กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 15-05-2023, 19:49
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,635
ได้ให้อนุโมทนา: 216,833
ได้รับอนุโมทนา 747,012 ครั้ง ใน 36,393 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 15-05-2023, 23:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,629
ได้ให้อนุโมทนา: 151,867
ได้รับอนุโมทนา 4,413,827 ครั้ง ใน 34,219 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ เป็นครั้งแรกในรอบปีที่กระผม/อาตมภาพตรวจงานก่อสร้างพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุนเอง ซึ่งจ่ายเงินไปแล้วประมาณ ๕๐ ล้านบาท ยังมีแต่โครงเปล่า ๆ เพราะว่าข้าวของทุกอย่างส่วนใหญ่ซื้อแล้ว แต่ทางด้านผู้รับเหมายังไม่ได้เคลื่อนย้ายมา เพราะว่าต้องรอให้โครงสร้างทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถึงจะได้เคลื่อนย้ายมาดำเนินการติดตั้ง

คราวนี้ในส่วนสำคัญก็คือพระพุทธรูปแก้วใสที่จะมาเป็นประธานในห้องพุทธประวัติ ส่วนใหญ่แล้วบรรดาช่าง ตลอดจนกระทั่งผู้จบวิศวกรโครงสร้างต่าง ๆ มักจะมีความหวาดระแวงเป็นพื้น ก็คือทำอะไรต้องเผื่อไว้ก่อนว่าอาจจะชำรุดเสียหาย ดังนั้น..จึงต้องการให้ทางเราเสริมบันไดใหม่ เพื่อความแข็งแรงในการอัญเชิญพระพุทธรูปแก้วขึ้นไปยังจุดที่ติดตั้ง

คราวนี้ถ้าให้เขาทำอย่างนั้นบันไดของเราก็บรรลัยหมด..! กระผม/อาตมภาพก็เลยบอกว่าไม่ต้อง ต้องการเมื่อไรให้บอก เดี๋ยวให้พระเราช่วยกันยกขึ้นไปเอง..! เหมือนกับการสร้างศาลาหลังนี้ ถ้าหากว่าปล่อยเขาทำเต็มที่ตามที่ออกแบบเอาไว้ ราคาน่าจะเพิ่มมาอีกหลายล้านบาท..! เพราะว่าเทพื้นด้วยการผูกเหล็ก ๓ ชั้น โดยใช้เหล็กข้ออ้อย ๖ หุนเป็นแกน ใช้เหล็กข้ออ้อย ๓ หุนเป็นคอม้า ก็เลยโดนกระผม/อาตมภาพด่าจมดินไปเลยว่า "มึงจะเทพื้นไว้เลี้ยงไดโนเสาร์ใช่ไหม ?"

ก็คือพื้นศาลาติดอยู่กับพื้นอยู่แล้ว ทำอย่างไรก็ไม่ทรุดไปกว่านี้ แล้วจะทำโครงสร้างให้แข็งแรงไปขนาดนั้นทำอะไร ? ถ้าหากว่าทำฐานเสาหรือตัวเสาแข็งแรงแบบนั้น กระผม/อาตมภาพจะไม่ว่า สรุปว่าตกลงให้เขาผูกเหล็กเทโครงตามแบบแค่ ๒ จุด ก็คือที่ตั้งพระประธานข้างหลังกระผม/อาตมภาพนี่ กับที่ตั้งมณฑปพระพุทธรูปสามกษัตริย์เท่านั้น นอกนั้นก็คือทำตามที่กระผม/อาตมภาพสั่ง ประหยัดไปได้หลายล้านบาท เพราะว่าเหล็กราคาแพงมาก

ของบางอย่าง บุคคลที่ศึกษามาแล้วพลิกแพลงใช้งานไม่เป็น ต้องบอกว่าเสียแรงที่เรียนมา ได้แต่ไปแบบเถรตรงเท่านั้น คนจีนโบราณเขาบอกว่า "เรียนรู้ตามที่อาจารย์สอนถือว่าเก่ง แต่ถ้าจะให้ยอดต้องพลิกแพลงใช้งานได้ หรือว่าจะให้เยี่ยมก็คือบัญญัติใหม่ไปเลย..!" ถ้าถามว่าทำตามตำราอย่างเดียวไม่ดีหรือ ?...ก็ดี ปลอดภัยดี แต่ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องทำขนาดนั้น

ดังนั้น..ในเรื่องของการก่อสร้าง ถ้ากระผม/อาตมภาพลงไปดูด้วยตัวเอง ก็คงจะได้ทะเลาะกันทุกวัน ถึงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา แล้วตัวเองก็ "เอาหูไปนา เอาตาไปไร่" กูขี้เกียจทะเลาะกับมึง..! คณะกรรมการพิจารณาอย่างไรก็ตามนั้นไป เพราะว่าตั้งงบประมาณเอาไว้แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-05-2023 เมื่อ 02:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 15-05-2023, 23:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,629
ได้ให้อนุโมทนา: 151,867
ได้รับอนุโมทนา 4,413,827 ครั้ง ใน 34,219 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกส่วนหนึ่งก็คือวันนี้ ทางด้านเลขาฯ บอส (พระสมุห์ณัฐพสิษฐ์ ปญฺญาคโม) เบิกงบประมาณในการบูรณะห้องน้ำ ๒๔ ห้องริมห้วย ด้านนั้นขอให้ทำทางเข้าให้ชัด ๆ หน่อย เพราะว่าในช่วงบวงสรวงไหว้ครูประจำปีและเป่ายันต์เกราะเพชร คนจะมาเป็นจำนวนมาก แล้วส่วนใหญ่ก็เป็นคนใหม่ ถ้าป้ายบอกทางไม่ชัดเจน ทางเข้าไม่กว้างขวาง อาจจะไม่มีคนเห็นเลยว่ามีห้องน้ำอีก ๒๐ กว่าห้อง ก็จะมาเข้าแถวรอเฉพาะไม่กี่ห้องที่ข้างศาลา ๑๐๐ ปีฯ นี้ แล้วก็จะทำให้สกปรกได้ง่ายที่สุด

เพียงแต่ว่าของเก่าบูรณะขึ้นมาแล้ว วันงานก็ต้องจัดพระเณรคอยดูแลไว้ด้วย โดยเฉพาะญาติโยมจำนวนมากใช้ข้าวของแบบว่า "ไม่ใช่ของกู" จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทะนุถนอมอะไรเลย

สมัยที่กระผม/อาตมภาพอยู่ที่วัดท่าซุง มีพระบางรูปเปิดพัดลม ดึงพรืด ๆ สามทีรวด หลวงพ่อวัดท่าซุงด่ากระจายว่า "ไอ้สันดานขี้ข้า...! ถ้าหากว่าของพังแล้วใครจ่ายเงินวะ ?" คำว่าสันดานขี้ข้าก็คือคนรับใช้ ถึงทำอะไรพัง คนจ่ายก็คือเจ้านาย ก็เลยไม่จำเป็นที่จะต้องไปดูแลรักษาของให้ดี

หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านซื้อเครื่องเสียง ซึ่งสมัยนั้นก็คือรุ่นเก่าเป็นแบบหลอดทรานซิสเตอร์ ๒ เครื่อง ใช้ที่วัดท่าซุง ๑ เครื่อง ถวายให้วัดยางที่อยู่คนละฝั่งคลองไป ๑ เครื่อง ของวัดยางพังจนกระทั่งซื้อใหม่ไป ๓ เครื่องแล้ว ของวัดท่าซุงเครื่องเดียวยังอยู่เลย กระผม/อาตมภาพแค่ถอดแจ็กเสียบปลั๊ก ด้วยวิธีหมุนแล้วดึง โดนไม้เท้าลงหัวเปรี้ยงเบ้อเร่อ..! ท่านบอกว่า "ทำอย่างนั้นก็หลวมฉิบหายหมด..! ให้เสียบเข้าตรง ๆ ดึงออกตรง ๆ"

เราจะเห็นว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านใช้ของทุกอย่างด้วยความระมัดระวัง และประหยัดอย่างที่สุด ท่านบอกว่าสิ่งของทุกอย่าง เราได้มาด้วยศรัทธาของญาติโยมที่มีต่อพระพุทธศาสนา ของทั้งหลายเหล่านั้นจึงไม่ได้มีมูลค่าตามราคาท้องตลาด แต่มีมูลค่าเกิดท้องตลาดไปมาก เพราะว่าเกิดจากศรัทธาของญาติโยม ต่อให้เป็นของที่หาง่ายขนาดไหนก็ตาม ก็ต้องใช้อย่างประหยัดและระมัดระวังที่สุด

พูดง่าย ๆ ว่าอย่าล้างผลาญ ถ้าหากว่ามีเงินเหลือก็จะได้เอาไปช่วยคนอื่น ไม่ใช่มีเงินเท่าไรก็ซื้อแต่ข้าวของใช้ในวัด แล้วก็พังบรรลัยหมด..! ดังนั้น..เรื่องพวกนี้เราต้องพึงสังวรเอาไว้ด้วย ไม่ใช่ว่าอะไรไม่ใช่ของเราก็ใช้ไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีการระมัดระวังดูแล
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-05-2023 เมื่อ 02:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 15-05-2023, 23:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,629
ได้ให้อนุโมทนา: 151,867
ได้รับอนุโมทนา 4,413,827 ครั้ง ใน 34,219 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า เมื่อสองวันก่อนกระผม/อาตมภาพจ่ายไป ๕๐,๐๐๐ กว่าบาทต่อเดือน อย่าลืมว่าพระวัดเรามีแค่ประมาณ ๔๒ - ๔๓ รูปเท่านั้น ถ้าเฉลี่ยใช้ไฟเดือนหนึ่ง ๕๐,๐๐๐ กว่าบาท แปลว่ารูปหนึ่งใช้พันกว่าบาท..! แล้วคนทั่วไปจะไหวไหม ? พวกท่านไม่ได้เป็นคนจ่ายเงินก็มักจะไม่รู้ว่าแพงขนาดไหน กระผม/อาตมภาพ ต่อให้ช่วงที่ร้อนที่สุด ก็เปิดพัดลมบ้างเป็นบางครั้งเท่านั้น อย่างที่เคยเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา ก็คือว่า ถ้าเราทำตัวลำบากเข้าไว้ ถึงเวลาทุกอย่างก็จะสบายหมด เพราะว่าไม่มีอะไรลำบากกว่านั้นอีกแล้ว

กระผม/อาตมภาพยังปรารภกับผู้บังคับบัญชาและเพื่อนฝูง ในงานอบรมเจ้าอาวาสใหม่วันสุดท้ายว่า เจ้าอาวาสใหม่รุ่นนี้กลับวัดเมื่อไรก็เดือดร้อนเมื่อนั้น เพราะว่าอยู่ห้องปรับอากาศมาตลอด ๗ วัน เมื่อเคยชินกับความสบายแล้ว กลับวัดตัวเองไป บางทีอาจจะอยู่ไม่ได้ แล้วก็อาจจะต้องเสียเวลาขวนขวายไปหาเครื่องปรับอากาศมาติดบ้าง ก็แปลว่าค่าไฟจะต้องมากขึ้นไปอีกมาก..!

ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า วัดท่าขนุนของเรามีเครื่องปรับอากาศ ก็คือที่กุฏิต้อนรับพระเถระเท่านั้น แม้แต่กุฏิหรือสำนักงานเจ้าอาวาส เครื่องปรับอากาศมีอยู่ ป่านนี้ก็คงจะพังบรรลัยไปแล้ว เพราะว่า
กระผม/อาตมภาพไม่เคยไปแตะเลย ถ้าเป็นพวกท่าน ก็เชื่อเลยว่าเปิดกันทั้งวันทั้งคืน..! เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของความประหยัด แต่เป็นการสร้างความเคยชินในด้านที่ไม่ดีให้กับตัวเอง พอถึงเวลาขาดแล้วก็จะอยู่ไม่ได้ เหมือนกับคณะบุคคลที่มาเข้าอบรมที่นี่ เราจะเห็นว่าเขาทนได้วันเดียว รุ่งขึ้นขอย้ายออกแล้ว เพราะว่าไม่มีเครื่องปรับอากาศให้..!

แล้วก็ไม่มีใครคิดว่าวัดใหญ่ ๆ โต ๆ ชื่อเสียงโด่งดังอย่างวัดท่าขนุนจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ ก็เพราะว่ากระผม/อาตมภาพไม่เห็นความสำคัญเลย ตัวเองก็ใช้ไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าให้เปิดเครื่องปรับอากาศก็เปิด ๒๗ หรือ ๒๘ องศาเซลเซียส ที่คนเข้ามาแล้วก็บ่น "แบบนี้จะเปิดไปทำอะไรวะ..!?" เพราะว่ากระผม/อาตมภาพโดนเครื่องปรับอากาศเมื่อไรก็คัน โดนพัดลมก็เป็นไข้ ไม่ต้องทำมาหากินอะไรกับชาวบ้านเขาพอดี

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ พวกเราฟังแล้วก็สังวรเอาไว้ว่า ทุกวันนี้เราติดสบายเกินไปหรือเปล่า ? ความสบายเป็นตัวบั่นทอนความพากเพียร ความอดทนของเรา ในเมื่อขาดความพากเพียร ความอดทน โอกาสที่เข้าถึงธรรมก็มีน้อย เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าไม่จำเป็น ก็อย่าไปทำตัวให้สบายมากนัก ไม่อย่างนั้นแล้ว ถึงเวลาเราเองก็ต้องไปวิ่งหาสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ มาอำนวยความสะดวกให้กับตัวเอง ซึ่งก็เป็นรายจ่ายทั้งนั้น

แล้วถ้าหากว่าท่านทั้งหลาย แค่ค่าไฟอย่างเดียว จ่ายเดือนหนึ่ง ๕๐,๐๐๐ กว่าบาท ก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น กระผม/อาตมภาพก็เชื่อว่าน้อยคนที่จะจ่ายไหว

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๑๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-05-2023 เมื่อ 02:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:04



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว