี้ เพียงแต่ว่าความเป็นมนุษย์ของเรามีธาตุรู้อยู่ด้วย การมีต้นธาตุคือตัวพ่อตัวแม่อยู่ทำให้เกิดได้ง่ายกว่า ทางการเกิดแบบธรรมชาติด้านโน้น อีกกี่หมื่นกี่แสนล้านปีก็ไม่รู้กว่าที่จะได้สักคน

ถามว่ายังมีไหม ? มี..ยังมีเกิดขึ้นเรื่อย ๆ เพียงแต่ว่าในช่วงอายุของเราคงไม่ได้เห็นการเกิดขึ้นหรอก พวกนี้เวลาเกิดขึ้นมาก็อยู่ในลักษณะของโอปปาติกะคือ พอได้ธาตุครบก็ผุดขึ้นมาเลย อย่างที่โบราณเขาว่าเกิดในกระบอกไม้ไผ่ ในพระไตรปิฎกก็มีนางเวฬุวดีเกิดในกระบอกไม้ไผ่ นางจิญจมาณวิกาที่มาผจญพระพุทธเจ้านั้นเกิดในโพรงต้นมะขาม


ถาม : ทำไมดวงจิตถึงเลือกธาตุมาเกิดแบบนั้น ?
ตอบ : เขาไม่ได้เลือก ธรรมดาเป็นอย่างนั้นเอง ผสมผสานกันไปเรื่อย ๆ แล้วมีธาตุรู้เข้าไปชนด้วยก็สำเร็จขึ้นมา เหมือนกับแร่ธาตุใต้โลกของเรา หมุนไปหมุนมา โดนหลอมไปหลอมมาก็เป็นธาตุโน้นบ้างธาตุนี้บ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-02-2015 เมื่อ 03:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #79  
เก่า 14-02-2015, 19:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : โลกมีกี่จักรวาลครับ ?
ตอบ : มีนับไม่ถ้วนเลย ถ้าในมงคลจักรวาลที่อยู่ในสุริยจักรวาลของเรานี้ ก็มีอยู่แค่ ๔-๕ โลกนี้แหละ การนับจักรวาลของทางวิทยาศาสตร์กับการนับจักรวาลของทางพุทธศาสนา บางทีก็ตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้าง เพราะว่ามนุษย์เราศึกษาไปแค่สุดสายตาที่เห็น ก็คือใช้กล้องส่อง แต่ว่าทิพจักขุญาณของพระพุทธเจ้าไม่มีอะไรบดบังได้ พระองค์ท่านจึงรู้ได้ละเอียดกว่า ถึงขนาดกำหนดว่าจักรวาลขนาดเล็กประกอบไปด้วยดวงดาวแค่นี้ มีโลกธาตุเท่านี้ จักรวาลขนาดกลางมีเท่านี้ จักรวาลขนาดใหญ่มีเท่านี้ พระองค์ท่านบอกไว้ละเอียดมากเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-02-2015 เมื่อ 03:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #80  
เก่า 14-02-2015, 19:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คำว่าโลกธาตุคืออะไรคะ ?
ตอบ : โลกธาตุในพระไตรปิฎก คือโลกที่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ เพราะว่าจักรวาลประกอบไปด้วยดวงดาวที่มีทั้งมนุษย์และสัตว์และที่ไม่มี อย่างสุริยจักรวาลของเราก็ถือว่าเป็นจักรวาลหนึ่ง แต่ว่าในทางพุทธศาสนาเป็นเพียงส่วนประกอบส่วนเดียวเท่านั้น ยังไม่ใช่จักรวาลแท้ที่พระพุทธเจ้าท่านกล่าวถึง ถ้าสุริยจักรวาลยังเป็นแค่เสี้ยวเดียว แล้วลองคิดดูว่ามหาจักรวาลจะใหญ่ขนาดไหน ? มีตั้งหนึ่งแสนโลกธาตุ

ถาม : จักรวาลใหญ่ที่พระพุทธเจ้าบอก ที่อื่นก็ลักษณะคล้ายกับเรา ?
ตอบ : ก็คล้าย ๆ กันหมด เพียงแต่ว่าความหยาบความประณีตขึ้นอยู่กับสิ่งที่เขายึดถือปฏิบัติกัน ถ้าจิตใจอ่อนโยนก็มักจะสวยงาม ถ้าจิตใจโหดร้ายก็มักจะหน้าตาดูไม่ได้ ของบ้านเรานี่ผสมปนเปกันหมด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-02-2015 เมื่อ 03:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:05



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว