|
พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
||||
|
||||
ขอฝากบริวาร
ตอนที่บวชช่วงพรรษาแรก ๆ ยังไม่มีงานประจำ ก็ขึ้นไปช่วยงานที่ศาลานวราช จำหน่ายวัตถุมงคลบ้าง รับญาติโยมเข้าที่พักบ้าง ก็ปรากฏว่ามีโยมอยู่จำนวนหนึ่ง แปลกมาก..มาจากสุดเหนือสุดใต้ แต่พอมาเจอหน้าก็ถามนั่นถามนี่ คุยกันแล้วเขาเกิดชอบใจ เขาก็เลยนั่งเฝ้าอยู่ตรงนั้น ไม่ไปไหนหรอก ไล่ให้ไปหาหลวงพ่อก็ไม่ไปอาตมาก็คิดว่า "ตายละวา..ถ้ามาวัดแล้วไม่ไปหาหลวงพ่อ ดันมานั่งอยู่ตรงนี้ จะวอนให้ตูโดนไล่ออกแล้ว..!"
คนก็เยอะขึ้น..เยอะขึ้น คราวนี้เขาไม่ได้มาเปล่า ๆ เขาเอาของมาถวายด้วย มีอยู่วันหนึ่ง หลวงตาวัชรชัยท่านเดินขึ้นมาพอดี จำไม่ได้ว่าท่านเดินมาบอกเรื่องอะไร แต่พอเห็นข้าวของตรงหน้าเท่านั้น หลวงตาท่านก็หัวเราะ "สองพรรษาเท่านั้นแหละ ท่านต้องใช้สิบล้อมาขน" อาตมาได้ยินก็สะดุ้ง แล้วจะแก้ไขอย่างไรได้ ? พอดีพรรษานั้นมีรุ่นน้องที่บวชเข้ามา อาตมาเห็นหน้าก็รู้ว่าเป็นพระโพธิสัตว์ ถ้าปฏิบัติมาสายเดียวกัน จะดูกันออก มีอยู่วันหนึ่งกำลังนั่งตรวจสอบวัตถุมงคลของหลวงพ่อ ได้โอกาสก็ถามท่านว่า "ผมรู้ว่าคุณเป็นพระโพธิสัตว์ ผมเองอยากจะลา คุณคิดจะลาบ้างไหม ?" ท่านตอบว่า "เหมือนกับผมทำงานชิ้นหนึ่งจวนจะเสร็จแล้ว อยู่ ๆ ให้ทิ้งงานไป ผมทำใจไม่ได้ครับ" อาตมาจึงบอกกับท่านว่า "ผมเองอยากจะลามาก แต่บริวารผมเยอะเหลือเกิน ถ้าหากผมขอฝากคุณเอาไว้ จะได้ไหม ?" ท่านตอบแบบไม่ต้องคิดเลยว่า "ได้..แต่มีข้อแม้นิดเดียว" ถามว่าข้อแม้อะไร ? ท่านบอกว่า "ถ้าหลวงพี่ไปสบายแล้ว ให้กลับมาช่วยกันบ้าง" อาตมารีบสาธุถวายไปเลย นับเป็นเรื่องอัศจรรย์ ทันทีที่ท่านรับสาธุการ กระแสนั้นเหมือนกับขาดลง คนที่ไหลมาเทมา กลับหายไปเฉย ๆ อาตมาก็โล่งอก รอดตายไปที ไม่อย่างนั้นแล้วไปวัดท่าซุง ไม่ไปหาหลวงพ่อวัดท่าซุง แต่ดันมาหาอาตมา แบบนี้ก็แย่แน่ ๆ เลย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-06-2014 เมื่อ 13:04 |
สมาชิก 120 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
แม้กระทั่งปัจจุบันนี้ พระหลายรูปในวัดท่าขนุน ก็มีความรู้สึกลักษณะอย่างนี้ อาตมาต้องบอกกับเขาว่า "พวกคุณไม่ต้องกังวลใจ ผมเข้าใจตรงจุดนี้ แต่ละคนเราเกิดมาหลายต่อหลายชาติ คนที่เขาสร้างบารมีร่วมกับเรามา เขามีอยู่ ถึงเวลาเขาตามมา หน้าที่ของพวกคุณ ก็คือ สงเคราะห์พวกเขาให้ดีที่สุด เราต้องสามารถรักษาเขาให้อยู่กับเราไว้
ถ้าสมมติเขามาหาคุณที่วัดท่าขนุน คุณต้องรักษาโยมคนนี้ให้มาวัดท่าขนุนให้ได้ แล้วขณะเดียวกันถ้าหาเพิ่มได้ยิ่งดี เพราะถ้าเราทำอย่างนี้ได้ ก็จะเป็นการแบ่งเบาภาระครูบาอาจารย์และก็ช่วยงานพระศาสนาโดยตรง เพราะฉะนั้น..ถ้าใครมาว่าคุณวัดรอยเท้าผม หรือใครจะมากล่าวหาว่า คุณคิดที่จะล้มผมออกจากตำแหน่ง ผมไม่ฟังหรอก ถ้ารู้จักคิด คุณอ่านพระไตรปิฎกแล้ว ต้องไปพิจารณาดู เวลาพระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร พาบริวารมาอย่างละ ๒๕๐ พระพุทธเจ้ามีแต่สาธุการสรรเสริญ เปรียบพระโมคคัลลาน์เหมือนกับพี่เลี้ยง พระสารีบุตรเหมือนกับนางนม ช่วยสงเคราะห์บรรดาพระใหม่ทั้งหลาย จนกระทั่งกลายเป็นธรรมเสนา หรือทหารในกองทัพธรรม เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า พระมหากัจจายนะ อยู่กรุงอุชเชนนี ไกลสุดกู่เลย ถึงเวลาพาบริวารมา ๒๐๐ - ๓๐๐ พระพุทธเจ้ามีแต่สาธุการ ตรัสว่า ให้เอาอย่างพระมหากัจจายนะ ท่านสามารถสั่งสอนลูกศิษย์ จนกระทั่งมีญาติโยมศรัทธา ตามมาบวชขนาดนี้ได้ ถ้าพระพุทธเจ้าคิดอย่างพวกคุณ ศาสนาเราเผยแผ่ต่อไปไม่ได้" ก็ต้องชี้แจงให้เขาฟัง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-06-2014 เมื่อ 13:05 |
สมาชิก 119 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
แต่ที่อยู่วัดท่าซุงแล้วกลัว เพราะว่าพระและฆราวาสจำนวนหนึ่ง กำลังใจไม่ได้ถึงตรงจุดนี้ ท่านจะมองในลักษณะจับผิด เกิดโทษทั้งตัวท่านและตัวเรา เกิดโทษแก่ตัวท่านคือ ท่านกำลังใจเสีย เกิดโทษแก่ตัวเรา คือ ถ้าท่านโจทย์ขึ้นมาจะเดือดร้อนถึงหลวงพ่อ
ถ้าหลวงพ่อตัดสินเข้าข้างอาตมา ท่านทั้งหลายเหล่านั้นไม่ชอบใจ ก็จะเกิดความร้าวฉานขึ้น จึงพยายามที่จะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุว่า ในเมื่อเหตุเกิดจากเรา เราต้องแก้ให้ได้ แต่ถ้าเป็นที่วัดท่าขนุนนี่ อาตมาบอกเขาไว้เลย มีคนมาหาคุณมากเท่าไร ผมก็สบายเท่านั้น ปัจจุบันนี้ อาตมาพยายามจะมอบหมายหน้าที่ต่าง ๆ ให้เขาบริหารกันเองได้ ถ้าอาตมาไม่อยู่จริง ๆ เขาจะได้ไปต่อกันได้ เพราะฉะนั้น..ในเรื่องการเป็นผู้นำเขา สำคัญที่สุดคือใจกว้างแล้วก็มองไกล ถ้าใจไม่กว้างพอ คนจะอยู่กับเรายาก ต้องใจกว้าง รับได้ทุกเรื่อง อะไรก็ตามที่ไม่ได้นอกระเบียบ ไม่ได้นอกพระวินัย ปล่อยเขาทำไปเถอะ ช่วย ๆ กันหลาย ๆ มือ หลาย ๆ ไม้ จะได้สร้างความเจริญให้กับพระศาสนาได้มากขึ้น ถ้าใครสามารถแข่งบารมีกับเรา ชนิดแทนไปได้เลยยิ่งดี ภาระนี้อาตมาไม่ได้อยากจะแบกเลย กลัวอย่างเดียวว่าจะไม่มีใครมาแข่งด้วยเท่านั้น ส่วนเรื่องการมองการณ์ไกล เราต้องเอาส่วนรวมเป็นหลัก ถ้าหากเรื่องไม่ได้เสียหายถึงส่วนรวม เรียกมาตักเตือนเป็นส่วนตนได้ หรือว่ามีการลงโทษเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามสมควรได้ แต่ถ้าเรื่องของส่วนรวมเสียหาย จะใช้มาตรการสุดท้าย..ไล่ออก..! พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ เทศน์ช่วงเย็น ณ บ้านอนุสาวรีย์ วันเสาร์ที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-06-2014 เมื่อ 13:07 |
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
Tags |
บริวาร |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|