#1
|
||||
|
||||
พระขรรค์โสฬส ๘๔ พรรษาธรรมิกราช
พระขรรค์โสฬส ๘๔ พรรษาธรรมิกราช สร้าง วันอังคารที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑ ปีเถาะ พุทธาภิเษก วันเสาร์ที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๕ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะโรง จำนวนสร้าง ๘๔ เล่ม ทุกเล่มมีหมายเลขกำกับ บันทึกรายชื่อเจ้าของตามลำดับหมายเลขที่จอง แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย มะลิแก้ว : 10-06-2015 เมื่อ 12:21 |
สมาชิก 79 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มะลิแก้ว ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้กำลังซุ่มทำวัตถุมงคลอยู่อย่างหนึ่ง เพื่อเฉลิมพระเกียรติในหลวง ๘๔ พรรษา ซึ่งจะมีแค่ ๘๔ ชิ้นเท่านั้น กำลังจ้างช่างฝีมือระดับโลกทำอยู่ ช่างคนนี้ในวงการโลหะถือว่าติด ๑ ใน ๑๐ ของโลก เป็นคนไทย ค่าตัวแพงหน่อย ชื่อบุญเรือน หงษ์มณี ว่าจะใส่บรรดาโลหะอาถรรพ์ที่สะสมไว้ทั้งหมดลงไป โดยเฉพาะพญาเหล็กที่บางคนเรียกว่าเหล็กไหล ตอนแรกเอาพญาเหล็กก้อนใหญ่ไปให้เขาดู ถามว่าหลอมไหวหรือไม่ ? ช่างพลิกซ้ายพลิกขวาดูแล้วบอกว่าสบาย ด้วยความรู้เกี่ยวกับโลหะศาสตร์ของเขามั่นใจว่าหลอมได้แน่ คนไทยที่ฝีมือดี ๆ มีเยอะมากเลย แต่เราจะมีโอกาสได้เจอหรือเปล่า ? อย่างช่างที่แกะพระจำหน่ายทั่วไปที่เป็นโอท็อป ต้องทำชิ้นงานเยอะ ดังนั้นความประณีตจะน้อย แต่ช่างที่อาตมาให้แกะพระยืน เขารับงานทีละชิ้น เขาจะทุ่มเทให้กับชิ้นงานได้มากกว่า ความละเอียดประณีตของงานก็จะมากกว่า" พระอาจารย์กล่าวว่า "ใครที่มีเงินเหลือเฟือสัก ๘๔,๐๐๐ บาท เก็บ ๆ เอาไว้หน่อยนะ เพราะว่าอาตมากำลังทำวัตถุมงคลชิ้นหนึ่ง เป็นที่ระลึกในหลวง ๘๔ พรรษา จึงทำแค่ ๘๔ ชิ้นเท่านั้น ทำจากโลหะผสม อาตมาจะใช้โลหะอาถรรพ์ทุกอย่างที่เก็บเอาไว้ลงทีเดียวหมดเลย ไม่ว่าจะปรอทเงิน ปรอททอง พญาเหล็กสีเงินยวง สีปีกแมลงทับ สีปีกแมลงภู่อะไรก็ใส่ลงไปทีเดียวหมด ช่างที่ขึ้นรูปวัตถุมงคลก็ถือว่าเป็นช่างที่ได้รับการยอมรับฝีมือในระดับประเทศ ส่วนท่านที่ทำหน้าที่หล่อนี้ วงการโลหะศาสตร์ของโลกยอมรับว่าเขาเป็น ๑ ใน ๑๐ ของสุดยอดนักโลหะศาสตร์ ที่ต้องการระดับนั้นเพราะกลัวว่า จะไม่สามารถหลอมโลหะทุกอย่างให้เข้ากันได้ ทำแค่ ๘๔ ชิ้น คิดชิ้นละ ๘๔,๐๐๐ บาท หลาย ๆ คนรวมกันเอาไปชิ้นหนึ่งก็ได้ ทุกอย่างที่ทำออกมาจะทำให้ดูดีสมพระเกียรติที่สุด ดูแล้วก็ได้แต่ชื่นชมน้ำลายหก แตะไม่ถึง ยกเว้นว่าใครไม่กลัวกินแกลบก็แล้วไป นับเป็นการลงทุนมหาศาลแต่ทำงานชิ้นน้อยมาก จนกระทั่งช่างเขายังถามว่าเอาจริงหรือ ? จริงสิ..จะทำมากไปทำไมเล่า ทำน้อย ๆ ให้เขาแย่งกันดีกว่า ไม่ใช่อะไรหรอก โลหะของเรามีน้อยด้วย ทำมาก ๆ แล้วจะไปหาโลหะผสมได้สักเท่าไร" ถาม : ออกเมื่อไรครับ ? ตอบ : ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดน่าจะออกภายในสิ้นปีนี้ ถ้าใครไปงานที่วัดสระพังจะเห็นอาตมาถือต้นแบบอยู่ เท่าของจริงทุกกระเบียดนิ้ว ไม่ต้องจองหรอก ๘๔ เล่มนี่หาคนจองยากเพราะราคาแพงมาก กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะใส่ทองคำเท่าไรดี ถาม : เอาเยอะ ๆ ครับ ตอบ : เข้าใจยุนะ ให้อาจารย์เจ๊งไปก็แล้วกัน เพราะคิดราคาเท่านั้นแหละ ไม่ได้เพิ่มขึ้นสักบาท ตอนนี้ที่แน่ ๆ ก็คือ ใส่ตะกรุดมหาสะท้อนกับตะกรุดโสฬสลงไปแน่ ๆ ตะกรุดโสฬสหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ๑ ดอก หลวงปู่เนียม วัดน้อย ๑ ดอก เสียดาย..น่าจะตะไบให้ไปหน่อยหนึ่งก็พอ นี่ดันให้เขาไปทั้งดอกเลย..! อ้างอิงจาก...เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนตุลาคม ๒๕๕๔
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย มะลิแก้ว : 16-06-2015 เมื่อ 18:20 |
สมาชิก 81 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มะลิแก้ว ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
พระอาจารย์พูดถึงพระขรรค์โสฬส ๘๔ พรรษาธรรมิกราชว่า "อาตมายังไม่เคยเจอวัตถุมงคลอะไรที่ทำยากเย็นขนาดนี้มาก่อน มีแต่สารพันปัญหา ยังโชคดีที่หลวงพี่นิล (พระอาจารย์ธวัชชัย ชาครธมฺโม) ท่านเมตตาดาหน้าเข้ารับไว้แทนหมดทุกอย่าง อาตมามีหน้าที่จ่ายเงินเท่านั้น เจอหน้ากันแต่ละครั้งท่านจะระบายน้ำไหลไฟดับ "ช่างเคยทำมาก่อนแท้ ๆ สั่งให้ทำใหม่ ก็ยังทำผิดอีก ต้องไปคอยคุมคอยจี้ทีละเล่ม" สำหรับฝักพระขรรค์ต้องเปลี่ยนเป็นไม้สักทอง ไม้สักทองนี่ใช้ไม้กระดานเก่าได้ เพราะไม้กระดานเก่าจะไม่ยืดไม่หดแล้ว ขนาดไม้สักทองที่เกาะพระฤๅษีเป็นไม้บ้านเก่านะ ยังมีการยืดหดอยู่เลย เพราะว่าไม้มีขนาดใหญ่ ส่วนที่ยืดขยายหรือหดตัวจึงมีสูง" "งานทุกอย่างจะมีอุปสรรคขัดขวางตลอด อย่างช่างที่ทำฝักพระขรรค์โสฬสเอางานไปดองอยู่เป็นเดือน ๆ ตอนนี้มาแจ้งว่าไม่สามารถจะทำทันกำหนดได้ แต่ไม่เป็นไรหรอก..ขอให้ตัวพระขรรค์เสร็จมาเข้าพิธีแล้วกัน ฝักเอาไว้ทีหลัง งานทุกขั้นตอนมีอุปสรรคตลอด ต้องค่อย ๆ แก้ไขกันไป โดยเฉพาะหลวงพี่นิล เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน ปะฉะดะ พูดง่าย ๆ ว่าตอนนี้ช่างหลวงแทบทุกประเภท พวกช่าง ๑๐ หมู่นะ ต้องรู้จักหลวงพี่นิลหมดแล้ว เพราะว่าถ้าไม่ได้ฝีมือระดับนั้นท่านก็ไม่เอา เสียดายตรงที่ฝักไม้พะยูง ไม้ที่ได้มาไม่ใช่ไม้แห้งค้างปี เป็นไม้ที่เขาโค่นต้นเลย พอเป็นไม้สดเอามาทำชิ้นงานบาง ๆ แบน ๆ อย่างฝัก การหดตัวก็เลยมีมาก สมัยนี้เขาใช้วิธีจู่โจมเร่งด่วน เพราะรู้ว่าถ้ามัวแต่ไปตั้งแคมป์ ตัดไม้เลื่อยไม้อยู่มีหวังโดนจับแน่ ๆ เขาใช้วิธีเข้าไปถึงก็ล้มไม้แล้วผ่าเลย ขนขึ้นรถได้ก็เผ่นแน่บ ที่แสบที่สุดก็คือไม่โค่นต้นด้วย ไปถึงก็เอาเลื่อยยนต์เจาะเฉพาะตรงกลางต้น ให้ได้ขนาดที่ตัวเองต้องการยาวราว ๔ - ๕ เมตรแล้วก็ยกขึ้นรถไปเลย ต้นไม้ก็โบ๋อยู่ตรงกลาง ถ้าไม่โดนลมพัดโค่นต้นไม้ก็ไม่ตาย" พระอาจารย์กล่าวว่า "ใครที่เป็นเจ้าของพระขรรค์โสฬส ๘๔ พรรษาธรรมิกราช ขอแนะนำว่าอย่าไปขึ้นคม ถ้าหากว่าลับคมขึ้นมาเดี๋ยวจะเป็นเรื่อง อย่างไรก็ให้ทื่อ ๆ อย่างนั้นแหละ จะได้มีอันตรายน้อยหน่อย" อ้างอิงจาก...เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๕
พระอาจารย์กล่าวว่า "ท่านใดที่ จองเป็นเจ้าของพระ ขรรค์โสฬส ๘๔ พรรษาธรรมิกราช คงจะเห็นแล้วนะเสร็จแล้วหน้าตางามแค่ไหน แต่เนื่องจากเป็นโลหะผสม เนื้อโลหะแต่ละอย่างไม่เท่ากัน ถึงเวลามีการหดตัวเป็นหลุมเป็นร่องบ้าง เป็นตามดบ้าง ถ้าเราจะปะให้เรียบก็ได้ แต่ตรงที่เราปะ จะชุบไม่ติด ก็เลยต้องปล่อยให้เป็นหลุมเล็ก ๆ อย่างนั้น ฉะนั้น..ถ้าเล่มไหนเรียบกริบนี่เป็นของปลอม ของแท้จะไม่เรียบ ต้องมีหลุมมีรอยเหมือนตามด เหมือนอย่างกับแมลงแทะกินไปหน่อย" อ้างอิงจาก...เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๕ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย มะลิแก้ว : 16-06-2015 เมื่อ 18:06 |
สมาชิก 75 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มะลิแก้ว ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "พระขรรค์โสฬส ๘๔ พรรษาธรรมิกราช ๕๐ เล่มแรก น่าจะได้วันที่ ๒๐ ตุลาคมนี้ ใครจองไว้ให้ไปเบิกได้ ส่วนที่เหลือยังค่อนข้างนั่งลุ้นกันตัวเกร็ง ว่าจะเสร็จทันหรือเปล่า ? เป็นวัตถุมงคลชิ้นเดียวที่ใช้เวลาสร้างนานที่สุด ยากลำบากที่สุด เป็นสิ่งที่ควรจะภาคภูมิใจ เพราะขนาดเท่ากับพระแสงขรรค์ไชยศรีทุกกระเบียดนิ้ว ยกเว้นวัสดุที่ต่างกันนิดหนึ่ง อาตมาใส่บรรดาโลหะอาถรรพ์ต่าง ๆ ที่สะสมมา ๒๕ - ๒๖ ปี ลงไปหมดเลย ตรงจุดนี้ถ้าไม่ได้โรงงานของคุณวิทย์ ปกติแล้วไม่มีใครเขาทำได้ คุณวิทย์เขาเป็นนักหลอมโลหะมือหนึ่งของประเทศไทย เวลามีงานเกี่ยวกับโลหะศาสตร์ต่าง ๆ ของต่างประเทศ เขาจะเชิญคุณวิทย์ไปร่วมงานด้วย อาตมายอมจ่ายค่าแรงแพง ๆ คุณวิทย์ยังแทบจะปล้ำไม่อยู่ เพราะเวลาโลหะหลาย ๆ อย่างรวมกันแล้วเนื้อมักไม่ค่อยจะกลืนกัน นอกจากนี้อาตมายังสูญเงินไป ๒๐๐,๐๐๐ กว่าบาทฟรี ๆ เนื่องจากจะเอาไม้พะยูงมาทำด้ามและฝักพระขรรค์ ไม้พะยูงทำด้ามได้ เวลากลึง ตัด การหดตัวจะมีน้อย แต่พอมาทำฝัก จะยาว ๆ แบน ๆ ไม้ที่ได้มาในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นไม้สด ไม่ใช่ไม้ยืนต้นตาย พูดง่าย ๆ ก็คือโดนขโมยตัดนั่นแหละ พอเป็นไม้สด การหดตัวมีมาก เวลาทำให้แบน ยาว จะทั้งบิดทั้งหด ก็เลยต้องเปลี่ยนจากฝักไม้พะยูงมาเป็นฝักไม้สักทอง โยนเงินค่าไม้พยุงทิ้งไป ๒๐๐,๐๐๐ กว่าบาทฟรี ๆ ไม่พอ ยังต้องจ่ายค่าไม้สักทองไปอีก ๓๐๐,๐๐๐ กว่าบาท" "ถึงได้บอกกับพวกเราว่า เล่มละ ๘๔,๐๐๐ บาทนี่ โคตรจะคุ้มเลย หักกลบลบล้างแล้วไม่รู้อาตมาจะเหลือบ้างหรือเปล่า ? ตอนนี้ที่ตีคร่าว ๆ ก็คือชุบลวดลายทองคำไมครอน เล่มละประมาณ ๑๕,๐๐๐ บาท แล้วชุบลูธิเนียมที่ตัวใบ เล่มละ ๕,๐๐๐ บาท สรุปว่าชุบอย่างเดียวราคาเข้าไป ๒๐,๐๐๐ บาทแล้ว ลูธิเนียม บางคนก็เรียกว่าทองคำดำ เป็นโลหะธาตุตระกูลเดียวกับทองคำ แต่สีออกน้ำเงิน โบราณเขาเรียกว่าจ้าวน้ำเงิน เป็นหนึ่งในส่วนผสมของนวโลหะ ปัจจุบันนี้คนไม่ค่อยรู้จักกัน นี่ถ้าไม่ใช่อาตมาเปิดเผย เชื่อเถอะ..ป่านนี้เขาก็ยังไม่รู้กันว่าจ้าวน้ำเงินคืออะไร พอ ๆ กับสุวรรณขีด สุวรรณขีดของโบราณคือแพลตตินัมหรือทองคำขาว โลหะธาตุนั้นโบราณเขาเรียกอย่างหนึ่ง ปัจจุบันเรียกไปอีกอย่างหนึ่ง งานนี้ถ้าไม่ได้หลวงพี่นิลของพวกเรา ไปช่วยตามงานชนิดกัดไม่ปล่อย จะไม่มีทางสำเร็จเลย เป็นพระคุณอย่างยิ่งที่ท่านเมตตาวิ่งงานให้ เดี๋ยวอีกสักครู่หนึ่งท่านจะมาเบิกเงิน งวดนี้ขอเบิก ๔๐๐,๐๐๐ บาท อาตมายังไม่ได้จ่ายค่าชุบเขาเลยสักบาท เพียงแต่ว่าวางมัดจำเขาไป ๕๐๐,๐๐๐ บาทเท่านั้น" "งานนี้เขาหล่อใบพระขรรค์มาเผื่อเสีย ที่ต้องพยายามอย่างที่สุดก็คือ โลหะที่เป็นตามดเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งเป็นปกติของโลหะผสมที่จะเกิด เพราะว่าประสานกันไม่สนิท กำลังเอาไปให้เขายิงเลเซอร์อุดให้หมด ค่ายิงเลเซอร์ก็อ่วมอรทัยเลย แล้วแต่ละเล่มก็ไม่เท่ากัน อันไหนมีมากก็จ่ายมาก อันไหนมีน้อยก็จ่ายน้อย พอขัดปัดเงาเสร็จสรรพเรียบร้อย ก็ชุบลูธิเนียม ประกอบด้าม ประกอบฝัก ประกอบลาย ใครอยากดูว่าสวยแค่ไหน ไปเปิดดูในกระทู้จองพระขรรค์ ปกติแล้วอาตมาถือคติอย่างหนึ่งว่า วัตถุมงคลทำออกมาต้องสวยที่สุดเท่าที่ทำได้ ถ้าวัตถุมงคลออกมาสวย คนเห็นเขาก็ศรัทธา แต่ต้องยอมรับว่าพระขรรค์โสฬสนี้ ศรัทธาอย่างเดียวไม่พอ ต้องรวยด้วย วัตถุมงคลชิ้นหนึ่งราคาเกือบแสน แล้วที่แน่ ๆ ก็คือ อาตมากับหลวงพี่นิลถือได้อย่างสบาย ๆ แต่คนอื่นต้องอุ้ม ๒ มือ เฉพาะใบอย่างเดียวตอนหล่อเสร็จใหม่ ๆ หนัก ๓.๕ กิโลกรัม..! ลองดูซิว่า..ถ้าเข้าด้ามเข้าฝักประกอบลวดลายเข้าไปแล้ว จะหนักแค่ไหน ส่งให้ใครมีแต่ต้องอุ้มทั้งนั้น ดีเหมือนกันนะ อุ้มแล้วดูเท่ดี..!" อ้างอิงจาก...เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนตุลาคม ๒๕๕๕
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย มะลิแก้ว : 16-06-2015 เมื่อ 18:17 |
สมาชิก 76 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มะลิแก้ว ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เดือนนี้บ้านเมืองเราก็คงวุ่นวาย นิดหน่อย เกิดจากคนกลัวว่าประเทศเราจะเจริญเกินไป ประเภทมือไม่พายแล้วยังเอาตัวราน้ำ ตีนราน้ำยังเล็กไป ก็ถือว่าวาระกรรมของประเทศยังหนักอยู่ ที่สำคัญที่สุดคือในหลวง การสร้างพระขรรค์โสฬส ๘๔ พรรษาธรรมิกราชเสร็จ เรียบร้อยสมบูรณ์แล้ว ปัจจัยที่ได้ก็นำไปสร้างสมเด็จองค์ปฐม ๒๑ ศอก ถวายเป็นพระราชกุศลไปแล้ว เหลืออยู่อย่างเดียวก็คือ กำลังบุญที่ได้มาเมื่ออุทิศถวายไปแล้ว เพียงพอที่จะค้ำให้พระองค์ท่านอยู่ถึง ๙๐ หรือเปล่า ? ตอนนี้หลักชัยไกลเหลือเกิน คนแก่อายุ ๘๕ สุขภาพชำรุด หวังจะให้อยู่ถึง ๙๐ ปี ต้องหวังกันแค่วันต่อวันเท่านั้น ถ้าถึงวาระนั้นก็ไม่รู้จะทำอะไรเพื่อที่จะค้ำให้พระองค์ท่านอยู่ต่อไป ต้องแล้วแต่พระท่านจะเมตตาสงเคราะห์ แต่ว่างานนี้คณะทำงานพระขรรค์โสฬสฯ เดี้ยงกันทุกคน ฝ่ายตรงข้ามเขาไม่ยอม ฝ่ายเรามีพรหมเทวดาสนับสนุน ฝ่ายเขาก็มีพรหมเทวดาสนับสนุน อยู่ในลักษณะว่าเทวดาประจำตัวของใครของมัน เมื่อส่วนกุศลที่ส่งผลให้พวกเขายังมีอยู่ เราพยายามฝ่าอกุศลที่กำลังต้านอยู่ เราก็ต้องรับเละไปเอง..! อาตมาเองต้องไปโดนผ่าตัด เสียเลือดเสียเนื้อส่งท้ายปีเก่าเอาดื้อ ๆ ไม่ได้คิดว่าจะโดนก็โดน แต่ก็ดีใจว่างานที่แทบจะยากเข็ญที่สุดก็สามารถเข็นผ่านไปจนได้" อ้างอิงจาก...เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๕
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย มะลิแก้ว : 16-06-2015 เมื่อ 18:18 |
สมาชิก 104 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มะลิแก้ว ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|