#21
|
|||
|
|||
จดหมายพระอาจารย์_๑๙
***********************
* บันทึกความทรงจำ - คุณครูหญิง * *********************** จดหมายฉบับที่ ๒๕.๑-๒๕.๒ / ๒๐ ต.ค. ๒๙ ข้อ ๕ - ตัวอย่างลูกศิษย์พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่ลพบุรี ************************************** วัดท่าซุง อุทัยธานี ๖๑๐๐๐ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๒๙ สวัสดีจ้ะน้องหญิง ตอบจดหมายช้าไปสามวัน เพราะติดงานออกพรรษากับงานตักบาตรเทโว งานที่ขึ้นหน้าที่สุดและดังที่สุดของอุทัยธานีคือ งานตักบาตรเทโว ที่วัดสังกัสรัตนคีรีนี่แหละจ้ะ ตามพุทธประวัติ สมัยหนึ่ง องค์สมเด็จพระผู้มีภาคเจ้า เสด็จไปเทศน์โปรดพระพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ (พระพุทธมารดาอยู่ชั้นดุสิต แต่เทวสภาอยู่ชั้นดาวดึงส์) พอครบสามเดือนพอดีเป็นวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ หลังออกพรรษา ๑ วัน พระองค์เสด็จกลับสู่มนุษย์โลกด้วยบันไดแก้ว ลงที่เมืองสังกัสนคร บรรดาประชาชนที่รอรับเสด็จ ก็พากันตักบาตร (ตักข้าวใส่บาตร) บรรดาพรหม-เทวดาที่ตามส่งเสด็จ ถือโอกาสร่วมทำบุญด้วย จึงเรียกว่าตักบาตรเทโว คือว่าเทวดาใส่บาตร หรือตักบาตรดาวดึงส์ (ขณะเสด็จลงมาจากดาวดึงส์) คราวนี้วัดสังกัสรัตนคีรี บังเอิญชื่อพ้องกับสังกัสนครในตำนาน และวัดนี้ตั้งอยู่บนเขาสะแกกรัง กลางเมืองอุทัยพอดี ทางจังหวัดเลยจัดให้มีงานระดับชาติ และระดับโลก (ชาวต่างชาติมาเยอะ) ด้วยการตักบาตรเทโว ภาพภิกษุ-สามเณรเป็นร้อย ๆ รูป เดินลงบันไดเป็นทิวแถว บรรดาพุทธบริษัทใส่บาตรกันมืดฟ้ามัวดิน รถติดทั้งเมือง... ! บันไดขึ้นเขา ๔๘๐ ชั้น ดูไกล ๆ สวยงามมาก ถ้าเข้าไปร่วมงานก็ทั้งเหนื่อยทั้งสนุก บรรดาทัวร์ต่าง ๆ จัดมางานนี้แทบทั้งนั้น อ.ส.ท. และท.ท.ท. แนะนำงานนี้ทุกปี เจ้าอาวาสวัดสังกัสรัตนคีรีเป็นพระอุปัชฌาย์ของหลวงพี่ด้วยจ้ะ เอาละ... เที่ยวเหนื่อยแล้ว มาตอบปัญหาเสียทีนะจ๊ะ วิสัชชนา.... ๑. ตาทิพย์ คนเรามีไม่ได้ คำว่าตาทิพย์ ตรงกับคำว่า “ทิพยเนตร” มีได้แต่โอปปาติกะ (โอ-ปะ-ปา-ติ-กะ = เกิดโดยพลัน) เช่น ผี-เทวดา เป็นต้น คนเราถ้าฝึกกรรมฐานทุกกอง (กรรมฐานมี ๔๐ กอง) จะมีได้คือ ทิพจักขุญาณ คำว่าญาณแปลว่ารู้ได้ ทิพจักขุญาณ แปลว่า รู้ได้เหมือนมีตาทิพย์ ผู้ชำนาญในการใช้ทิพจักขุญาณ จะสามารถรู้ทุกอย่างที่อยากรู้ คือ อยากรู้จึงจะรู้ ถ้าไม่อยากก็ไม่รู้อะไร เหมือนคนธรรมดาทั่ว ๆ ไปนั่นเอง ทีนี้คงทำความเข้าใจดีแล้วนะจ๊ะ ๒. บุรพาจารย์ คือหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค จ.อยุธยา ท่านขอให้ผู้รับยันต์เกราะเพชรรักษาศีลข้อ ๒ กับข้อ ๕ เชื่อว่านั่นต้องมีเหตุผลที่ปัญญาเราตามไม่ถึง ที่หญิงบอกว่า ๑ กับ ๓ นั้นสำคัญกว่า หลวงพี่ไม่เห็นด้วยจ้ะ การฆ่าสัตว์ สัตว์หนีได้ สู้ก็ได้ การผิดลูกผิดเมีย(ผัว)เขา ถ้าอีกฝ่ายไม่ร่วมมือด้วยก็ทำไม่ได้ สรุปคือ ข้อ ๑ กับข้อ ๓ ขาดยากกว่าข้อ ๒ กับข้อ ๕ เพราะข้อ ๒ กับข้อ ๕ สำเร็จด้วยการกระทำฝ่ายเดียวได้ จากการวิเคราะห์ด้วยปัญญาตื้น ๆ ของหลวงพี่ ได้ความว่า ข้อ ๒ ลักขโมย เป็นการเบียดเบียนผู้อื่น ข้อ ๕ ดื่มสุรา เป็นการเบียดเบียนตัวเอง เป็นโทษทั้งนอกทั้งใน และคนเราถ้าเมาเข้าศีลกี่ข้อก็อาจจะขาดหมด เพราะไม่มีสติสัมปชัญญะ หญิงว่าจริงไหมเอ่ย? ๓ .ถ้าเป็นลูกสาวคนแรกจะไม่มียันต์ให้เห็น และถึงเป็นลูกชายคนแรกถ้ารักษาศีลไม่ได้ ก็ไม่มียันต์เช่นกัน ๔. ยันต์เกราะเพชรรับได้เฉพาะวันงาน (วันเป่ายันต์) เท่านั้น และต้องเป็นวันขึ้น ๕ ค่ำ วันเสาร์ด้วย (เสาร์ห้า) ๕. การรักษาศีล ๒ ศีล ๕ ศีล ๘ มีผลต่างกันแน่นอนศีลยิ่งบริสุทธิ์ อานุภาพยันต์เกราะเพชรยิ่งแผ่ไพศาล และมีลูกศิษย์หลวงพ่อคนหนึ่ง รักษาศีล ๘ บริสุทธิ์หลังจากรับยันต์จนคลอด ถ้าปกติทั่วไป ลูกจะมียันต์สีดำติดตัว ๓-๗ วัน ก็จะหายเข้าตัวหมด ไม่ปรากฏอีกจนกว่าจะตายแล้วเผา จะปรากฏยันต์บนกระดูก แต่รายนี้ยันต์เป็นสีแดง หลังจากหายเข้าไปแล้ว จะกลับปรากฏใหม่ทุกวันพระ น่าทึ่งไหมล่ะ...? ดังได้วิสัชชนามาก็ชักเมื่อยมือ เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้จ้ะ มีปัญหาอะไรก็รวบรวมไว้ มีเวลาว่างเมื่อไรถามได้ทันที จะตอบเท่าที่ตอบได้ และจะรอถ้าหญิงคิดจะไปงานเป่ายันต์เกราะเพชร ปีหน้ามีครั้งเดียวตรงกับวันเสาร์ที่ ๓ มกราคม ๒๕๓๐ ปีต่อไปยังไม่ทราบ ยินดีต้อนรับลูกสาวคนใหม่ของหลวงพ่อ (แต่เป็นน้องแสนเก่าของหลวงพี่) เวลคัม ทู ยู ...! จากใจจริง หลวงพี่เล็ก ป.ล. ขอบใจสำหรับแสตมป์ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 22-08-2009 เมื่อ 14:05 |
สมาชิก 99 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โยคียุ้ย ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#22
|
|||
|
|||
จดหมายพระอาจารย์_๒๐
................ ............... |
สมาชิก 77 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โยคียุ้ย ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#23
|
|||
|
|||
จดหมายพระอาจารย์_๒๑
วัดท่าซุง อุทัยธานี ๖๑๐๐๐
๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๒๙ สวัสดีจ้ะน้องหญิง คิดถึงบ้านมากหรือจ๊ะ...? เก็บความคิดถึงใส่ลิ้นชักไว้ ตอนนี้เราต้องเรียนตามเวลาและหน้าที่ สิทธิ์ที่จะคิดถึงมีอยู่ แต่ห้ามคิดนาน เดี๋ยวมัวแต่นั่งใจลอย ปลายปีติดแซ่ดเข้าจริง ๆ จะยุ่งกันใหญ่ การปฏิบัติธรรมของหญิงไม่ได้เพลาลงหรอกจ้ะ ธรรมะที่พระพุทธเจ้ามอบให้พวกเรา เหมาะสมในสถานที่ต่าง ๆ ทุกแห่ง ในโรงเรียนก็ใช้หมวดสังคหวัตถุอย่างไรล่ะ...ทาน-เสียสละให้ปัน, ปิยวาจา-มีคำพูดอันเป็นที่รักใคร่ชอบใจของผู้อื่น, อัตถจริยา-ช่วยการงานของผู้อื่น, สมานัตตา-ทำดีเสมอต้นเสมอปลาย ทำได้แค่นี้คร้านที่จะมีคนรุมรักเสียอีก เกี่ยวกับโฆษณาของทัวร์สามแยกนั้น ลีลาการโฆษณาของเขาเพื่อชักจูงคนเป็นอย่างนั้นเอง เขาพาคนไปถึงวัดก็นับว่าจบหน้าที่ของเขา พระก็ทำหน้าที่ของพระ ใครสมหวัง-ผิดหวังเป็น “กรรมของเขาเอง” ห้อยพระจะกี่องค์ก็ตามใจ ท่านไม่ทะเลาะกันหรอกจ้ะ คนเราเอาความคิดของ “คน” ไปปะปนกับความเป็น “พระ” เลยคิดว่าท่านจะตีกันเอง ความจริงการแขวนพระนั้น โบราณจารย์ท่านฉลาด หาวิธีให้คนปฏิบัติธรรมกัน การห้อยพระเราก็ต้องนึกถึงพระ ถ้าเป็นพระพุทธรูปก็เป็น “พุทธานุสติ” ถ้าเป็นรูปพระสงฆ์ก็ได้ “สังฆานุสติ” ได้กรรมฐานหมวดอนุสติตั้งสองกอง คนปัจจุบันฉลาดสู้คนโบราณไม่ได้ เข้าใจความหมายของการห้อยพระผิด ๆ แถมคิดว่าท่านจะทะเลาะกันอีก นี่แหละคน...! ปิดเทอมเมื่อไรค่อยตอบจ.ม.ก็ได้จ้ะ ถึงจะลืมไปเลยก็ไม่เป็นไร ไม่ว่ากันอยู่แล้ว จากใจจริง สุธมฺมปญฺโญ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 22-08-2009 เมื่อ 14:06 |
สมาชิก 98 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โยคียุ้ย ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#24
|
|||
|
|||
จดหมายพระอาจารย์_๒๒
.............. ๗ มกราคม ๒๕๓๐ สวัสดีปีใหม่จ้ะน้องหญิง… ขอบใจมากสำหรับส.ค.ส. หลวงพี่เพิ่งมีโอกาสหายใจ หลังจากเหน็ดเหนื่อยสายตัวแทบขาด จากงานเป่ายันต์เกราะเพชร เมื่อวันที่ ๓ มกราคมที่ผ่านมา ญาณทัสนะได้มานานแล้ว และไม่ใช่สิ่งที่หลวงพี่ปรารถนา “วิมุตติญาณทัสนะ” ต่างหากที่ต้องการ ตราบใดยังไม่ถึง “วิมุตติ” ตราบนั้นก็ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดร่ำไป ปีใหม่นี้ขอให้หญิงสมหวังในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ จากใจจริง สุธมฺมปญฺโญ ป.ล. กลอนจาก “กัลยาณมิตร” เพราะดีจ้ะ ขอบใจอีกครั้ง...! จ.ม.ฝากใครไปส่งที่กรุงเทพฯ หรือไปเอง...? -------------------------------------------- ส.ค.ส. ๒๕๓๐ ขอให้หญิงมีความสุขมาก ๆ หลวงพี่ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 22-08-2009 เมื่อ 21:09 |
สมาชิก 90 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โยคียุ้ย ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#25
|
|||
|
|||
จดหมายพระอาจารย์_๒๓
.............................. วัดท่าซุง ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๐ สวัสดีจ้ะน้องหญิง จดหมายฉบับนี้ตอบช้าไปหน่อย เพราะหลวงพี่กลับไปเยี่ยมบ้านเสีย ๕ วัน จดหมายของหญิงไปถึงตอนหลวงพี่ไม่อยู่พอดี เข้ากรุงเทพฯ เที่ยวนี้พบความเปลี่ยนแปลงมากมาย แทบหลง... จากไปไม่ถึงปีดี ไม่นึกว่าจะแปลกไปมากขนาดนี้ เอาละ..ตอบจดหมายดีกว่า.. ๑. แสงประหลาดที่เกิดในรูปหลวงพ่อ เกิดจากอะไรก็สุดที่หลวงพี่จะเดา แต่ระหว่างที่เป็นฆราวาส หลวงพี่ถ่ายภาพที่เป็นปรากฏการณ์ประหลาดแบบนี้ได้บ่อย ๆ แตกต่างกันไปตามเวลาและสถานที่ ทั้งที่ผู้ชำนาญการถ่ายภาพเองและคนอื่นด้วยต่างก็เคยถ่ายภาพได้ จะเดาก็กลัวจะผิด เดี๋ยวเสียเหลี่ยมลูกกำนันหมด ขอยอมแพ้ ตอบไม่ได้ว่าเกิดจากอะไร...? หมายถึงอะไร...? และจุดมุ่งหมายคืออะไร...? ๒. ไม่มีรูปแจกทุกคนที่ไปงานหรอกจ้ะ นอกจากหลวงพี่จะแจกในบรรดาเพื่อนฝูงใกล้ชิด เพราะไม่มีเงินมากขนาดนั้น ๓. รูปที่ได้รับ หญิงจะบูชาแบบใดก็ตามแต่เห็นควร พวกหลวงพี่เขาเอาไปเคลือบพลาสติกแบบบัตรประชาชน แล้วพกติดตัว ๔. คำบาลีหญิงอย่าพยายามใช้นะจ๊ะ เพราะถ้าไม่เข้าใจความหมายถ่องแท้จะเข้าใจผิดไปใหญ่ “วิมุติญาณทัสนะ” ต้องแยกศัพท์เป็น วิมุติ=ความหลุดพ้น, ญาณ= เครื่องรู้, ทัสนะ= การเห็น รวมเป็น “การรู้เห็นเพื่อการหลุดพ้น” ต่างกับญาณทัสนะ “การรู้เห็น” คือ วิมุติญาณทัสนะ ถ้าปฏิบัติได้ก็หลุดพ้นจากโลกเป็นโลกุตตระ (เหนือโลก) ขณะที่ญาณทัสนะ ถึงปฏิบัติได้ก็เอาตัวไม่รอดเพราะเป็นโลกียะ (คลุกคลีกับโลก) ปฏิบัติอย่างไรถึงจะถึง “วิมุติ”? พูดกันสิบปีก็ไม่จบ สรุปย่อว่าปฏิบัติในศีล สมาธิ ปัญญา ในสัมมาปฏิบัติให้ครบถ้วนบริบูรณ์ก็จะ “วิมุติ” จ้ะ นับแล้ว “วิมุติญาณทัสนะ” สูงกว่า “ญาณทัสนะ” มาก ๕. หลวงพ่อเคยผ่านวิมุติหรือไม่หลวงพี่ไม่ทราบและไม่คิดจะทราบ ทราบแค่ว่าสิ่งที่ท่านสอนมีมากมายมหาศาลจนทำได้ไม่จบ เลยไม่มีเวลาแม้แต่จะสงสัย ถ้าทำจนจบความรู้ของท่านคงจะตอบได้ แต่หลวงพี่ไม่ทราบว่า ชาตินี้จะเรียนจบหรือไม่ ถ้าจบจะตอบหญิงเอง รอไปสักชาติหน้าตอนค่ำ ค่ำนะจ๊ะ ...ฮิ...ฮิ...! ๖. สันติอโศกมีการปฏิบัติแนวไหนหลวงพี่ไม่ทราบเอาเสียเลย พอชอบใจธรรมะของหลวงพ่อ หลวงพี่ก็ลงหลักปักฐาน ไม่เหลียวแลใคร ตั้งหน้าทำตามคำสอนหลวงพ่ออย่างเดียว เลยโง่มากกับเรื่องอื่น ๆ เพราะไม่มีเวลาไปสนใจจริง ๆ (ตอบไม่ได้อีกแล้ว) หญิงละจ๊ะ...? เห็นว่าสันติอโศกเป็นอย่างไร มีเวลาเล่าไปให้ทราบบ้างนะจ๊ะ ๗. “กรรม” คือ “การกระทำ” “ดวง” คือ “ผลที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำมาก่อน” สรุปกรรมทำให้เกิดดวง ถ้าเกิดขึ้นแล้วเรียกว่าเสวยผลแห่งกรรม (ดีหรือเลวก็แล้วแต่กรรม) ถ้ายังไม่เกิดขึ้น แต่ผู้รู้สามารถรู้ว่าจะเกิดขึ้นคือดวง ๘. การดูลายมือ+ลักษณะนิสัย ถ้าชำนาญสามารถทายถูกถึง ๘๐% เพราะโบราณาจารย์ เก็บรวบรวมสถิติของผู้มีลายมือแบบนี้ เป็นจำนวนมาก และด้วยระยะเวลาอันยาวนาน มาผูกขึ้นเป็นตำรา ดังนั้น ลายมือแบบไหนเป็นอย่างไร ลักษณะแบบไหนเป็นอย่างไร ก็ใกล้เคียงกับตำรา น้อยรายที่แหกคอกออกไป หลวงพี่เชื่อคนที่เรียนรู้ด้านนี้เพื่ออนุรักษ์ความรู้ แต่ไม่เชื่อคนเรียนรู้เพื่อหากินมากนัก เพราะอย่างหลังบางรายหลอกลวงเพื่อหาผลประโยชน์ แนวทางแก้ปัญหาแบบนี้เป็นไปทางโลก เพราะพุทธศาสนาสอนให้ยอมรับกฎของกรรม ฉบับนี้ทำให้หญิงผิดหวังหรือเปล่าที่บางข้อหลวงพี่ตอบไม่ได้ และสงสัยไหมว่าทำไมถึงตอบไม่ได้...? ใกล้สอบแล้วขออวยพรล่วงหน้าให้หญิงสอบได้ และขอให้มีความสุขมาก ๆ ในวันแห่งความรัก จากใจจริง หลวงพี่ ______________ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 24-08-2009 เมื่อ 20:32 |
สมาชิก 88 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โยคียุ้ย ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#26
|
|||
|
|||
จดหมายพระอาจารย์_๒๔
........................................................................ วัดท่าซุง ๒๔ มีนาคม ๒๕๓๐ สวัสดีจ้ะน้องหญิง… เหนื่อยสมองมาทั้งปี ได้พักเสียที หลวงพี่ดีใจที่หญิงเลือกการกลับบ้านมาทำสวน แทนที่จะเที่ยวเตร่เฮฮาแบบคนอื่น แสดงถึงความเป็นผู้มีความรู้สึกผิดชอบสูง ไม่ทำให้หลวงพี่ผิดหวังเลย... หญิงรู้ไหม...? ปัจจุบันนี้คนรุ่นใหม่ห่างไกลธรรมชาติ เข้าไปสัมผัสกับแสงสีวิทยาศาสตร์มากขึ้น ทำให้เป็นคนใจร้อนใจเร็ว ปราศจากความยั้งคิด จึงมักทำอะไรผิด ๆ ได้ง่าย... หญิงเลือกทางถูก ที่มาคลุกคลีกับบ้านป่าบ้านสวน ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ พบเห็นแต่สิ่งเย็นตาเย็นใจ สุขภาพจิตก็ดีกว่าคนอื่น หลวงพี่อยากให้ทุกคนเอาอย่างหญิงด้วยซ้ำไป หลวงพี่เป็นเด็กบ้านนอก สมัยทำงานอยู่กรุงเทพฯ หลวงพี่ต้องหาโอกาสอย่างน้อยปีละครั้ง หลบงานไปพักที่บ้านไร่ ไปให้ห่างจากสังคมที่มีแต่การปรุงแต่ง กลับไปสู่ธรรมชาติ สายลม แสงแดด หมู่ไม้ ใบหญ้า กระทั่งนก แมลง ดูจะดีอกดีใจ และเต็มใจต้อนรับเวลาหลวงพี่กลับไป หายใจได้เต็มปอดกับอากาศสดชื่น พักผ่อนสายตาจากตึกรามบ้านช่องกับสีเขียวของแมกไม้ เวลาเช่นนั้น เหมือนกับเราอยู่ในโลกส่วนตัว สุขใจอย่างบอกไม่ถูก ความผูกพันกับ “บ้าน” กับแผ่นดินถิ่นเกิด ยิ่งมากขึ้นทุกทีที่ความเจริญทางวิทยาศาสตร์มีบทบาทมากขึ้น ขอให้มีความสุขกับธรรมชาติ เรือกสวนไร่นา ตักตวงความสุขกายสุขใจไว้ให้มากที่สุด เพื่อเอาไว้ต่อสู้กับการศึกษาครั้งใหม่.. จากใจจริง พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ ป.ล. ถ้าพระอยู่ที่ใจ ที่ใด ๆ ก็คือวัดเหมือนกัน __________________ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 30-08-2009 เมื่อ 22:55 |
สมาชิก 88 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โยคียุ้ย ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#27
|
|||
|
|||
จดหมายพระอาจารย์_๒๕
.................. วัดท่าซุง ๒๘ เมษายน ๒๕๓๐ สวัสดีจ้ะน้องหญิง… หลวงพี่ลอกเขามาให้หญิงอ่านบ้าง เป็นของวัดปิปผลิวนาราม (ปิป-ผะ-หลิ) จ.ระยอง เขาว่าอย่างนี้จ้ะ เราเนาว์สราญสุข.................... นิรทุกข์เกษมสันต์ (นิ-ระ) เฉกเช่นลดาวัลย์..................... สะพรั่งติด ณ แผ่นผา ความทุกข์แลกำหนัด................. ก็สลัดมินำพา วิเวกและเอกา........................ ดุจทิพย์ที่ลอยลม (ดุด-จะ) ผิว์แม้นจะลอยล่อง (ผิ).............. ก็มิต้องอาลัยสม บคิด บปรารมภ์........................ บมิห่วงอาลัยมี สถิตย์เหนือ ณ อาสน์เอี่ยม........... กระจ่างเยี่ยมจรัสศรี ครั้นรัตติกาลมี......................... ศศิส่อง ณ แนวไพร (สะ-สิ) แม้พาหิรชน (พา-หิ-ระ)............. จราจลแลบรรลัย เรามั่นสถิตย์ใน........................ สุขธรรมบมิคลอน (สุก-ขะ-ทำ) แม้นใครมาพบเรา.................... ก็จุ่งเนาว์จะสั่งสอน ชี้ทางอันบวร.......................... เสถียรสุขนิรันดร์เทอญ. (ผิว์=ถ้า, ปรารมภ์= คิดคำนึง, นิร=ไม่, ดุจ=คล้ายกับ, อาสน์=ที่นั่ง, รัตติกาล=กลางคืน, ศศิ=ดวงจันทร์, พาหิร=ภายนอก, เสถียร=มั่นคง, นิรันดร์= ตลอดไป) อ้อ ..ยังมีเนาว์=อยู่ อีกตัว ความจริงแปลแค่ พาหิร คำเดียวก็พอนิ.../ ถ้าผิดพลาดขออภัย จำมานานแล้วอาจตกหล่น ขอให้มีความสุขกับการเรียนนะจ๊ะ จากใจจริง หลวงพี่ (เจ้าเก่า) แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-09-2009 เมื่อ 11:35 |
สมาชิก 85 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โยคียุ้ย ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#28
|
|||
|
|||
จดหมายพระอาจารย์_๒๖
......... วัดท่าซุง ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๓๐ สวัสดีจ้ะน้องหญิง… คงเข็ดกรุงเทพฯไปอีกนานสินะ... เมารถจนลืมส่งจดหมายเลยหรือ? เขียนวันที่ ๗ หลวงพี่ได้รับวันนี้เอง โรงเรียนเปิดมาตั้ง ๑๐ วันแล้ว คงกำลังหน้ามืด เอ๊ย...กำลังสนุกกับการเรียน หลวงพี่อิจฉาแต่ไม่ขอเป็นนักเรียนอีก จะบอกหญิงหลายครั้งแล้ว แต่ก็ลืมเสียทุกที คือ มีลูกศิษย์หลวงพ่อขอเปิดสำนักขึ้นที่หาดใหญ่ ไม่ทราบว่าเขาสอนนั่งกรรมฐานหรือเปล่า...เขาเป็นเจ้าของโรงแรมสุคนธา ชื่อ อภิชาติ สุขุม ถ้าหญิงสนใจขึ้นมาเมื่อไร ลองติดตามข่าวดูนะจ๊ะ คนไม่ได้เรียน ร.ด. ถ้าสมัครเป็นทหารจะต้องเป็นกี่ปีขึ้นอยู่กับความรู้ของตน คือ... จบปริญญาตรี- อนุปริญญา เป็นหกเดือน จบปวส. เป็น หนึ่งปี จบปวช.ปวท. เป็น ปีครึ่ง ถ้าจบต่ำกว่านี้เป็นเต็มโควตาสองปี อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ เพราะตั้ง ๗-๘ ปีมาแล้ว ที่สำคัญ...วันสมัครต้องเอาหลักฐานความรู้ไปยื่นแสดง และขอลดหย่อนการเป็นทหารเลย แล้วพอเข้ากรมกองก็เอาใบลดหย่อนไปแสดงกับฝ่ายกำลังพลให้ทำเรื่องให้ทันที ผิดจากนี้รับเละสองปีเต็ม... การเป็นทหารสนุกจะตายไป กลัวว่าเวลาปลดเกณฑ์จะขออยู่ต่อเสียอีกนะสิ...! ขอให้สนุกกับการเรียนจ้ะ จากใจจริง สุธมฺมปญฺโญ บันทึกคุณครูหญิง- ฉบับที่ ๓๒ - ๒๒ พ.ค.๓๐ *** ปีหน้าจะสอบ ENTRANCE พยายามสนุกกับการเรียนรู้ดังคำสอน *** ฉบับที่ ๓๓ - ๒๒ มิ.ย.๒๙ *** ส่งบัตรกราบอวยพรวันเกิดเป็นกตัญญูกตเวทิตาคุณแด่ครูบาอาจารย์ *** แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย โยคียุ้ย : 06-09-2009 เมื่อ 23:31 |
สมาชิก 83 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โยคียุ้ย ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#29
|
|||
|
|||
จดหมายพระอาจารย์_๒๗
........ วัดท่าซุง ๘ พฤศจิกายน ๒๕๓๐ สวัสดีจ้ะน้องหญิง… เดาได้เก่งมากที่ว่าหลวงพี่ยังอยู่วัด น่าจะมีรางวัลให้ แต่บังเอิญเดาผิดว่าหลวงพี่ได้รับธรรมะที่ต้องการแล้ว เลยหักลบกลบล้างหมดเกลี้ยงพอดี ธรรมะไม่ใช่ของง่ายเลย ต้องสร้างสมบารมี ๑๐ ให้ครบถ้วน เพื่อทำลายสังโยชน์ ๑๐ ให้สิ้นไป ถ้าทำได้อย่างนี้จึงได้ธรรมะที่หลวงพี่ต้องการ ซึ่งคนเราเวียนตายเวียนเกิดจนนับชาติไม่ถ้วนยังทำไม่ได้เลยจ้ะ หลวงพี่เองมั่นใจว่าทำได้แน่..แต่เมื่อไรนั้นรอดูไปก่อน...! ดีใจที่น้องหญิงอยู่เป็นสุขดี การเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนวิธีการเรียน จะมากจะน้อยก็ต้องมีผลกระทบต่อเราในระยะแรก แต่หลวงพี่มั่นใจในตัวของหญิงมาก เชื่อว่าหญิงต้องปรับตัวได้เร็วแน่ ๆ เลยจ้ะ ใกล้เป้าหมายแรกในชีวิตเข้ามาทุกขณะแล้ว หญิงจงอย่าประมาทนะจ๊ะ เพราะถ้าพลาดนอกจากเสียเวลาแล้ว ยังต้องเสียใจด้วยสิ ดังนั้นต้องพยายามและพยายามเท่านั้น หลวงพี่จะรอแสดงความยินดีกับหญิงจ้ะ เด็กสมัยนี้น่าตีมาก อะไร ๆ เล่นคำย่อกันยันเตเลย อยากเขียนแค่ มอ.ตานี นางตานีเลยโผล่มาหลอกเสียให้เข็ด หลวงพี่คิดจะช่วยผีหลอกเสียด้วยซ้ำไป ฮะ..ฮะ..คงสนุกน่าดู...! เรื่องของโอปปาติกะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ดีแล้วจ้ะที่หญิงไม่หลงเชื่อเพื่อนแล้วด่าส่งเดช เขาอาจจะเป็นเปรต อสุรกาย สัมภเวสีที่มีทุกข์ ต้องการผลบุญจากเรา จึงพยายามแสดงตัวให้เห็น เพื่อขอส่วนบุญ คราวหน้าถ้าเห็นปุ๊บ ขอให้หญิงตั้งจิตตรงถึงเขาทันที คิดว่า “กุศลบารมีใด ที่เราสมสร้างมา ตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ ขออุทิศให้เธอ ขอเธอจงโมทนา และได้รับประโยชน์สุขนั้นโดยพลัน ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด” เท่านี้ก็เรียบร้อย ไม่ใช่ว่าเขาพยายามแสดงตนแทบตาย ถูกด่ากระเจิงทุกที คงร้องไห้แง ๆ ไปเลย และคิดว่า อุตส่าห์เห็นว่าเป็นคนมีบุญ ไม่ให้ไม่ว่า ทำไมต้องด่าหนูด้วย...ถ้าเราอุทิศส่วนกุศลให้เขามีความสุข เขาเหล่านี้มีความกตัญญูมาก จะค่อยช่วยเหลือคุ้มครองเราจากภัยต่าง ๆ เท่าที่วิสัยของเขาจะทำได้ เราก็จะมีอินวิซิเบิ้ลการ์ดที่ดี คอยเป็นผู้คุ้มกัน น่าภูมิใจออก... อีกประเภทหนึ่ง เขาอาจเป็นภูมิเทวดา หรืออากาศเทวดาที่เป็นเจ้าของสถานที่ เราไปอาศัยเขาอยู่ อาจจะไม่เคารพเขา มีการเอะอะโวยวายตามประสาวัยรุ่น เขาก็โผล่มาเป็นการเตือนว่า “เบา ๆ หน่อยจ้ะ แม่คุณ เกรงใจฉันบ้างสิ” ถ้าแบบนี้ก็ง่ายมาก ให้จุดธูปขอขมาด้วยใจเคารพจริง ๆ แล้วฝากเนื้อฝากตัวอยู่ใต้การดูแลของเขาเสียเลย เมื่อผู้ใหญ่เอ็นดูว่ามันว่าง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน ทีนี้เด็กจะทำอะไรก็น่ารักไปหมด เราดีคนเดียวคนอื่นรับเละต่อไป ประเภทสุดท้าย เป็นเพื่อนเก่าแต่ชาติก่อน พวกนี้พอเห็นเรามีกำลังใจพอจะเข้มแข็งบ้าง ก็จะโผล่มาจ๊ะเอ๋ด้วย เป็นการทักทายตามประสาเพื่อนเก่า และเป็นอุบายช่วยทำให้กำลังใจดีขึ้น แบบนี้มีประโยชน์มาก จะตื่นเวลาไหนบอกเขาได้รับรองปลุกตรงยิ่งกว่านาฬิกาเสียอีก มีอันตรายอะไรมาถึงขอให้เขาเตือนก่อนได้ ช่วยคุ้มครองอันตรายต่าง ๆ ได้ ที่แน่นอนที่สุดคือ ถ้าติดต่อได้ชัดเจนเหมือนตาเห็น ถามเขาได้เลยว่าข้อสอบออกอะไรบ้าง และจะตอบแบบไหนถึงจะถูกใจคนตรวจ รับรองว่าเขาบอกถูกหมดทุกตัวอักษรเลยทีเดียว พวกนี้ส่วนมากเป็นเทวดาหรือพรหม เห็นเพื่อนซี้มัวย่ำต๊อกเป็นมนุษย์เดินดินอยู่ เลยมาแซวเล่น ถ้ากลัวเขาก็จะเลิก ถ้าไม่กลัวจะให้ช่วยอะไรขอให้บอก ถ้าไม่เกินวิสัย ได้เลยจ้ะ.. ที่หลวงพี่เขียนมามันอาจจะเหลือเชื่อเกินไป แต่หลวงพี่กล้ายืนยันกับหญิงว่า ทุกอย่างที่เขียนมานั้นมีจริง เป็นจริง หญิงค่อย ๆ พิสูจน์เอาแล้วกันนะจ๊ะ ได้ผลอย่างไรเขียนไปเล่าให้หลวงพี่ทราบด้วย ขอให้ความสำเร็จทุกประการจงเป็นของหญิงจ้ะ สุธมฺมปญฺโญ บันทึกคุณครูหญิง - ฉบับที่ ๓๔.๑ - ๘ พ.ย.๓๑ *** มอ.ตานี หมายถึง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี *** แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย โยคียุ้ย : 06-09-2009 เมื่อ 23:33 |
สมาชิก 85 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โยคียุ้ย ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#30
|
|||
|
|||
จดหมายพระอาจารย์_๒๘
........ บันทึกคุณครูหญิง ฉบับที่ ๓๕ / ๕ ธ.ค.๓๑ *** ปีนี้น้ำท่วมหนักทางภาคใต้ *** ฉบับที่ ๓๖.๑ - ๓๖.๒ / ๑๓ ธ.ค.๓๑ *** "พระ" จริง ๆ หวังในการสงเคราะห์ญาติโยมอย่างเดียว*** ----------------------------------------------------- ๕/๑๒/๓๑ น้องหญิงจ๊ะ... ทางบ้านเป็นอย่างไรบ้าง? แล้วขณะนี้ถ้าหญิงลำบากด้วยเรื่องอะไร ถ้าคิดว่าหลวงพี่ช่วยได้ก็ให้รีบบอกนะจ๊ะ อย่ามัวแต่เกรงใจกันอยู่ ทางวัดหนาวมากแล้ว ๑๗-๑๘ องศาเซลเซียส กลางแจ้งประมาณ ๒๔-๒๕ องศาเซลเซียส มือเย็นเจี๊ยบเลย จากใจจริง หลวงพี่ ……………………………................................................. วัดท่าซุง ๑๓ ธันวาคม ๒๕๓๐ สวัสดีจ้ะน้องหญิง… โล่งใจไปทีที่หญิงไม่ถึงกับตกน้ำป๋อมแป๋ม นอนแบนแต๊ดแต๋ใต้แพซุงอย่างคนอื่นเขา แถมยังสนุกเสียอีก ก็อย่าถึงกับเพลินจนซ่อมเสียล่ะ...ไม่ได้แช่งนะจ๊ะ กลัวไว้ก่อนละดี คนเราเกิดมาอยู่ใต้กฎของกรรม กรรมฝ่ายดีเรียกว่ากุศลกรรม ฝ่ายเลวเรียกว่าอกุศลกรรม กรรมทั้งสองฝ่ายนี้ผลัดกันให้ผลในการดำเนินชีวิตของเรา กุศลกรรมคือบุญ ถ้าให้ผลเราจะทำอะไรก็เนี้ยบไปหมด ชนิดเก็บขยะไปขายก็ไปเจอทอง รวยจนได้ อกุศลกรรม คือ บาปเคราะห์ให้ผล ทำอะไรก็หาที่ปิ๊งไม่เจอ จากขายทองกลายเป็นขายขวด อะไรทำนองนี้แหละ... ทีนี้คนโบราณเขาเก่ง เขาสังเกตการให้ผลของบาป-บุญในแต่ละจังหวะชีวิตของคน แล้วกำหนดลักษณะการให้ผลทั้งดี-เลว เป็นอาการ ๙ อย่าง เรียกว่านพเคราะห์ มีการวางตัวให้เทวดาต่าง ๆ ว่าเป็นผู้ให้ผลเสียด้วย เช่น พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก พระอาทิตย์เล็งลักคน์ พระจันทร์กุมราศี ฯลฯ เทวดาเขาอยู่ดี ๆ ถูกมนุษย์ยัดข้อหาให้โดยไม่รู้ตัว รับเละไปเลย... ดังนั้นคำว่าเคราะห์ ก็มีทั้งดีและร้าย แต่เราหมายเอาร้ายฝ่ายเดียว คราวนี้พออกุศลกรรมให้ผล เราก็วิ่งหาอาจารย์สะเดาะเคราะห์กันอุตลุด สะเดาะไปสะเดาะมา เคราะห์ของฝ่ายอาจารย์หมดไปเพราะรวยขึ้นทุกที ลูกช้างที่กู้หนี้ยืมสินเขามาสะเดาะก็เคราะห์หนักขึ้น เพราะไปหลงเชื่อท่านจานพลาสติกเข้า อ้าว...อย่างนั้นจะให้ทำอย่างไรละคะ? ... ง่ายนิดเดียวจ้ะ.. การสะเดาะเคราะห์คือการทำบุญหนีบาป ไม่ใช่ล้างบาปนะจ๊ะ บาปคือคราบสกปรกที่ทนทาน น้ำยายี่ห้อไหนก็ล้างไม่ได้ แต่หนีได้ด้วยการทำบุญ วิธีทำบุญก็แสนง่าย คือ จะให้ทาน รักษาศีล หรือทำสมาธิภาวนาก็ได้ ให้ทานก็การทำบุญใส่บาตร รักษาศีลก็ตั้งใจว่า เราจะไม่ละเมิดข้อห้ามทั้ง ๕ เจริญภาวนาก็นั่งนึกถึงความดีของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ฯลฯ แล้วนั่งจับลมหายใจ จะว่า พุท-โธ, ธัม-โม, สัง-โฆ หรืออะไรก็ได้ตามถนัด เมื่อเราไม่อยู่เฉย คือ ทำบุญ เหมือนอาการวิ่งหนี ก็จะพ้นจากเคราะห์ที่เหมือนหมาดุไล่กัดได้ ถึงไม่พ้นทีเดียว เจ้าหมาก็หมดแรงตอนไล่ตามก็กัดเรามากไม่ได้ แจ่มแจ้งหรือยังน้องหนู? เพราะฉะนั้นการให้พระสะเดาะเคราะห์ก็ทำได้ เพราะท่านไม่ได้เรียกเทวดามากราบไหว้ขอร้อง แต่ในเมื่อเราทำเองได้ ทำไมต้องไปยุ่งกับพระและสารพัดอาจารย์ด้วยใช่ไหมจ๊ะ เพราะนอกจากจะไปเจอจิตวิทยามาจากจานสารพัดยี่ห้อจนเคราะห์หนักขึ้นแล้ว ยังจะต้องเจอบรรดาพระแต่เปลือก จ้องจะถลกหนังขบกระดูกญาติโยมเข้าจะแสบทรวงหนักขึ้น บรรดาพระแต่เปลือกปัจจุบันนี้เดินหลีกไม่พ้น มากมายเหลือเกิน นอกจากบรรดาที่เป็นพระจริง ๆ หวังในการสงเคราะห์ญาติโยมอย่างเดียว และเรามั่นใจก็ไปหาท่านเถอะ เพราะการพบพระเป็นลาภอันประเสริฐ ถ้าพบแพะก็กรรมของสัตว์โลก...! ถามมานิดเดียวตอบเสียยาวเลย และลายมือแย่มาก เพราะตอนเขียนนี้ ๑๔:๔๐ น. แดดจ้าเลย แต่เทอร์โมมิเตอร์แค่ ๒๔ องศา มือไม้แข็งหมดเขียนแทบไม่เป็นตัว เอาละจ้ะ ดังได้วิสัชนามาก็สมควรแก่เวลา เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้ ขอให้หญิงสำเร็จทุกประการจ้ะ หลวงพี่เจ้าเก่า...! แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-09-2009 เมื่อ 13:44 |
สมาชิก 80 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โยคียุ้ย ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#31
|
|||
|
|||
จดหมายพระอาจารย์_๒๙
..................................................................... ๔/๑/๓๒ น้องหญิงจ๊ะ... ขอบใจมากสำหรับส.ค.ส. เพิ่งได้รับจ้ะ เนื่องจากหลวงพี่ไปงานศพคุณยายมา โชคดีปีใหม่ที่ยายมาเสียพอดี จะมีใครเฮงแบบนี้ไหมนะ ? หาส.ค.ส.ให้ไม่ทันจ้ะ ปีใหม่ขอให้หญิงมีความสุขมาก ๆ ปรารถนาอะไร ขอให้สมหวังทุก ๆ ประการนะจ๊ะ จากใจจริง หลวงพี่ …………………………….. วัดท่าซุง ๗ เมษายน ๒๕๓๒ น้องหญิงจ๊ะ จ.ม.เที่ยวนี้ของน้องหญิงแปลกไปมาก เหมือนไม่ใช่น้องคนเดิมเลย ถ้าไม่ใช่เหนื่อยจากงานมา ก็คงมีเรื่องกระทบกระเทือนใจบ้าง ถ้ามีอะไรที่หลวงพี่ช่วยหญิงได้ก็บอกไปนะจ๊ะ... การฝืนใจทำอะไรที่ไม่ชอบ แต่ทำเพื่อประโยชน์ที่ดีแสดงว่าหญิงโตพอที่จะรับผิดชอบอะไรต่อมิอะไรได้แล้ว เพราะคนที่ทำแบบนั้นได้ ต้องรู้จักคิดตรองหาเหตุผลก่อน หญิงทำถูกแล้วจ้ะ หลวงพี่ปีนี้มีลูกสาวสามคนแล้ว คนโตอายุ ๒๔ จบปริญญาตรีแล้ว คนกลางอายุ ๑๗ ปีนี้ขึ้นม. ๖ คนเล็ก ๑๒ ขวบ ปีนี้อยู่ม. ๒ เป็นอย่างไรจ๊ะ...? น่าทึ่งไหม...? เด็กดีแถวนี้เขารักนับถือหลวงพี่มาก ๆ บวกกับพ่อแม่เขาฝากฝังไว้ หลวงพี่เลยกลายเป็นพ่อลูกอ่อน กระเตงลูก ๆ เป็นพรวนเลย เพราะเวลาไปหา เขาเอาเพื่อนไปคนละโขยง...! หลวงพี่คงอบรมพวกเขาไม่ดีนัก เพราะตัวเองเป็นพระ และพวกเขาโตเป็นสาวกันแล้ว ได้แต่เป็นแบ๊คให้ห่าง ๆ คอยชี้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร แล้วให้เขาเลือกกันเองว่าจะทำอะไร ยังโชคดีที่คนโตกับคนเล็กว่าง่าย น่ารักมาก คนกลางติดจะดื้อหน่อย แต่ธรรมดาของวัยรุ่น เราไม่ควรปิดกั้นการแสดงออกของเขาใช่ไหมจ๊ะ...? คนเป็นพ่อแม่ลำบากอย่างไร ตอนนี้หลวงพี่ทราบซึ้งเลยจ้ะ ชั้นจะกินอะไรก็คิดว่าแล้วลูกจะมีกินไหม... จากใจจริง พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ ป.ล. ฝากความคิดถึงมายังคุณพ่อประภาสด้วยจ้ะ... ......................................................................... วัดท่าซุง ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๓๒ น้องหญิงจ๊ะ... ขอบใจมากที่แฮปปี้เบิร์ธเดย์ย้อนหลังให้ และหลวงพี่ก็ดีใจที่หญิงชอบหนังสือที่ส่งมาให้ เพิ่งทราบเดี๋ยวนี้เองว่าหญิงเรียนเอกบรรณารักษ์ คงอ่านหนังสือตาแฉะแน่เลย เป็นธรรมดานะจ๊ะ เมื่อต่างคนต่างเรียนสูงขึ้น ย่อมทุ่มเทให้กับการเรียน จนมีเวลาให้เพื่อนน้อยลง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ถ้าเราจริงใจกับเพื่อน ย่อมดีกว่าปั้นหน้าหลอกกันแน่นอน ลูก ๆ ของหลวงพี่ว่าง่าย น่ารักมาก แม้จะดื้อบ้างซนบ้าง ก็ต้องปล่อยเขา เพราะยังอยู่ในกรอบที่ขีดไว้ แม้ว่าเขาจะเข้าใจยากเป็นบางครั้งตามประสาวัยรุ่น แต่ไม่เคยหนักใจเลยจ้ะ... เวทีชีวิตมีหลายรส จะหวังทุกอย่างให้เป็นไปดังที่ต้องการย่อมไม่ได้ การอยู่ร่วมกันต้องกระทบกระทั่งกันเป็นธรรมดา ‘โกวเล้ง’ เขียนไว้ว่า “ฤดูหนาว ตัวเม่นเบียดกันหาความอบอุ่น ย่อมต้องเจ็บปวดบ้าง เพราะขนแหลมของอีกฝ่ายทิ่มแทง หากท่านไม่ทนกับความเจ็บปวดเล็กน้อย ท่านก็ต้องหนาวเหน็บอ้างว้าง...” เดินหน้าต่อไปนะจ๊ะ หากเหนื่อยนักก็พักบ้าง หายเหนื่อยค่อยเดินต่อ จุดหมายรออยู่ข้างหน้า หลวงพี่ขออวยพรให้หญิงพบความสำเร็จทุกประการจ้ะ จากใจจริง หลวงพี่เล็ก __________________ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 15-09-2009 เมื่อ 03:09 |
สมาชิก 69 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โยคียุ้ย ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#32
|
|||
|
|||
จดหมายพระอาจารย์_๓๐
......... ๑๐ ส.ค. ๓๒ น้องหญิงจ๊ะ... คราวก่อนตอบจ.ม.ตอนงานยุ่งมาก ๆ เลย ลืมเรื่องคาถาชินบัญชรเสียสนิท ฉบับนี้ขอตอบใช้หนี้จ้ะ “คาถา” เป็นภาษาบาลี แปลเป็นไทยว่า “วาจาเป็นเครื่องกล่าว” ตกลงคำว่าคาถา คือ คำพูดธรรมดานี่เอง แต่ในความหมายของเรามักจะเป็นไปทางเวทย์มนต์เสียหมด คาถาจะศักดิ์สิทธิ์แค่ไหน ขึ้นกับพลังจิตอันแน่วแน่ของผู้ใช้ ยิ่งเป็นสมาธิแนบแน่นเท่าไร ผลของคาถายิ่งเกิดขึ้นรวดเร็วและมากมายเท่านั้น คาถาทุกบท หากผู้ใช้เชื่อมั่นไม่สงสัย และมีสมาธิตั้งมั่น จะทำได้ทุกบทตามที่เราเลือกใช้... สรุป คาถาชินบัญชร เชื่อได้ ๑๐๐% แต่ที่มาของคาถาอย่าเชื่อ...!เพราะกล่าวไปหลายทางเหลือเกิน เอาเป็นว่าเราใช้คาถาชินบัญชรเมื่อใด นึกถึงหลวงปู่โตวัดระฆัง เป็นอันมีผลแน่นอน ขอให้ตั้งใจจริง ทำจริง ๆ เท่านั้นจ้ะ จากใจจริง พระเล็ก ..................................................... วัดท่าซุง ๒ พ.ย. ๓๒ น้องหญิงจ้ะ.. หลวงพี่โดนปรับ ๓ บาท เพราะหญิงเผลอติดแสตมป์สองดวงรวมแล้วบาทเดียว หลวงพี่เลยเคราะห์ดีไป ๔๙๒-๕๒๙ คือ หมายเลขประจำตัวพระของหลวงพี่จ้ะ หลวงพี่ไม่ได้สะสมหนังสือแล้ว ของเก่ายกให้ห้องสมุดร.ร.ไปเกือบครึ่งห้อง ส่งให้เพื่อนที่ชายแดนหลายลัง ที่เหลือเจ้าตัวเล็กมักเอาไปอ่าน มีลูกสามคนก็มีเจ้าตัวเล็กที่นิสัยเหมือนพ่อ ชอบทำอะไร ๆ ตามอย่าง ทีนี้ของมันพอจะเหลือนิดหน่อย ก็แบ่งให้น้องหญิงอ่านบ้าง หลวงพี่รักหนังสือมาก ทุกเล่มอ่านหลายเที่ยว แต่หนังสือไม่เคยช้ำ เห็นคนทำหนังสือช้ำมันปวดใจ แบ่งให้หญิงก็เป็นที่มั่นใจว่า หนังสือต้องไม่ช้ำแน่ ๆ หลวงพี่อยากมาเที่ยวปักษ์ใต้บ้าง ในชีวิตลงมาใต้ไกลสุดแค่หัวหิน แต่คงหาเวลาว่างยาก ปิดเทอมปีไหนอยากเป็นไกด์นำพระทัวร์ภาคใต้ก็บอกนะจ๊ะ จะได้มาซิ่งบ้างถ้าว่างพอดี... เชื่อมั่นในความตั้งใจแน่วแน่ของหญิงในการเรียน ผู้ที่ตั้งใจดีสำเร็จไปกว่าครึ่งแล้ว คำอวยพรจะมีส่วนก็น้อยมาก เอาเป็นว่า ขอให้หญิงใช้ความพยายามเต็มที่แล้วกัน ผลต้องออกมาดีแน่นอน หวังว่าจ.ม.ฉบับนี้คงฝ่าสายน้ำมาถึงหญิงโดยปลอดภัยนะจ๊ะ...แปลกคน เห็นน้ำท่วมเป็นเรื่องสนุกไปได้นิน้องเรา...! จากใจจริง พระเล็ก ..................................................... ๒๑ ส.ค. ๒๕๓๒ ไปเยี่ยมสถานีวิจัยเพื่อรักษาต้นน้ำแม่กลอง จากซ้ายไปขวา แม่-น้าเล็ก-น้าเจี๊ยบ-น้องจุ๊บ และหลวงพี่เองจ้ะ พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 22-09-2009 เมื่อ 11:36 |
สมาชิก 66 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โยคียุ้ย ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#33
|
|||
|
|||
จดหมายพระอาจารย์_๓๑
........... บันทึกคุณครูหญิง ๔๑.๑ - ๔๑.๒ ( ๑๔ ธ.ค. ๓๒ ) ** เริ่มตั้งใจว่าจะกวาดบุญทุกอย่างที่ขวางหน้า ** .......................................................... วัดท่าซุง ๑๔ ธ.ค. ๓๒ น้องหญิงจ๊ะ… ขนาดไม่มีเวลาคิดนะนี่ ยังมีคำถามตั้งสามข้อ ถ้ามีเวลาคงมากกว่านี้หลายเท่า ว่าจะส่งหนังสือชุดสุดท้ายที่มีอยู่มาด้วยก็ไม่ทัน เพราะหลวงพี่ต้องเตรียมตัวเข้าป่า คงต้องรอกลับจากป่าก่อนนะจ๊ะ แล้วจะส่งมาให้ ขอไปตุ๊กะดงค์ก่อน (ธุดงค์) ถ้าไม่ถูกพม่าหรือกะเหรี่ยงเจี๋ยนเสียก่อนคงได้พบกันจ้ะ... ตอบคำถามนะจ๊ะ...คำพูดหรือคำอวยพรของผู้ทรงศีล ย้ำ ผู้ทรงศีลจริง ๆ นะจ๊ะ มีผลตามนั้นแน่ ๆ ถ้า ข้อ ๑ ท่านผู้นั้นมีความบริสุทธิ์ (กาย วาจา ใจ) จริง ๆ ..ข้อ ๒ เป็นเวลาที่กุศลกรรม (ผลบุญ) ส่งผลให้เราพอดี ถ้าสองข้อรวมกันจะมีผลทันที ถ้าบกพร่องข้อใดผลก็น้อยลงตามไปด้วย แต่ก็ให้ผลแน่ ๆ จ้ะ จะมากจะน้อยก็ต้องมีผล การถือศีลนั้น ความดีเกิดกับเรา จะยกให้คนอื่นไม่ได้ แต่ถ้าผู้อื่นเขาโมทนาบุญนั้น เขาก็จะได้รับผลบุญนั้นจากส่วนปัตตานุโมทนามัย คือมีใจยินดีกับผู้อื่นโดยไม่อิจฉาริษยา ตามตำรากล่าวว่า ได้เกือบเท่าคนทำเลยจ้ะ… ข้อสุดท้ายเกี่ยวเนื่องกับข้อที่สองคือ การที่เราทำบุญแล้วบอกผู้อื่นโมทนา เขาจะได้รับผลบุญแน่ ๆ ถ้า..(เรื่องสนุกต้องมี “ถ้า”) เขายินดีด้วยอย่างจริงใจ แต่ว่าตำราเล่มเดียวกันบอกว่า เวลาผลบุญนั้นให้ผล ผู้ทำเองจะรับก่อน ผู้โมทนาจะรับทีหลังนิดหนึ่ง เช่น คนทำเป็นเศรษฐีวันนี้ คนโมทนาเป็นเศรษฐีพรุ่งนี้ เป็นต้น ถ้าจะให้ดี เรากวาดบุญทุกอย่างที่ขวางหน้าเป็นการเผื่อเหนียว ทำเองก็ทำ โมทนาก็เอา ใครเขาได้เราได้ด้วย ของเราเองก็มีด้วย รวมแล้วเราเยอะกว่า ฮ่า.. ฮ่า..! ทางวัดของหลวงพี่หนาวเอาการ ประมาณ ๑๔-๑๘ องศาเซลเซียส แต่พรุ่งนี้หลวงพี่ไปทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ตรงนั้นติดพม่า “เขาว่า” อุณหภูมิ ๘.๕ องศา คงไม่ถึงกับกลายเป็นไอศกรีมแท่งหรอกจ้ะ ถ้ามีโอกาสหลวงพี่จะมาใต้แน่นอน มีคนรู้จักที่หาดใหญ่หลายคน แต่ไม่แน่ว่าเป็นเมื่อไรนะจ๊ะ เพราะโปรแกรมแน่นเปรี๊ยะเลย เข้าป่าแทบทุกรายการ ผลบุญใดที่หลวงพี่ทำมาแต่ต้นจนบัดนี้ ขอให้หญิงโมทนา ขอจงได้รับประโยชน์และความสุขเช่นเดียวกับหลวงพี่ทุกประการ ขอให้หญิงมีความปรารถนาสมหวังจ้ะ จากใจจริง พระเล็ก แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 28-09-2009 เมื่อ 15:18 |
สมาชิก 67 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โยคียุ้ย ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#34
|
|||
|
|||
จดหมายพระอาจารย์_๓๒
........... บันทึกคุณครูหญิง - จม.ฉบับที่ ๔๒ / ๑๖ ก.พ.๓๓ ** “พัมพ์คินชาเรจ” รูปล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ ** ............................................................ อู่ทอง ๑๖ ก.พ. ๓๓ น้องหญิงจ๊ะ… หลวงพี่กลับจากธุดงค์เมื่อวาน วันนี้แวะมาหาแม่ที่อู่ทอง แล้วจะกลับวัด “พัมพ์คินชาเรจ” ที่ส่งไปให้ได้รับแล้ว ขอบคุณมากเลยจ้ะ จุดมุ่งหมายของการไปธุดงค์ของหลวงพี่ก็คือ ไปหาธรรมะในจุดที่ตนยังพร่อง และไปแบบ “หาที่ตาย” จริง ๆ เพราะเขียนพินัยกรรมไว้เลย… หลวงพี่เข้าป่าจริง ๆ ผจญภัยแทบเอาชีวิตไม่รอด ไปพบป่าดงดิบที่สมบูรณ์แบบ พบรอยพระพุทธบาทรอยใหม่เอี่ยมของประเทศไทยบนเทือกเขาระหว่างสุโขทัย -ลำปาง... ประสบการณ์แปลก ๆ เล่ากันไม่หวาดไม่ไหว น่าเสียดายสมุดบันทึกการเดินทาง หลวงพี่พลาดตกในลำห้วย สมุดเสียหายหมด... เหนื่อยยาก หิว หนาว เปียก และ ทาก เห็บ เหลือบ ปีนสวนน้ำตกไปเป็นหลาย ๆ สิบก.ม.ล้วนเป็นประสบการณ์พิลึกพิลั่นบรรยายไม่ถูก ขอให้หญิงดำเนินตามหนทางของตนอย่างราบรื่นนะจ๊ะ คิดถึงหลวงพี่เมื่อไรก็เขียนจ.ม.ไปหาได้ทุกเวลา ถ้าอยู่ต้องรีบตอบแน่ ๆ จากใจจริง พระเล็ก ป.ล. สมุดบันทึกธุดงค์เล่มเล็กมาก เลยเขียนตัวเล็กจนชินจ้ะ .......................................................... วัดท่าซุง ๓๑ มีนาคม ๓๓ น้องหญิงจ๊ะ... คงจะสบายดีนะจ๊ะ หลวงพี่ส่งผู้ชนะสิบทิศมาให้ มีเวลาค่อยอ่านนะจ๊ะ อ่านช้า ๆ แล้วจะเห็นฤทธิ์ยาขอบ บางทีเขาพูดความเลวเป็นความดีได้หน้าตาเฉย ขอให้หญิงชนะปัญหาทุกอย่างเหมือนบุเรงนองจ้ะ จากใจจริง พระเล็ก __________________ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย โยคียุ้ย : 07-10-2009 เมื่อ 12:10 |
สมาชิก 68 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โยคียุ้ย ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#35
|
|||
|
|||
จดหมายพระอาจารย์_๓๓
บันทึกคุณครูหญิง จม.ฉบับที่ ๔๔ / ๒๑ พ.ค. ๓๓ **…ลำบากให้เคยชิน ต่อไปจะไม่มีอะไรลำบากสำหรับเรา...** **...เป็นข้อคิดในการใช้ชีวิตเสมอมา...** _______________________________________ วัดท่าซุง ๒๑:๕:๓๓ น้องหญิงจ๊ะ… จ.ม.จะถึงทันหญิงกลับม.อ.หรือเปล่าก็ไม่รู้...? หลวงพี่ส่งผู้ชนะสิบทิศไปให้หญิงที่ม.อ.ทั้งชุดเลย เกือบสองเดือนแล้ว ถ้าได้รับแล้วช่วยตอบด้วยนะจ๊ะ... หลวงพี่เพิ่งหายจากป่วยหนัก เป็นตั้งแต่สงกรานต์แล้วไม่รักษาให้ดี ลุยไปพม่าต่อ พอกลับมาเลยหงิกรับประทาน ลูกเพิ่มเป็น ๕ คนแล้วจ้ะ คงไม่รับเพิ่มอีก มีคนรองกำลังเรียนม.ธ.ปี ๓ กับเจ้าตัวจิ๋วเพิ่งขึ้นป.๔ ใช่จ้ะ “งานหนักไม่เคยฆ่าคน” พวกที่ไหลตายก็ไม่ได้เป็นเพราะงานหนัก กรรมเก่าของเขาต่างหาก... ลำบากให้เคยชิน ต่อไปจะไม่มีอะไรลำบากสำหรับเรา บางทีต้นปีหน้า หลวงพี่จะมาหาดใหญ่บ้าง ขอให้สุขสันต์วันเปิดเทอมนะจ๊ะ พระเล็ก .......................................................... วัดท่าซุง ๑๙ มิถุนายน ๓๓ น้องหญิงจ๊ะ... หลวงพี่ตอนนี้สบายดีทุกอย่างจ้ะ ขอบใจมากที่ถามถึง ตอนนี้ฝนชักจะตกบ่อย ทำท่าจะเป็นหวัดเหมือนกัน แต่ยังไม่ยอมเป็นตอนนี้หรอกจ้ะ... ลูกปุ๋มก็เป็นแบบหญิงเปี๊ยบเลย คือเรียนวิชาที่ตัวเองชอบ แต่ทำคะแนนไม่ได้ดีดังใจ เลยร้องไห้ฟ้องหลวงพ่อเสียเรื่อยเลย เด็กขี้แย...! เรื่องไหลตาย เกิดจากกรรมเก่าจ้ะ คนทั้งหลายเหล่านั้นเคยเป็นทหาร ไปทำลายกองทัพข้าศึก ด้วยการรมควันด้วยกำยานผสมผงพิษ ข้าศึกหายใจเข้าไปเลยหลับตายไปเฉย ๆ ตอนนี้กรรมกำลังสนองจ้ะ วิธีแก้กรรม (ไม่ใช่สะเดาะเคราะห์นะจ๊ะ) ให้ปั้นหุ่นด้วยดินเหนียว เขียนชื่อใส่หุ่น (ชื่อตัวเอง) เอาผ้าแดงทำผ้านุ่งให้หุ่น เอาหุ่นพร้อมขนมต้มขาวต้มแดง ใส่กระจาดไปไว้ที่ทางสามแพร่ง ว่านะโมสามจบ พุทธํ สรณํ คจฺฉามิ – ตติยมฺปิ ฯลฯ แล้วอธิษฐานให้เจ้ากรรมนายเวร มาเอาหุ่นพร้อมเครื่องสังเวยมาแทนตัวเรา เท่านี้ก็ปลอดภัย (หญิงไม่เคยฆ่าวิธีนี้ ไม่ต้องทำนะจ๊ะ) คาถาทุกบท (ไม่เฉพาะชินบัญชร) จะสวดเวลาใดก็ได้ถ้าใจเป็นสมาธิ เวลาไหนก็ได้ผลเท่ากัน ไม่เกี่ยวกับกลางวัน-กลางคืน ขึ้นหรือแรมใด ๆ เลย ถ้าสมาธิดี “พุทโธ” คำเดียวก็สะเดาะกลอนได้ อยู่ที่การอธิษฐานจิตเท่านั้น ถ้าสมาธิดี ตั้งใจอย่างไรก็ได้แบบนั้นจ้ะ (ทุกอย่างสำเร็จด้วยใจ) อย่าเพิ่งบวชชีตอนนี้เลยจ้ะ ตั้งใจเรียนให้จบก่อน หน้าที่ของเราตอนนี้คือเรียน เรื่องอื่นเก็บไว้ก่อน ขอให้หญิงโชคดี มีเงินใช้ ไร้โรคา ปรารถนาสมหวังทุกประการ จากใจจริง พระเล็ก แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-10-2009 เมื่อ 10:15 |
สมาชิก 69 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โยคียุ้ย ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#36
|
|||
|
|||
จดหมายพระอาจารย์_๓๔
........... บันทึกคุณครูหญิง จม.ฉบับที่ ๔๗ ( ๒ พ.ย. ๓๓ ) *** ..ของแบบนี้พูดง่ายแต่ทำยาก ..ต้องอาศัยปัญญาพิจารณา ..และการฝึกฝนเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ..แต่ถ้าทำได้ก็คุ้มเหลือเกินเพราะเราจะมีที่พึ่งที่ดีที่สุด ..จดจำและปฏิบัติตามเสมอมา *** _______________________________________ วัดท่าซุง ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๓๓ น้องหญิงจ๊ะ… ขอบคุณมากจ้ะที่แฮ็ปปี้เบิร์ธเดย์ไปให้ ความจริงหลวงพี่ลืมวันเกิดของตัวเอง แต่บรรดาญาติโยมทั้งหลายเขาไม่ยอมลืม เขาปรึกษาจะจัดงานวันเกิดกันใหญ่โต แต่หลวงพี่เป็นคนลืมตัวง่าย ขืนให้คนมาจัดงานมายกย่อง รับรองว่าต้องหลงติดลาภยศสรรญเสริญแน่ เลยปฏิเสธไม่ให้มีงานวันเกิด ถึงกระนั้นก็ตาม ยังมีคนไปช่วยให้วันธรรมดาวันหนึ่ง มีสีสันเพิ่มขึ้นไม่น้อยเลย เป็นความดีของเขาทุกคนเลยจ้ะ เรื่องไหลตายต้องขออภัยน้องหญิงด้วย ที่หลวงพี่ตอบไปคราวก่อนเป็นกฎของกรรมล้วน ๆ แถมอธิบายเป็นตุเป็นตะไปเลย ซึ่งบางที เรื่องแบบนี้ก็สุดที่คนจะยอมรับได้ และคนที่รู้เรื่องแบบนี้จริง ๆ จะมีสักกี่คน ถ้าเอาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ หลวงพี่ขออธิบายว่า อยู่ ๆ กล้ามเนื้อหัวใจและหลอดเลือดก็เกิดอาการเครียดขึ้น พอหดตัวแล้วไม่ยอมคลาย จึงเกิดภาวะเลือดเลี้ยงหัวใจและสมองไม่พอ ทำให้หมดสติและหมดลมในที่สุด พอหมดลมหายใจ กล้ามเนื้อหัวใจและหลอดเลือดก็คลายเป็นปกติ.. ที่ว่ามานี้หญิงอย่าถือเป็นบรรทัดฐานนะจ๊ะ เพราะถ้าเชื่อและนำไปอธิบายกับคนอื่น ก็จะเกิดการโต้แย้งกันเปล่า ๆ และความรู้ของหลวงพี่ก็เป็นความรู้แบบ “ผีบอก” หาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้เอาเลย จัดเป็น “กรรมวิสัย” ที่พระพุทธเจ้ากล่าวไว้ คือกฎของกรรมเป็นไปได้ทุกอย่าง แต่กฎของวิทยาศาสตร์ มันไม่น่าจะเป็นไปได้... ลูก ๆ ทุกคนสบายดีจ้ะ หญิงอย่าคิดถึงขนาดว่าหลวงพี่ทราบอนาคตของเขาเลยนะจ๊ะ มันจะเก่งเกินไป เอาเป็นว่าในปัจจุบัน ทุกคนมีปัญหาทั้งนั้น และหลวงพี่ต้องเป็นที่พึ่งสุดท้ายของเขา คือ พอหมดทางจริง ๆ ก็ยังมีกำแพงให้เขาพิง เพื่อต่อสู้กับชีวิตต่อไป หลวงพี่เป็นกำแพงนั้น เป็นที่พึ่ง-ที่ปรึกษาของพวกเขา จนเขาเรียกพ่อไปเลย ก็เท่านี้เอง จบแล้วจ้ะ จากใจจริง พระเล็ก ป.ล. ขอให้คุณพ่อและทุกคนสบายดีนะจ๊ะ .......................................................... วัดท่าซุง ๒ พฤศจิกายน ๒๕๓๓ น้องหญิงจ๊ะ... หวังว่าจ.ม.ฉบับนี้คงไม่มาถึงหญิงพร้อมน้ำท่วมนะจ๊ะ ทางวัดหลวงพี่หมดฝนแล้ว ตอนนี้เริ่มหนาวแล้วจ้ะ ระยะนี้กรรมเก่าตามทวงคนรอบกายหลวงพี่เป็นการใหญ่ เริ่มจากแม่ถูกรถชนขาหัก สะโพกหลุด เชิงกรานแตก ตอนนี้กำลังหัดเดิน ถัดมาแม่คนที่สองเข้าโรงพยาบาล ๒ หน เพราะเป็นนิ่วในไต ปัสสาวะไม่ออก ต้องวางยาสลบ ให้หมอเกี่ยว (ไม่ใช่ผ่า) ออกให้ รายต่อไปคุณยาย (แม่ของแม่คนที่สอง) ถูกรถชนกระดูกเชิงกรานหัก จนบัดนี้เกือบเดือนครึ่งที่นอนซมกับเตียง ได้ยินว่าก้นเริ่มเป็นแผลเปื่อยแล้ว รายล่าสุดพ่อของเพื่อนที่แสนดี เป็นโรคหัวใจวูบไปเฉย ๆ หลวงพี่เพิ่งไปเผามา จากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น หากเราเชื่อกฎของกรรมว่าใครทำอะไรย่อมได้อย่างนั้น และเห็นความเจ็บความตายเป็นธรรมดา เกิดมาต้องพบกับมันแน่ ๆ ถ้าแบบนี้เราก็จะไม่สะเทือนใจเลย แม้แต่จะเกิดกับคนที่เรารักหรือตัวเราเองก็ตาม ของแบบนี้พูดง่าย แต่ทำยาก ต้องอาศัยปัญญาพิจารณา และการฝึกฝนเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน แต่ถ้าทำได้ก็คุ้มเหลือเกิน เพราะเราจะมีที่พึ่งที่ดีที่สุดเลยจ้ะ... ดูเหมือนปากกาใกล้หมึกหมด หลวงพี่ไม่ได้ไปเที่ยวเชียงใหม่กับหลวงพ่อ...(หมดจริง ๆ นะแหละ) เพราะติดงานศพพ่อเพื่อน แต่ช่วยทำบุญกฐินวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศไป ๒๘ วัด ขอให้หญิงโมทนาบุญกับหลวงพี่นะจ๊ะ ขอให้หญิงพบแต่สิ่งที่ดี ๆ ตลอดชีวิตนี้ จากใจจริง พระเล็ก ป.ล. ฝากความคิดถึงคุณพ่อด้วยจ้ะ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 25-12-2009 เมื่อ 08:48 |
สมาชิก 65 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โยคียุ้ย ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#37
|
|||
|
|||
จดหมายพระอาจารย์_๓๕
......... ฉบับที่ - ๔๘ / ๒๒ ธ.ค. ๓๓ *** ครบรอบ ๙ ปี ในการเขียนจดหมาย *** ฉบับที่ - ๔๙ / ๒๓ มี.ค. ๓๔ *** ก็เลยต้องคอยประคับประคอง ให้เขาเข้าใจว่า เราเข้าข้างเขา เขาจะได้ไว้วางใจ มีอะไรก็นำมาบอก นำมาถาม ดูเหมือนคนเจ้าเล่ห์แต่ก็จริงใจ เป็นแนวทางในการใส่ใจลูกศิษย์และการคบหา กับเพื่อนพ้องเสมอมา *** ________________________________ วัดท่าซุง ๒๒ ธันวาคม ๒๕๓๓ น้องหญิงจ๊ะ… สคส.นี้เป็นภาพที่หลวงพี่ถ่ายเองจ้ะ เจ้าปลาชนิดนี้มีชื่อว่า “ปลาแรด” เป็นปลาเศรษฐกิจของชาวอุทัยธานี ราคาก.ก.ละ ๘๐-๑๒๐ บาท เหตุที่ชื่อปลาแรดเพราะบนหัวมันมีโหนกทุกตัว ดูเหมือนนอแรดจ้ะ บางทีชาวบ้านเรียก “ปลาจาน” คือตัวละ ๑ จานพอดี แต่หลวงพี่อยากเรียกว่า “ปลาถาด” เหตุเพราะมันตัวโตขนาดเต็มถาดเลย เป็นปลาน่ารักเลี้ยงง่าย โตเร็ว ที่แพหน้าวัดมีเยอะเลยจ้ะ ทีนี้เขาเลยสร้างอนุสาวรีย์ (ให้คำจำกัดความผิดกระมัง?) เป็นรูปปลาแรดเล่นน้ำพุ แต่ในภาพเขาไม่ได้เปิดน้ำพุจ้ะ สถานที่นี้เลยมีชื่อว่า “วงเวียนปลาแรด” อยู่กลางเมืองอุทัยฯ พอดี มือเจ็บจ้ะ ลายมือเลยแย่มาก ๆ จากใจจริง พระเล็ก .......................................................... วัดท่าซุง ๒๓ มีนาคม ๒๕๓๔ น้องหญิงจ๊ะ... จดหมายได้รับหลายวันแล้วจ้ะ แต่ตรงกับงานประจำปีที่วัดเลยตอบช้าหน่อย คงจะไม่ว่านะจ๊ะ.. หลวงพี่เพิ่งหายป่วยไม่นาน เหตุเพราะเข้าป่าไปเจอภูเขาที่มีแร่ยูเรเนียม โดนกัมมันตภาพรังสีมากไป พอกลับวัดก็หงิกเลย... แต่ยังไม่เข็ดหรอกจ้ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปอีกแล้ว คราวนี้จะไปถ้ำเหล็กไหล บึงลับแล ฯลฯ กลับมาคงมีเรื่องสนุกมาเล่าให้ใคร ๆ ฟังอีกตามเคย คุณแม่หายดีแล้วแต่กระดูกไม่เข้าที่ ทำให้เดินไม่ค่อยถนัด วันงานประจำปียังอุตส่าห์ไปวัดเลยจ้ะ ที่ปัญหามากก็คือลูกสาวทั้งหมดนั่นแหละ เจ้าคนเล็กสามคนกำลังหัดมีความรัก พาหนุ่ม ๆ มาให้ดูด้วย น่าหวดสักป้าบ ! ความจริงก็น่าชมพวกเขา ว่าไม่เสียทีที่อบรมมา มีอะไรไม่เคยปิดบังพ่อเลย แม้แต่เรื่องความรักของหนุ่มสาว ที่คนส่วนใหญ่ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว และก็ต้องชมหนุ่ม ๆ เหล่านั้น พ่อเจ้าประคุณตื๊อสะบั้นเลย ไม่ว่าจะให้กลั่นแกล้งแบบไหนเขาก็ยอมทน จะครองโลกด้วยความตื๊อจริง ๆ … มันเป็นเรื่องธรรมดาของเขา หลวงพี่ก็เคยเป็นแบบเขา จึงรู้ดีว่ามันเป็นอย่างไร จึงต้องเป็นกำแพงให้เขาพึ่งพิงยามซวนเซ... ห้ามพวกเขาในเรื่องแบบนี้ไม่สำเร็จแน่.. “ความรักเหมือนโคถึก มันยิ่งคึกผิว์หากขัง ย่อมแหกด้วยกำลัง บ่กลัวเจ็บแลกลัวตาย…” ก็เลยต้องคอยประคับประคองให้เขาเข้าใจว่าเราเข้าข้างเขา เขาจะได้ไว้วางใจ มีอะไรก็นำมาบอกนำมาถาม ดูเหมือนคนเจ้าเล่ห์แต่ก็จริงใจ... บ่นเรื่องลูกมาเสียยาวเลย ระยะหลังหลวงพี่เข้าป่าเรื่อย หนังสือหนังหาไม่ค่อยได้อ่าน พวกลูก ๆ เขาขนไปเกือบหมด... ตอนนี้มี “สาวสองพันปี” กับ “คืนสู่พงไพรและสายน้ำ” ๒ เล่ม กับกำลังภายใน ๓-๔ ชุด หญิงอ่านกำลังภายในหรือเปล่าจ๊ะ...? ขอให้แม่ค้าขายปลาและทุกคนมีความสุขมาก ๆ จ้ะ จากใจจริง พระเล็ก แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 25-10-2009 เมื่อ 12:02 |
สมาชิก 65 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โยคียุ้ย ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#38
|
|||
|
|||
จดหมายพระอาจารย์_๓๖
.......... ....บันทึกคุณครูหญิง.... ฉบับที่ ๕๑.๑ - ๕๑.๒ / ๑ มิ.ย. ๓๔ *** ๔ ปีต่อมาจึงได้รับบันทึกการเดินทาง ๒ เล่ม *** ________________________________________ วัดท่าซุง ๑๕ เมษายน ๓๔ น้องหญิงจ๊ะ… ขณะเขียนจ.ม.นี้อากาศกำลังอุ่นมาก ๔๑ องศาเซลเซียส จ.ม.ของหญิงได้รับเมื่อสามวันก่อน พอดีติดงานสงกรานต์ของวัด เลยตอบช้าหน่อยจ้ะ... เรื่องหนังสือที่หลวงพี่ให้นั้น ขอให้น้องหญิงรับไว้เถอะจ้ะ อย่าเป็นคนคิดมาก เพราะหลวงพี่เป็นคนขยันให้และไม่หวงของอะไรเลย... ของทุกอย่างถ้ามีคนต้องการ หลวงพี่จะรีบให้เลย และถ้าคนผู้นั้นรู้คุณค่าของสิ่งของและดูแลรักษาเป็น หลวงพี่ยิ่งเต็มใจให้ใหญ่เลย... ดังนั้นหลวงพี่เป็นคนที่มีของมากที่สุด และเป็นคนที่ไม่มีอะไรเลยในเวลาเดียวกันเพราะมีมาก็อยู่ไม่นาน มันจะไปอยู่กับคนอื่นแทน... ลูก ๆ ทุกคนสบายดีจ้ะ และเป็นเด็กดีทุกคน นับว่ามีความรับผิดชอบตัวเองดี สมกับที่หลวงพี่ไว้วางใจ ถ้ำเหล็กไหล+บึงลับแลเป็นเรื่องที่อธิบายยาก คนฟังคงไม่เชื่อ ต้นไม้ขนาดสิบสี่คนโอบ ต้นไผ่ลำเท่าตัวคน ต้นกล้วยขนาดคนโอบไม่รอบ ฯลฯ และบรรดาสัตว์ร้ายตัวมหึมา ภูติผีปิศาจ เทพยดาอารักษ์ มันเป็นเรื่องที่อธิบายให้เราเชื่อไม่ได้ แต่หลวงพี่มีประจักษ์พยานสิบกว่าคน... รายละเอียดหลวงพี่มีไว้ในบันทึกเดินทาง หากมีโอกาสพิมพ์เป็นเล่มจะอภินันทนาการแก่หญิงแน่นอนจ้ะ... ข้อมูลต่าง ๆ ของลูกที่หญิงอยากรู้จัก - ลูกปุ๊ก เป็นคนโต เดิมชื่อหมวยนี้ ชื่อจริงสุมาลี เกิดปี ๐๘ จบรามคำแหง เปิดร้านจิวเวลรีอยู่สีลม (เป็นหุ้นส่วนของร้าน) รูปร่างขาวโปร่ง ใส่แว่น - ลูกปุ๋ม คนรอง ตัวอ้วนกลมเชียว ชื่อจริง ชุติมา เกิดปี ๑๓ กำลังอยู่ปี ๓ ของม.ธ. ทำงานไปเรียนไป ขยันมาก ๆ แต่ใจอ่อนขี้สงสารคน - ลูกปลา คนเล็ก จบ ม. ๕ กำลังจะสอบเข้าเรียนปริญญาตรี เกิดปี ๑๕ ชื่อจริง ปรานี เป็นตัวรำไทยประจำของโรงเรียน กลัวหมาที่สุดในโลก... อีกสองคนส่งคืนพ่อ-แม่เขาไปแล้ว ถ้าอยู่พร้อมหน้ากัน จะถ่ายรูปมาให้หญิงรู้จักหน้าจ้ะ จากใจจริง พระเล็ก .......................................................... วัดท่าซุง ๑ มิ.ย. ๓๔ น้องหญิงจ๊ะ... ลูกปลาสอบได้ดังใจหวัง อันดับดีมากด้วย รับรางวัลจากพี่ป้าน้าอาเพียบเลย ลูกปลาคล่องตัวในมโนมยิทธิมาก เพราะเรียน ม.๑-๖ ที่โรงเรียนของหลวงพ่อ ซึ่งบังคับว่านักเรียนทุกคนต้องได้มโนมยิทธิ... ลูกปุ๊กนั้น ติดหลวงพี่แจมาตั้งแต่สมัยหลวงพี่เป็นฆราวาส มีความสามารถพิเศษคือ บางขณะสามารถแยกกายอยู่สองแห่งในเวลาเดียวกัน มีความเข้าใจและมั่นคงในศาสนามาก... ลูกปุ๋มมาทีหลังเพื่อน ฟังหลวงพี่ชี้แจงธรรมะครั้งเดียว เกิดความเข้าใจในส่วนที่ตนข้องอยู่ เลยติดตามมาตลอด มีความพยายามสูงที่จะเรียนรู้ให้เท่าพี่น้อง นั่งสมาธิทุกวัน เมื่อเป็นอย่างนี้ ลูกทุกคนย่อมเชื่อมั่นและศรัทธามาก เพราะการฝึกมโนมยิทธิคือการปฏิบัติธรรมะ ยิ่งทำมากก็ยิ่งเข้าใจมาก ยิ่งเข้าใจมากก็ยิ่งศรัทธามาก เรื่องนี้หลวงพี่ภูมิใจในตัวเขามากจ้ะ สำหรับหญิง คนที่สนใจธรรมในชาตินี้ ชาติก่อนต้องเคยปฏิบัติมามากแล้ว ชาติก่อนจะเป็นศิษย์หลวงพี่หรือไม่ก็ช่าง ถ้าชาตินี้หญิงไม่รังเกียจ หลวงพี่ก็ยินดีรับศิษย์คนนี้อยู่แล้ว... ขอตอบคำถามนะจ๊ะ ๑. พระจีนหรือพระไทยก็พระเช่นกัน บูชาท่านแบบเดียวกัน ไม่ต้องแยกต่างหากหรอกจ้ะ ตั้งไว้ต่ำกว่าพระพุทธรูปนิดหนึ่งก็ใช้ได้ ไม่ต้องกังวลอีกนะจ๊ะ... ๒. การสวดมนต์-คาถาต่าง ๆ แม้แต่อาฏานาฏิยสูตร ควรขึ้นต้นด้วยนะโมฯ ๓ จบ เพราะเป็นการแสดงความเคารพ นอบน้อมต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๓. บางที ขอย้ำว่า “บางที” การตั้งชื่อที่มีตัวกาลกิณี ก็ให้ผลร้ายต่อเจ้าของชื่อเช่นกัน แต่ทางพระพุทธศาสนา ท่านให้เชื่อกฎของกรรม ผลร้ายเกิดขึ้นให้ถือเป็นกรรมเก่ามาสนองเราจ้ะ การเป่ายันต์ตรงกับ ๑๘ พ.ค. ที่ผ่านมา คนเยอะมาก อดนอน หิว เหนื่อย ดีที่ลูกทุกคนมาช่วย เลยเบาแรงไปได้เยอะ ส่วนแม่ของหลวงพี่นั้นแข็งแรงเป็นปกติแล้วจ้ะ... หลวงพี่บันทึกการเดินทางและประสบการณ์แปลก ๆ ไว้ ถ้าพิมพ์เมื่อไรคงไม่ลืมให้หญิงแน่นอน หนังสืออ่านเล่นตอนนี้มี ๗-๘ เล่ม ไม่ทราบว่าสมควรส่งมาตอนนี้หรือไม่...? จากใจจริง พระเล็ก __________________ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 10-11-2009 เมื่อ 09:19 |
สมาชิก 60 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โยคียุ้ย ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#39
|
|||
|
|||
จดหมายพระอาจารย์_๓๗
.......... วัดท่าซุง ๔ ต.ค. ๓๔ น้องหญิงจ๊ะ… รูปอาทิตย์ (ขึ้น? ตก?) กับทะเลสวยมาก ถ่ายเองหรือเปล่า? ถ้าถ่ายเอง ฝีมือนับว่าดีมากจ้ะ หลวงพี่ส่งหนังสือมาให้ กำลังภายในผ่านมาหลายมือ สภาพโทรมไปหน่อยต้องขออภัยด้วย... ลูกปุ๋มกับลูกปลากำลังลุยหนังสือสอบกันอยู่ ลูกปุ๊กเขาทำงาน ปิดเทอมสัญญาว่าจะพาพวกเขาเที่ยว ทุกคนสบายดีจ้ะ เอ็นจอยแว็กเคชั่นนะจ๊ะ จากใจจริง พระเล็ก .......................................................... วัดท่าซุง ๑๓ มกราคม ๓๕ น้องหญิงจ๊ะ... สวัสดีปีใหม่จ้ะ หลวงพี่รอ..ร้อ..รอ ว่าเมื่อไหร่หญิงจะส่งข่าวมาให้ทราบ เห็นว่าไปฝึกงานหลายที่ เลยไม่แน่ใจว่าอยู่ตรงไหน… หนังสือบางเล่มโทรมหน่อยนะจ๊ะ เพราะไปช้ากว่าเขา กลายเป็นของเหลือจากคนอื่นเสียแล้ว แต่ก็ส่งมาให้ด้วยความเต็มใจ จากใจจริง พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ ……………………… วัดจันทาราม (ท่าซุง) ๒๘ มกราคม ๓๕ น้องหญิงจ๊ะ... ระยะนี้ไปรษณีย์ปฏิวัติหรืออย่างไรก็ไม่รู้ หลวงพี่รู้แต่ว่าจดหมายถึงช้ามาก เรื่องหนังสือหลวงพี่ดีใจที่หญิงชอบ แต่ร้านหนังสือในอุทัย ก็เต็มที ไม่ค่อยมีหนังสือดี ๆ ให้ซื้อเลย ประกอบกับนาน ๆ จะเข้าเมืองสักครั้ง (วัดอยู่ห่างจากเมือง ๑๐ ก.ม.) หนังสือดี ๆ ก็ถูกเลือกไปหมด เหลือแต่ที่ช้ำชอกยับเยิน บางทีเห็นแล้วไม่อยากได้เลย... “แย้มโฉมเจ้าจันทร์” ดีตรงที่เราได้ทราบเบื้องหน้าเบื้องหลังของหนังสือ “เจ้าจันทร์” แต่หลวงพี่ชอบอ่านเองคิดเองมากกว่า มันเป็นอิสระดี ไม่มีใครมายัดเยียดหรือตีกรอบให้เราคิดตาม จินตนาการจะกว้างไกลกว่ากันมาก ส่วนอาถรรพ์เลข ๑๓ นั้น หลวงพี่ว่าบังเอิญมากกว่า เขาเขียนดีอย่างนี้สมควรได้รางวัลอยู่แล้ว... หลวงพี่และลูกทั้งสามสบายดี ลูกปุ๊กการงานราบรื่น แต่แม่เขาป่วยเป็นมะเร็งในสมอง ต้องทำใจหน่อย ลูกปุ๋มจะจบเทอมนี้ กำลังเตรียมตัวสอบโท MBA ลูกปลาลงเอกนาฏศิลป์ มีงานนอกสถานที่บ่อยเลยจ้ะ.. ถ้าหญิงมีเวลาว่าง แวะไปวัดหลวงพี่บ้างนะจ๊ะ ยินดีต้อนรับเสมอ ป.ล. รูปริมบึงม.ช.สวยดีจ้ะ แต่สีจืดไปนิด... จากใจจริง พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ __________________ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-11-2009 เมื่อ 16:46 |
สมาชิก 56 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โยคียุ้ย ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#40
|
|||
|
|||
จดหมายพระอาจารย์_๓๘
......... >>บันทึกเพิ่มเติมคุณครูหญิง<< (จม.ฉบับที่ ๕๕, ๑๔ ก.พ.๓๕) *** ตามรอยเท้าพ่อ *** ...หนทางแม้สุดไกล ขอมุ่งไปกว่าจะถึง ยากเข็ญมิคำนึง ถึงทุกข์ทนสักเพียงไร เดินตามรอยเท้าพ่อ มั่นคงต่อธรรมวินัย พ่อชี้หนทางใด จะมุ่งไปไม่ลังเล ...จิตมั่นด้วยศรัทธา ทุกเวลามิหันเห ผู้ใดจะรวนเร มิซวนเซตามเขาไป พ่อนำทางให้ลูก มีแต่ถูกลูกมั่นใจ ขอเดินตามพ่อไป ตราบจนถึงซึ่งนิพพาน... พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ ๑ มกราคม ๒๕๓๖ --------------------------------------------- วัดท่าซุง ๑๔ ก.พ. ๓๕ น้องหญิงจ๊ะ… ขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับบัณฑิตใหม่จากรั้วม.อ. ต่อไปนี้คงได้พบกับรสชาติที่เข้มข้นของชีวิต จากการทำงานกับบุคคลประเภทเขี้ยวลากดินเสียที... กาลเวลาผ่านไปเหมือนติดปีกบิน เผลอหน่อยเดียวหญิงก็จะรับปริญญาแล้ว ส่วนของหลวงพี่เอง ก็เพิ่งจะเป็นก้าวแรกที่เดินเท่านั้น… หนทางธรรมที่เรียกว่ามรรค ๘ นั้น ทั้งขรุขระและยาวไกลยิ่งนัก บุคคลที่เดินถึงปลายทางจริง ๆ ต้องคิดเป็น ๑ ในล้านส่วน… ระยะ ๖ ปีขึ้นปีที่ ๗ ที่ผ่านมา หลวงพี่ขอยืนยันว่าเป็นเพียงก้าวแรกจริง ๆ ยังห่างจุดหมายที่ใฝ่ฝันลิบลับนัก แต่ตั้งใจไว้ว่า… “หนทางแม้สุดไกล ขอมุ่งไปกว่าจะถึง ยากเข็ญมิคำนึง ถึงทุกข์ทนสักเพียงไร” งานเป่ายันต์เกราะเพชร มีอีกครั้งวันที่ ๔ ก.ค. ๓๕ ถ้าหญิงไปจะแนะนำให้รู้จักกับลูก ๆ ของหลวงพี่ ซึ่งมีงานทีถึงอยู่พร้อมหน้ากัน... ถ้าหญิงไปวัด ช่วยแจ้งให้ทราบล่วงหน้าสักนิดนะจ๊ะ จากใจจริง พระเล็ก .......................................................... วัดท่าซุง ๒๒ กุมภาพันธ์ ๓๕ น้องหญิงจ๊ะ... หลวงพี่ส่งหนังสือมาให้เช่นเคย คงช่วยให้ความฝันเรื่องห้องสมุดส่วนตัวของหญิงใกล้ความจริงเข้ามาอีกนิดหนึ่ง... เอาหนังสือที่เรารักไปให้เขาเช่า หลวงพี่ว่าหญิงคงตัดใจไม่ได้ ตัวหลวงพี่เอง เวลาได้หนังสือหัก ๆ ยับ ๆ มา ยังเศร้าใจไปนานเลย เปิดร้านหนังสือก็ดี แต่สมัยนี้ขายดีแต่พวกโป๊พวกเปลือย จะขายแต่ประเภทที่เราอ่านคงไปไม่รอด ค่อย ๆ คิดหาหนทางไปก่อนจ้ะ... หญิงจะว่างไปวัดปีไหนหลวงพี่ก็ยินดีต้อนรับเสมอ ถึงจะไม่ไปเลยก็จะเป็นไรไป ในเมื่อรู้จักกันทางจ.ม.มาตั้งนานแล้ว... ถึงโยกย้ายไปไหนก็ตาม ขอให้แจ้งข่าวให้หลวงพี่รู้บ้าง จะได้เขียนจ.ม.มาคุยกันอย่างไรละจ๊ะ... จุดมุ่งหมายในการบวช คือ บรรลุธรรมในส่วนที่หวัง หลวงพี่มั่นใจตนเองว่า สักวันหนึ่งต้องทำได้อย่างแน่นอนจ้ะ จากใจจริง พระเล็ก __________________ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 17-11-2009 เมื่อ 14:20 |
สมาชิก 79 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โยคียุ้ย ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
Tags |
แบ่งปันธรรมะร่วมสมัย, ผ่าน จม.พระอาจารย์, เมตตามาราธอน, แม้ไม่เห็นหน้า |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|