#41
|
||||
|
||||
๒
พระพุทธเจ้าท่านเห็น ก็เลยตรัสพระคาถาว่า
"บุคคลบริโภคอาหารอย่างมีสติ รู้จักประมาณ ย่อมมีอาพาธน้อย ร่างกายก็แข็งแรง" พระเจ้าปเสนทิโกศลได้ยิน ก็เลยคิดว่า เออ.. เป็นคำเตือนสติที่ดี พอหายเป็นลมก็เลยให้มหาดเล็กคนสนิทคือ สุทัศนมาณพ บอกว่า ไปขอเรียนคาถาบทนี้ไว้ เวลาที่พระองค์เสวยพระกระยาหารให้ท่อง คาถานี้ด้วย จะได้เตือนสติได้ สุทัศนมาณพนั้นถือพระแสงขรรค์ชัยศรีอยู่ ก็ถามพระเจ้าปเสนทิโกศลว่า แล้วจะมอบพระแสงขรรค์ชัยศรีนี้ให้ใครถือ เพราะว่า เบญจราชกกุธภัณฑ์ ก็คือเครื่องหมายความเป็นพระมหากษัตริย์ มีอยู่ ๕ อย่างด้วยกัน มีพระมหาพิชัยมงกุฎ, ฉลองพระบาท, พระแสงขรรค์ชัยศรี, วาลวีชนี และก็ แส้จามรี พระเจ้าปเสนทิโกศลพอบอกแก่สุทัศนมาณพเรื่องให้คนถือพระแสงขรรค์ชัยศรีเสร็จแล้ว สุทัศนมาณพก็ไปกราบพระพุทธเจ้า ขอเรียนคาถาบทนี้ สุทัศนมาณพนี่ เป็นสุดยอดมหาดเล็กเลย เจ้านายสั่งแค่นั้น ยังถามละเอียดมาก ถามพระพุทธเจ้าว่าควรจะท่องคาถานี้เวลาไหน เมื่อท่องคาถานี้เสร็จแล้วจะเกิดอะไรขึ้น แล้วต้องทำอย่างไรต่อไป เป็นเราคงไม่ถามถึงขนาดนี้หรอก แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-06-2009 เมื่อ 13:23 |
สมาชิก 87 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวแสบจำเป็น ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#42
|
||||
|
||||
๓
พระพุทธเจ้าบอกว่า เวลาเช้า-กลางวันไม่ต้อง ให้ท่องเฉพาะมื้อเย็น
ให้ท่องตอนที่พระเจ้าปเสนทิโกศลกำลังจะเสวยคำสุดท้าย เมื่อพระองค์ได้สติ จะวางข้าวคำสุดท้ายลง สมัยก่อนเขารับประทานด้วยมือใช่ไหม ให้ดึง เอาถาดทองนั้นมา แล้วนับดูว่ามีข้าวกี่เมล็ด แล้วรุ่งขึ้นให้ลดข้าวสาร จำนวนลงเท่านั้น ในมื้อเย็นมื้อเดียว แล้วทำอย่างนั้นไปเรื่อย ๆ ทุกวัน เท่ากับลดข้าวลงวันละคำเดียว สุทัศนมาณพก็ไปทำอยู่แบบนั้น พอท่องคาถา พระเจ้าปเสนทิโกศล ได้สติก็วางข้าวลง สุทัศนมาณพก็นำถาดทองออกไปข้างนอก ไปนับข้าวดู ว่ามีกี่เม็ด รุ่งเช้าเคยตวงข้าว ๓ ทะนานก็ลดลงเหลือแค่นี้ ๒ ทะนานก็ลดลงเหลือแค่นี้ ๑ ทะนานก็ลดลงเหลือแค่นี้ แล้วแต่ว่าเท่าไหร่ ก็ปรากฎว่า พอลดลงไปเรื่อย ๆ อย่างนั้น ก็ไม่ทรมานมาก ก็แค่คำเดียว วันละคำเดียว ร่างกายมันปรับทัน พอเวลาผ่านไปหลายเดือน พระเจ้าปเสนทิโกศลก็เริ่มเพรียวลง หุ่นดี ในวันนั้นพอลูบพุงก็ 'อ้าว.. หายไปแล้ว' พระองค์ท่านก็ตรัสสรรเสริญ พระพุทธเจ้าว่า พระตถาคตเจ้า ทรงยังประโยชน์ให้ทั้งในกาลปัจจุบัน และอนาคตเบื้องหน้า ไอ้คำว่า กาลปัจจุบันก็คือ ตอนนี้เห็นอยู่ว่าตอนนี้ผอมลง แล้วอนาคต เบื้องหน้าเป็นอย่างไร ไอ้กำลังใจในการละความอยากในอาหาร มันเท่ากับ กำลังใจที่ห้ามตัวเองไม่ให้ละเมิดศีล ถ้าเราห้ามปากตัวเอง ไม่ให้กินของชอบได้ ไอ้เรื่องห้ามตัวเองไม่ให้ไปทำผิดศีลนั้น กำลังใจมันเท่ากัน |
สมาชิก 88 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวแสบจำเป็น ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#43
|
||||
|
||||
๔
เพราะฉะนั้น หากยังห้ามปากตัวเองไม่ได้นี่
เรื่องศีลมันยังไม่แน่นอน ต่อให้รักษาได้ก็ไม่แน่ว่าจะขาดเมื่อไหร่ หลังจากท่านเทศน์เรื่องนี้เสร็จ ท่านก็ย้ำอีกถึง ๒ ครั้ง ๒ ครา ในภายหลัง ว่าให้หยกไปทำแบบพระเจ้าปเสนทิโกศล แล้วหยกก็พบว่า พี่ป้าน้าอาแถว ๆ บ้านอนุสาวรีย์นั้น ล้วนแต่ เป็นผู้มีเมตตา พากันมาให้กำลังใจหยกใหญ่เลย บางคนก็บอกว่า "วันละคำเอง" บางคนก็บอกอีกว่า "ค่อย ๆ ทำนะ" และอีก หลาย ๆ คนก็ให้กำลังใจกันเป็นการใหญ่ ขอบพระคุณค่ะพี่น้อง แต่พี่น้องค่ะ.. หลังจากนั้นอีก ๒ วัน หยกไปกราบท่านจิตโต ที่บ้านสบายใจ ท่านบอกว่า ให้รักษาศีล ๘ ค่ะพี่น้อง (เมื่อเดือนที่แล้วยังบอกอยู่เลย ว่ากินไปเถอะ อยากกินก็กินไป T^T) หลังจากใคร่ครวญแล้ว ก็พบว่า ทั้งสององค์ ต่างก็บอกให้หยกรักษาศีล ๘ (อันนี้ไปปรึกษากุ๋ยที่หลังไมค์ กุ๋ยก็บอกว่า แบบนี้เหมือนหลวงพ่อเล็ก สั่งให้ไปรักษาศีล ๘ ได้แล้ว) เพียงแต่หลวงพ่อเล็กใจดีกว่านิดหนึ่ง ตรงที่ให้หยกค่อย ๆ อดวันละ ๑ คำ หลังจากนี้นะคะพี่น้อง ใครเห็นหยกกินอะไรหลังบ่ายสอง ช่วยเดินมา "โบก" หัว (ศัพท์วัยรุ่นน่ะค่ะ แหะ แหะ) เตือนสติด้วยนะคะ ("เอิ่ม.." แต่ช่วยเบา ๆ มือหน่อยนะคะพี่น้อง ) ประกาศมันกลางกระทู้นี่ล่ะ (วะ) จะได้อาย ๆ ถ้ากลับไปกินข้าวเย็น แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ตัวแสบจำเป็น : 16-02-2016 เมื่อ 17:12 |
สมาชิก 90 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวแสบจำเป็น ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#44
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
เรื่องอ้วน ๆ นี่ หยกปลงไปนานแล้วค่ะ เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคมที่ผ่านมา ไปวัดพระนอนจักรสีห์ เพื่อร่วมถวายทอง สำหรับติดที่องค์พระนอน (เอ้า! ขาบุญทั้งหลาย.. เชิญโมทนากันค่ะ ) กับคณะของท่านจิตโต ในวันนั้น มีพี่ชายท่านหนึ่ง หยกได้ทักพี่เขาว่า "ผอมลงนะนี่ ไปทำอะไรมา?" พี่ชายท่านนั้นก็ตอบมาว่า "ไม่สบาย" หยกก็บ่น ๆ กับน้องว่า กลับบ้านไปเป็นไข้บ้างดีกว่า เผื่อจะผอม (ฮ่า ๆ คิดได้อีก เรื่องแบบนี้ ) หลังจากนั้นสักพัก ก็ได้ยินท่านจิตโตถามว่า "หิวไหม? หิวกันหรือยังล่ะ?" (นี่ท่านถามทุกคนที่ไปนั่งนะคะ ไม่ใช่ถามหยกโดยเฉพาะ) "คุยกันอีกหน่อยนะ" ท่านพูดต่อ "เดี๋ยวค่อยไปกินนะ กินให้อร่อย" (ก็ "อะ-หย่อย" นั่นแหละค่ะ ) "กิน ๆ ไปเถอะนะ กินก็ตาย ไม่กินก็ตาย อ้วนก็ตาย ไม่อ้วนก็ตาย สวยก็ตาย ไม่สวยก็ตาย หิวก็กินไปเถอะนะ" คิดดูสิคะ แอบคุยท่านยังรู้อีก ว่าคุยแบบนี้ แถมยังย้ำด้วยว่า กินไปเถอะ! ขันธ์ ๕ นี่ ไม่ต้องไปสนใจมันมากหรอก เดี๋ยวก็ตายแล้ว ถึงอย่างไร ชาตินี้ก็เป็นชาติสุดท้ายของเราแล้ว ขันธ์ ๕ นี่ ไม่ต้องสน เมื่อท่านยืนยันแบบนี้แล้ว หยกคงต้องปลงใจแล้วค่ะ ว่าช่างเถิด เอาแค่มันไม่เป็นภาระในการมีชีวิตอยู่ของเรามากก็พอ ถ้าใครไปบ้านสบายใจทุกเดือน คงจะเข้าใจหยกดี หลังจากที่ท่านจิตโตเทศน์เรื่องอาหาเรฯ เมื่อคราวนั้น ท่านก็จะ "อะ-หย่อย" ออกไมค์ทุกเดือน ๆ ที่เราไปกัน จนมีบางคนถึงกับ ออกปากถามหยกว่า ทำเรื่อง "อาหาเรฯ" ไปถึงไหนแล้ว ไม่อยากจะบอกว่า หยกก็ทำถึงตรง "อะ-หย่อย" อย่างไรเล่าคะ ๕๕ ก็ในเมื่อท่านบอกว่า ให้คิดเสมอว่า กินก็ตาย ไม่กินก็ตาย เราก็เอาแค่นั้น กิน ๆ ๆ เข้าไป ชาติสุดท้ายแล้ว กินไปเถิด..
__________________
ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยง แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ตัวแสบจำเป็น : 16-02-2016 เมื่อ 17:14 |
สมาชิก 85 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวแสบจำเป็น ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#45
|
||||
|
||||
อ่านแล้วคิดถึงที่หลวงตาวัชรชัยท่านเทศน์ให้ฟัง ที่โรงหล่อพรหมรังสี
"เอาจิตเราไปข้างบนอยู่กับสมเด็จพ่อนะ สองมือเราจับเท้าพ่อไว้ อ๊อกติดเลยก็ได้ (หัวเราะ) แล้วสองเท้าของเราก็เกี่ยวไอ้ตัวเรา(ขันธ์ ๕ ) ไว้ พอเราตาย เราก็ปล่อยมันลงไป แต่เราไปอยู่กับสมเด็จพ่อนะ"
__________________
เสียงธรรมจากพระองค์ที่ ๑๐ ธรรมพระพุทธเจ้า คือธรรมชาติ ธรรมชาติที่ทุกคนก็มีอยู่ในตัวเอง เพราะฉะนั้นเธอก็มีธรรมะ ฉันก็มีธรรมะ เธอกับฉันมีธรรมเสมอกันคือความตาย |
สมาชิก 90 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ป้านุช ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#46
|
|||
|
|||
อ่านแล้ว.. รู้สึกขอบใจ
ขอบใจนะ..ที่ทำให้เรารู้ทุกข์จากขันธ์ ขอบใจนะ..ที่ทำให้เราเข้าใจว่าขันธ์พร้อมแรงกรรมทำหน้าที่ได้ดียิ่ง ขอบใจนะ..ที่ทำให้เราแตกต่างกับคนอื่นเฉพาะขันธ์ แต่หาใช่ที่ใจไม่ ขอบใจนะ.. ขอบใจ |
สมาชิก 62 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คุณ๓ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#47
|
|||
|
|||
กราบโมทนากับทุกคำสอนของครูบาอาจารย์ทุกท่านเจ้าค่ะ...
ขอบพระคุณคุณหยก และผู้ร่วมกระทู้ทุกท่านด้วยค่ะ... คุณหยกและทุกท่านเขียนได้สนุกมากเลยค่ะ... และมีสาระมาก ๆ ด้วย... ^___^ กราบโมทนากับความตั้งใจในการสร้างบารมีและตั้งใจที่จะเกิดเป็นชาติสุดท้ายด้วยค่ะ คุณหยกและทุก ๆ ท่าน... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-05-2011 เมื่อ 17:28 เหตุผล: ช่วยแก้ไขให้ เนื่องจากได้รับการลงโทษไปแล้ว |
สมาชิก 53 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ชนินทร ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|