#81
|
|||
|
|||
ตอนลงปากบึงที่ชันนี่ ถือว่ามันสุด ๆ แล้ว ผมเอาก้นไถลไปตามพื้น เอาเท้าไว้คอยเบรก มันจริง ๆ แต่ต้องคอยหลบโขดหินกับต้นไม้หน่อย อ่านไปก็นึกถึงโฆษณาของสวนสยามเอานะครับ (พื้นดินต้องเปียกนิดหน่อย) ไม่อยากจินตนาการ นี่ถ้ามีหิมะหน่อยคงได้เล่นสกีกัน เห็นว่ามีข่าวโหรท่านหนึ่งทำนายว่าเมืองไทยจะมีหิมะตก อยากให้ไปตกแถวเมืองกาญจน์หน่อยก็แล้วกัน จะได้ไปเล่นที่บึงลับแล...
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เทวคันธี : 06-01-2010 เมื่อ 11:17 |
สมาชิก 60 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เทวคันธี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#82
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
ถลึงตา ปากกว้าง ช่างน่าขัน จมูกบาน อย่างกับหมู ดูมันทำ โอ้..เวรกรรม ทำไปได้ ไม่อายคน! คิดดีแล้วหรือคะที่ทำแบบนี้ (อิอิ..ล้อเล่นนะคะพี่ทิดสุดหล่อ) ภาพแรกก็หล่อดีอยู่หรอกค่ะ |
สมาชิก 50 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ยายนุ้ย ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#83
|
|||
|
|||
"ยายนุ้ย" Who are you ?
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม |
สมาชิก 48 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#84
|
|||
|
|||
ภาพของบึงลับแลค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ บึงน้ำสีเขียว แต่งานนี้พระครูหน่อยท่านบอกว่า น้ำยังเยอะอยู่มาก ตอนท่านมาน้ำน้อยกว่านี้ โยม ๆ ทั้งหลายพอเดินทางลงมาถึง ไม่ได้ทันจะหายเหนื่อย เสียงทิดก็ร้องบอกว่า "เดี๋ยวเราจะเดินตัดขึ้นไปทางเดิมแล้วเลี้ยวไปทางซ้ายมือเพื่อไปยังจุดที่หลวงพ่อท่านพักกางกลดในสมัยที่ท่านและคณะมาบำเพ็ญภาวนาที่บึงลับแลแห่งนี้" เราเดินเกาะกลุ่มต่อสู้กับแรงโน้มถ่วงของโลกไต่ระดับขึ้นตามเส้นทางเดิม หันไปมองอีกทีโยม ๆ ทั้งหลายคงจะสู้ไม่ไหว กระผมจึงนิมนต์พระครูหน่อยท่าน หยุดพักกันตรงแคร่ไม้ไผ่ทางลงสู่บึงลับแล เพื่อรอคณะคุณโยมทุก ๆ ท่านให้พร้อมเพรียงกันอีกครั้งก่อนออกเดินทางต่อไป เสียงคนขับเท้าช้างคร่ำครวญมาเป็นระยะ ๆ "โอ๊ย....ไม่ไหวแล้ว รู้แบบนี้รอที่รถดีกว่า" คุณ ญ.ผู้หญิง ก็ปลอบขวัญให้กำลังใจไปหลายชุด เร็ว ๆ "อวบ" , สู้หน่อยนะ "อวบ" , "อวบ" สู้ ๆ ทุกคนต่างก็ให้กำลังใจ มาโยม! ถ้าไม่ไหวก็มานั่งตรงนี้กับหลวงพี่ก่อนก็ได้...โยมตัวใหญ่นั่งยอง ๆ คงจะไม่สะดวก (แต่ระวังแคร่หักนะ) กระผมร้องเรียกก็เพราะเห็นว่าน้ำหนักของคุณโยมคนขับเท้าช้าง คงจะมีปัญหามากกับการต่อสู้กับแรงโน้มถ่วงของโลก งานนี้น้ำหนักคงหายไปอย่างน้อยสองถึงสามกิโลกรัม ดีแล้วจะได้ฟิต "วันหลังไปบวชที่วัดท่าขนุนนะโยม รับรองสุขภาพดีขึ้นแน่นอน หลวงพี่รับประกัน" กระผมแถมไปอีกชุด
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-01-2010 เมื่อ 16:04 |
สมาชิก 72 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#85
|
|||
|
|||
เมื่อทีมงานทุกท่านพร้อม เราก็เริ่มออกเดินทางกันต่อ คราวนี้เราเลี้ยวไปทางซ้าย พระครูหน่อยท่านเคยพูดว่า "การเดินเท้าที่บึงลับแลนี้ ทางไหนที่เรารู้สึกหรือว่ามองดูแล้วเหมือนจะใช่ทางที่ถูกต้อง มักจะเป็นทางที่ผิดเสมอ" ผมเองพยายามสังเกตอยู่เสมอ ๆ จากสภาพป่าที่คล้ายกันไปหมด แน่นอน..ถ้าไม่มีความจำที่ดีเลิศหรือไม่มีความชำนาญในเส้นทางแล้ว....มีสิทธิ์ได้กินข้าวลิงแน่นอนครับ ดูไปดูมาเหมือน "ค่ายกลดอกท้อ" ในหนังกำลังภายในเลยครับ
และแล้วเราก็มาถึงทางลงบึงลับแล ซึ่งทางนี้จะลงไปยังจุดที่หลวงพ่อท่านและคณะมาปฏิบัติธรรม หลวงพี่แอ๋วเคยเล่าให้ฟังว่า คราวก่อนที่ท่านมากับคณะเมื่อปีที่แล้ว มาลุยทำเส้นทางให้คณะญาติโยมก่อนล่วงหน้าหนึ่งวัน ตอนนั้นมันหน้าแล้ง เวลาเดินลงต้องคอยหาต้นไม้เป็นจุดเบรกตัวเอง เพราะน้ำหนักตัวขณะเดินลงไป เมื่อบวกกับแรงโน้มถ่วงของโลกแล้วนั้น กลายเป็นคูณสองทันที ใครเบรกไม่เป็นหรือคำนวณระยะผิด งานนั้นมีเจ็บตัว ซึ่งตอนนั้นกระผมเองก็ยังนึกภาพไม่ออก ว่ามันจะชันขนาดไหน งานนี้พอเจอกับตัวเอง ด้วยสภาพดินที่ลื่นและชื้นแบบนี้ เล่นเอาเลิกเป็นห่วงคณะโยมไปเลย ห่วงตัวเองเอาตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า งานนี้ทำให้ผมท้อใจอยู่ไม่น้อย จะลงทางซ้ายหรือทางขวาดี ถ้าพลาด...มีเจ็บตัวทั้งนั้น และคาดการณ์ได้ว่าไม่ใช่เป็นการบาดเจ็บเล็กน้อยด้วยสิครับ โยมหลาย ๆ ท่าน ไถลก้นลงไปช้า ๆ โดยเฉพาะโยมผู้หญิงทั้งหลาย งานนี้น่าสงสารมาก กางเกงที่สวมใส่กันมามันไม่มีสภาพของสีเดิม ๆ ให้เห็นเลยครับ บางท่านพอกลับถึงวัดถอดชุดลุยป่าชุดนั้นทิ้งถังขยะไปเลย หลายต่อหลายจุดที่ผมเองแทบจะหมดปัญญา เพราะมันอ่านทางไม่ออกว่าจะลงไปแบบไหน..กลัวพลาด แต่จริง ๆ ก็ต้องขอบอกว่ากลัวตายด้วยครับ จนแล้วจนรอดค่อย ๆ ใช้ปัญญา ใช้มือ ใช้เท้า ดีนะครับที่ไม่มีอะไรให้คาบเอาไว้เพื่อยึดตัวเองให้มั่นคง ไม่อย่างนั้นคงจะได้ ใช้ปาก ใช้ฟันด้วยครับ.....ใครยังไม่เคยไปต้องบอกว่า ขอเชิญไปพิสูจน์กับตัวท่านเองครับ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- กระผมพยายามถ่ายภาพย้อนขึ้นไปให้ดูกันครับ ว่าพื้นที่มีความลาดชันขนาดไหน
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 08-01-2010 เมื่อ 08:36 |
สมาชิก 77 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#86
|
|||
|
|||
ในที่สุด...ทุกท่านก็เดินทางมาจนถึงเป้าหมาย คือบึงลับแลฝั่งที่หลวงพ่อและคณะมาปฏิบัติธรรม ไม่น่าเชื่อเราใช้เวลารวมทั้งหมดตอนขาลงมานี้ร่วม ๆ สองชั่วโมง อย่างที่กระผมบอกครับ โยมแต่ละท่านอยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้เลย แม้แต่กระผมเองยังลื่นล้มไปสองครั้ง แต่รักษาสภาพเอาไว้ได้จนญาติโยมบอกว่า "หลวงพี่ทั้งสองท่านยังดูสง่างามเหมือนเดิมนะขอรับ หากกระผมเอาเสื้อผ้าชุดนี้ไปให้ภรรยาซักมีหวังโดน......แน่ ๆ ขอรับ"
ระดับน้ำของบึงในช่วงนั้นสูงมาก สูงจนท่วมลานดินที่พระครูหน่อยพยายามชี้ให้ดูว่า คือจุดที่หลวงพ่อท่านเดินจงกรม น้ำสีเขียวเข้มในบึงก็ดูน่าพิศวง ดูน่าเกรงขามอยู่ไม่น้อย ใครจ้างกระผมให้ลงไปว่ายน้ำ ต่อให้เอาเงินมากองก่อนสักล้าน ผมเอาแต่เงินครับ คงไม่กล้าลงไปว่ายแน่นอน "กลัวอวัยวะบางอย่างจะหายไปครับ" ถ้ามันหายไป กระผมคงเสียสมดุลในบางเรื่องไปเลยครับ...... เมื่อพักผ่อนจนพอจะหายเหนื่อยแล้ว เราก็เดินเลี้ยวซ้ายไปยังเพิงผาด้านหน้า เห็นร่องรอยของการปรับระดับหน้าดินให้เรียบเพื่อสะดวกในการปฏิบัติและกางกลด ตลอดจนข้าวของต่าง ๆ พวกเครื่องอำนวยความสะดวกในการหุงหาอาหารที่จัดเก็บเอาไว้อย่างเรียบร้อย เราอยู่จุดนี้ไม่นาน กระผมนำคณะญาติโยมอุทิศส่วนกุศลแล้ว เราก็เดินทางกลับออกมาทันที เพราะเราต้องแข่งขันกับเวลา และกลุ่มเฆมฝนกลุ่มใหญ่ ที่มีทีท่าว่าจะตกในไม่ช้านี้ ถ้าฝนตกการเดินทางก็คงต้องยากลำบากขึ้นแน่นอน เพราะคราวนี้เราต้องเดินไต่ระดับขึ้นไป ตอนที่กระผมเอามือแตะต้นไผ่ ท่านเทวดาท่านก็แสดงตัวเหมือนเดิมครับ ในอาการแบบที่กระผมรับรู้ได้ ที่เขียนเล่าไว้แล้วก่อนหน้านี้ครับ หากจะดูขนาดของลำไม้ไผ่ ในภาพเมื่อเปรียบเทียบกับมือของกระผมแล้ว โอ้..ไผ่แต่ละลำที่บึงลับแลนี้มีขนาดใหญ่จริง ๆ ครับ อีกเรื่องหนึ่งซึ่งจริง ๆ แล้ว ก็ต้องขอบอกให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณพิจารณากันก็คือ ตอนที่กระผมพยายามปีนขึ้นไปบนก้อนหิน ซึ่งตอนนั้นกระผมพยายามหาเส้นทางอื่นแล้ว แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิด มองไปด้านไหนมันก็มีความลาดชันมาก จึงพยายามปีนขึ้นไป แต่บังเอิญกระผมพลาด ตอนนั้นคิดว่างานนี้เจ็บตัวแน่ ๆ แค่คิดเท่านั้นเอง ก็มีแสงกระพริบ ๆ พร้อมเสียงคล้าย ๆ เสียงไฟแฟลชกล้องถ่ายรูปดังมาในอากาศ พร้อม ๆ กับรู้สึกเหมือนมีคนมาดันข้างหลัง ให้ประคองตัวขึ้นไปได้ ไม่เสียหลักลื่นล้มแล้วร่วงลงไปครับ กระผมเองเชื่อว่าได้รับความสงเคราะห์จากเทวดาบริเวณนั้นครับ นี่เป็นประสบการณ์หนึ่งที่กระผมยังจำได้อย่างเด่นชัด....สาธุ ขอโมทนาบุญและขอกราบขอบพระคุณที่ช่วยอนุเคราะห์
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 07-01-2012 เมื่อ 03:56 |
สมาชิก 86 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#87
|
|||
|
|||
เรื่องราวในช่วงชีวิตหนึ่งของกระผม ซึ่งถือได้ว่าเป็นช่วงชีวิตที่ดีที่สุดและกระผมมีความสุขที่สุด นับตั้งแต่จำความได้จนถึงปัจจุบัน "สุขใดเล่าจะสู้ความสุขในรสพระธรรมคำสอนแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้"
สิ่งละอันพันละน้อยที่กระผมเองเอาตัวเข้าแลกมา มันหลอมรวมเป็นสิ่งที่ใหญ่ขึ้น ๆ ในทุกขณะจิต สว่างขึ้น สงบขึ้น ถึงแม้ว่าวันเวลามันจะหมุนผ่านไปอย่างรวดเร็ว......การดำเนินชีวิตที่มีเป้าหมายสูงสุดคือพระนิพพาน มันคือเส้นทางเอกและกระผมกำลังเดินก้าวต่อไปอย่างมั่นคง
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 11-01-2010 เมื่อ 07:28 |
สมาชิก 79 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#88
|
|||
|
|||
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 13-01-2010 เมื่อ 19:48 |
สมาชิก 56 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#89
|
||||
|
||||
ผมเคยนั่งคุยกับพี่ทิดตู่คุณหม่อมและคุณนรินทร์ ว่าทำไมพี่รัตน์ถึงได้เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ เปรียบได้เหมือนน้ำที่ล้นออกมาจากแก้ว
|
สมาชิก 60 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ต้อมบางพูน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#90
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
ค่อนข้างจะเชื่อแล้ว... |
สมาชิก 59 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ชินเชาวน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#91
|
|||
|
|||
สำหรับหลาย ๆ ท่าน คนที่เปิดลิงค์ไปดูแรก ๆ จิตก็คิดไปว่ากระผมจะเล่นอะไรให้หัวใจวายหรือเปล่า ทั้งภาพและเสียงช่วงแรก จิตมันปรุงแต่งไปแล้วว่าน่าจะเป็นหนังสยองขวัญประเภทที่อยู่ ๆ ก็มีอะไรน่ากลัว ๆ มาโผล่ที่หน้าจอ จิตมันปรุงแต่งไปโน่น ไปนี้ ไปนั้น ตามแต่ภาพและเสียงจะนำไป......เท่าที่ทราบบางท่านมีการภาวนาไปด้วยในขณะนั้น
สุดท้าย....พอดูไปเรื่อย ๆ จิตมันก็ค่อย ๆ รับรู้ว่าคือเรื่องราวอะไร มันต่างจากจิตที่คิดปรุงแต่งไปก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง ขำได้หัวเราะได้แต่หันกลับมามีสติลองคิดย้อนไปดูว่า เราปรุงแต่งตามอะไรไปบ้างครับ
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 14-01-2010 เมื่อ 09:51 |
สมาชิก 73 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#92
|
|||
|
|||
สิ่งละอันพันละน้อย
วันหนึ่งในขณะเดินบิณฑบาตบริเวณตลาดทองผาภูมิ มีครอบครัวหนึ่งมารอใส่บาตร โดยปกติผู้เป็นแม่จะเป็นคนตักบาตรเสมอ วันนี้เห็นให้ลูกชายซึ่งไม่คุ้นหน้าคุ้นตามากนักเป็นคนตักบาตร พระทั้งหมดร่วมสิบกว่ารูป น้องชายคนนั้นตักเอา ๆ เต็มทัพพีเท่าที่กระผมมองแค่พระเจ็ดองค์ข้าวก็คงจะหมดแล้ว "ลูกตักแค่องค์ละครึ่งทัพพีสิ...เดี๋ยวใส่บาตรไม่ครบทุกองค์นะลูก" "แม่....เดี๋ยวพระท่านฉันไม่อิ่ม" น้องชายคนนั้นหันไปตอบพร้อมสีหน้าจริงจัง แถมตักบาตรพระบางองค์สองทัพพีใหญ่ ๆ ส่วนผมเองก็ได้แต่แอบยิ้มในใจ..สาธุโมทนาด้วยแต่ข้าวจะเหลือถึงหลวงพี่หรือเปล่าโยม ?
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 27-01-2010 เมื่อ 10:06 |
สมาชิก 79 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#93
|
|||
|
|||
"ฝี"
ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์: หลวงพ่อครับ ก่อนจะสึกทำไมกระผมต้องเป็นฝีครับ ก่อนจะเดินทางไปไหนมาไหนก็เหมือนกัน เช่นไปกราบหลวงตาโมเช่ก็เป็นครับ ตอนไปบึงลับแลก็เป็นครับ เป็นแต่ที่ขาทั้งนั้นเลยครับหลวงพ่อ ไม่ทราบว่าที่เป็นฝีแบบนี้หมายถึงอะไรขอรับหลวงพ่อ หลวงพ่อ: อ๋อ...ความดีมันจะทะลักนะสิคุณ ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์:
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม |
สมาชิก 69 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#94
|
|||
|
|||
"คดีเด็ด"
วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ เวลา ๒๒.๓๕ น. สายลับจับบ้านน้อย:ว.๑ เรียก ว.๒ จึ๊กกะดึ๋ย ๆ ทราบแล้วเปลี่ยน ว.๒: ทราบแล้วว่าอย่างไร? สายลับจับบ้านน้อย: มีรถผู้ต้องสงสัยเลี้ยวเข้ามาในบริเวณเป้าหมาย พร้อมมีชายฉกรรจ์ ๓ คนเดินลงจากรถ หมายเลขทะเบียน กฉ ๘๒xx ภูเก็ต คาดการณ์ว่าน่าจะเป็นผู้ร่วมขบวนการ นำรถมาส่งมอบ จึงแจ้งเพื่อให้เพิ่มกำลังและดำเนินการตามแผนเดิม ทราบแล้วเปลี่ยน ว.๒: ทราบแล้วเลิกกัน ทิดโมช : ตามสบายเลยทิดรัตน์ พักที่นี่รับรองปลอดภัย เอ้า..อาบน้ำอาบท่าให้ชื่นใจก่อน กาแฟ โอวัลติน ขนม ผลไม้ บนโต๊ะตามสบายเลย ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์: ครับ ๆ โห..ขับรถมาบ้านทิดนี่ไกลเหมือนกันนะ เอ้า..คุณกิ๊ก ไปอาบน้ำก่อนสิ เอ้อ..ทิดโมช ผมไม่มีผ้าเช็ดตัวมา เพราะเมื่อคืนพักโรงแรม แต่วันนี้โรงแรมเต็ม เลยตัดสินใจมาพักด้วย คิดถึงได้เจอก็ดีใจ เพื่อนร่วมสถาบัน.... คุณกิ๊ก: สถาบันอะไรหรือพี่ ? ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์: "Thakhanun temple" หลังจากคุยกันพอหอมปากหอมคอ เวลาก็ผ่านเลยไปถึงเที่ยงคืนกว่าแล้ว เราทั้งสามคนก็แยกย้ายกันเข้านอนตามสภาพร่างกายที่เหนื่อยอ่อนพอสมควร โดยเฉพาะผม เดินตะลุยหาข้อมูลจาก "เวิ้งนครเกษม" ไปทะลุ "เยาวราช" และจบที่ "วงเวียน ๒๒" งานนี้เป็นฝีที่เท้าอีกตามเคย จะเดินทางไปไหนมาไหน มีอันต้องเป็นทุกที สงสัย "ความดีมันจะทะลัก" อย่างที่หลวงพ่อบอก
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-02-2010 เมื่อ 03:00 |
สมาชิก 71 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#95
|
|||
|
|||
เวลา ๕.๔๕ น. เช้าตรู่ของวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓
"เฮ้ย! วางกำลังล้อมเอาไว้ ระวัง ๆ มันมีปืนนะ ออกมามอบตัวดีกว่า นั่น ๆ มันซุกอยู่ตรงนั้น ค่อย ๆ ล้อมเข้าไป อย่าต่อสู้นะ ถ้าต่อสู้เจอวิสามัญฯ นะ ระวัง ๆ ออกมา ๆ กูสั่งให้ออกมา ชูมือขึ้น....นอนลง" เสียงอึกทึกครึกโครมดังขึ้นมาจนถึงชั้นสี่ กระผมและทิดโมชนอนกันอยู่ในห้องได้ยินเสียงแปลก ๆ ก็สงสัยว่าเสียงอะไรจึงรีบเปิดประตูออกไปดู เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยอาวุธครบมือ ล้อมจับผู้ต้องหา ทิดโมช : ทำอะไรกัน? ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์: ทิดโมชเข้าห้องดีกว่าท่าน อาวุธครบมือเลยนะ คงไม่ได้มาเล่นไล่จับกันหรอก อันตรายเดี๋ยวเจอลูกหลง....ส่วนคุณกิ๊กนอนกรนอยู่ในห้อง อือม์ รายนี้นอนหมดสภาพจริง ๆ กระผมเองก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย เข้าใจไปว่าตำรวจคงมาไล่จับคนส่งยาบ้าหรือขโมยกระจอก ๆ อะไรทำนองนั้น แต่เมื่อตื่นแล้วจะไปนอนต่อก็ใช่เรื่อง ทิดโมชเปิดทีวีดูข่าว พร้อมส่งเสียงเชิญชวนให้ชงกาแฟดื่มกัน ไม่กี่อึดใจคุณกิ๊กก็ตื่นมาร่วมวงกาแฟ สนทนากันอย่างได้อรรถรส จนเวลาผ่านไปใกล้จะแปดโมงเช้าแล้ว จึงทยอยกันอาบน้ำเตรียมตัวออกไปทำธุระ ตามกำหนดการต่าง ๆ ได้เวลาออกเดินทางแล้ว เอาช่วยกันอาราธนาพระแก้วใสทรงเครื่องทั้ง ๕ องค์ไปที่รถ โดยคุณกิ๊กยกไปสององค์ ผมสององค์ ทิดโมชหนึ่งองค์ กำลังใจมันฟูมาก เพราะจะได้นำไปถวายหลวงพ่อ "ถวายพระแก้วใส ทุกเดือนแบบนี้ ตายไประวังจะมองกายทิพย์ตัวเองไม่เห็น เพราะอานิสงส์การถวายพระแก้วใสนั้น ทำให้กายทิพย์มีความใสสว่างมาก ๆ" ทิดโมชเล่าให้ฟังว่าหลวงพ่อท่านบอกทิดโมชและคณะแบบนี้ กำลังใจของผมมันเลยฟูมาก ยกแบบเกร็งแขนตั้งแต่ชั้นสี่ ลงมาชั้นล่าง พอเจ้ากิ๊กหันมาบอกเท่านั้นว่า "พี่รัตน์รถหาย เมื่อคืนพี่จอดรถตรงนั้นหรือเปล่า" เท่านั้นแหละครับโผล่หน้าออกไปดู พลางคิดในใจอะไรมันบังตูหรือเปล่าวะ ?(ในความเป็นทิพย์ ท่านใดมาแกล้งหรือเปล่า ? ถ้าแกล้งกันเป็นได้มีเรื่อง..มีเรื่อง) แล้วสิ่งที่ได้เห็นมันคือความว่างเปล่า รถหายไปจริง ๆ กำลังใจที่ยกพระแบบแขนเกร็ง ๆ คราวนี้อ่อนปวกเปียกไปหมด หาที่วางพระได้ก็รีบกระโจนลงไปตรงบริเวณที่เคยจอดรถเมื่อคืน ค่อย ๆ เอามือแหวกไปในอากาศเผื่อจะเจอรถ (คิดได้อย่างไร..?) แต่ไม่เจอแม้แต่โมเลกุลของรถ....ก๊ากกกกกกกก รถหาย! งานนี้ไอ้หวังตายแน่ ภรรยาคงยื่นซองขาวให้แน่นอน..............
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-02-2010 เมื่อ 16:40 |
สมาชิก 74 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#96
|
|||
|
|||
ทนเสียงกดดันไม่ไหวต้องรีบมาเขียนต่อครับ
ขอบคุณหลาย ๆ ท่านที่โทรมาให้กำลังใจ แถมหัวเราะท้องแข็งกันไป ว่าง ๆ ขอให้เจอประสบการณ์แบบกระผม แล้วคุณจะรู้ว่าขำไม่ออก เมื่อมั่นใจแน่นอนแล้วว่า รถยนต์ของกระผมได้ย้ายสสารไปอยู่ที่อื่นแล้ว งานนี้ก็หน้าซีดกันเป็นแถว ๆ โดยเฉพาะทิดโมชเจ้าบ้าน ทิดโมช: นักการฯ เห็นรถกระบะสีบรอนซ์เงิน สี่ประตู ทะเบียนภูเก็ตบ้างหรือเปล่า ? รถเพื่อนผมหาย จอดไว้ตรงนี้เมื่อคืนตั้งแต่ตอนสี่ทุ่มกว่า ๆ นักการฯ : เห็นครับ เห็นว่าตำรวจเอารถมาลากไปโรงพักคลองห้า เมื่อคืนตำรวจล้อมจับแก๊งค์ขโมยรถกัน พี่ไม่ได้ยินเสียงโวยวายบ้างเลยหรือ ? ตอนใกล้ ๆ จะหกโมงเช้านะครับ ทิดโมช :ได้ยินสิ ผมกับเพื่อนยังออกมายืนดูที่หน้าห้องเลย ผมนึกว่าพวกขายยาบ้าธรรมดา ๆ ตำรวจเอารถไปเมื่อไรล่ะ ? นักการฯ : เมื่อตอนเจ็ดโมงเช้านี้เอง เขาหาเจ้าของ แต่หาไม่เจอเลยนึกว่าเป็นรถที่ขโมยมา เห็นตำรวจบอกว่าวางกำลังล้อมจับผู้ต้องหาสามคน มันเอารถเข้ามาพักที่นี่เมื่อคืนนี้ แล้วไอ้คนที่เป็นหัวโจก มันเอารถมาพักที่นี่เป็นประจำ คงคิดว่าตบตาตำรวจได้เพราะเป็นสถานที่ราชการ ทิดโมช :เอาอย่างไรดีทิดรัตน์ ? ต้องไปโรงพักคลองห้าแล้วละผมว่า ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์ : เรารีบไปกันเถอะ งานนี้ผมเซ็งสุด ๆ เลยว่ะ... รปภ. : "พี่ ๆ ทั้งสามคนจะไปไหนครับ แล้วหิ้วกล่องอะไร ?" เสียงยามรักษาความปลอดภัยร้องทัก พร้อมเดินสืบเท้าเข้ามาหา ทิดโมช : อ๋อ...ในกล่องมีพระ จะเอาไปถวายพระอาจารย์ ผมสังเกตเห็นยามคนหนึ่งรีบโทรแจ้งตำรวจ พร้อมกับยามอีกคนก็เข้ามาสอบถามรายละเอียดว่า พักห้องไหน ? มาจากไหน ? ผมเห็นท่าไม่ค่อยจะดี เลยถามกลับไปบ้าง ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์ :"พี่เห็นรถกระบะสีบรอนซ์เงินบ้างไหม ? ทะเบียนภูเก็ต รถผมหายในมหาวิทยาลัยนี้ ผมมาเยี่ยมเพื่อน พอลงมากะว่าจะออกเดินทางรถก็ไม่อยู่แล้ว" รปภ. : อ๋อ...พวกพี่นี่เอง ตำรวจเขาตามหาตัวพวกพี่อยู่ เมื่อคืนตำรวจรวบแก๊งค์ขโมยรถ เมื่อเช้าเขายังวางกำลังควานหาเจ้าของรถแปลกหน้าคันของพี่อยู่เลย พี่รีบไปโรงพักก่อนเถอะพี่ เพื่อนผมโทรแจ้งประสานไปให้แล้วเมื่อกี้ เอาเดี๋ยวผมเรียกมอเตอร์ไซค์ให้ไปส่งปากทาง แล้วพี่ต่อแท็กซี่ไปเองนะ ทิดโมช : ขอบใจมาก
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-02-2010 เมื่อ 20:01 |
สมาชิก 66 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#97
|
|||
|
|||
เหตุการณ์ต่าง ๆ เมื่อย้อนนึกถึง พี่มารเขาเก่งจริง ๆ "มารไม่ใช่ศัตรู แต่มารคือครูที่ดีที่สุด" ประโยคนี้หลวงพ่อพร่ำสอนเสมอมา เหตุการณ์มีความสอดคล้องกันไปโดยแทบจะนึกไม่ถึง พอเจอหน้านายดาบตำรวจเท่านั้นเรื่องที่น่ากลัวกว่ารถหายก็เกิดขึ้น...
นายดาบตำรวจ : พวกคุณนี้โชคดีนะ ถ้าหากพวกคุณลงมาตอนเจ็ดโมงเช้า มีหวัง...ไม่นอนหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงพยาบาล ผมเองก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพราะวางกำลังตำรวจอาวุธครบมือดักรออยู่ แล้วสายก็รายงานตั้งแต่เมื่อคืนว่า พวกขบวนการนี้มีสามคนที่เข้ามาใช้สถานที่นี้เป็นที่พักรถที่ขโมยมา ทิดโมช : ปกติรถในมหาวิทยาลัย ไม่เคยหายนี่ครับ นายดาบตำรวจ : ใครบอกคุณ เดือนที่แล้วหายไปสามคัน ไอ้ที่ผมว่าพวกคุณโชคดีนั่นน่ะ คือถ้าเจอพวกคุณตอนช่วงเจ็ดโมงเช้านั้น พวกตำรวจเข้าประกบตัวแน่ ๆ ถ้าต่อสู้ขัดขืนก็เจ็บตัว ดีไม่ดีถ้าซวย ปืนลั่นใส่ก็ตายฟรี เอ้า..ไปแสดงบัตรประชาชนแล้วรับรถไปได้เลย อ้อ..ขอโทษด้วยที่ปล่อยลมยางไปข้างหนึ่ง ถือว่าฟาดเคราะห์ไปก็แล้วกันนะ ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์ : ครับ ๆ รถไม่หายก็ดีใจแล้วครับ (อย่าไปเดินแถวหน้าบ้านผมนะ..!) ผมนึกย้อนไปอีกเรื่อง อยู่ ๆ ตอนเช้าก่อนลงมา ทิดโมชก็เอาปืนสั้นมาอวด แถมบอกว่าจะพกไปด้วย งานนี้ถ้าพกลงมาก็เรื่องยาวเลยครับ ถ้าตรงช่วงตำรวจดักรออยู่ งานนี้ยิ่งสมจริงสมจังเข้าไปใหญ่เลย "ขบวนการขโมยรถ" เสือรัตน์ เสือโมช หมากิ๊ก ได้เจอวิสามัญฯ แน่ ๆ
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 12-02-2010 เมื่อ 13:21 |
สมาชิก 67 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#98
|
|||
|
|||
มากราบหลวงพ่อ ก็อดที่จะรายงานท่านไม่ได้ จึงกราบเรียนรายงานท่าน ไปตามนั้นทุกประการ หลวงพ่อท่านก็บอกพร้อมอมยิ้มเล็กน้อยว่า "พวกคุณพลอยติดหลังแหกับเขาไปด้วย"
"ติดหลังแห" สำนวนนี้เล่นเอาผมพิจารณาอยู่นาน จนเห็นภาพในจิต มันเหมือนกับชาวประมงเหวี่ยงแหไป ติดปลากลุ่มหนึ่ง ซึ่งปลาที่ติดอยู่ในแหนั้น จะดิ้นอย่างไรก็ดิ้นไม่รอด หนีออกมาไม่ได้ ส่วนปลาอีกพวกหนึ่งติดหลังแหขึ้นมาด้วย เพราะตาข่ายของแหไปติดอวัยวะบางส่วนของปลาเหล่านั้น ครั้นเมื่อปลาเหล่านั้นดิ้นรน สะบัดตัวไปมา ก็สามารถหลุดออกจากพันธนาการนั้นได้อย่างง่ายดาย แต่หากไม่ดิ้นรนอะไรก็จะพลอยติดแหไปด้วยจริง ๆ เหมือนปลาภายในแห งานนี้ถ้าผมไม่ดิ้นรนแสดงตัวว่าผมคือใคร ก็คงจะต้องเดือดร้อนไปมากกว่าที่เป็นอยู่นี้ ที่รอดมาก็เพราะบารมีพระ ถือว่าบุญรักษา สาธุ "ทำดีได้รับผลของความดีตอบแทนเสมอ ทำชั่วก็ได้รับผลชั่วตอบแทนเสมอเช่นกัน" แล้วคุณละ วันนี้ทำความดีแล้วหรือยัง? ป.ล. พระแก้วใสองค์ที่กระผมอัญเชิญมาภูเก็ต ตอนนี้ได้ถวายประดิษฐานที่สำนักสงฆ์เขานาคเกิดเป็นที่เรียบร้อย พร้อมบรรจุพระบรมสารีริกธาตุวรรณะแก้วใส ซึ่ง"พระ"ท่านประทานให้โดยเสด็จมาเอง และในวันพระที่จะถึงนี้ จะทำการจุดประทีปถวายเป็นเวลา ๑ วัน ๑ คืน ขอทุกท่านร่วมโมทนาบุญด้วยเทอญ
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 13-02-2010 เมื่อ 23:16 |
สมาชิก 66 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#99
|
||||
|
||||
ช่างเจรจาเสียจริงนะครับ ว่าแต่คุณนรินทร์เตรียมตัวบริหารก้านคอให้แข็งแรงเพื่อรองรับโซ่ตรวนขนาดใหญ่หรือยังครับ
|
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ต้อมบางพูน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#100
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
พี่ทิดคะ คืนนี้หากว่าง ออนเอ็มด้วยค่ะมีเรื่องจะคุยด้วยหลายเรื่อง (ค่อยมาลบให้นะคะ) [/QUOTE] เมียหาย ผมคงเสียใจแค่ สองวินาที แล้วก็ทำใจได้ ก๊ากกกกกกกกกกกกกกก
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม |
สมาชิก 50 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|