|
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๔ เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๔ |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
||||
|
||||
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๔
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๔
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด (-/\-) (-/\-) (-/\-) |
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ เป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๙ ซึ่งอาตมภาพรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก เพราะว่ายังไม่ทันไรก็เข้าพรรษามาหนึ่งเดือนแล้ว แปลว่าเราผ่านมา ๑ ใน ๓ ของพรรษา อาจจะเป็นเพราะว่าการไม่ได้ไปกังวลกับเวลา มุ่งแต่จะทำหน้าที่เฉพาะหน้าของแต่ละวันให้ดีที่สุด บางทียังไม่ทันจะรู้สึกตัว เวลาก็หมดไปอีก ๑ ปีแล้ว แต่สำหรับท่านที่รอคอย บางท่านที่มีความหวังกับสิ่งหนึ่งสิ่งใด แต่ละวันก็อาจจะผ่านไปช้ามาก ต้องบอกว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ขึ้นอยู่กับจิตใจของแต่ละท่านเอง
สำหรับวันนี้ น้องเล็ก (จิราพร ซื่อตรงต่อการ) รายงานมาว่า มีบุคคลโทรเข้ามา ถามเรื่องของการวางขนมปังล้างอาถรรพ์ที่หน้าโบสถ์วัดท่าซุง ซึ่งระยะนี้ผู้รับโทรศัพท์ของวัดท่าขนุนต้องปวดหัวเยอะมาก เพราะว่าคนโทรเข้ามาถามเรื่องของวัดท่าซุง เรื่องของวัดถ้ำป่าไผ่ เรื่องของวัดเขาวง เรื่องของวัดศาลพันท้ายนรสิงห์ เรื่องของวัดพุทธพรหมยาน ฯลฯ แล้วทำไมไม่โทรไปวัดนั้นโดยตรง ? ทางวัดท่าขนุนจะไปตอบปัญหาอะไรแทนวัดอื่นเขาได้ ?? โดยเฉพาะปัญหาที่ถามในวันนี้ ก็คือการที่จะไปวางขนมปังเพื่อล้างอาถรรพ์ที่วัดท่าซุง คุณจะวางไปทำอะไร ? เนื่องเพราะว่าเหตุการณ์นั้นเกิดมา ๓๐ กว่าปีแล้ว ถ้าต้องการความชัดเจน ก็คือวันที่ ๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๓๐ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านบอกว่า เทวดามาบอกว่า มีผู้ไม่หวังดีทำไสยศาสตร์ต่าง ๆ ใส่วัดท่าซุงตั้งแต่ปี ๒๕๑๗ แล้วก็ทำหนักขึ้นมาเรื่อย ๆ ด้วยสาเหตุ ๒ ประการด้วยกัน ประการที่หนึ่งก็คือ ผู้ที่จ้างให้ทำหวังว่า ถ้าสิ้นหลวงพ่อท่านไปแล้ว ตนเองจะได้ดังขึ้นมาแทน ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ที่ไหลเข้าวัดท่าซุง จะได้ไหลไปหาตนเองบ้าง ประการที่สอง พวกหมอไสยศาสตร์มักจะเล็งหาครูบาอาจารย์ที่มีชื่อเสียง แล้วก็ทดสอบด้วยการทำไสยศาสตร์ใส่ โดยมีแนวคิดว่า ถ้าหากว่าทำลายครูบาอาจารย์ที่มีชื่อเสียงได้ ตนเองก็จะโด่งดัง การทำมาหากินก็จะสะดวกขึ้น เพราะว่ามีชื่อเสียงมากขึ้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2021 เมื่อ 01:56 |
สมาชิก 47 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
แล้วคราวนี้เกี่ยวอะไรกับเรื่องการวางขนมปังล้างอาถรรพ์ ? ก็เพราะว่าแม้แต่พรหม เทวดา ท่านก็ต้องยอมรับกฎของกรรม ในเมื่อวาระของอกุศลกรรมยังให้ผลอยู่ กุศลกรรมเข้ามาถึงไม่ได้ ก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลืออะไรได้มากมายนัก แต่เมื่ออกุศลกรรมผ่านพ้นไป กุศลกรรมเริ่มเข้ามาในส่วนของเรา ขณะเดียวกันกุศลกรรมของอีกฝ่ายผ่านพ้นไป อกุศลกรรมเริ่มเข้ามา จังหวะที่ตรงกันพอดี ก็สามารถที่จะแก้ไขบางเรื่องได้ แต่ว่าทุกอย่างต้องมีบุญสัมพันธ์ กรรมสัมพันธ์ จึงสามารถที่จะทำได้ ไม่เช่นนั้นแล้วก็เท่ากับไปละเมิดกฎของกรรม
ดังนั้น...เทวดาท่านจึงมาบอกกับหลวงพ่อว่า ให้ใครสักคนหนึ่งก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นหลวงพ่อท่าน นำขนมปัง ๑ ปอนด์ไปวางไว้ที่หน้าโบสถ์วัดท่าซุง อธิษฐานว่า "ขอให้วิชาและอาถรรพ์จงพินาศ" แล้วท่านเองก็จะได้ฉวยโอกาสนี้ว่า มีคนเปิดช่องให้ท่านสามารถทำงานได้แล้ว ก็จะไปทำลายล้างสิ่งทั้งหลายเหล่านั้น ซึ่งก็คือพวกไสยศาสตร์ต่าง ๆ ที่ทำใส่วัดท่าซุงมาตลอด ๑๓ ปี ไม่ใช่ว่าเราไปวางขนมปังที่นั่น แล้วเรื่องร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นกับเราจะหายไป เพราะว่าเป็นคนละเรื่องกัน แต่ส่วนใหญ่พวกเรามักจะ "ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด" แล้วแถมยังตื่นข่าวอีก ก็เลยมีภูเขาขนมปังกองอยู่ท่วมหน้าโบสถ์วัดท่าซุง..! ชนิดที่เลี้ยงพระ เลี้ยงคน เลี้ยงหมา เลี้ยงปลา จนไม่มีปัญญาจะกินแล้วก็ยังไม่หมด และมีต่อเนื่องไปเป็นเดือน ๆ ต้องบอกว่าสิ้นเปลืองทรัพยากรโดยใช่เหตุ นั่นเกิดจากการ "ฟังไม่ได้ศัพท์ แล้วจับเอาไปกระเดียด" คิดว่าถ้าทำอย่างนั้นแล้ว พวกไสยศาสตร์และอาถรรพ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองจะหายไปได้ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับที่เทวดาท่านบอกมา เรื่องพวกนี้คนจำนวนมากด้วยกันมักจะเป็น หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านใช้คำว่า "ถือมงคลตื่นข่าว" ซึ่งเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่สรรเสริญ พระองค์ท่านตรัสไว้ชัดเจนแล้ว มา อิติกิรายะ อย่าเชื่อเพราะมงคลตื่นข่าว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2021 เมื่อ 01:59 |
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
ในปัจจุบันนี้ มีแต่ข่าวปลอมจำนวนมากด้วยกัน ที่เขาเรียกว่า Fake News เมื่อเข้ามาถึง เราเองก็เชื่อทันที โดยปราศจากการไตร่ตรอง โดยเฉพาะไปใส่อารมณ์ตาม ไป รัก โลภ โกรธ หลง ตามไป สิ่งแรกก็คือทำร้ายจิตใจของตนเอง เพราะว่าเท่ากับเอาไฟเผาตนเอง ก็คือไฟราคะ ไฟโลภะ ไฟโทสะ ไฟโมหะ
ประการต่อไป ก็คือแพร่กระจายไฟเหล่านี้ไปเผาผลาญคนอื่นด้วย เพราะว่าเราไปแชร์ต่อ สร้างทุกข์สร้างโทษให้แก่ตัวเองยังไม่พอ ยังไปสร้างให้กับคนอื่นอีก จึงเป็นเรื่องที่น่าสงสารมาก แล้วโดยเฉพาะเรื่องที่เกิดมานานนมสมกัป ๓๔ ปีผ่านไปแล้ว พอไปอ่านเจอ ไม่ว่าจะทางหนังสือหรือว่าอินเตอร์เน็ตก็ตาม เราก็มาตื่นข่าว จะไปปฏิบัติตามนั้น แล้วที่เสียมารยาทที่สุดก็คือ โทรมาถามที่วัดท่าขนุน วัดท่าขนุนไม่ใช่วัดท่าซุง ไม่สามารถที่จะตอบอะไรแทนเขาได้ ถ้าอยากรู้เรื่องของวัดท่าขนุนกับเรื่องของบ้านเติมบุญ ก็ยังพอที่จะตอบได้ เพราะว่าเป็นเรื่องภายในของเราเอง แต่เรื่องของที่อื่น ๆ นั้น คนที่มีสติปัญญาต้องรู้ว่าไม่สมควรที่จะถาม หลายท่านจะเห็นว่า เมื่อ "ท่านสุธรรม" เอาปัญหาที่ถามอยู่ในเว็บไซต์มาส่งให้ หลายข้ออาตมภาพตอบกลับไปว่า "ให้ไปถามที่นั่น" คือเรื่องของใครก็ไปถามที่ต้นตอ ไม่ใช่มาถามอาตมา ซึ่งจะว่าไปแล้ว เป็นการผิดมารยาทอย่างร้ายแรง อยากรู้เรื่องของอีกบ้านหนึ่ง แต่ไปถามอีกบ้านหนึ่ง ไอ้นั่นเป็นเรื่องของ "แม่บ้านแฟลตตำรวจ" ที่เสือกรู้ไปทุกเรื่อง..! แบบนั้นอาจจะมีคนตอบให้ท่านได้ แต่ไม่ใช่เรื่องของพระ พระของเรา เรื่องที่ควรรู้ที่สุดก็คือกิเลสในใจของตนเอง ควรจะรู้ว่าเรามีรัก มีโลภ มีโกรธ มีหลงเท่าไร ? จะใช้วิธีไหนที่ทำให้ลดน้อยถอยลง ? และท้ายสุดก็ทำให้หมดไปจากใจของเรา ภาระแค่นี้ก็กินเวลาแต่ละวันไปจนไม่เหลืออะไรแล้ว แล้วจะให้ไปใส่ใจเรื่องของวัดอื่น เรื่องของคนอื่น ย่อมเป็นไปไม่ได้..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2021 เมื่อ 02:04 |
สมาชิก 47 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
ส่วนเรื่องที่ควรจะเป็นประโยชน์อย่างแท้จริงกลับไม่จำ ก็คือ "ท่านย่า" ซึ่งลูกศิษย์สายวัดท่าซุงรู้ดีว่าหมายถึงใคร ท่านบอกเอาไว้เมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๓๐ ก่อนหน้าเรื่องวางขนมปังล้างอาถรรพ์หลายเดือน ก็คือปีนั้นมีการสะเดาะเคราะห์ใหญ่ ด้วยการเผาศพจำลองของหลวงพ่อวัดท่าซุง
หลังงาน "ท่านย่า" มาบอกว่า ลูกศิษย์หลวงพ่อแต่ละคน สร้างวีรเวรวีรกรรมในอดีตเอาไว้มาก ก็จะมีบรรดาเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายตามทวง ในเมื่อเอาด้วยเล่ห์ด้วยกลไม่ได้ ก็เล่นด้วยมนต์ด้วยคาถา ท่านบอกว่าเคราะห์เป็นเรื่องของกรรมเก่า ถ้าแก้ไขถูกวิธีก็จบ แต่ไสยศาสตร์ไม่ใช่เคราะห์ ถ้าหากว่าวาระไม่เหมาะสม ไม่รู้วิธีการ ก็แก้ไม่ตก ท่านให้เอาถั่วเขียวคั่วกับดอกไม้ ๓ สี ไปไหว้พระภูมิเจ้าที่ในบ้านของตน แล้วขอให้พระภูมิเจ้าที่ช่วยทำลายไสยเวทย์อาคม วัตถุอาถรรพ์ต่าง ๆ ที่มีคนทำมาที่บ้านนั้น และขอให้ช่วยป้องกันให้ตลอดไปด้วย เรื่องนี้คือเรื่องที่มีประโยชน์ต่อลูกศิษย์แต่ละคนอย่างแท้จริง ไม่ใช่เรื่องการวางขนมปังล้างอาถรรพ์ ที่มีประโยชน์เฉพาะวัดท่าซุงเท่านั้น และทำคนเดียวก็พอ แต่ตะบี้ตะบันไปทำกันเป็นหมื่น ๆ คน..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2021 เมื่อ 02:06 |
สมาชิก 47 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
||||
|
||||
ดังนั้น..การที่เราฟังเรื่องอะไร ควรที่จะพินิจพิจารณาให้รอบคอบ โดยอาศัยหลักกาลามสูตร ซึ่งไม่มีสูตรนี้อยู่ในพระพุทธศาสนา พระสูตรนี้ชื่อจริงชื่อว่าเกสปุตตสูตร เกิดจากพระพุทธเจ้าตรัสแก่ชาวกาลามะ ถึงการอย่าเชื่อด้วยสาเหตุต่าง ๆ ๑๐ ประการ ตั้งแต่ มา อนุสฺสเวน อย่าเชื่อเพราะเล่าสืบ ๆ กันมา ไปจนถึง มา สมโณ โน ครูติ อย่าเชื่อแม้สมณะนี้เป็นครูของเรา ซึ่งหลายท่านก็ตีความเข้าป่าเข้าดงไปอีกเหมือนกัน จึงเป็นเรื่องของบุคคลที่มีปัญญาเท่านั้น ที่จะพินิจพิจารณาว่าสมควรที่จะใช้อย่างไร
ดังนั้น..ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายฟังอยู่ ไม่ว่าจะเป็นทางวัด ทางบ้าน ทั้งในประเทศและต่างประเทศก็ตาม มีปัญหาที่เป็นเรื่องของวัดไหนให้ไปถามที่วัดนั้น อย่าได้เสียมารยาทโทรมาถามที่วัดท่าขนุน ซึ่งผู้รับโทรศัพท์ไม่สามารถที่จะตอบแทนเขาได้ แล้วขณะเดียวกัน ก็เป็นการรบกวนเวลาของพระภิกษุ หรือว่าผู้ที่รับโทรศัพท์ด้วย และท่านทั้งหลายไม่ต้องหาหมายเลขโทรศัพท์ของอาตมา อาตมภาพเลิกรับโทรศัพท์มาหลายปีแล้ว ก็เพราะว่ามีแต่เรื่องแบบนี้..! แต่ว่าบรรดาเลขานุการก็ดี หรือว่าผู้ที่ทำหน้าที่รับโทรศัพท์แทนก็ตาม เดือดร้อนเพราะความประพฤติของท่านมากต่อมากด้วยกัน ขอให้งดเว้นความประพฤติทั้งหลายเหล่านี้เสีย สงสัยเรื่องของที่ไหน ให้ถามตรงที่นั่น ไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะเป็นการเสี้ยมให้สองวัดสามวัดเขาทะเลาะกันเอง..! วันนี้ก็รบกวนเวลาทุกท่านมาพอสมควรแล้ว และจะต้องออกไปงานศพต่ออีก จึงขอยุติลงแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2021 เมื่อ 02:10 |
สมาชิก 49 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|