#21
|
|||
|
|||
ว่าแต่"ทิดตู่"รับจัดทัวร์หรือเปล่าครับ ขอแบบทัวร์เหมา สามวันสองคืน
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม |
สมาชิก 55 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#22
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
โลกันตนรก เป็นสถานที่รองรับสัตว์นรกจำพวกคนเนรคุณ อกตัญญู ทุบตีเบียดเบียนพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ อกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ทำบาปเป็นนิตย์ในชนิดที่เรียกว่าอาจิณกรรม บิดเบือนพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ตนเองเป็นมิจฉาทิฐิไม่เพียงพอ ไปหลอกล่อบุคคลอื่นให้เป็นมิจฉาทิฐิ คือมีความเห็นผิดมืดบอดไปด้วย ทั้งหมดนี้ ทำไปโดยไม่รู้สึกละอายแก่ใจ ไร้ซึ่งหิริ และโอตตัปปะ ด้วยการทำความเลวแบบใจเย็นเช่นนี้ จึงต้องไปเสวยทุกข์ในสถานที่มืดเย็นอย่างโลกันตมหานรก ซึ่งเป็นนรกที่ต้องรับทุกข์อย่างแสนสาหัส สิ้นกาลนาน -ส่วนมีใครที่เรารู้จักบ้างที่ตายไปแล้วไปอยู่ที่ขุมนั้น อันนี้ไม่ขอพยากรณ์ ขอให้สังเกตปฏิปทาในยามที่เขามีชีวิตอยู่ก็แล้วกัน ว่าเป็นคนอกตัญญูไม่รู้คุณ ทำบาปเป็นอาจิณกรรม เป็นมิจฉาทิฐิ บิดเบือนพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่ ทำให้บุคคลอื่น ๆ เป็นมิจฉาทิฐิไปด้วยหรือเปล่า ถ้าใช่ โดยส่วนตัวผมว่า อย่างไรก็ไม่พ้น บุคคลทำกรรมเช่นไร ย่อมได้รับผลของกรรมเช่นนั้นครับ ไว้จะเชิญทิดรัตน์ลงไปเป็นไกด์นะครับ
__________________
๑۩۞۩๑ ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่าน ๑۩۞۩๑ ช่วยกันใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง และโปรดหลีกเลี่ยงการนำภาษาพูดมาใช้เป็นภาษาเขียนด้วย ขอเชิญร่วมบุญธรรมทานเว็บไซต์"วัดท่าขนุน"
|
สมาชิก 69 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทิดตู่ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#23
|
|||
|
|||
คุณทิดตู่ค่ะ สวัสดีแบบไทยก่อนนะคะ ดิฉันยังไม่ได้เป็นชาวพุทธเต็มตัว คือเป็นพุทธในทะเบียนบ้าน เพราะพ่อแม่ใส่ให้ เติบโตขึ้นมาแบบคนที่ยังไม่เชื่อในสิ่งที่ตนเองยังไม่ได้พิสูจน์ชัดด้วยตนเอง จึงจัดตนเองเป็นคนยังไม่มีศาสนา แต่ศรัทธาคำสอนในการปฏิบัติเพื่อความสงบสุขของพระพุทธเจ้ามาก และคำสอนดี ๆ ของลัทธิอื่น ๆ ในหลาย ๆ ข้อด้วย มีความอยากนะที่จะเป็นคนดีและมีความสุขและเป็นประโยชน์กับสรรพสิ่ง สิ่งที่ข้องใจมากที่สุดเกี่ยวกับศาสนาพุทธคือ เรื่องสวรรค์และนรกค่ะ คือดิฉันยังไม่เชื่อค่ะว่ามีจริง ๆ ทราบแล้วว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่สำคัญมากที่สุดของชาวพุทธ แต่จะพิสูจน์อย่างไรได้ และคำบอกเล่าของผู้อื่น ๆ ดิฉันก็เคารพนะคะ แต่อย่างไรก็ยังไม่เชื่อ ( ด้วยความเคารพค่ะ ) และเรื่องสวรรค์นรกนี่เองที่ทำให้ดิฉันไม่กล้าบอกว่าตนเองเป็นชาวพุทธ เพราะยังไม่เชื่อ มีคำถามดังนี้ค่ะ
๑. มีวิธีพิสูจน์เรื่องนี้ว่ามีจริงหรือไม่ ต้องทำอย่างไรบ้าง ๒. ดิฉันเชื่อเรื่องผีแล้ว เคยไม่เชื่อมาก่อนแต่เคยประสบแล้วด้วยตนเองจึงเชื่อ และยังมีข้อสงสัยอีกมากในเรื่องนี้ ๓. โลกของผี เปรต นรก สวรรค์ มนุษย์ต่างดาว อยู่คนละมิติใช่หรือไม่ ๔. ดิฉันเชื่อว่าในดวงดาวอื่น ๆ ที่ห่างไกลโลก ( หรืออาจใกล้แต่ต่างมิติ) มีแน่นอนและมีมนุษย์ต่างดาวหลากหลายสายพันธุ์ในดาวต่าง ๆ ด้วย และนรกนี้ เป็นสถานที่รองรับการทำโทษกับมนุษย์โลกเท่านั้นหรือค่ะ มนุษย์จากดาวดวงอื่น เป็นอย่างไร มีสวรรค์หรือนรกขุมอื่น สำหรับพวกเขาหรือไม่ ๕. มนุษย์โลกที่ไม่ใช่ชาวพุทธ ต้องร่วมนรกหรือสวรรค์เดียวกับชาวพุทธหรือไม่ หากคุณทิดตู่จะกรุณาตอบก็จะเป็นพระคุณ หากตอบไม่ได้ดิฉันคงต้องเก็บข้อสงสัยไปถามผู้อื่นต่อไป เพราะเป็นคำถามแห่งชีวิตของดิฉัน ขอพระขอบคุณล่วงหน้าในความกรุณาค่ะ ครูวพิตร์ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ครูวพิตร์ : 03-08-2010 เมื่อ 11:39 |
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#24
|
||||
|
||||
แล้วมีปัจจัยใดที่จะทำให้สัตว์นรกหมดอายุขัยลงก่อนกำหนดวาระบ้างไหมครับ ถ้าไม่มีแสดงว่าท่านใดลงนรกแล้วก็ต้องอยู่จนครบวาระทุกท่านอย่างนั้นหรือครับ
แล้ว ๑ วินาทีในนรก กับ ๑ วินาทีบนโลกมนุษย์ เข็มวินาทีกระดิกเท่ากันไหมครับ ถ้าตรงกันเราเอานาฬิกา ๒ เรือนไปทดสอบให้ท่านทิดจับเวลาดูสมมุติท่านทิดจับเวลาอยู่ที่ขุมนรกแค่ ๑ นาที แล้วให้อีกคนจับเวลาอยู่บนโลกมนุษย์ ๑ นาทีเท่ากันแล้วลองท่านทิดตู่โทรมาบอกว่าครบ ๑ นาทีในนรกแล้ว แล้วคนที่อยู่บนโลกมนุษย์มันจะเป็นสภาพอย่างไรครับตอนนั้น แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย บทเพลงใบไม้ร่วง : 06-08-2010 เมื่อ 14:48 |
สมาชิก 50 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ บทเพลงใบไม้ร่วง ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#25
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
... .... ถาม : ปัจจุบันยังมีคำสอนของพระพุทธองค์ที่อธิบายว่า นิพพานัง ปรมัง สุญญัง-นิพพานมีสภาพสูญ ต้องการพระนิพพานเพื่อเข้าสู่ความดับ สูญของวิญญาณ ในขณะเดียวกันก็มีผู้ฟังและผู้ศึกษาเข้าใจว่าเป็นแบบ นั้น คนที่เข้าใจผิดมีผลเสียอะไรหนักหรือไม่? ตอบ : อันนั้นถือว่าเป็นมิจฉาทิฐิ ถ้าหากว่าตายจะมีอเวจีเป็นที่ไป เท่าที่ อาตมามีประสบการณ์เห็นคนที่สอนอย่างนี้ลงโลกันตร์ไปเลย ตอนแรก ก็สงสัยเพราะว่าโลกันตร์ที่โทษมันหนักหนาสาหัสมาก โอกาสที่คนจะลง มีน้อยมาก แต่วันนั้นลงไปบังเอิญเจออาจารย์ใหญ่ท่านไปอยู่ที่นั้น ก็ ถามว่าทำไมถึงลงโลกันตร์เพราะว่าโทษมันหนักเหลือเกิน มัน ๔ เท่าของอเวจีถึงลงโลกันตร์ได้ ท่านบอกว่าท่านสอนคนเป็นมิจฉาทิฐิ คนเป็นต้องตกอเวจีมหานรก กว่าจะไล่ครบทุกขุมตามกรรมที่เคยทำมา กว่าจะเป็นเปรต กว่าจะเป็นอสุรกาย กว่าจะเป็นสัตว์เดรัจฉาน กว่าจะเกิดเป็นคน มันนานเหลือเกิน ทำคนให้ห่างความดีได้เนิ่นนานขนาดนั้นและจำนวนมากขนาดนั้น โทษของเขาเลยหนักกลายเป็นลงโลกันตร์ไปเลย อันนี้ เป็นนิทานเฉย ๆ เล่าให้ฟังไปคุยมา ใครสอนว่านิพพานสูญก็ระวังไว้เถอะ ... ... |
สมาชิก 63 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คนเก่า ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#26
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
เถรีกำลังคิดว่า ถ้าพี่ทิดตู่ตอบคำถามนี้ คงเก่งยิ่งกว่าพระโมคคัลลานะ ที่ท่องเที่ยวนรกสวรรค์เป็นปกติแล้วค่ะ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 03-08-2010 เมื่อ 20:49 |
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#27
|
||||
|
||||
สำหรับคำถามของคุณ บทเพลงใบไม้ร่วง
ในข้อแรกที่ ๑ ดิฉันแนะนำให้คุณลองอ่านจากกระทู้นี้ค่ะ http://www.watthakhanun.com/webboard...ead.php?t=1176 อาจจะพอเป็นคำตอบได้ อ่านข้อความที่ ๔ ด้วยนะคะ ส่วนคำตอบข้อที่ ๒ ที่คุณได้ถามคุณทิดตู่ ดิฉันขออนุญาตแนะนำให้คุณลองไปหาหนังสือ "ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น" มาอ่านดูค่ะ ดิฉันไม่ได้หมายความว่าหนังสือเล่มนี้บอกทฤษฎีของเวลาถูกต้อง แต่อ่านไว้เป็นความรู้ติดตัวก็ไม่เสียหลายค่ะ |
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มุนินา ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#28
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
พอเกิดมา เธอระลึกชาติได้ว่าจุติมาจากความเป็นนางฟ้า ถึงเวลาทำบุญก็เฝ้าแต่อธิษฐานว่า ขอให้ได้เกิดในคณะของมาลาการเทพบุตรเหมือนเดิม จนสิ้นระยะเวลา ๕๐ ปี เธอก็ตายลง แล้วก็ไปจุติบนสวรรค์ ในสวนที่เธอจุติลงไปเป็นมนุษย์ มาลาการเทพบุตร พอเห็นหน้าจึงได้ถามกับนางฟ้าองค์นี้ว่า "นี่เธอ เธอหายไปเที่ยวที่ไหนมาตั้งครึ่งวัน!!!" เรื่องนี้มีมาในพระไตรปิฎกจ้ะ
__________________
๑۩۞۩๑ ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่าน ๑۩۞۩๑ ช่วยกันใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง และโปรดหลีกเลี่ยงการนำภาษาพูดมาใช้เป็นภาษาเขียนด้วย ขอเชิญร่วมบุญธรรมทานเว็บไซต์"วัดท่าขนุน"
|
สมาชิก 53 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทิดตู่ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#29
|
||||
|
||||
พระพุทธศาสนาตั้งอยู่บนรากฐานความเชื่อในการเวียนว่ายตายเกิด มีผีสางเทวดาและภพภูมิต่าง ๆ เป็นปกติอยู่แล้วครับ
คนที่ไม่มั่นใจ หรือไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ก็เท่ากับไม่ใช่ชาวพุทธ หรือยังไม่เป็นพุทธศาสนิกชนเต็มตัว เฉกเช่นชาวคริสต์ที่หากไม่เชื่อในพระผู้เป็นเจ้า ในพระบุตร หรือคัมภีร์ไบเบิ้ลก็ย่อมไม่ใช่ชาวคริสต์ พุทธประวัติให้ความชัดเจนหลายช่วงหลายตอนในเรื่องภพชาติและผีสางเทวดา เช่น ตั้งแต่ก่อนเสด็จเข้าสู่พระครรภ์พระมารดา พระบรมโพธิสัตว์ประทับอยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต เทพเจ้าพากันอาราธนาให้จุติเพื่อตรัสเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้นสำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ยังได้เสด็จขึ้นโปรดพระมารดาที่ดาวดึงส์ ซึ่งทรงเป็นเทพบุตรประทับอยู่ ณ สวรรค์ชั้นดุสิต พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมโปรดตลอดพรรษา เมื่อเสด็จกลับยังโลกมนุษย์ได้ทรงแสดงปาฏิหาริย์เปิดโลกและภพภูมิต่าง ๆ ให้สรรพสัตว์ได้รู้เห็นด้วยตนเอง หากท่านใดใฝ่ศึกษาจริงและมีวิสัยไม่เชื่อใครง่าย ๆ ขอแนะนำให้อ่านพระไตรปิฎกก่อนเลยครับ ก่อนที่จะถกเถียง ซักค้าน ซักฟอกเอากับผู้ใด จะได้รู้ชัดกับตนเองก่อนว่าหลักฐานชั้น ๑ ของพระพุทธศาสนาที่สืบทอดมานานกว่า ๒,๕๐๐ ปี อันเป็นรากฐานของพระพุทธศาสนานั้น แสดงไว้อย่างไรบ้าง ความเป็นไปและธรรมชาติของพรหมเทพ มนุษย์โลกอื่น ตลอดถึงศาสตร์ต่าง ๆ แม้กระทั่งนิวเคลียร์ฟิสิกส์ ก็มีอยู่ในพระไตรปิฎกอย่างหาจากศาสนาอื่นไม่ได้ หากใฝ่รู้จริงจงไปหาดูเอาเองเถิด จะได้ชัดเจนแก่ตน ทุกเนื้อหาทุกเรื่องในพระไตรปิฎกนั้นสามารถพิจารณาพิเคราะห์ไล่เรียงเหตุและผลได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องถามจากผู้ใด เพราะพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งเหตุและผล เป็นศาสนาเดียวในโลกที่ท้าทายการพิสูจน์ บอกไว้ชัดว่าไม่ต้องเชื่อในทันที และไม่มีการขู่ว่าจะมีโทษเหมือนศาสนาอื่นด้วย หากใจร้อนซักไซ้จะเอาความจริงกับตัวบุคคล ย่อมยากที่จะได้ความรู้โดยสมบูรณ์ เพราะบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่พระพุทธองค์ จึงย่อมไม่สามารถหยิบยกข้อธรรมมาอธิบายให้กระจ่างแจ้งได้อย่างสมบูรณ์เหมือนที่พระไตรปิฎกเปรียบไว้ว่า "ดังพลิกภาชนะที่คว่ำอยู่ให้หงายขึ้น" จึงอาจเป็นโทษแก่ตัวผู้ถามเอง เพราะอาจนึกปรามาสจากการอนุมานเอาจากการตอบคำถามของแต่ละบุคคลนั้น ๆ แล้วตู่ว่าพระสัทธรรมพิสูจน์ไม่ได้ ฉะนั้นผู้ใฝ่รู้ความจริงในพระธรรมย่อมต้องค่อย ๆ ศึกษาพิเคราะห์หาความจริงด้วยตนเองโดยอิทธิบาทสี่ อันเป็นพระสัทธรรมหรือความจริงอันปฏิเสธไม่ได้ที่พระพุทธศาสนาแสดงไว้อย่างชัดเจนและหาในศาสนาอื่นไม่ได้เช่นกัน แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-08-2010 เมื่อ 10:31 |
สมาชิก 53 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คนเก่า ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#30
|
|||
|
|||
วพิตร์ถึงท่านคนเก่า
ขอกราบขอบพระคุณท่านคนเก่าเป็นอย่างสูงในคำตอบค่ะ เชื่อว่าท่านเป็นผู้แตกฉานท่านหนึ่ง ดิฉันตั้งใจอยู่แล้วว่าต้องศึกษาพระไตรปิฎกให้ได้ เชื่อว่าคงมีในเน็ตค่ะ
มีข้อสงสัยด่วน ๆ อยู่ข้อหนึ่งคือ จากหลักฐานพบว่าเมื่อประมาณ ๖๕ ล้านปีไดโนเสาร์เริ่มสูญพันธุ์บนโลกมนุษย์ นั่นหมายถึงมนุษย์เรายังดำรงเผ่าพันธุ์ยังไม่ถึง ๑๐๐ ล้านปี เมื่อคำนวณกับเวลาในนรกและสวรรค์แล้ว เห็นว่าคนส่วนมาก (เท่าที่เห็นบาปกันทั้งนั้น)ไปแล้วน่าจะกลับมาเกิดได้ยาก แต่ทำไมเราได้ยินบ่อยมากเรื่องคนระลึกชาติได้ว่าเคยเกิดในชาติโน้นชาตินี้ เรื่องนี้มีอธิบายในพระไตรปิฏกหรือไม่ค่ะ ขอบพระคุณค่ะ |
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#31
|
||||
|
||||
พระไตรปิฎกกล่าวถึงธรรมชาติอันเป็นวงวัฏฏะของสรรพสิ่ง ผมจึงมั่นใจว่าโลกมีเกิด มีเจริญ มีเสื่อม และดับ วนเวียนเช่นนี้มานับรอบไม่ถ้วนแล้ว วิทยาศาสตร์เพียงเริ่มพิสูจน์ได้แค่เศษเสี้ยวของสิ่งที่พระพุทธองค์ตรัสไว้เท่านั้นครับ
หากเคยเรียนนิวเคลียร์ฟิสิกส์ ก็จะยิ่งชัดเจนในพระสัทธรรมข้อนี้ เพราะวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ก็เพิ่งค้นพบว่าหน่วยย่อยสุดของสรรพสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นสสารหรือพลังงานก็ล้วนมีคุณลักษณะที่เป็นอนิจจัง เป็นวงกลม วนเวียนไปเรื่อย ๆ จึงไม่สงสัยเลยว่าเหตุใดนักวิทยาศาสตร์นาซ่าอย่างอาจารย์ ดร.อาจอง ชุมสาย และอาจารย์ ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ จึงหมอบราบคาบแก้วกับพระพุทธศาสนาอย่างสิ้นสงสัย ส่วนคำถาม ไม่อยากตอบครับ ดังที่ชี้แจงเหตุผลไว้ข้างต้น ขอให้ไปอ่านพระไตรปิฎกก่อนเถิด หากสงสัยประการใด ค่อยหยิบยก อ้างอิงเนื้อความนั้น ๆ ในพระไตรปิฎกมาถามกัน แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย คนเก่า : 04-08-2010 เมื่อ 12:43 |
สมาชิก 56 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คนเก่า ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
Tags |
ขุม, นรก, นรกขุมต่าง ๆ |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) | |
|
|