กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 26-03-2009, 16:42
คนเก่า's Avatar
คนเก่า คนเก่า is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: ชมพูทวีป
ข้อความ: 189
ได้ให้อนุโมทนา: 21,727
ได้รับอนุโมทนา 55,311 ครั้ง ใน 1,402 โพสต์
คนเก่า is on a distinguished road
Default ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก



ชนใดไม่มีดนตรีกาล................ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก
อีกใครฟังดนตรีไม่เห็นเพราะ........เขานั้นเหมาะคิดขบถอัปลักษณ์
ฤๅอุบายมุ่งร้ายฉมังนัก..............มโนหนักมืดมัวเหมือนราตรี
และดวงใจย่อมดำสกปรก...........ราวนรกชนเช่นกล่าวมานี่
ไม่ควรใครไว้ใจในโลกนี้............เจ้าจงฟังดนตรีเถิดชื่นใจ

คงจะเคยคุ้นหูเพลงนี้กันบ้าง และหลายท่านคงจะรู้ลึกลงไปอีกว่า
เนื้อร้องเป็นพระราชนิพนธ์ในล้นเกล้า ร.๖ และคุ้นตากับการที่มีผู้
นำไปใช้ยกย่องให้ความสำคัญในการดนตรี

แต่เมื่อได้ศึกษาธรรม ได้บวช ก็พบว่า ดนตรีขัดต่อศีล ๘ ศีล ๑๐
ไปกระทั่งพระวินัยของสงฆ์ พาลนึกไปว่าล้นเกล้า ร.๖ ท่านคงห่าง
ธรรมไปหน่อยกระมัง

ทั้งยังพาลนึกตำหนิว่าเนื้อหาแกว่ง ๆ ออกนอกเรื่องดนตรีไป เหมือน
คิดอะไรไม่ออกก็เป๋นอกเรื่องไป

มาถึงบางอ้อเมื่อรู้ความจริงว่าพระราชนิพนธ์นี้เป็นเรื่องการเมืองล้วน ๆ

ด้วยทรงมีพระทัยกว้างสนับสนุนประชาธิปไตย ไปพร้อม ๆ กับพระปรีชา
ทรงอัจฉริยภาพรอบด้าน แม้การละคร การดนตรี กวีศิลป์ ก็ทรงอยู่ใน
ระดับแนวหน้าในประวัติศาสตร์ของชาติไทย

อีตาหลวงอะไร(ก็จำบรรดาศักดิ์ไม่ได้)คนหนึ่งมีฝีปากกล้า หรือควรเรียก
ฝีปากกากล้า บังอาจเขียนร้อยกรองลงหนังสือพิมพ์มีความนัยกล่าวโทษ
พระมหากษัตริย์ไม่เป็นอันทำอะไร ได้แต่เล่นละคร เล่นดนตรีเอาสนุก
ไปวัน ๆ

ด้วยพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น มิได้ทรงถือโทษแต่อย่างใด เพียง
ปรามกลับด้วยพระทัยเปี่ยมล้นพระเมตตาในเชิงกวีอย่างไพเราะ งดงาม
ถึงจะดุก็ดุตามหลัก เพื่อเตือนให้สำนึกในฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ แต่ยังทรงลง
หางเสียงอย่างปราณียิ่ง หาได้เจือด้วยความพิโรธโกรธเคืองอย่างใดไม่

ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักประชาธิปไตยโดยแท้

ทรงแสดงพระปรีชา พระปฏิภาณ ทรงเลือกใช้ถ้อยคำได้อย่างเหมาะเจาะ
สมแก่เหตุ สมแก่กาล สมบูรณ์บริบูรณ์หมดจดยิ่งนัก

ช่วยกันเผยแพร่ให้ตรงความจริงกันหน่อยเถิด ไม่อยากเห็นผู้ใดนำ
พระราชนิพนธ์นี้ไปใช้ยกย่องการดนตรีอีก เพราะนอกจากจะเป็นเรื่อง
คนละแควแล้ว ยังเป็นการริดรอนไม่ให้พระปรีชาเป็นที่ประจักษ์อย่าง
เต็มกำลัง เหมือนที่อีตาคนเก่าเคยเข้าใจผิดมาแล้ว
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 16 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คนเก่า ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 27-03-2009, 12:00
สายท่าขนุน สายท่าขนุน is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 759
ได้ให้อนุโมทนา: 160,002
ได้รับอนุโมทนา 133,158 ครั้ง ใน 5,305 โพสต์
สายท่าขนุน is on a distinguished road
Wink

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ คนเก่า อ่านข้อความ
ชนใดไม่มีดนตรีกาล................ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก
อีกใครฟังดนตรีไม่เห็นเพราะ........เขานั้นเหมาะคิดขบถอัปลักษณ์
ฤๅอุบายมุ่งร้ายฉมังนัก..............มโนหนักมืดมัวเหมือนราตรี
และดวงใจย่อมดำสกปรก...........ราวนรกชนเช่นกล่าวมานี่
ไม่ควรใครไว้ใจในโลกนี้............เจ้าจงฟังดนตรีเถิดชื่นใจ


ช่วยกันเผยแพร่
ให้ตรงความจริงกันหน่อยเถิด
ไม่อยากเห็นผู้ใดนำพระราชนิพนธ์นี้
ไปใช้ยกย่องการดนตรีอีก

เพราะนอกจากจะเป็นเรื่องคนละแควแล้ว
ยังเป็นการริดรอนไม่ให้พระปรีชาเป็นที่ประจักษ์อย่างเต็มกำลัง
เหมือนที่อีตาคนเก่าเคยเข้าใจผิดมาแล้ว
เห็นว่าข้อความนี้ ควรจะเน้นให้เด่นขึ้นมา
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน
ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว...
กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน

อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายท่าขนุน : 20-10-2009 เมื่อ 01:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 10 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สายท่าขนุน ในข้อความที่เขียนด้านบน
สุธรรม (29-04-2010), สุนิดา (31-12-2020)
  #3  
เก่า 27-03-2009, 13:33
เด็กเมื่อวานซืน เด็กเมื่อวานซืน is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 92
ได้ให้อนุโมทนา: 7,974
ได้รับอนุโมทนา 32,441 ครั้ง ใน 1,052 โพสต์
เด็กเมื่อวานซืน is on a distinguished road
Default

ในสมัยปัจจุบันนี้ ก็ยังมีนักวิชาการบางท่าน หรือ บางคณะ ยังมีทัศนคติที่ไม่ดี ต่อ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวอยู่ไม่น้อยครับ ในแวดวงนักประวัติศาสตร์ลือกันว่า อ.ประจำคณะบางท่านในงานเสวนาเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระองค์ ก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร
แต่พอลับหลัง ก็มีข่าวลือว่า มีการบังคับให้นักศึกษาที่จะทำปริญญานิพนธ์ หรือ วิทยานิพนธ์ก็ตามจะต้องเขียนเนื้อหาไปในเชิงที่จะกล่าวร้ายต่อพระราชกรณียกิจในรัชสมัยของพระองค์ครับ ไม่เช่นนั้น ปริญานิพนธ์ หรือ วิทยานิพนธ์ นั้นก็จะไม่ผ่านครับ

จริง ๆ แล้ว ถ้าจะบอกว่า พระองค์ถูกนักประวัติศาสตร์สมัยใหม่วิพากษ์วิจารณ์(ในทางที่จะทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ) ในเกือบทุก ๆ เรื่องก็น่าจะได้ ตั้งแต่ พระราชกรณียกิจส่วนพระองค์ จนไปถึงเรื่อง พระราชกรณียกิจด้านการเมืองการปกครอง และ ด้านวรรณกรรม ฯลฯ ครับ

ทั้งนี้เหตุผลที่ทำให้เกิดทัศนคติที่ไม่ดีต่อพระราชกรณียกิจต่าง ๆ นั้น น่าจะมาจากเรื่องของ การเมือง โดยส่วนมากครับ

เรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ ก็คงจะไม่พ้น ข้อธรรมในส่วนของ โลกธรรม ๘ ประการ ครับ


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เด็กเมื่อวานซืน : 03-04-2009 เมื่อ 08:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เด็กเมื่อวานซืน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:50



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว