กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 18-10-2009, 14:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,548 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default กรรมตามทัน

ตอนสมัยเด็ก ๆ ก็ยังสงสัยอยู่ ว่าทำไมตัวเองเป็นคนทำบาปขึ้น มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ปวดฟันอยู่ซี่หนึ่ง ปวดจนหน้าบวมไปข้างหนึ่งเลย แล้วก็เห็นว่าสาเหตุเนื่องจากในชาตินี้ไปตกปลา เมื่อก่อนแม่เขาสอนไว้ว่า เวลาวัดเบ็ด อย่าวัดตรง ๆ เพราะถ้าวัดตรง ๆ บางทีปลาจะไม่ติด เขาให้กระชากเฉียง ๆ ขึ้นมา พอกระชากเฉียง ๆ ขึ้นมา ส่วนใหญ่เบ็ดก็จะแทงเหงือก แล้วตะขอเบ็ดก็มักจะไปเกี่ยวโผล่ใกล้ ๆ ตา อาตมาไม่แปลกใจเลยว่าอยู่ ๆ ทำไมหน้าบวมตาบวม

เคยบอกแล้วว่าถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยแล้วช่วงใกล้ ๆ หาย จะเห็นนิมิตว่าตัวเองไปทำอะไรมา แล้วก็มีช้า มีเร็ว มีก่อน มีหลัง บางครั้งอาตมาก็มานั่งเซ็ง บางอย่างตั้งหลายชาติผ่านมาแล้ว ตั้งแต่ครั้งที่เกิดเป็นสัตว์ แต่กรรมเพิ่งจะมาตามทัน อะไรจะตามได้ช้าขนาดนั้น นี่เพิ่งเขียนจบไปเรื่องหนึ่ง ถ้าเขียนไปได้สัก ๒๐ เรื่องจะรวมเล่มสักครั้ง

ที่เขียนนี่ก็คือเขียนเรื่องล่าสุดที่อาตมาเพิ่งโดน อันนี้ก็เป็นประเภทโชคสองชั้น กรรมสองชาติมารวมกัน มีหลายครั้งที่กรรมหลายชาติมารวมกัน แล้วก็ลุยอาตมาเสียทีเดียวเลย

ในส่วนที่เป็นเรื่องของกรรม จะช้าจะเร็วท้ายสุดก็มาสนองจนได้ ไม่ว่ากรรมดีหรือกรรมชั่วที่เราทำมาก็ตาม ให้ผลทั้งนั้น เพียงแต่ว่ามันจะช้า จะเร็ว จะก่อน จะหลัง ให้ตามกาลเวลา ให้ตามลักษณะ ให้ตามผล อย่างของอาตมาก็ไม่ได้คิดว่า บางชาติจะไปไกลถึงขนาดชาติที่เป็นสัตว์เดรัจฉานอยู่ กรรมเพิ่งจะตามมาทัน แต่ขณะเดียวกันกรรมบางอย่างทำในชาตินี้ ก็ตามทันแล้ว

เขาบอกว่ากรรมที่ประกอบด้วยเจตนา มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ได้กระทำสำเร็จลงไปแล้ว กรรมทั้งหลายเหล่านั้นถือว่าเป็นกรรมที่มีความแรง มีความหนัก ตามได้เร็ว ถ้าหากกรรมที่ทำโดยไม่เจตนา อย่างชาติที่เป็นสัตว์ ในเมื่อเป็นสัตว์นักล่า ก็ต้องหาเหยื่อเป็นปกติ แต่ว่าโทษก็มี คุณจะมาอ้างว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานแล้วไม่มีโทษไม่ได้ เพราะไปทำลายชีวิตอื่นเขา ในเมื่อเจตนาไม่มี กรรมไม่หนักพอ ก็เลยกลายเป็นว่ามาช้าหน่อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 04-04-2020 เมื่อ 15:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 119 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 18-10-2009, 14:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,548 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้งล่าสุดที่ผ่านมา เนื่องจากปีนี้ในหลวงจะมีพระชนม์มายุ ๘๒ พรรษา เขาจะคัดเลือกสำนักปฏิบัติทั้งหมดสามพันกว่าสำนักทั่วประเทศ ให้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมดีเด่น ๘๒ สำนัก เพื่อเฉลิมพระเกียรติในหลวง โดยมีรางวัลให้ด้วย ทางสำนักพุทธเขาก็เร่งมาให้ทางวัดส่งประวัติ ซึ่งข้อมูลหนามาก แต่ให้เวลาทำแค่ ๓ วัน อาตมาก็ทุ่มเทเวลาจนไม่ได้พักผ่อน ไม่ได้หลับไม่ได้นอน จะตายแหล่มิตายแหล่อยู่แล้ว พองานเสร็จ คิดว่าเช้านี้สบายแล้ว หลังจากทำกรรมฐานทำวัตรเสร็จ บิณฑบาตกลับมาเรียบร้อย จะนอนตีโปงสักครึ่งวัน ปรากฏว่าเป็นได้แค่ความฝันเท่านั้น

ประมาณตีสามกว่า ๆ ในขณะที่กำลังล้างหน้าอยู่ กำลังจะเอี้ยวคอ...กึ้กเดียว ติดแหง็กอยู่อย่างนั้น เส้นจมจนกระดิกไม่ได้ ปวดจนน้ำตาจะเล็ด กัดฟันครองผ้าขึ้นไปนั่งทำกรรมฐาน นั่งแบบไม่ได้มีความสุขเลย เพราะร่างกายปวดมาก ก่อนจะออกบิณฑบาตก็บอกน้องเล็ก (เลขาฯ) ว่า ให้ติดต่อหมอเทียนมานวดให้ด้วย อาตมากัดฟันไปบิณฑบาต ตอนบิณฑบาตกว่าจะเอี้ยวแต่ละที..ปวดแทบตาย

บิณฑบาตกลับมาก็ได้ข่าวดีอีก น้องเล็กบอกว่าหมอเทียนไม่ว่าง มาได้ก็ตอนบ่ายสี่โมงไปแล้ว พระเจ้า..นี่ตูต้องเจ็บแบบนี้ไปจนถึงบ่ายสี่โมงเลยหรือ ? ฟังดี ๆ นะ เรื่องของกรรมถ้าวาระส่งผล อย่างไรก็แก้ไม่ได้ ก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้นไปตามป้ามิตรมาก็แล้วกัน ป้ามิตรเขาเป็นคนมอญ ป้าเขานวดได้มือหนักเป็นบ้าเลย ถ้าไม่จำเป็นจะไม่เรียกป้ามิตรเด็ดขาด

ฉันเช้าเสร็จก็ไปนอนครางโอย ๆ เพราะกว่าจะเอนถึงพื้นก็แทบตาย ต้องหามุมลงให้ได้ ใครเคยเป็นก็คงจะรู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไร ปรากฏว่าจนเก้าโมงครึ่งแล้วป้ามิตรยังไม่มาเลย ถามน้องเล็กว่าป้ามิตรจะมากี่โมง ? น้องเล็กทำหน้าเอ๋อ ๆ "ให้เรียกด้วยหรือ ?" อาตมาสั่งอยู่ตรงหน้า แต่น้องเล็กกลับไม่ได้ยิน หรือได้ยินแล้วลืม กรรมบังได้ขนาดนั้น

เขาจึงรีบโทรไปหาป้ามิตร ปรากฏว่าป้าแกมาตอนสิบโมงกว่า ๆ มาถึงอาตมาก็บอกว่า "ป้า...เส้นหลังจม กดตรงนี้แล้วจะหาย" ป้าเขาก็บอก "โอ๊ย..ไม่ได้หรอก ต้องจับข้างหลัง ถึงจะขึ้น" แล้วป้าเขาก็ทำ กลายเป็นว่ายิ่งโดนก็ยิ่งเจ็บ บอกว่า "ป้า...เจ็บตรงไหนถ้าไปกดตรงนั้น ก็ยิ่งเจ็บเข้าไปใหญ่ ต้องกดตรงนี้" ป้าเขาบอกว่าไม่ได้หรอก ต้องดึงข้างหลัง แกยืนยัน แกก็ดึงของแกไป อาตมาก็ "พอ ๆ กลับไปเถอะ" ยิ่งทำก็ยิ่งเจ็บ

พอฉันเพลก็ออกไปฉัน แม่ชีก็มาบอกว่า "หลวงพ่อ ฉันยาแก้ยอกดีกว่า ชุดเดียวหายเลย" อาตมาถามว่า "ง่วงหรือเปล่า ? เพราะเดี๋ยวทำงานไม่ได้" แม่ชีเขาก็บอกว่า "ไม่ง่วงหรอก" ปรากฏว่าพอฉันลงไปไม่ง่วงหรอก แต่สลบจนหัวไถพื้นเลย ตอนนั้นนั่นแหละภาพนิมิตโผล่มา เห็นเลยว่าไปทำอะไรมาบ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-12-2013 เมื่อ 18:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 116 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 18-10-2009, 21:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,548 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตอนนั้นสมัยสามก๊ก ไปรบกับเขา ด้วยความที่ไม่อยากให้ทหารเสียชีวิตมาก ก็เลยท้าดวลกับแม่ทัพฝ่ายตรงข้าม ปรากฏว่าฝ่ายนั้นเขามา ๕ คน อาตมาก็เอากับเขาด้วย เพราะการโดนรุม ๑ ต่อ ๕ ถือว่าเป็นเรื่องปกติของตัวเองเลย

วางแผนรบเสียดิบดี ว่าต้องจัดการอย่างไรก่อน เนื่องจากการที่เขาตะลุมบอนเข้ามานั้น ถ้าพลาดแม้แต่นิดเดียว ถ้าโดนเข้าไปนี่โอกาสแก้ตัวจะไม่มีเลย พอเห็นเขาขี่ม้าตีวงเข้ามา อาตมารู้เลยว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะรอด และถ้าพลาดอย่างไรถึงจะตาย โอกาสจะเฉือนกันอยู่แค่เสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น

อาตมาตั้งใจขี่ม้าพุ่งเข้าใส่คนตรงหน้า ปะทะกับเขาเต็มที่ ตอนนั้นไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไร แค่จะกระแทกให้เขาถอย แต่ด้วยความเคยชินของคน ในตอนแรกเมื่อเจอศัตรูก็จะระวังตัวสุดขีด ดังนั้น..พอเราปะทะกับคนหนึ่ง อีกสี่คนเขาจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นเป้าหมาย เขาจะผ่อนคลายความระวังตัวลงนิดหนึ่ง

เมื่อปะทะ คนแรกก็ถอย...ดึงม้ากลับ อาตมาดึงทวนลงมาเหน็บไว้ที่ขาหนีบ แล้วคว้าเอาเกาทัณฑ์ขึ้นมา ช่วงจังหวะที่ม้าเอี้ยว ก็พลิกตัวยิง แล้วฝ่ายตรงข้ามเขาก็เผลอ เลยโดนเข้าตรงคอกับช่วงไหล่พอดีอาตมา ก็เออ..กรรมที่ปวดจนไหล่เอียงก็เพราะอย่างนี้นี่เอง ฝ่ายเขาพอโดนเกาทัณฑ์ก็ตกลงจากม้า ลงไปชักข้างล่างอยู่ตั้งนาน

ปรากฏว่าสี่โมงเย็น หมอเทียนก็ยังไม่มา อาตมาก็สาหัสต่อไป เจ็บอยู่คนเดียว จะทำอย่างไรได้ ไม่ว่าจะลุก จะนั่ง จะยืนมีสติสมบูรณ์หมด เพราะขยับกี่ท่าก็เจ็บ ไม่มีสติก็ไม่ได้ ตอนนอนกว่าจะหามุมลงได้ก็แทบตาย ช่วงที่นอนไม่ค่อยเป็นอะไรเท่าไร เพราะตัวถึงพื้นได้ก็ผ่อนคลาย แต่ตอนที่จะตื่นนี่สิ เหมือนอาการจะหนักกว่าเดิม พอลุกขึ้นมาเหมือนผิดจังหวะ โดนกระชากร่วงลงไปอีก ลุกขึ้นมาสองครั้งก็หล่น สามครั้งก็หล่น เหมือนคนกำลังชักกระตุกอยู่ แล้วก็เจ็บสุด ๆ เลย เหมือนลักษณะที่ฝ่ายเขากำลังชักใกล้ตาย กรรมเล่นเราขนาดนี้เลยหรือ ?

ผ่านไปหนึ่งวัน ตอนบ่ายหมอเทียนก็มา หมอเทียนบอกว่า "ผมมาตั้งแต่สิบโมงเช้าแล้วครับอาจารย์ แต่คิดว่าอาจารย์อาจจะติดฉันเพลหรือพักผ่อนอยู่ ผมก็เลยรอ ไปนวดคนในตลาดก่อน" จะเห็นชัดเลยว่าเรื่องวาระกรรมถ้ายังไม่พ้นวาระ อย่างไรก็ต้องรับก่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-12-2013 เมื่อ 18:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 104 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 19-10-2009, 08:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,548 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อหมอเทียนมา เขาก็ไม่นวด เขาบอกว่าเกิดจากการที่เส้นจมมานาน เพราะอาตมานั่งท่าเดียวอยู่นาน ๆ ไม่สามารถจะดึงเส้นให้ขึ้นได้เลยเสียทีเดียว เขาเลยเปลี่ยนเป็นวิธีขูด เขาใช้ถ้วยขูดเส้น พ่อเจ้าประคุณเถอะ..รสชาติอธิบายไม่ถูกเลยว่าประทับใจขนาดไหน เขาก็บอกว่าพอขูดแล้วต้องเจาะ เพื่อระบายเลือดเสียออก ว่าแล้วก็เอาเข็มจิ้ม ๆ ๆ ๆ

ตอนที่เขาขูดก็เห็นภาพอีกชาติหนึ่ง ชาตินั้นเป็นพะทำมะรง (พัศดีหรือผู้คุม) สั่งมัดนักโทษแล้วก็เฆี่ยน ที่เขาเรียกว่า "โยงแล้วเฆี่ยน" ถ้าจะเฆี่ยนให้แสบก็ใช้หวายแช่เยี่ยว เยี่ยวนี่เป็นเกลือ พอตีแล้วแตก พอแตกไปโดนเกลือรสชาติอย่าบอกใคร เมื่อหมอเทียนขูดและก็จิ้มจนสะใจแล้ว เขาก็บอกว่าอาจารย์เลือดไม่ออก ต้องระบายเลือดเสียออก เขาก็จิ้มใหญ่ แล้วยังมีหน้าหันไปคุยกับน้องเล็กว่า "นี่ผมจิ้มเป็นร้อยเข็มแล้วนะ เลือดไม่ออก" ก็ปรากฏว่าเบาไปสักประมาณ ๗๐ เปอร์เซ็นต์ เหลืออยู่อีกประมาณ ๓๐ เปอร์เซ็นต์ คือเอี้ยวตัวข้างขวาไม่ได้ แต่ไม่เจ็บสาหัสถึงขนาดนอนไม่ได้

ก็เลยตัดสินใจ น้องเล็กมานี่ทีวะ เส้นอยู่ตรงนี้ช่วยกดให้ที ปรากฏว่าน้องเล็กเขากดจนมือสั่นเลย แต่ก็ไม่ลง อาตมาก็เออ...แรงกรรมต้านได้ขนาดนี้เลย พอรุ่งขึ้นต้องมางาน มาที่นี่ พอดีเทวดามาโปรด พระครูแสง (หลวงตาแสงชัย) มาพอดี บอกว่าคุณช่วยกดให้ที ปรากฏว่าตัวเท่าควายอย่างพระครูแสง โหมลงไปทั้งตัว ก็กดไม่ลง คนตัวใหญ่อย่างพระครูแสงกดไม่ลง คนอื่นก็กดไม่ลงหรอก เหมือนกดใส่พื้นหิน ยุบสักนิดก็ไม่มีเลย อะไรจะสนองได้ขนาดนั้น

พระพุทธเจ้าท่านจึงได้ตรัสว่ากรรมวิบาก การส่งผลของกรรมอย่าไปเสียเวลาคิด ส่งได้ขนาดนั้น ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ก็พลิกวิกฤตนี้เป็นโอกาส พิมพ์เอาไว้อ่านเล่นดีกว่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-05-2017 เมื่อ 07:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 95 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 19-10-2009, 08:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,548 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องนี้ที่เล่าให้ฟัง เพราะอยากจะบอกพวกเราว่า การส่งผลของกรรมเป็นเรื่องน่ากลัวมาก ๆ ขนาดพระพุทธเจ้าก่อนจะปรินิพพาน ตั้งใจจะเสวยน้ำก็ยังไม่ได้เลย เพราะว่าในอดีตชาติที่ท่านเป็นลูกชาวนา ปลดควายออกจากไถ พ่อบอกให้พาควายไปกินน้ำ ควายหิวน้ำเพราะเหนื่อยมาทั้งวัน เห็นน้ำก็รี่เข้าใส่ ไม่สนใจอะไร แต่ท่านเห็นว่าน้ำขุ่น ควายเหนื่อยมาทั้งวัน น่าจะได้กินน้ำดีกว่านั้น ก็เลยลากไปหาน้ำที่ใส ทำให้เสียเวลากินช้าไปนิดเดียว

ท่านเองก่อนจะปรินิพพานกรรมนี้ยังตามมาเอาคืน เพิ่งเดินข้ามแม่น้ำไป พอพักใต้ต้นไม้ บอกให้พระอานนท์ไปตักน้ำ ปรากฏว่าเกวียนของพ่อค้า ๕๐๐ เล่มเพิ่งลุยผ่านไป น้ำขุ่นเป็นโคลนเลย พระอานนท์ก็กลับมา กราบทูลพระพุทธเจ้าว่า "ไม่มีน้ำพระเจ้าข้า" พระพุทธเจ้าบอกว่า "ไปเถอะ..น้ำยังมีอยู่" พระอานนท์เห็นมากับตา ในเมื่อเห็นมากับตา แต่ว่าด้วยความที่เคารพพระพุทธเจ้าก็ย้อนกลับไปใหม่ ปรากฏว่าจากน้ำที่เมื่อกี้ขุ่นคลั่ก กลายเป็นน้ำใสแจ๋วเลย

ฉะนั้น..เรื่องการส่งผลของกรรมเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก กระทั่งพระพุทธเจ้าก็ยังไม่เว้น หลวงพ่อฤๅษีท่านโดนแล้วโดนอีก ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า มีอยู่วาระหนึ่งท่านดูเจ้ากรรมนายเวร เห็นเข้าคิวกันยาวเกือบสองกิโลเมตร รอเวลาเอาคืน แล้วพวกนี้ได้โอกาสเมื่อไรก็เอาเมื่อนั้น อาตมาแค่ไปพลาดเอาตอนล้างหน้าเท่านั้น

ในเมื่อกรรมส่งผลทุกอย่าง ก็ให้เลือกทำแต่กรรมที่ดี ๆ หลวงปู่มหาอำพันท่านบอกว่า รักษาตัวกลัวกรรมอย่าทำชั่ว จะหมองมัวหม่นไหม้ไปเมืองผี จงเลือกทำแต่กรรมที่ดี ๆ จะได้มีแต่ความสุขพ้นทุกข์ภัย ตอนแรกอาตมาก็ไม่ค่อยเชื่อหรอก ที่หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่าเป็นทหารมาทุกชาติ นิมิตทีไรก็เห็นแต่ตัวเองเป็นทหาร ก็เลยชักจะเชื่อแล้ว


เทศน์ช่วงบ่าย ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันศุกร์ที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๒
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-12-2013 เมื่อ 18:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 96 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:36



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว