#1
|
||||
|
||||
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๖๖
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ เป็นวันพระ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๕ และเป็นวันสงกรานต์ คราวนี้ทุกวันที่ ๑๓ ของเดือน ยกเว้นช่วง ๓ เดือนในพรรษา ทางวัดท่าขนุนของเราจะงดการทำวัตรเย็นทั้งสองรอบ แต่เปลี่ยนเป็นการสวดพระพุทธมนต์เย็นถวายพระเดชพระคุณหลวงปู่สาย อคฺควํโส (พระครูสุวรรณเสลาภรณ์) อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน อดีตเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ
กิจกรรมนี้ทำต่อเนื่องกันมา ๓๑ ปีแล้ว จนกระทั่งทุกวันนี้ถ้าบอกกับญาติโยมว่า "พรุ่งนี้ขออนุญาตลาหยุด ๑ วัน" ส่วนใหญ่ก็จะถามว่า "พรุ่งนี้วันที่ ๑๔ แล้วหรือ ?" ความจริงก็น่าน้อยใจนะ ก็คือถามว่าวันที่ ๑๔ แล้วหรือ ? แปลว่าจำได้ว่าเป็นวันทำบุญถวายหลวงปู่สาย แต่ทำไมวันที่ ๑ กับ ๑๖ ไม่ต้องถามกันเลย จำกันแม่นจริง ๆ..! เรื่องพวกนี้กระผม/อาตมภาพโทษสื่อโซเชียลต่าง ๆ สมัยนี้ลงข่าวกันไม่ได้มีอะไรเลย นอกจากลงข่าวหาตัวเลขให้คนไปเสี่ยงดวง รถชนกัน ผู้หญิงคลอดลูกบนรถ หรือแม้กระทั่งอุบัติเหตุหลวงปู่หลวงพ่อถึงแก่ชีวิต เขาก็จะรีบบอกป้ายทะเบียนว่าเลขสวยคืออะไร ในเมื่อสังคมของเรามอมเมากันเองในลักษณะอย่างนี้ ก็จะไปโทษใครไม่ได้ สมัยที่กระผม/อาตมภาพเรียนนักเรียนนายสิบอยู่ ก็รับหน้าที่หัวหน้าตอนนักเรียน ค่อนข้างจะเด็ดขาดแล้วก็เรียนเก่ง เพื่อนฝูงก็เลยฟันธงว่าอนาคตกระผม/อาตมภาพจะเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติแน่นอน..! ถึงขนาดมีการสอบถามกันว่า "ถ้ามึงปฏิวัติสำเร็จ อะไรที่อยากทำก่อนเพื่อนเพื่อประเทศชาติของเรา ?" กระผม/อาตมภาพตอบเพื่อนไปว่า "กูจะปิดกองสลาก โรงงานสุรา แล้วก็โรงงานยาสูบก่อนเพื่อนเลย..!" เพื่อนบอกว่า "มึงเป็นได้ ๓ วัน ฟันธงเลย" ไปปิดไอ้ของที่ชาวบ้านเขาชอบทั้งนั้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-04-2023 เมื่อ 02:04 |
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
ดังนั้น..เรื่องของอบายมุขจึงเป็นเรื่องที่คู่กับสังคมไทยเรามา แล้วก็มีการมอมเมากันหนักขึ้น ๆ จนกระทั่งภายหลังก็มียาเสพติดที่คู่กับสังคมไทยเราอีกอย่างหนึ่ง แล้วที่น่าเสียใจและน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งก็คือ ส่วนใหญ่แล้วบรรดาคนเด่นคนดังในสังคม ที่เขาเรียกกันสั้น ๆ ว่าพวกไฮโซฯ นั้น มักจะเป็นผู้นำในเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ซื้อหวยแล้วก็เอามาอวด ถูกหวยที ๑๒๐ ใบ ๑๕๐ ใบ จนกระทั่งมีบางรายออกมาเปิดโปงว่า เป็นคนรับขึ้นเงินลอตเตอรี่ เสร็จแล้วก็เอาใบที่เขาขึ้นเงินมาถ่ายรูปอวดเขาก็มี
แต่คราวนี้เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ทำให้เกิดสังคมเลียนแบบ ก็คือคนอื่นเห็นว่าความรวยมาถึงได้ง่าย ก็จะไปหมกมุ่นอยู่กับการพนันทั้งหลายเหล่านี้ ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ชัดเจนว่าเป็นอบายมุข อบาย คือ ที่ต่ำ มุข คือ ปากทาง ปากทางก้าวลงสู่ความตกต่ำทั้งปวง โบราณเขาว่า "โจรปล้นสิบครั้งไม่เท่ากับไฟไหม้ครั้งเดียว" มาตอนหลังมีคนบอกว่า "ไฟไหม้สิบครั้งไม่เท่ากับติดการพนัน" เพราะว่าไฟไหม้ขนาดไหนก็ยังเหลือที่ดินเอาไว้ให้ แต่ถ้าติดการพนัน บางทีแม้กระทั่งบ้าน ที่ดิน ลูกเมียก็ขายหมด เพื่อเอาไปเล่นการพนัน ซึ่งบุคคลที่โดนผีพนันเข้าสิง ต้องบอกว่านอกจากกำลังใจของตนเองไม่เข้มแข็งพอที่จะต่อต้านแล้ว ก็ยังโดนซ้ำเติมด้วยสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ที่เข้ามาแทรก เข้ามาสิง เข้ามาดลใจอีกด้วย ถ้าท่านทั้งหลายถามว่าผีพนันมีจริงหรือ ? กระผม/อาตมภาพยืนยันว่ามีจริง ถ้าหากว่าท่านไปเข้าบ่อน ไม่ว่าจะเป็นที่ฮ่องกง มาเก๊า หรือแม้แต่แถว ๆ บ้านเราแถบปอยเปตก็ดี สามเหลี่ยมทองคำก็ตาม ตั้งแต่ก้าวแรกหน้าประตูเข้าไปเลย ก็จะมีรายการสารพัดไสยศาสตร์ ที่จะกดข่มวัตถุมงคลของเรา เพื่อที่ให้ตกอยู่ใต้อำนาจของเขา โดยเฉพาะบรรดาผีต่าง ๆ ที่โดนผูกเอาไว้ โดนบังคับให้ไปแทรกไปสิงผู้คนจนกระทั่งหน้ามืดตามัว มีเงินมีทองเท่าไรก็ต้องเอาไปทุ่มกับการพนันจนหมด..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-04-2023 เมื่อ 02:06 |
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
ถ้าคนเรามีสติ มีปัญญาพอเพียง ก็จะดูแค่ว่าเลขท้าย ๒ ตัว คนเล่นมีโอกาสถูกแค่ ๒ คน ก็คือถูกตรงกับถูกกลับ แต่ถ้าหากว่าคนเล่นไปเจอเลขซ้ำเข้า ก็มีโอกาสถูกแค่คนเดียว ก็คือเหลือประตูเดียว หรือไม่เกิน ๒ ประตู แต่เจ้ามือมีโอกาสชนะเรา ๙๘ ประตู ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงเป็นเรื่องที่เจ้ามือเขาปิดประตูแพ้ ไม่มีใครสามารถล้มเจ้ามือได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะเงินจากการพนันเป็นเงินร้อน ได้มาแล้วก็หมดไปในเวลาอันรวดเร็ว ผู้คนไม่ค่อยที่จะหวง เพราะถือว่าได้มาง่าย
บรรดาบ่อนต่าง ๆ ก็รอดูว่า ลูกค้าของตนคนไหนที่หมดเนื้อหมดตัวถึงขนาดฆ่าตัวตายบ้าง ? ถ้าหากว่ามีเมื่อไร ก็รีบเสนอตัวเข้าไปเป็นเจ้าภาพจัดงานศพให้ ซึ่งส่วนใหญ่พวกที่ฆ่าตัวตายนี้ก็เป็นพวกญาติระอา ไม่มีใครใคร่จะใส่ใจอยู่แล้ว ก็อนุญาตให้เขาทำได้ เขาจัดงานศพให้ก็จริง แต่เอาหมอผีมาผูกวิญญาณไปด้วย..! เอาไปใช้งาน เพราะว่าดวงจิตของตนเองที่ลุ่มหลงอยู่ในการพนัน ตายเพราะการพนัน จิตใจก็หมกมุ่นอยู่อย่างนั้น ถึงเวลามีโอกาสไปแทรกไปสิงบรรดาท่านที่ดวงตก ก็ทำให้เขาเมามัวกับการพนัน จนกระทั่งหมดเนื้อหมดตัวไปด้วย ไอ้เจ้าตัวที่ไปสิงก็อาศัยคนอื่นเล่นเอาสนุกของตัวเองไปด้วย ก็เลยกลายเป็นเรื่องที่สมประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย จึงเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก ๆ แต่ว่าถ้าหากว่าท่านทั้งหลายจำเป็นที่จะต้องเข้าบ่อน อยากจะแนะนำวัตถุมงคลที่พกไป ให้มีพุทธคุณประเภทมหาสะท้อนเอาไว้ ก็คือใครทำอะไรกับเราก็ให้ได้รับคืนไปหลายเท่า ถ้าอย่างนั้นก็พอที่จะต้านกันเอาไว้ได้ ไม่อย่างนั้นแล้วโอกาสที่จะโดนของเขาครอบงำก็จะมีสูงมาก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-04-2023 เมื่อ 02:08 |
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
โดยเฉพาะวัตถุมงคลหลายต่อหลายสำนักห้ามเข้าสถานที่อโคจร อย่างเช่นว่าบ่อน ซ่อง ร้านเหล้า ถ้าลักษณะอย่างนั้นก็หมดสภาพเลย เพราะถือว่าละเมิดข้อห้ามที่ครูบาอาจารย์ห้ามเอาไว้ วัตถุมงคลไม่คุ้มครอง เราเองก็มีสิทธิ์โดนแทรกโดนสิง ไปลุ่มหลงอยู่กับเรื่องทั้งหลายเหล่านั้น แล้วสมัยนี้ก็ยังมีว่าเวลาเครียดมาก ๆ ก็โดนหลอกให้เสพยา กลายเป็นติดยาเพิ่มเข้าไปอีก..!
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ทำให้บุคคลที่หลงเข้าไปกลายเป็นทาสหาเงินให้เขา ก็คือหาเงินไปเล่นการพนัน หาเงินไปซื้อยาเสพติด จนกระทั่งมีบุคคลผู้กล้าหาญไปฆ่าตัวตายเพื่อให้พ้นจากสภาพอย่างนั้น ก็กลายเป็นโดนผูกจิตผูกวิญญาณเอาไว้ใช้งานอีก แปลว่าโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง..! ที่มาบ่นในเรื่องอย่างนี้ เพราะว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์ของเรา หลายแห่งมีบ่อนวิ่ง คำว่า บ่อนวิ่ง ก็คือไม่ได้เปิดเป็นสถานที่ตายตัว โดยเฉพาะไม่ได้ตีตั๋ว คือไม่ได้ขอใบอนุญาต แต่แอบเปิดกันในที่ต่าง ๆ บรรดาลูกค้าก็กลุ่มเดิม ๆ มีทั้งเบอร์โทรศัพท์พิเศษ มีทั้งกลุ่มไลน์ที่จะส่งต่อบอกกล่าวกัน แล้วก็เข้าไปเสียเงิน คราวนี้รอบข้างของประเทศเรามีบ่อนทุกประเทศ เอาแค่ประเทศพม่า แค่หวยอย่างเดียวออกวันละ ๗ งวด ก็คือตั้งแต่สว่างมาก็เริ่มขายหวยกันเลย เจ้ามือ ๗ ราย ใครจะซื้อเลขไหนก็ซื้อไป พอสว่างขึ้นมา เจ้ามือก็เอาเลขไปแขวนเอาไว้ อยู่ในกระป๋องบ้าง อยู่ในไห อยู่ในโอ่งอะไรบ้าง พอขายไปเรื่อยถึงบ่ายโมงเป๊ง..! เจ้ามือรายแรกก็เปิดหวย ออกเลขอะไร บ่ายสองเจ้าที่สองเปิด บ่ายสามเจ้าที่สามเปิด จนกระทั่ง ๑ ทุ่มเจ้าสุดท้ายเปิด รู้กันวันนั้นเลยว่าถูกหรือไม่ถูก ได้หรือเสีย เอาแค่หวยอย่างเดียวก็เล่นกันฉิบหายขายตัวแล้ว..! ไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องอื่น แล้วประเทศไทยของเรานี่เล่นหวยได้ทุกอย่าง ขนาดหมากัดกันก็พนันได้เสียกันแล้ว ฉะนั้น..บ้านเราก็เลยมีหวยรัฐ หวยใต้ดิน หวยออมสิน หวย ธ.ก.ส. หวยหุ้น หวยพม่า หวยมาเลย์ฯ หวยลาว แค่ที่พอรู้อยู่ ไอ้ที่มากกว่านี้น่าจะมีอีก นี่แค่เลข ๒ ตัวเท่านั้น ก็ทำให้พวกเราลุ่มหลงกันจนกระทั่งบางคนก็ถึงกับเสียผู้เสียคนไปเลย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-04-2023 เมื่อ 02:10 |
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
||||
|
||||
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้จะไม่เกิดกับท่านที่ฝึกจิตจนกระทั่งเข้มแข็ง ดังที่ได้กล่าวแล้วว่ากระผม/อาตมภาพอยู่กองโรงเรียนทหารมาก่อน เป็นเวลาที่เสียหายง่ายที่สุด เพราะว่าวัยรุ่นจำนวนมากมาอยู่ด้วยกัน ก็มีแต่จะชวนกันเสีย
แต่ปรากฏว่าเขาจะกินเขาจะเที่ยวอย่างไร กระผม/อาตมภาพก็ไม่เอาด้วย ตั้งหน้าตั้งตารักษาศีลเจริญภาวนาเท่านั้น แล้วก็โดนเพื่อนฝูงด่าว่า "อะไรก็ไม่เป็นสักอย่าง ไปหากระโปรงมานุ่งไป..!" แต่ปรากฏว่าไอ้ร้อยกว่าคนรุมด่ามา กระผม/อาตมภาพคนเดียวด่ากลับร้อยกว่าคน ว่า "กูรู้ว่าไอ้เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ไม่ดี กูห้ามใจตัวกูเองได้ ส่วนไอ้พวกมึงห้ามใจไม่ได้สักคน พวกมึงนั่นแหละควรที่จะไปหากระโปรงมานุ่งซะ..!" ก็แปลว่าถ้ากำลังใจเรามีสมาธิเป็นหลัก เราก็จะไม่หวั่นไหวกับ รัก โลภ โกรธ หลง รอบข้าง โดยเฉพาะมีความมั่นคงต่อความดีที่เราทำ ทนปากคนได้ ใครจะ "บูลลี่" ก็เรื่องของเขา เรารู้ว่าเราทำอะไรแล้วได้อะไร หลายต่อหลายคนก็โดนเหมือนกระผม/อาตมภาพนี่แหละ พ่อแม่และคนรอบข้างตำหนิด่าว่าเสียไม่มี แต่พวกเราก็ยังหน้าด้านหน้าทนทำมาได้ ก็ถือว่ากำลังใจอยู่ในระดับที่ใช้ได้แล้ว..! สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-04-2023 เมื่อ 02:12 |
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|