กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ในวาระสำคัญต่าง ๆ

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 08-04-2017, 15:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านที่มีวัตถุมงคลอยู่กับตัว ไม่ได้เอาไปฝากไว้ก็ไม่เป็นไร ให้ตั้งใจกราบขอบารมีพระท่านสงเคราะห์วัตถุมงคลในตัวของเราด้วย

พิธีการเป่ายันต์เกราะเพชรตั้งแต่โบราณมา ก็เป็นการพุทธาภิเษกวัตถุมงคลไปในตัว สมัยนั้นใครชอบใจอะไรก็สร้างมา ถึงเวลาก็ปูผ้าบนหน้าตักตัวเอง เอาวัตถุมงคลวางไว้ ทำพิธีเสร็จสรรพเรียบร้อยก็พุทธาภิเษกไปในตัว เพราะว่าการสร้างวัตถุมงคลของวัด บางทีก็ไม่ตรงกับกำลังใจของเรา บางท่านอยากได้ตะกรุดโทนสักฟุตหนึ่ง อาตมาก็ทำยาวแค่ ๒ นิ้ว แบบนั้นก็ต้องไปผลิตมาเอง

อาตมาไม่ได้พูดเล่นนะ ตะกรุดโทนหลวงปู่รุ่ง วัดท่ากระบือ ยาว ๑ ฟุตพอดี อาตมามีอยู่ดอกหนึ่ง ถ้าวันไหนไปตีกับชาวบ้านจะพกดอกนั้นไป เพราะว่าใช้เป็นอาวุธได้
...!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2017 เมื่อ 17:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 119 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 08-04-2017, 15:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

(หลังพิธีบวงสรวง)

ท่านที่ได้พระผงยาจินดามณีไปอย่าลืมเอาไปผึ่งลมไว้ก่อน น่าจะสักเดือนสองเดือนกว่าที่จะแห้งดี ถ้าท่านตากแดดจะแห้งช้ามาก แต่ว่าเนื้อจะแกร่งกว่า ระวังนะ...เดี๋ยวจะบีบจนบี้ไปเสียก่อน เพราะว่าองค์พระยังไม่แห้งดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2017 เมื่อ 17:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 08-04-2017, 15:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

(ชมการแสดงโขน ตอน หนุมานจับนางสุวรรณมัจฉา) ผู้ชมคงจะรู้แล้วว่า ทำไมหลวงปู่หลวงพ่อบางท่านถึงสร้างเครื่องรางหนุมาน ? ก็เพราะว่าหนุมานทำงานอะไรก็สำเร็จ ใครฆ่าก็ไม่ตาย ประสบความสำเร็จในชีวิต ขนาดเป็นเจ้าเมือง ไปทำงานก็มักจะได้เมียทุกที่ อาตมาเคยสงสัยอยู่ว่า การข้ามดีเอ็นเอระหว่างลิงกับปลานี่ลูกออกมาจะเป็นอะไร แต่ท้ายสุดท่านก็เฉลยว่าออกมาเป็นมัจฉานุ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2017 เมื่อ 17:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 119 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 08-04-2017, 15:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์เนื้อยาจินดามณีที่ได้ไป ให้ทุกท่านเอาไปผึ่งลมดมกลิ่นไปเรื่อย ๆ ก่อน น่าจะสักเดือนสองเดือนก็คงจะแห้งสนิท ถ้าแห้งสนิทเนื้อยาจะแกร่งเหมือนหิน ประเภทกลายเป็นพระธาตุอะไรประมาณนั้น แต่ถ้าไม่แห้งสนิทน่าจะกินง่ายกว่า

เอาไว้ถ้าหากว่ามีโอกาส อาตมาค่อยทำรุ่นต่อไปเป็นเม็ดยา จะได้ใช้สะดวก ตัวอย่างคนที่กินยาจินดามณีเข้าไป ที่เห็นชัดที่สุดก็คือ หม่อมกอบแก้ว อาภากร เพราะว่าคุณยายเธอได้ฉายาว่าสาวสองพันปี ขนาดอายุ ๘๐ กว่าแล้ว ยังแข็งแรงกระฉับกระเฉงมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2017 เมื่อ 17:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 08-04-2017, 15:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ญาติโยมหลายท่านได้ยินแต่คำว่ายันต์เกราะเพชร แต่ไม่ทราบว่าคืออะไร ยันต์เกราะเพชรคือบารมีของพระพุทธเจ้า ที่เมตตาสงเคราะห์ให้กับพวกเราทั้งหลาย ซึ่งมีความเคารพในพระรัตนตรัย ยันต์เกราะเพชรเป็นตำราพระร่วง สืบทอดมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย สมัยกรุงสุโขทัยนั้น ในตำราพระร่วงมีตำรายันต์พิชัยสงคราม ไปรบที่ไหนก็ชนะที่นั่น

พ่อขุนรามคำแหงมหาราชแห่งกรุงสุโขทัย สามารถแผ่กฤษฏานุภาพลงไปจรดช่องแคบมะละกา ก็แปลว่าประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย บรูไน สมัยก่อนอยู่ใต้การปกครองของสุโขทัยทั้งหมด นี่คืออานุภาพของธงมหาพิชัยสงคราม คราวนี้ธงมหาพิชัยสงครามนั้น ตรงคอธงเป็นบทพุทธคุณ คืออิติปิ โสฯ ไปจนถึง ภะคะวาติ

ตำราพระร่วงดึงเอาบทพุทธคุณที่ธงมหาพิชัยสงครามออกมา เขียนเป็น ๘ แถว แต่ ๗ บรรทัด รวมแล้ว ๕๖ คำ ชักสูตรออกมาเป็นยันต์เกราะเพชร เมื่อตำรานี้สืบทอดลงมาจนถึงสมัยหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ท่านก็ได้รับคำสั่งจากพระ ให้เป่ายันต์เกราะเพชรเพื่อสงเคราะห์แก่ญาติโยมทั้งหลาย

ถ้าถามว่ายันต์เกราะเพชรมีอานุภาพอย่างไร ? ในตำราท่านบอกว่า คนรับยันต์เกราะเพชรไปแล้วจะไม่ตายโหง ถ้าไม่ใช่หมดอายุขัยจริง ๆ อย่างไรก็รอด ต่อให้โดน ๑๘ ล้อเหยียบเหลือครึ่งตัวก็รอด..! สมัยนี้บ้านเราไม่มี ๑๘ ล้อแล้ว เขาบังคับต่ำสุด ๒๒ ล้อไปแล้ว อาตมาเป็นคนรุ่นเก่า ตั้งแต่ ๖ ล้อแล้วก็มา ๘ ล้อ ๑๐ ล้อ ขยับพรวดไป ๑๘ ล้อนึกว่าจะหมดแล้ว ปัจจุบันนี้รถลาก รถพ่วง มี ๒๒ ล้อ ไม่ใช่ให้หวยเหมือนเดิม...!

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-04-2017 เมื่อ 20:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 08-04-2017, 15:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของการรับยันต์เกราะเพชร เมื่อรับไปแล้วป้องกันการตายโดยผิดปกติ ที่โบราณเรียกว่าตายโหง ตัวอย่างชัด ๆ ก็โยมแม่ของอาตมาเอง รับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว โดนราชรถ ๑๐ ล้อมาเกย ต้องบอกว่า ท่านสร้างเวรสร้างกรรมเอาไว้เยอะ อยู่ห่างจากถนน ๒๐ เมตร มีรถตะบึงมา ปรากฏว่าฝั่งซ้าย บขส. ที่ไปสุพรรณบุรีจอด ฝั่งขวา บขส. ที่ไปนครปฐมจอด เพราะว่าตรงนั้นเป็นท่ารถพอดี

รถไม่มีทางไปก็หักลงข้างถนน โยมแม่อาตมาอยู่ข้างถนนเกือบ ๒๐ เมตร อยู่ ๆ ก็มีราชรถมาเกย กระดูกด้านขวาตั้งแต่กราม ไหล่ลงมาจนกระทั่งถึงปลายเท้าหักหมดทุกท่อนเลย นอนอยู่ห้องไอซียู ๑๘ วัน อาตมาไปถวายสังฆทานกับหลวงพ่อวัดท่าซุง กราบเรียนว่าแม่โดนรถชน นอนห้องไอซียูมา ๑๘ วันแล้ว คาดว่าจะไม่รอด ขอถวายสังฆทานให้แม่ล่วงหน้า

หลวงพ่อถามว่า "แม่แกรับยันต์ไปหรือเปล่า ?" อาตมาเรียนตอบว่ารับไปหลายครั้งแล้วครับ ท่านบอกว่าถ้าอย่างนั้นไม่เป็นไร ก็ปรากฏว่ารอดจริง ๆ แต่รักษาตัวอยู่ ๓ ปี กว่าที่จะแข็งแรงเหมือนเดิม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2017 เมื่อ 17:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 119 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 08-04-2017, 15:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกรายหนึ่งเป็นดาราที่ดังมากในสมัยนั้น คือ จารุณี สุขสวัสดิ์ สมัยนั้นหนังเรื่องไหนที่ไม่มีจารุณีเล่นนี่เจ๊งแน่นอน แต่ถ้าเรื่องไหนที่จารุณีเล่นรับประกันว่ารายรับเกินล้านขึ้นไป

จารุณีเล่นหนังเรื่องลูกสาวกำนัน มีอยู่ตอนหนึ่งที่ขับเรือด่วนไล่ผู้ร้าย ฝ่ายผู้ร้ายเอาน้ำมันเทลงในแม่น้ำ แล้วก็จุดไฟสกัดไว้ จารุณีเป็นผู้หญิงใจกล้า ขับเรือเองโดยไม่ใช้ตัวแทน พุ่งฝ่าเปลวไฟไป แต่ปรากฏว่าไฟลุกสูง มีทั้งเปลว มีทั้งควัน มองทางไม่เห็น จึงชนตอม่อสะพานไปเต็ม ๆ แค่หลังหักเท่านั้น รักษาตัวอยู่ไม่นานก็หายเป็นปกติ แต่ตอนนี้คุณยายเธอจะปวดหลังอยู่ตลอด

เหตุที่จารุณีไม่เป็นอะไรเพราะว่าไปรับยันต์เกราะเพชรที่วัดท่าซุง ไปแบบน่าสงสารที่สุด มีเพื่อนรวมทั้งตัวเธอไปกัน ๓ คน ไม่มีใครแลดาราเลย ปกติไปที่อื่นมีแต่แย่งกันขอถ่ายรูป แย่งกันขอลายเซ็น ถ้าเป็นสมัยนี้ก็ยิ่งกว่าตาทอมทุเรียนเสียอีก ...(ฮา)...
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-04-2017 เมื่อ 20:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 119 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 08-04-2017, 15:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เป็นอันว่าบุคคลที่รับยันต์เกราะเพชรไป ถึงประสบอุบัติเหตุหนักหนาแค่ไหน รับประกันซ่อมฟรีว่าไม่ตายแน่นอน ยกเว้นท่านที่หมดอายุขัยจริง ๆ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าหมดอายุ ? ก็รักษาแล้วไม่รอดนั่นแหละ...ง่ายจะตายไป

ข้อที่สองจะไม่ตายด้วยสัตว์มีพิษ หมายความว่า ถ้าโดนงูพิษกัด โดนสัตว์มีพิษกัด ยันต์เกราะเพชรมีอำนาจคุ้มได้ ถามว่าเจ็บไหม ? เจ็บแน่นอน เพราะว่าอาตมาโดนมาเองแล้ว แต่ไม่ตาย...ขอยืนยัน เพราะอาตมาซน ชอบจับงูเล่น โดนงูกะปะกัดเข้าที่ชีพจรข้อมือพอดี ภาษาโบราณเขาบอกว่าปวดเห็นดาวเห็นเดือนเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2017 เมื่อ 17:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 115 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 08-04-2017, 15:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เสียดายที่เมื่อวานนี้หมาวัดรุมฟัดงูจงอางตายไปแล้ว ไม่อย่างนั้นจะยืมมาปล่อยในศาลาหลังจากเป่ายันต์แล้วเพื่อทดสอบ...!

ปกติแล้วงูกับหมานี่ ถ้าเดี่ยว ๆ แล้วยังไม่รู้ว่าใครจะอยู่ใครจะไป แต่นี่หมาทั้งฝูง งูก็เลยไม่รอด โดนกัดตายไปแล้ว อาตมาเคยจับเล่นอยู่ ตัวไม่ใหญ่มากเท่าไรหรอก ประมาณขวดโค้กใหญ่ ชูหัวขึ้นมาทีหนึ่งก็เกือบ ๆ หน้าผากอาตมาพอดี

ส่วนข้อสุดท้าย อาจารย์ไสยศาสตร์จะเกลียดมากเป็นพิเศษ ก็คือยันต์เกราะเพชรสะท้อนคืนไสยศาสตร์ทุกประเภท ใครทำเราจะให้เป็นแบบไหน ตัวเองจะเป็นแบบนั้น อาตมาก็ไม่เคยกลั่นแกล้ง แต่ว่าโยมเดือดร้อนเอง เพราะว่าทะลึ่งทำมา ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-04-2017 เมื่อ 20:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 118 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 09-04-2017, 14:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เครื่องมือในการรับยันต์เกราะเพชรนั้น ต้องมีธูป ๓ ดอก เทียนหนัก ๑ บาท ๑ เล่ม เป็นเครื่องบูชาพระ ถ้าหากว่ามีลูกอยู่ในท้อง ให้เตรียมเพื่อลูกอีก ๑ ชุด ธูปเทียนนี้เมื่อรับยันต์แล้ว ให้เก็บกลับบ้าน ปกติแล้วจะมีอานุภาพคล้ายกับมีดหมอ ก็คือถ้ามีผีเจ้าเข้าสิงที่ไหน สามารถใช้ไล่ผีแทนมีดหมอได้ แต่อาตมานอกครูอยู่เสมอ ใช้วิธีว่า ถ้าจะบอกกล่าวอะไรพระหรือเทวดาท่าน ก็จุดธูปเทียนชุดนี้ ในเมื่อผ่านพิธีที่ท่านสงเคราะห์มาแล้ว เท่ากับมีไลน์สายตรง ในเมื่อแอดไลน์กันได้ ต้องการจะคุยอะไรก็แจ้งท่านไปเลย

ฉะนั้น...ถ้าหากว่าเห็นใครวางทิ้งนี้รีบคว้าหมับเลยนะ เพราะว่ารู้สึกว่าบนกันเก่งเหลือเกิน บนไปบนมาไม่ได้ดั่งใจก็ใส่ไม้เอก กลายเป็น "บ่น" ต่อไป

การรับยันต์เกราะเพชรของเรา เมื่อเริ่มพิธีแล้วให้พนมมือ หลับตา ตั้งใจนึกขอบารมีพระท่านสงเคราะห์ กำหนดลมหายใจเข้าออกของเราเหมือนกับตอนภาวนา หรือว่าเจริญกรรมฐาน ถึงเวลาพระท่านจะสงเคราะห์ให้เอง เพราะฉะนั้น...การเป่ายันต์เกราะเพชรจึงไม่ใช่เป่าใส่หัวทีละคน แต่เป็นการเป่าทีละศาลา จะกี่ร้อยกี่พันคนก็ได้

ใครที่มีจิตศรัทธา เคารพในคุณพระรัตนตรัย จะอยู่มุมไหนของโลกก็สามารถรับยันต์เกราะเพชรได้ ถึงเวลาพระท่านสงเคราะห์ถึงทั้งหมด อาตมาเองเป่ายันต์มาหลายครั้งตามที่พระท่านสั่ง ญาติโยมหลายรายที่อยู่ต่างจังหวัดไกล ๆ รับแล้วมีอาการเหมือนกับตอนมารับที่วัด ทำให้มั่นใจว่าสามารถรับยันต์เกราะเพชรนอกสถานที่ได้จริง ๆ แต่ก็เป็นเรื่องแปลกว่า ครั้งต่อไปขอมาวัดดีกว่า ประมาณว่าจะได้มั่นใจยิ่งขึ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-04-2017 เมื่อ 16:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 116 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 09-04-2017, 14:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อรับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว ถ้าท่านตั้งใจจะรักษาเอาไว้ให้ได้ ต้องรักษาศีลอย่างน้อย ๒ ข้อ ข้อที่หนึ่งก็คือ ห้ามลักขโมย ห้ามหยิบฉวยสิ่งของเจ้าของไม่ได้ให้ อย่าได้ประพฤติเป็นอันขาด

ข้อที่สอง ห้ามดื่มสุราเมรัย พูดง่าย ๆ ก็คือเหล้ายาทุกประเภทอย่าไปแตะต้อง แม้แต่ที่ผสมอาหารมาก็ต้องเลี่ยง เพราะว่ายันต์เกราะเพชรกลัวแอลกอฮอล์ เข้าไปเมื่อไรยันต์หายทันที ท่านที่มีความรู้สึกไว ๆ ก็ร้อนวาบไปทั้งตัว บางรายบอกว่าระเบิดออกสะเทือนไปทั้งตัวเลย

ถ้าหากว่ารับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว จะพิสูจน์อย่างไรว่าเรารับยันต์ได้ ? ในช่วงที่ท่านภาวนาพุทโธ เพื่อตั้งใจรับยันต์นั้น จะมีอาการเกิดขึ้นกับร่างกาย อย่างเช่น ร้อนหัว ร้อนตัว ร้อนหน้า หนักหัว หนักไหล่ บางคนก็ขนลุกทั้งตัว บางคนก็โยกไปโยกมา ถ้าหากว่าอยากจะพิสูจน์ ให้พาสาว ๆ ที่ท้องเป็นครั้งแรกมาด้วย ถ้ารับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว ลูกคนแรกเป็นผู้ชาย จะมียันต์ติดตัวออกมาให้เห็น

ตั้งแต่อาตมาจัดพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรมา มีหลายรายแล้วถ่ายรูปส่งมาให้ดู ลายเป็นตุ๊กแกเลยก็มี แต่ว่าไม่ต้องกลัว เพราะว่าภายใน ๗ วันยันต์ก็จะซึมเข้าไปอยู่ที่กระดูกเอง ผิวหนังจะเป็นปกติเหมือนเดิม แต่ถ้าลูกเป็นผู้หญิงหรือผู้ใหญ่ที่รับยันต์เกราะเพชรไป จะพิสูจน์ได้อีกทีก็ตอนตายแล้วเผา ยันต์จะติดอยู่ที่กระดูก ไม่ว่าจะยุคสมัยของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อวัดท่าซุงที่จัดเป่ายันต์มา ลูกศิษย์ของท่านที่ตายแล้วเผา มียันต์ติดอยู่กระดูกเสมอ แต่ต้องรักษายันต์ได้ ถ้ารักษาไม่อยู่ก็ไม่มีให้เห็น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-04-2017 เมื่อ 16:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 114 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 09-04-2017, 14:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การเป่ายันต์เกราะเพชรที่สืบทอดมานั้น รุ่นของอาตมาได้รับการครอบครูมาจากหลวงพ่อวัดท่าซุง เป็นที่น่าเสียดายว่าในยุคนั้น ทางวัดให้ความเคารพหลวงพ่อมากจนเกินเหตุ แต่เป็นการเคารพในทางที่ผิด ก็คือหลวงพ่อท่านสั่งให้ทุกคนภาวนา อิติปิ โสฯ ๓ ห้อง รักษาภาพพระให้แจ่มใสไว้เสมอ แล้วถึงวันเป่ายันต์เกราะเพชรให้จัดขันครู เพื่อที่จะได้รับการครอบครูในการเป่ายันต์

ปรากฏว่าก่อนงานเป่ายันต์ไม่กี่วัน มีการประชุมคณะกรรมการสงฆ์ แล้วสรุปออกมาว่า การเป่ายันต์เกราะเพชรเป็นหน้าที่ของหลวงพ่อวัดท่าซุงเท่านั้น พวกเราไม่ควรที่จะวัดรอยเท้าเป็นอันขาด คณะกรรมการสงฆ์จึงมีคำสั่งว่า ห้ามครอบครูเพื่อรับการเป่ายันต์เกราะเพชร

อาตมานั้นถือว่าสิ่งที่หลวงพ่อสั่งเราต้องทำด้วยชีวิต คณะกรรมการสงฆ์สั่งห้าม ไม่ใช่หลวงพ่อสั่งห้าม จึงไปขอให้โยมศุภาพร อดีตภรรยาของหลวงตาวัชรชัยช่วยจัดขันครูให้ด้วย โดยไปกัน ๒ รูป คืออาตมากับท่านชาติชาย ตอนนั้นอาตมาได้ ๗ พรรษา ท่านชาติชายได้ ๒ พรรษา

โยมศุภาพรเห็นแล้วก็ถอนหายใจเฮือก...! บอกว่า "หลวงพี่...สองคนรวมกันยังไม่ได้ ๑๐ พรรษาเลย จะงัดเขาไหวหรือ ?" ก็บอกกับโยมไปว่า "โยมก็รู้นิสัยอาตมา ว่าอะไรที่หลวงพ่อสั่ง ต่อให้ตายก็ต้องทำ ในเมื่อเขาไม่ทำ โยม
ทำขันครูมาก็แล้วกัน อาตมารับผิดชอบตัวเอง ถ้าโดนไล่ออกจากวัดก็ยอม" โยมศุภาพรจึงตัดสินใจว่า "ถ้าอย่างนั้นโยมจะทำขันครูเผื่อพระผู้ใหญ่ที่รับใช้ใกล้ชิดหลวงพ่อในศาลา ๑๒ ไร่ด้วย ถ้าโดนจะได้โดนด้วยกัน" โยมก็ใช้ได้เหมือนกันนะ

ปรากฏว่าโยมทำขันครูไปทั้งหมด ๙ ใบด้วยกัน อาตมากับท่านชาติชาย ๒ อีก ๗ ท่านนั้น ตอนนี้ทั้งสึก ทั้งออกจากวัดไปเยอะแล้ว แทบจะไม่เหลือติดวัดแล้ว ก็ปรากฏว่าเป็นเรื่องจริง หลังจากนั้นอาตมากับท่านชาติชายก็โดนสอบสวน ข้อหาฝืนคำสั่งคณะกรรมการสงฆ์ แต่อาตมาแก้ตกทุกประตู เพราะว่าสิ่งที่หลวงพ่อสั่งเราต้องทำ คุณไม่กล้าทำก็ถอยไปห่าง ๆ ผมจะทำเอง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-04-2017 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 116 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 09-04-2017, 14:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บุคคลที่ได้รับการครอบครูเป่ายันต์เกราะเพชร มีทั้งลาสิกขาไปและอยู่นอกวัด ก็คือ

๑.ท่านชาติชาย ลาสิกขาไปแล้ว
๒.ท่านอาจารย์พระสมุห์บัญชา สุขปญฺโญ ท่านเป็นพระอนุสาวนาจารย์ของอาตมาเอง ลาสิกขาไปแล้ว
๓. ท่านปลัดอภิชัย สุธมฺมธมฺโม หรือท่านน้อย ลาสิกขาไปแล้ว
๔. ตัวอาตมาเอง อยู่ที่นี่ ที่วัดท่าขนุนแห่งนี้
๕. หลวงตาวัชรชัย อยู่ที่วัดเขาวง จ.สระบุรี
๖. ท่านอาจารย์พระปลัดวิรัช โอภาโส อยู่ที่วัดธรรมยาน จ.เพชรบูรณ์

แปลว่าเหลืออยู่ในวัดแค่สาม...ใช่ไหม ? เอาเถอะ ใครอยู่ในวัดก็เดาเอาเองแล้วกัน

การครอบครูเพื่อรับการเป่ายันต์เกราะเพชรนั้น คำสั่งที่เด็ดขาดของหลวงพ่อ ก็คือ

๑. อย่าใช้กำลังของตัวเองเป็นอันขาด ถ้าไม่ใช่พระท่านสงเคราะห์ เราใช้กำลังสมาธิ สมาบัติของตัวเอง จะได้ผลไม่เกิน ๒ เปอร์เซนต์ ก็แปลว่า ถ้าอยากทำเอง ๑๐๐ บาท ก็ได้แค่ ๒ บาท

๒. อย่าเดินสายเป่ายันต์เป็นอันขาด ให้ทำเฉพาะที่วัดซึ่งตนอยู่เท่านั้น ไม่อย่างนั้นคงจะมีประเภทรับจ้างเป่ายันต์

๓. สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่พระท่านบอก ท่านสั่ง ให้ทำตามนั้น
ก็หมายความว่าต้องทรงสมาธิจิต ติดต่อกับพระท่านได้ ท่านบอกให้วางกำลังใจอย่างไร ภาวนาคาถาอะไรให้ทำตามนั้น

ท่านบอกว่า ถ้าฝืนข้อใดข้อหนึ่งจะเป่าไม่ติด ก็คือการเป่ายันต์นั้นไม่มีผล
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-07-2018 เมื่อ 17:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 115 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 09-04-2017, 14:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในบรรดาท่านที่ครอบครูมาทั้งหมด อาตมาได้รับคำสั่งให้เป่ายันต์ก่อนเพื่อน สำหรับท่านอื่นยังไม่มีคำสั่งหรือว่าท่านรับคำสั่งไม่ได้ก็ไม่ทราบ

ในส่วนของการเป่ายันต์เกราะเพชรนั้น ท่านให้ทำเพื่อการสงเคราะห์ ถ้าหากว่าทำเอารวย พระท่านไม่สงเคราะห์เหมือนกัน เราจะเห็นว่ามีกฎกติกามากมายที่ต้องยึดถือ ทั้งตัวโยมที่รับไปต้องรักษาศีล อย่างน้อย ๒ ข้อ ทั้งพระที่ทำก็มีกฏ มีกติกาข้อห้ามอยู่ อาตมาเองอยากจะผ่องถ่ายวิชาการอยู่เหมือนกัน เมื่อไรท่านจะสั่งให้ครอบครู มีลูกศิษย์ได้เสียทีก็ไม่รู้ ?

หลวงพ่อท่านครอบครูให้พวกอาตมา ตอนท่านอายุ ๗๗ ปี อาตมาเองจะอายุถึง ๗๗ ปีหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ? เพราะหลังจากครอบครูให้ไม่กี่เดือน หลวงพ่อท่านก็มรณภาพ ถ้าหากอาตมาไม่ฝืนคำสั่งคณะกรรมการสงฆ์ ดื้อไปครอบครูไว้ วิชานี้ก็สูญ เพราะว่าสายนอกที่ทำมาเห็นออกนอกลู่นอกทางไปมาก

หลายท่านสามารถเป่ายันต์ได้ทุกวัน บางท่านเคยไปวัด คุ้นกันแท้ ๆ เจอหน้ากันทีไรก็ยังไล่เตะตูดกันเหมือนเดิม แต่เป่ายันต์ทั้งเสาร์และอาทิตย์ ท่านบอกว่าคนมาเยอะดี นอกครูไปได้เหมือนกัน ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-04-2017 เมื่อ 16:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 112 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 10-04-2017, 15:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

(ก่อนเป่ายันต์รอบบ่าย) สมัยที่อาตมาอยู่วัดท่าซุง เนื่องจากว่าเป็นช่วงเวลาฝึกฝนปฏิบัติของตัวเอง เพราะฉะนั้น...เรื่องของการก่อสร้าง บูรณปฏิสังขรณ์ทุกอย่างจะไม่ยุ่งเกี่ยวเลย พอถึงเวลาทำหน้าที่ประจำเสร็จก็เข้าที่ภาวนา ไม่มีเวลา คำว่า "ไม่มีเวลา" ก็คือ ว่างตอนไหนทำตอนนั้น จะกลางวันกลางคืนก็ไม่ว่า

ในเมื่อไม่มีเวลาก็เลยกลายเป็นปฏิบัติแล้วได้เยอะหน่อย เพราะไม่เลือกว่ากลางวันหรือกลางคืน บางทีก็เดินจงกรมยันสว่าง ส่วนใหญ่แล้วก็ไปหลบอยู่ใต้สวนไผ่ เดินจงกรมจนทางเป็นร่อง

ออกจากวัดมาปีแรกต้องไปสร้างสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี ปีที่สองสร้างสำนักสงฆ์ถ้ำทะลุ ปีที่สามสร้างวัดห้วยสมจิตร ปีที่สี่ก็เริ่มสร้างวัดหนองบัว กลับจากวัดหนองบัวมาแล้วก็มาทำวัดพุทธบริษัท แล้วก็ไปช่วยวัดท่ามะขามไปครึ่งวัด มาทำวัดทองผาภูมิไปครึ่งวัด หลังจากนั้นก็คิดว่าพอกันที ซ่อมสร้างไปหลายวัดเต็มทีแล้ว

จากคนที่ไม่เคยแตะต้องงานก่อสร้างเลย ตอนนี้ไม่ว่าพื้นที่กว้างยาวเท่าไร ใช้วัสดุอะไร สามารถบอกได้หมด เสร็จจากวัดทองผาภูมิ ก็ตั้งใจบูรณะเกาะพระฤๅษีให้ดี กะว่าจะอยู่ที่นั่นแหละ ปรากฏว่าทำเสร็จได้ ๒ วัน วัดท่าขนุนขาดเจ้าอาวาส จึงต้องมาเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-04-2017 เมื่อ 16:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 105 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 10-04-2017, 15:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จากการที่ไม่คิดว่าจะก่อสร้างก็ต้องมาทำ ทำจนกระทั่งญาติโยมหลายคนบ่นว่าสร้างแล้วไม่อยู่ อาตมามีหน้าที่สร้างให้เขา ไม่ได้สร้างไว้อยู่ แม้กระทั่งวัดท่าขนุนก็ไม่ได้คิดที่จะอยู่ โยมถามว่าทำไมเป็นอย่างนั้น ? ก็บอกว่า วัดที่ดีที่สุดในความรู้สึกของอาตมาคือ วัดท่าซุง ถ้าวัดท่าซุงอาตมายังทิ้งได้ ไม่มีวัดไหนที่ทิ้งไม่ได้หรอก บางคนจะเห็นว่าทำวัดนี้ไปกี่สิบล้าน ทำวัดนี้ไปกี่ร้อยล้าน ไม่มีความหมายสำหรับอาตมา...ถ้าจะไปก็ไป..!

ซ่อมโบสถ์ไป ๓ หลัง สร้างไป ๒ หลัง ซ่อมนี่ยากกว่า เพราะว่ายิ่งรื้อก็ยิ่งเจอว่าเสียหายตรงไหน เพราะฉะนั้น...สร้างใหม่จะง่ายกว่ามาก

พระเจดีย์ก็สร้างไปหลายองค์ ล่าสุดก็เพิ่งให้ทุนท่านอาจารย์คำพูล หรือพระครูวุฒิกาญจนวัตร รองเจ้าคณะอำเภอศรีสวัสดิ์ ไปสร้างพระเจดีย์ในทุ่งใหญ่นเรศวร ไว้เป็นที่เคารพสักการะของบรรดากะเหรี่ยงอีก ๑ หลัง อาตมาเป็นนายทุน โอนเงินไปให้ท่านดำเนินการ ในเมื่อมีโอกาสก็ต้องรีบทำไว้ก่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-04-2017 เมื่อ 16:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 109 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 10-04-2017, 16:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตอนนี้ฌาปนสถานหรือเมรุของวัดท่าขนุนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เรือนไทยประยุกต์ ถ้าเสร็จก็จะซ่อมตึกเตชะไพบูลย์กับตึกประจวบดี ๒ ตึก หลังจากนั้นงานข้างในก็คงไม่มี อาตมาจะไปทำทางขึ้นรอยพระพุทธบาท

ตอนนี้สภาพร่างกายของอาตมา แข็งแรงเพียงพอที่จะรบกับญาติโยมเป็นวัน ๆ ถ้ามีเรี่ยวมีแรงแบบนั้น ก็จะไปขึ้นรอยพระพุทธบาทเสียที เพราะว่ารอยพระพุทธบาทนั้น ตั้งแต่สมัยอาตมายังอยู่วัดท่าซุงขึ้นไปกราบ ต้องหาทางตะเกียกตะกายป่ายปีนขึ้นไป จนกระทั่งเห็นว่าเป็นรอยพระพุทธบาทจริง ๆ แต่ที่ทึ่งกว่านั้นก็คือมีรอยเท้าเท่ากับรอยคนธรรมดาทั่วไป เหยียบอยู่บนหิน ๑ รอย ลักษณะของการเหยียบ ลึกและชัดเจนมาก ลึกเป็นนิ้วเลย ลึกและชัดเจน สงสัยว่าจะเป็นหลวงปู่สาย ถึงเวลาก็สกัดรอยเท้าของอาตมาให้ลึกพอ ๆ กัน เรียกวัดรอยครูบาอาจารย์

งานใหญ่อยู่บนหัวอาตมา คือ พิพิธภัณฑ์ ๑๐๐ ปี หลวงพ่อฤๅษีวัดท่าซุง จะแบ่งเป็นห้อง ๆ ห้องแรกเป็นห้องความรู้ทางพระพุทธศาสนา ห้องที่สองเป็นห้อง หลวงปู่สาย อดีตเจ้าอาวาสที่นี่ ห้องที่สามจะเป็นวัตถุมงคลประเภทเครื่องรางของขลัง ซึ่งอาตมาค่อนข้างมั่นในว่า ตัวเองสะสมไว้ไม่น้อยหน้าใครในโลก

แล้วก็อยากจะเอาพวกสินค้าโอท็อป ฝีมือระดับประเทศ อวดเขาได้ไม่อายใครมาให้เด็ก ๆ แถวนี้ได้ดูบ้าง โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นเครื่องเงิน เครื่องทอง อาตมาทยอยซื้อเก็บ ๆ เอาไว้หลายล้านเต็มทีแล้ว บางอย่างเช่น เข็มขัด ถักลายด้วยเส้นลวดทองคำ เส้นหนึ่งก็เป็นล้านแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 10-04-2017 เมื่อ 19:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 110 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 10-04-2017, 16:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มณฑปประดิษฐานพระทองคำ ราคา ๑๒,๕๐๐,๐๐๐ บาท องค์พระไม่ต้องคิด องค์พระเนื้อเงินนั่นใช้โลหะเงินไป ๑๕๐ กิโลกรัมเศษ ๆ ราคาก็ประมาณ ๓ ล้านกว่า ๆ เนื้อนากยังไม่รู้ เพราะว่าต้องผสมทองคำ ๓๐% ส่วนเนื้อทองคำ รู้แน่ ๆ ว่าต้องใช้ทองคำ ๑๔๐ กิโลกรัม ตอนนี้ญาติโยมกราบหลวงพ่อเงินให้ชื่นใจไปก่อน อาตมาสร้างไว้เรียกเงิน เพราะว่าตัวเองใช้เงินเก่ง ปีที่แล้วใช้เกินบัญชีไป ๘๐ กว่าล้าน ปีนี้ยังไม่รู้ว่าจะใช้เกินไปเท่าไร เป็นคนใช้เงินเกินแล้วไม่เป็นหนี้ นับว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์

เมื่อครู่นี้เพื่อนพระเพิ่งจะทักว่า อาจารย์เล็กไม่ได้อยู่มุมเศรษฐีนี่ ทำไมรวยนัก ? กุฏิที่ทำงานของอาตมาอยู่มุมมหาทุคตะ มหาทุคตะ แปลว่าลำบากยากจนสุด ๆ อาตมาเป็นคนจนมาก ปีหนึ่งใช้เงินเป็นร้อยล้าน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-04-2017 เมื่อ 16:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 107 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 10-04-2017, 16:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป อาตมาจะรวยขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่างานก่อสร้างมีน้อยลง แต่ท่านผู้รู้บอกว่าถ้าหลวงพ่อเงินมา อาตมาจะรวยขึ้นเรื่อย ๆ พอดี จึงสอดคล้องกับเหตุการณ์จริง ๆ โดยอัตโนมัติ เพราะถ้าโดยปกติปีหนึ่งใช้ ๑๐๐ กว่าล้าน งานก่อสร้างเบาลงเหลือจ่ายสัก ๕๐ ล้าน ก็เก็บได้ตั้งครึ่งหนึ่ง

อาตมาจะพยายามตั้งกองทุนเอาไว้ให้เจ้าอาวาสรูปถัดไป ท่านจะไม่ต้องช็อกตาย เพราะถ้าไม่มีกองทุนไว้บริหารวัด วัดใหญ่ ๆ จะลำบากมาก แบบเดียวกับวัดพระธรรมกาย วัดพระธรรมกายถ้าไม่มีกองทุนนี่อยู่ไม่ได้เลย เพราะว่าวัดใหญ่ พระภิกษุ สามเณรเยอะมาก แค่ช่วยกันกินก็หน้ามืดแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 10-04-2017 เมื่อ 19:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 109 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 10-04-2017, 16:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วัดของอาตมามีพระอยู่ ๓๐ กว่ารูป ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าร้อน ถ้าทุกคนเปิดพัดลมพร้อมกัน ค่าไฟเดือนหนึ่งตกหมื่นกว่าบาท อาตมาก็แปลกใจเหมือนกันว่าที่นี่เป็นอะไรกัน หน้าหนาวก็เปิดพัดลม หน้าร้อนก็เปิดพัดลม หน้าหนาวเอาผ้านวมตีโปง คลุมหัวยันเท้าแล้วก็เปิดพัดลม แล้วจะเปิดทำไม ? ส่วนหน้าร้อนนี่เปิดพัดลมยังพอจะเข้าใจ แต่อาตมานี่โดนพัดลมตรง ๆ ไม่ได้ โดนแล้วไข้จับ อยู่ห้องปรับอากาศยิ่งอยู่ไม่ได้ อยู่แล้วจะคัน เพราะว่าผิวแห้ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-04-2017 เมื่อ 17:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 116 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:04



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว