|
ประวัติและปฏิปทาของพระสุปฏิปันโน รวมประวัติ ปฏิปทาของครูบาอาจารย์อันเป็นที่เคารพจากทั่วเมืองไทย |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#41
|
|||
|
|||
หลวงปู่ท่านกล่าวถึงการกู้ชาติว่า " เราไม่มีแผ่นดินจะอยู่นี้เพราะอะไร ? เพราะเรื่องกู้ชาติใช่หรือไม่ ? ตอนนี้เราต้องมาอาศัยแผ่นดินไทยอยู่ เพราะฉะนั้น อย่าคิดทำอะไรให้เดือดร้อนอีกเลย " แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-08-2012 เมื่อ 10:00 |
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ กระโถนข้างวัด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#42
|
|||
|
|||
วินัยไปได้หลายอย่าง
ครั้งหนึ่ง ลุงมะเกิงตามหลวงปู่ไปช่วยพระถางหญ้าและตัดต้นไม้ที่คลุมพระเจดีย์สามองค์ เกิดปัญหาถามหลวงปู่ว่า " พระถางหญ้าได้ด้วยหรือครับหลวงพ่อ ? " หลวงปู่ตอบกลับหน้าตาเฉยว่า " เรามากวาดเจดีย์ต่างหาก " ลุงมะเกิงจึงกระเซ้าหลวงปู่ว่า " วินัยนี้ ไปได้หลายอย่างนะครับหลวงพ่อ " แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย กระโถนข้างวัด : 31-08-2012 เมื่อ 10:39 |
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ กระโถนข้างวัด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#43
|
|||
|
|||
เรายังไม่แก่
วันหนึ่งข้าพเจ้ากับพี่ ๆ แพทย์ทหาร เข้าเวรถวายรับใช้หลวงปู่ที่โรงพยาบาลตามปกติ เราก็คุยกันเบา ๆ ว่า " ปีนี้ ดูหลวงปู่แก่ลงไปมาก ไม่อยากให้ท่านรับนิมนต์ไปไหนอีกเลย " ซึ่งพี่ ๆ ก็เห็นตรงกับข้าพเจ้า พอเราเข้าไปในห้อง ท่านก็พูดขึ้นมาทันทีว่า " เรายังไม่แก่นะ ดูนี่ " แล้วท่านก็ทำท่ากระฉับกระเฉง ให้พวกเราดู บรรยากาศตอนนั้น ข้าพเจ้ายังจำได้ว่า จะขำก็ไม่ขำ จะเศร้าหรือก็ไม่เชิง พวกเราก็เลยได้แต่เงียบ ๆ เรื่องนี้กันไป แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย กระโถนข้างวัด : 02-09-2012 เมื่อ 06:51 |
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ กระโถนข้างวัด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#44
|
|||
|
|||
ปลายปี พ.ศ. ๒๕๔๗ ขณะที่หลวงปู่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล แพทย์ลงความเห็นว่า อาการหลวงปู่ดีขึ้น และคาดว่าน่าจะกลับวัดได้ภายในวันพรุ่งนี้ แต่เช้าวันนั้น หลวงปู่กลับปรารภว่า "ให้ห่มจีวรเตรียมไว้ให้ด้วย" ข้าพเจ้าก็กราบเรียนถามว่า "หลวงปู่จะไปไหนครับ หมอน่าจะให้กลับพรุ่งนี้ ?" ท่านตอบข้าพเจ้าว่า "กลับอะไร หมอจะเอาเราไปตรวจตอนบ่ายนี้แล้ว มีสายระโรงระยางอะไรก็ไม่รู้ เต็มไปหมด" พี่ ๆ ก็ไม่กล้าขัดท่าน หลังจากช่วยกันห่มจีวรถวายให้หลวงปู่แล้ว บ่ายวันนั้นเอง อาการท่านทรุดลง แพทย์แจ้งว่าจะต้องมีการเจาะเลือดเพื่อฟอกไต หากข้าพเจ้าจำไม่ผิด ตั้งแต่นั้นมา หลวงปู่ก็ไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลอีกเลย แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-09-2012 เมื่อ 17:02 |
สมาชิก 143 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ กระโถนข้างวัด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#45
|
|||
|
|||
เรื่องการขบฉันของหลวงปู่ ข้าพเจ้าเคยถวายรับใช้ตอนท่านฉัน ส่วนมากจะเป็น "ผักลวกและน้ำพริกกะเหรี่ยง" ซึ่งท่านเมตตาสอนไว้ว่า" ฉันวันละ ๓๒ คำ ก็พอแล้ว พอที่จะเลี้ยงร่างกายนี้ให้ปฏิบัติอยู่ได้แล้ว " แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-09-2012 เมื่อ 17:26 |
สมาชิก 145 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ กระโถนข้างวัด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#46
|
|||
|
|||
มีคนมากราบหลวงปู่ กราบเสร็จ หลวงปู่พูดว่า " วันนี้ไม่ไปได้ไหม ? วันไม่ดี ทิศที่จะไปก็ตรงกับทิศผีหลวง อยู่ฟังเราเทศน์ดีกว่าไหม ? " คนที่มากราบก็เรียนท่านว่า " อยู่ไม่ได้ครับหลวงพ่อ ผมมีธุระกับเพื่อนจริง ๆ เกรงว่าจะเสียผู้ใหญ่ " หลวงปู่ท่านก็ยังเมตตาห้ามอีกว่า " แล้วลูกเมียจะกลับบ้านอย่างไร ? อย่าไปเลยวันนี้ ไว้วันหลังดีกว่า " เขาก็ไม่ฟังหลวงปู่ ตัดบทด้วยการกราบลา แล้วบอกว่า บ้านใกล้ ลูกและภรรยาเดินกลับเองได้ พวกเราก็มาทราบเรื่องภายหลังว่า พี่เขานัดเพื่อน ไปเล่นพนัน เสียเงินไปเป็นแสน ต้องบากหน้าไปหาเงินมาใช้หนี้อีก แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย กระโถนข้างวัด : 04-09-2012 เมื่อ 07:54 |
สมาชิก 144 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ กระโถนข้างวัด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#47
|
|||
|
|||
กราบพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร
เมื่อเข้ามาในประเทศไทยใหม่ ๆ ความตั้งใจอย่างหนึ่งของหลวงปู่ ก็คือ การได้เข้าไปกราบสักการะพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ในพระบรมมหาราชวัง หลวงปู่เล่าว่า ท่านเห็นนิมิตเป็นภาพพระบรมสารีริกธาตุในองค์พระแก้วมรกต แม้จะไม่ชัดเจนนัก แต่ท่านก็เกิดปีติ ตัวเบา อิ่มเอิบใจเป็นอย่างยิ่ง และที่สำคัญ..ภาพนั้นยังติดใจท่านอยู่เสมอ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-09-2012 เมื่อ 16:29 |
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ กระโถนข้างวัด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#48
|
|||
|
|||
หลวงปู่เล่าเรื่อง "ช้างสีดอ" ให้ฟังว่า ท่านไปเจอช้างตัวใหญ่มาก ขนาดรอยเท้าเกือบ ๒ ศอก ที่พระเจดีย์สามองค์ คราวที่ไปบูรณะพระเจดีย์ พอหลวงปู่ทาสีเจดีย์เสร็จ ก็ยกฉัตรแบบมอญมาสวมไว้ ไม่เกิน ๒ วัน สีดอก็มารื้อออก ท่านเลยเปลี่ยนใหม่เป็นแบบพม่า สีดอก็มารื้อทิ้งอีก สุดท้ายท่านทำฉัตรแบบไทยมาประดับ พร้อมบอกกับสีดอว่า "ชฎาเราทำมาหลายสตางค์นะสีดอ ใส่ไว้ไม่กี่วันสีดอก็มาเอาออกแล้ว" คราวนี้สีดอเอางวงมาลูบฉัตร แต่ไม่รื้อทิ้ง ชาวบ้านเห็นสีดอชาตินิยมเช่นนั้น จึงพากันขนานนามว่า "ช้างพระนเรศวร" แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-09-2012 เมื่อ 14:30 |
สมาชิก 151 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ กระโถนข้างวัด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#49
|
|||
|
|||
วัตถุมงคลของหลวงปู่ที่เลื่องชื่อที่สุด ก็คือ ประคำ แต่ท่านกลับบอกเสมอว่า "สิ่งเหล่านี้เป็นเปลือกเท่านั้น คุ้มครองได้ก็แต่ร่างกายในชาตินี้ ถ้าอยากเอาดีจริงก็ต้องปฏิบัติตามคำสอนพระบรมศาสดา ถึงจะเป็นของดีจริง" พวกข้าพเจ้าก็ตอบท่านไปว่า ตอนนี้เอาประคำก่อน ส่วนพระธรรมไว้ทีหลังครับหลวงปู่ เท่านั้นเองพวกก็ขำกันท้องคัดท้องเเข็ง แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย กระโถนข้างวัด : 08-09-2012 เมื่อ 07:22 |
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ กระโถนข้างวัด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#50
|
|||
|
|||
หลวงปู่วาง "กฎ" ที่ห้ามละเมิดภายในหมู่บ้านไว้ว่า ๑.ห้ามดื่มสุรา ๒.ห้ามเล่นการพนัน ๓.ห้ามลักขโมย ๔.ห้ามผิดลูกผิดเมีย แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย กระโถนข้างวัด : 08-09-2012 เมื่อ 08:01 |
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ กระโถนข้างวัด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#51
|
|||
|
|||
หลวงปู่เปรียบเทียบถึงการใช้ชีวิตเอาไว้ว่า จะเป็นเช่นสัตว์ชนิดใด ระหว่าง "เสือ" มีอำนาจ สัตว์อื่นเกรงกลัว แต่ต้องอยู่เพียงลำพังโดดเดี่ยว หรือจะเป็นเช่น "กวาง" อ่อนโยน รู้จักหลบหลีกภัยอันตราย เป็นสุขอยู่กับฝูง แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย กระโถนข้างวัด : 09-09-2012 เมื่อ 03:43 |
สมาชิก 145 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ กระโถนข้างวัด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#52
|
|||
|
|||
หลวงปู่ท่านเล่าถึงตอนที่ท่านโดนโจรจับตัวไป เพราะคิดว่าเป็นสายลับให้ตำรวจ แล้วบังคับให้ท่านไปนั่งบนห้างไม้ไผ่ที่หน้าผาว่า "เราคิดว่า อนิจจัง อนิจจา วันนี้ได้พบธรรมะแน่แล้ว โจรมันยึดหมด จะมีก็แต่บาตรที่เราขอไว้ ในบาตรก็มีพระบัวเข็มองค์หนึ่งเท่านั้น เราก็สวดมนต์บูชาพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ไปเรื่อย พอโจรจะยิงเราก็ปรากฏว่า หัวหน้าโจรคือ เด็กที่เราเคยช่วยชีวิตไว้ เขาก็เลยปล่อยเรา สุดท้าย...เรารอดมาได้ ก็เพราะกรรมฐานนี่แหละช่วยชีวิตเอาไว้ " แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย กระโถนข้างวัด : 10-09-2012 เมื่อ 17:38 |
สมาชิก 144 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ กระโถนข้างวัด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#53
|
|||
|
|||
หลวงปู่เล่าถึงตอนไปธุดงค์ที่ชายหาดเกาะสองว่า ท่านไปเจอสิ่งที่ชาวบ้านเรียกว่า "ปอบน้ำ" "มีดวงไฟสองลูกมาลอยวนอยู่รอบกลดตลอดคืน แต่เเปลกที่ไฟนั้นแทนที่จะมีกลิ่นไหม้ กลับเป็นกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะมาทำอะไร ได้แต่แผ่เมตตาไปแล้วบอกว่า "ท่านทั้งหลายไม่ต้องมาแสดงตัวหรอก เรามาธุดงค์แล้วไม่คิดกลัวตาย" สักครู่หนึ่ง ดวงไฟนั้นก็ลอยลับไปทางท้ายเกาะ และไม่มาให้เห็นอีกเลย แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-09-2012 เมื่อ 14:51 |
สมาชิก 142 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ กระโถนข้างวัด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#54
|
|||
|
|||
หลวงปู่ท่านสอนคาถา เวลาที่เราจำเป็นต้องถ่ายปัสสาวะ ในที่ที่ไม่น่าไว้วางใจเพื่อไม่ให้เกิดโทษแก่ตัว หากเราหันหน้าไปตรงกับกับทิศผีหลวง โดยให้ภาวนาดังนี้ " พุทธะชิโน ธัมมะชิโน สังฆะชิโน " แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย กระโถนข้างวัด : 12-09-2012 เมื่อ 18:48 |
สมาชิก 139 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ กระโถนข้างวัด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#55
|
|||
|
|||
ทิศผีหลวงคืออะไรคะ รบกวนขอคำอธิบายเพิ่มเติมหน่อยได้ไหมคะ ถ้าหมายถึงทิศที่มีผีหลวง ผีหลวงคืออะไรคะ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นางมารร้าย : 13-09-2012 เมื่อ 09:15 |
สมาชิก 100 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นางมารร้าย ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#56
|
|||
|
|||
จำได้เลา ๆ ว่ามีในตำราพรหมชาติ ดังอ้างอิง :
http://www.myhora.com/%E0%B8%AA%E0%B...B8%81-027.aspx ในการทำการมงคลสำคัญ หรืออื่น ๆ นอกจากเคร่งครัดเรื่องวันมงคล วันดี ฤกษ์ ยาม แล้ว ยังมีทิศทางในการทำมงคลสำคัญนั้นด้วย ซึ่งตำราที่ใช้กันบ่อยและยึดถือกันมาก คือ ทิศผีหลวง ทิศหลาวเหล็ก ครั้งโบราณชาวบ้านไม่ค่อยทราบกำหนดฤกษ์ยาม เพราะตำรายังไม่แพร่หลาย ยังไม่มีเครื่องมือฤกษ์ยามมากนัก ในการเดินทางไกล หรือทำการสำคัญ จะดู ทิศผีหลวง และ ทิศหลาวเหล็ก โดยเลือกจากแม่ไก่ตัวหนึ่งในเล้า ดูว่าแม่ไก่ตั้วนั้นกกไข่หันหน้าระวังป้องกันไปทางทิศใด ก็ให้เลี่ยงทิศทางนั้น ๆ เพราะถือว่าเป็นทิศผีหลวง โดยทิศผีหลวง ทิศหลาวเหล็ก นี้มักถูกใช้ในการสำคัญต่าง ๆ เช่น ออกเดินทางยกขันหมาก สู่ขอ เดินทางไกล ขับรถขับเรือหรือเดินออกจากบ้าน ห้ามเดินทางเริ่มต้นไปทางทิศผีหลวง และทิศหลาวเหล็ก โดยเด็ดขาด ให้เลี่ยงไปทิศทางอื่น ๆ ก่อน ค่อยวกอ้อมกลับก็ยังดี การนั่งของคู่บ่าวสาว ขับออกรถใหม่จากร้าน หรือเพิ่งซ่อมเสร็จจากอู่ก็เช่นกัน หรือการนั่งพนันขันต่อ นักพนันมักเคร่งครัดเรื่องนี้เช่นกัน ทิศผีหลวง เมื่อรู้ว่ามีผีหลวงอยู่ทิศใด ไม่ควรคำนึงทางไปทางนั้น จะนั่งในเรือนใคร อย่าได้นั่งหันหน้าไปทางนั้น ไม่ดีเลย วันอาทิตย์ : ผีหลวงเป็น ม้าขาว อยู่ประจำทิศ ตะวันตกเฉียงเหนือ - พายัพ วันจันทร์ : ผีหลวงเป็น โค (วัว) อยู่ประจำทิศ ตะวันออก - บูรพา วันอังคาร : ผีหลวงเป็น ราชสีห์ อยู่ประจำทิศ ตะวันออกเฉียงเหนือ - อีสาน วันพุธ : ผีหลวงเป็น ยักษ์ อยู่ประจำทิศ เหนือ - อุดร วันพฤหัสบดี : ผีหลวงเป็น กระบือ (ควาย) อยู่ประจำทิศ ทิศใต้ - ทักษิณ วันศุกร์ : ผีหลวงเป็น สุกร (หมู) อยู่ประจำทิศ ตะวันตก - ประจิม วันเสาร์ : ผีหลวงเป็น ช้างสาร อยู่ประจำทิศ ตะวันออกเฉียงใต้ - อาคเนย์ โหราศาสตร์บูรพาจารย์ได้ผูกเป็นโคลงกลอนไว้ ดังนี้ วันอาทิตย์ ผีหลวงเป็นม้าขาว เนตรแดงแสงดาวโรหิณี อยู่ฟากฟ้าทิศพายัพ ยืนหยัดดังราชสีห์ วันจันทร์แปรสถานเป็นคาวี ถิ่นที่สถิตบูรพา ภุมวารบันดาลเพศเป็นไกรสร เที่ยวร่อนเร่อยู่ทิศอีสาน พุธวารบันดาลเป็นยักษ์ฉกรรจ์ แบกกระบองยืนยันอยู่อุดร พฤหัสทักษิณสถิต เบือนบิดรูปเป็นกาสร ศุกร์ประจิมสถาพร แปลงกายเป็นสุกรกำเริบฤทธิ์ เสาร์หลวงเป็นคชศักดิ์ สำนักในอาคเนย์เป็นที่สถิต แม้ยาตราบ่ายหน้าให้ต้องทิศ ได้คิดเลี่ยงหลีกจึงยาตรา ทิศหลาวเหล็ก ทิศหลาวเหล็ก เมื่อจะเดินทาง ไม่ควรเดินทางให้ตรงกับทิศหลาวเหล็กตก เพราะจะแพ้ภัยตัวเอง หรือจะเจ็บไข้ได้ป่วย ต้องศัสตราวุธ ประสพภยันอันตราย ระหว่างทางแล วันอาทิตย์ : เทวดาอยู่ประจำทิศ ตะวันตก - ประจิม วันจันทร์ : เทวดาอยู่ประจำทิศ ตะวันออก - บูรพา วันอังคาร : เทวดาอยู่ประจำทิศ เหนือ - อุดร วันพุธ : เทวดาอยู่ประจำทิศ เหนือ - อุดร วันพฤหัสบดี : เทวดาอยู่ประจำทิศ ทิศใต้ - ทักษิณ วันศุกร์ : เทวดาอยู่ประจำทิศ ตะวันตก - ประจิม วันเสาร์ : เทวดาอยู่ประจำทิศ ตะวันออก - บูรพา พระคาถากันผีหลวง หลาวเหล็ก สัตถาเทวะหะ สะมะนิทุ ทุนิมา ฯ เมื่อจะไปที่ใด ให้ภาวนาแล้วค่อยไป กันผีหลวง หลาวเหล็ก ราหูแปดทิศ พระคาถานี้อยู่ในบาลีทุกตัว พระราหูและผีหลวง หลาวเหล็ก จะทนไม่ได้หนีไปหมด หมายเหตุ : อ้างอิงนี้ มีเรื่องเล่าที่มาของชื่อเรียกด้วย แต่ดูแปลกสักหน่อย และลงความหมายประกอบไว้ http://www.gotoknow.org/blogs/posts/245928 *ผีหลวง=คือผีพระมรณภาพ *หลาวเหล็ก = คือทิศอัปมงคลทั้งแปด คนปักษ์ใต้สอนกันมาว่าก่อนออกจากบ้านให้ไปดูแม่ไก่ฟักว่าแม่ไก่หันหัวไปทิศใหน ทิศนั้นคือทิศหลาวเหล็ก ห้ามเดินทางไปในทิศนั้น หรือว่าห้ามฝ่าหลาวเหล็กนั่นเอง
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว... กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายท่าขนุน : 13-09-2012 เมื่อ 11:02 |
สมาชิก 106 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สายท่าขนุน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#57
|
|||
|
|||
หลวงปู่เล่าว่าสมัยท่านเดินทางไปกราบหลวงพ่อตะเคียนดำ พบชาวมอญด้วยกัน เขาไม่เชื่อว่าท่านคืออาจารย์อุตตมะ "เราไปที่ทวายเจอหน้าคนที่นั่น เขาไม่เชื่อว่าเป็นเรา เห็นเรียกอาจารย์ ๆ (สะยาดอ) ดูหน้าทำไมยังหนุ่มแท้" แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-09-2012 เมื่อ 14:05 |
สมาชิก 138 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ กระโถนข้างวัด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#58
|
|||
|
|||
หลวงปู่ไม่ค่อยสอนการภาวนาอย่างเป็นรูปแบบ แต่ท่านมักจะย้ำเสมอว่า "รับศีลจากเราไปแล้ว ต้องรักษาให้ดี เป็นลูกศิษย์ก็ต้องทำให้ได้อย่างอาจารย์" แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย กระโถนข้างวัด : 14-09-2012 เมื่อ 10:16 |
สมาชิก 135 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ กระโถนข้างวัด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#59
|
|||
|
|||
วัตถุมงคลของหลวงปู่มีอยู่รุ่นหนึ่ง ที่ท่านกำกับการสร้างเอง เพราะไม่มีพระที่วัดเคยเห็นตำรานี้ที่ไหน แม้แต่อาจารย์หอมลูกศิษย์ผู้ใหญ่ นั่นก็คือ "แผ่นยันต์ทำน้ำมนต์ " โดยเล่าว่าเป็นวิชาของพระอภิญญาชาวทิเบต ท่านสั่งให้แกะลงบนแผ่นหินอ่อน แช่น้ำอธิษฐานเป็นน้ำมนต์รักษาโรคภัยไข้เจ็บหรือตามแต่จะอธิษฐานเอา แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2012 เมื่อ 03:09 |
สมาชิก 137 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ กระโถนข้างวัด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#60
|
|||
|
|||
นอกจากแผ่นยันต์ทำน้ำมนต์แล้ว พระเครื่องที่มีชื่อเสียงของท่านก็คือ "พระกริ่งจักรพรรดิ" ว่ากันว่า ท่านอธิษฐานไว้แทนตัวกันเลยทีเดียว พี่ ๆ เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า เขากราบเรียนถามหลวงปู่ว่า " เป็นไปได้หรือที่แผ่นจารไม่ละลาย ? " หลวงปู่ไม่ตอบว่ากระไร
แต่ในวันเทพระกริ่งรุ่นนี้เอง แผ่นชนวนของหลวงปู่ก็ลอยในเบ้าหลอมไม่ยอมละลายแทนคำตอบ ท้ายสุดท่านก็สั่งให้ช่างตักออกมาเก็บไว้ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย กระโถนข้างวัด : 16-09-2012 เมื่อ 07:53 |
สมาชิก 136 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ กระโถนข้างวัด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 3 คน ) | |
|
|