กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์

Notices

เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #41  
เก่า 15-01-2010, 07:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วิชาฮวงจุ้ยเชื่อได้กี่เปอร์เซ็นต์?
ตอบ : น่าจะ ๒๐ เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าเราเชื่อกรรม บุคคลที่ทำกุศลกรรมทำความดีมามาก ย่อมได้ฮวงจุ้ยที่ดีไปเองโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องไปเสียเวลาปรับแก้ ส่วนบุคคลที่สร้างอกุศลกรรมทำความชั่วเอาไว้มาก ก็ได้ฮวงจุ้ยเฮงซวยไป บางทีปรับแก้แล้วแก้อีก หมอรวยเป็นราย ๆ ไป ก็ยังแก้ไม่ตกสักที

ถาม : พี่ชายเขาให้หมอดูเรื่องฮวงจุ้ยบ้าน เขาสั่งให้ทุบบ้านทิ้ง
ตอบ : แล้วเขาทำไหม ?

ถาม : ทำค่ะ
ตอบ : แสดงว่าหมอไม่เก่ง ถ้าหมอเก่งอาจจะเปลี่ยนแค่ประตูรั้วประตูบ้านเท่านั้น เพราะว่าสามารถที่จะหันไปในทิศทางที่ดีได้

อาตมามีไฝดำ หรือสมผุสดำอยู่ในมือ บังเอิญหมอดูเห็นเข้า เขาบอกว่าให้ไปเอาออกซะ ไม่อย่างนั้นชีวิตจะต้องเสี่ยงอันตรายอยู่ตลอด เราก็บอกว่าชาตินี้ตูไม่เอาออกเด็ดขาด เอาออกแล้วชีวิตหมดรสชาติ..! เขาบอกว่าถ้าไฝเป็นสีแดงจะดี สีดำจะไม่ดี เรื่องพรรค์นี้สำหรับคนทั่วไปนั้นได้ แต่สำหรับเราจะแดงจะดำก็ดีทั้งนั้น ก็บอกแล้วว่าใจของเราเป็นพลังงาน และเป็นพลังงานที่มหาศาลมาก ถ้าเราคิดว่าดี..ก็จะดีไปเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 15-01-2010 เมื่อ 18:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #42  
เก่า 15-01-2010, 10:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สมัยหลวงปู่ครูบาธรรมชัยท่านรักษาโรค แล้วเจอประเภทโรคสุดท้าย ประมาณว่ารักษาหรือไม่รักษาก็ตาย ท่านทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : ก็สงเคราะห์เขาไป โดยแนะนำในเรื่องของบุญกุศลแทน ก็คือ จะให้ท่านรักษา...ท่านก็รักษา แต่ว่าให้เขาสร้างบุญกุศล เพื่อให้ใจเขาได้มีที่เกาะที่ดี

ถาม : แล้วที่ท่านรักษานี่คือ ?
ตอบ : ท่านจะบอกว่าป่วยเป็นโรคอะไร เป็นมากี่ปี กี่เดือน กี่วัน ต้องใช้ยาอะไรรักษา พระเลขาฯ ท่านมีหน้าที่จด ถึงเวลาก็ให้คนไข้เอาไปซื้อยาตามนั้น

ถาม : แล้วน้ำมันสังคโลกของหลวงปู่ปานเล่าครับ ?
ตอบ : บอกแล้วบางอย่างรักษาก็หาย บางอย่างรักษาก็ตาย บางอย่างรักษาหรือไม่รักษาก็ตาย บางอย่างรักษาหรือไม่รักษาก็หาย ถ้าหากว่าใช้แล้วได้ผลอย่างเดียว คนก็ไม่ตายกันแล้วสิ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2010 เมื่อ 18:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #43  
เก่า 15-01-2010, 12:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ที่บอกว่าภิกษุณี หรือสามเณรีขาดหายไป รู้สึกว่าเสียดาย
ตอบ : แล้วทำไมต้องไปเสียดาย การบรรลุมรรคผลไม่จำเป็นต้องเป็นนักบวช เป็นนักบวชบางทีถ้าปฏิบัติไม่ถูก บรรลุยากขึ้นเสียด้วยซ้ำ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2010 เมื่อ 18:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #44  
เก่า 15-01-2010, 15:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในนรกมีนายนิรยบาล คอยลงโทษคนที่ทำกรรมชั่ว แล้วอย่างนี้เขาทำให้เขาเจ็บปวด ไม่บาปหรือครับ ?
ตอบ : นั่นเป็นหน้าที่ เหมือนกับตำรวจ ตำรวจมีหน้าที่จับโจร ส่วนโจรจะเสียใจหรือไม่เสียใจนั่นเป็นเรื่องของโจร เพราะเป็นวาระกรรมของเขา ถ้าไม่ทำชั่วเขาก็ไม่จับหรอก

ถาม : แล้วอย่างนี้คนที่จะเกิดเป็นนายนิรยบาล
ตอบ : คนที่ทำความดีความชั่วเท่ากัน พอดี ๆ จะไปรับความดีก็ไปไม่ได้ จะไปรับความชั่วก็ไม่เพียงพอ ก็ไปทำหน้าที่นายนิรยบาล ตัวเองก็ไม่ต้องเดือดร้อน แต่ต้องเหนื่อยยากในการลงโทษคนอื่น

ถาม : หมายถึงว่าเขาสมัครใจไปเองหรือครับ ?
ตอบ : เป็นไปตามวาระ ถ้าเกิดความดีความชั่วบวกลบแล้วเท่ากันเป๊ะพอดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2010 เมื่อ 18:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #45  
เก่า 16-01-2010, 08:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาเราอ่านหนังสือ แล้วตัวหนังสือลอยขึ้นมาเหนือกระดาษ ถือว่าเป็นอารมณ์ขนาดไหน ?
ตอบ : เป็นลักษณะของกสิณ

ถาม : แสดงว่าของเก่าเรามีตรงนั้น ?
ตอบ : มี

ถาม : แล้วเราสวดคาถาเงินล้านอยู่ เราเพ่งภาพพระด้วยการลืมตา แล้วภาพจะมีหมอกสีขาวมาปิดบังหมด เหลือแต่อกพระ อารมณ์ขนาดไหน ?
ตอบ : ถ้าหากว่าเป็นกสิณ ก็ไม่แน่ว่าจะทำถูก เพราะว่าเรายังไปสนใจกับสิ่งรอบข้างอยู่ ถ้าหากว่ากำหนดเป็นภาพกสิณ จะเป็นภาพติดตาไปเลย ถ้าลักษณะภาพติดตาที่เราทำ ต้องสนใจในภาพที่เราทำเท่านั้น ไม่สนใจในส่วนรอบข้าง

ถาม : อย่างนี้ผมทำไม่เป็นใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ใช่ทำไม่เป็น แต่ยังทำไม่ถูก ทำเป็นแล้ว แต่ยังทำไม่ถูก

ถาม : ทำอย่างไรจึงจะทำถูกครับ ?
ตอบ : ก็ให้กำหนดแต่ภาพพระอย่างเดียว โดยไม่ต้องสนใจสิ่งรอบข้าง มองในลักษณะหลับตา..นึกเห็นภาพ พอภาพหายไปแล้วลืมตาดูใหม่ ไม่ใช่ไปจ้องอยู่ตลอด ถ้าจ้องอยู่ตลอดจะเป็นลักษณะอย่างที่คุณเห็น

ถาม : ผมเล่นเกมส์ลูกโซ่ จะเป็นสีสันต่าง ๆ พอเล่นจนชินแล้ว จะมีภาพติดตาขึ้นมา ทุกวันนี้กลายเป็นสีขาวหมดเลย
ตอบ : นั่นเป็นส่วนหนึ่งของกสิณ บางคนเล่นไพ่นี่ พอหลับตาลง โพธิ์ดำ โพธิ์แดง ดอกจิก ข้าวหลามตัด มาครบเลย แสดงว่าเคยมีพื้นฐานของกสิณมา เพียงแต่เอาไปใช้ผิด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-01-2010 เมื่อ 14:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #46  
เก่า 16-01-2010, 21:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : บางคนฝึกมโนฯ แล้วก็มาเล่าให้ฟังว่า เขาอธิษฐานเก็บดอกบัวมาจากวิมานบนนิพพาน นำไปถวายพระพุทธเจ้าบนพระนิพพาน อย่างนี้ได้อานิสงส์ของทานด้วยหรือเปล่า ?
ตอบ : ในส่วนของทานไม่ได้อานิสงส์ แต่ถ้าในส่วนของพุทธบูชาได้แน่นอน

ถาม : ทำไมตรงส่วนของทานจึงไม่ได้อานิสงส์ครับ ?
ตอบ : เพราะอยู่ในลักษณะของการไม่ได้สละออก ทานนี่เขาสละออกเพื่อการตัดความโลภ อยู่ข้างบนนั้นความโลภไม่มีแล้ว จะไปตัดอะไร ? อานิสงส์ของทานก็เลยพลอยไม่มีไปด้วย แต่อานิสงส์ของพุทธบูชาคุณได้แน่

ถาม : อย่างนี้ไม่จัดเป็นอามิสบูชา แต่จัดเป็นปฏิบัติบูชาได้ใช่ไหมครับ?
ตอบ : ใช่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-01-2010 เมื่อ 03:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #47  
เก่า 17-01-2010, 19:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพ่อเคยบอกว่าคนที่ได้อภิญญาสมาบัติ สามารถที่จะไปบังคับหรือสู้กับเทวดาได้ เพราะว่ากำลังอภิญญาสมาบัติเป็นกำลังพรหม แล้วอย่างนี้ต้องได้ถึงระดับใดครับ? แม้แต่ท่านท้าวมหาพรหมท่านก็เป็นเทวดาอยู่
ตอบ : ต้องดูด้วย...ดูด้วยว่าเทวดาท่านนั้นทรงฌานสมาบัติได้หรือเปล่า ? ถ้าทรงฌานสมาบัติได้ในความเป็นทิพย์ของท่าน...ท่านคล่องตัวโดยอัตโนมัติ อย่างของเรามัวแต่มาขยับทรงฌานสี่ เสร็จแล้วคลายกำลังใจไปอธิษฐาน ก็แบนอยู่ตรงนั้นแหละ เพราะเทวดาทั้งหมดนั้นไม่ใช่แค่เทวดาในความคิดของเรา...ว่าไม่ใช่พรหม หลายท่านมีความสามารถถึงขนาดเป็นพรหมอนาคามี แต่ท่านต้องการอยู่แค่นั้น

เคยมีพระภูมิเจ้าที่เป็นพระอนาคามี ปกติท่านต้องไปเป็นพรหมชั้นสุทธาวาสด้วย ถือว่าสุดยอดของพรหมเลย แต่ท่านอยู่แค่ภุมมเทวดาไม่ใช่อากาสเทวดาด้วย หลวงพ่อฤๅษีไปถามว่าทำไมท่านอยู่แค่นี้ ท่านบอกว่าพอใจอยู่แค่นี้ เพราะว่าเคยเจอเพื่อนอยู่ตรงนี้ เพื่อนท่านเคยเป็นภุมมเทวดา ถึงเวลาท่านก็เลยอยู่แค่ตรงนี้ คราวนี้ไปห้ามท่านก็ไม่ได้ด้วย เหมือนไปห้ามเศรษฐีไม่ให้อยู่กระต๊อบ ท่านมีเงินท่านจะอยู่กระต๊อบก็ได้

ถาม : อย่างนี้เทวดาผู้ใหญ่ก็ไม่กล้าใช้งานท่านสิครับ ?
ตอบ : เทวดาท่านมีมารยาทมากกว่าเราเยอะ ไม่ต้องถึงพระอริยเจ้าระดับนั้นหรอก แค่เทวดาชั้นยามาที่ท่านสวดมนต์เป็นประจำ เขาก็ไม่เรียกใช้แล้ว

ถาม : แล้วอย่างนี้เทวดามีการสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิเข้าฌานด้วยหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : มีเป็นปกติ

ถาม : แล้วทำไมท่านไม่เข้าฌานแล้วกลายเป็นพรหมไปเลยเล่าครับ ?
ตอบ : ในตัวของเขา สมาธิจิตที่ดำเนินไป ระยะเวลานั้นต่างกับโลกมนุษย์มาก อาจจะชั่วไม่กี่ลมหายใจของเขา แต่อาจจะหลายสิบปีของเรา เพราะฉะนั้น..กว่าที่เขาจะสร้างเสริมคุณสมบัติให้ครบว่าเป็นฌานในระดับไหน บางทีเราตายไปแล้วสองรอบ แต่พอคุณสมบัติของท่านครบ ต้องดูด้วยว่าท่านอยากไปไหม ถ้าไม่อยากไป อานิสงส์ที่อยู่ตรงนั้นก็จะยืดยาวไปอีก ประเภทที่ว่าขึ้นไปข้างบนแล้วนั่งเซ็ง อยู่ข้างล่างดีกว่าเพราะพวกเยอะ ถ้านิสัยท่านชอบเฮฮาอยู่ด้วยท่านก็ไม่ไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-01-2010 เมื่อ 03:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #48  
เก่า 18-01-2010, 07:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม: เรื่องผู้มีบุญมาก อย่างสมัยพุทธกาล เมื่อก่อนเราจะเห็นว่าสายท่านมีผู้มีบุญมาก จนต้องเดือดร้อนเทวดา อย่างท่านโชติกเศรษฐีหรืออย่างท่านที่มีมหาปุริสลักษณะมากมาย ซึ่งผมสงสัยว่า มีบุญมากบุญน้อยอย่างนั้นเขาวัดอย่างไร หรืออย่างหลวงพ่อท่านต้องมีบุญญาธิการมากกว่าโชติกเศรษฐีแน่ แต่ทำไมพระอินทร์ไม่เดือดร้อน ท่านไม่มาสร้างบ้านให้ ?
ตอบ : หลวงพ่อท่านไม่มีความจำเป็น ในเมื่อท่านไม่มีความจำเป็นแล้วท่านจะเอาทำไม ?

พระอินทร์ท่านดูหนังจบแล้ว ในเมื่อท่านดูหนังจบว่าพระองค์นี้ตอนท้ายท่านบวชแน่ แล้วพระท่านก็จะสร้างวิหาร ๑๐๐ เมตรเอง อย่างนี้พระอินทร์ท่านจะไปสร้างทำไมให้เสียเวลา ? ของเราเองดูหนังไม่จบแล้วไปกังวลว่า เอ..ตอนหลังอวตารนี่พระเอกมันจะรอดหรือเปล่า ? แต่กราฟฟิกมันสุดยอดนะ..!

ถาม : พูดเหมือนดูมาแล้ว
ตอบ : เคยดูที่ไหน ไม่ได้ดูหนังมา ๓๐ ปีแล้ว แต่อยากรู้เรื่องไหนมาถามได้

ถาม : แล้วคนสมัยนี้ก็มีบุญมาก พอ ๆ กับคนสมัยก่อนหรือเปล่า ?
ตอบ : จะว่าไปแล้วบุญไม่เท่าคนสมัยก่อน ถามว่ามีบุญมากเหมือนคนสมัยก่อนไหม...เหมือน เพราะว่าอย่างน้อยก็เกิดมาเป็นมนุษย์ ต้นทุนจะต้องเพียงพอ แต่ว่าในส่วนของปัญญาบารมีจะน้อยกว่าเขาเยอะ คนสมัยนี้เวลาฟังธรรมแล้วโอกาสที่จะบรรลุเลยนั้น..ยาก แต่สมัยนั้นปัญญาบารมีท่านเสริมสร้างมาจนเพียงพอเหลือเฟือแล้ว ท่านบอกว่าเหมือนกับดอกบัวที่พ้นน้ำแล้ว พอกระทบแสงแดดก็บานเลย

ถาม : อย่างโชติกเศรษฐีท่านจะมีภรรยา เทวดาต้องไปเอาจากดาวอื่นมาให้ เพราะว่าท่านเป็นคนมีบุญมาก ไม่เข้าใจว่าท่านพิเศษกว่าคนอื่นอย่างไร ?
ตอบ : ก็ท่านสร้างของท่านมา ทำไมต้องเข้าใจ...ก็ทำให้ได้อย่างท่านเดี๋ยวก็เหมือนท่านเอง ของคุณมีโอกาส เพราะยังเกิดอีกเยอะ..!

ถาม : บางคนเป็นกษัตริย์ เป็นเจ้าเมือง ยังมีบุญไม่เท่าท่านเลย ทั้งที่ท่านโชติกะเป็นแค่เศรษฐี
ตอบ : ของท่านนั้นเป็นชาติที่ต้องบวช บรรดาวาระกรรมวาระบุญต่าง ๆ จะลงตัวในสภาพนั้น ท่านจึงมาเกิดในสิ่งแวดล้อมนั้น ถ้าหากว่าท่านไปเกิดเป็นเจ้าพระยามหากษัตริย์ อาจจะต้องไปรบทัพจับศึก ทำสงครามกับเมืองอื่น อกุศลอาจจะชักพาให้ไกล ไม่ได้บวชเป็นพระอรหันต์ก็ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-01-2010 เมื่อ 13:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #49  
เก่า 18-01-2010, 07:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมเห็นหลายคนบอกว่า พอลาพุทธภูมิแล้วทิพจักขุญาณแจ่มใส แต่ทิพจักขุของพุทธภูมิกลับมืด ทำไมเป็นอย่างนั้น ?
ตอบ : ไม่รู้ อาตมาลาแล้วก็ยังอืดเป็นเรือเกลือเหมือนเดิม เพราะว่าโดยวิสัยต้องไปเป็นครูเขา วิสัยที่จะไปเป็นครูเขา ของเดิมที่ควรจะได้ตอนนั้นเลย ก็ต้องย้ำแล้วย้ำอีก ทวนแล้วทวนอีกจนกว่าจะครบทุกแง่ทุกมุม เพื่อถึงเวลาคนอื่นเขาถามจะได้บอกเขาได้ ก็เลยยังช้าเหมือนเดิม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-01-2010 เมื่อ 13:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #50  
เก่า 18-01-2010, 07:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เคยมีพระคาถาหนึ่ง เป็นคาถาเพื่อขอลาภ
ตอบ : ทำ...อยากรู้ก็ทำ

ถาม : ผมสงสัยว่าต่างกับคาถาเงินล้านอย่างไร ?
ตอบ : ต่างตรงที่คาถาไม่เหมือนกัน คนให้คนละคนกัน

ถาม : มีอานิสงส์เหมือนกันไหมครับ ?
ตอบ : อานิสงส์เหมือนกันตรงที่หาลาภให้ได้ แต่คราวนี้มากน้อยต่างกัน ขึ้นอยู่กับคาถาเหมือนกันว่าใครเป็นคนให้มา ผู้ที่ให้มาถ้าบารมีมากกว่า ท่านก็สามารถที่จะส่งเสริมให้ได้มากกว่า ขณะเดียวกันตัวเราทำคาถา ถ้าหากทำอย่างนี้แล้วสมาธิจิตทรงตัวได้มากกว่า มีความสะอาดของจิตมากกว่า ผลก็มากกว่า

ถาม : เท่าที่ลองปฏิบัติมา รู้สึกคาถาเงินล้านจะช่วยในเรื่องความคล่องตัว หรือถ้าจะตายจริง ๆ ก็จะรอดตลอด แต่ถ้าคาถาขอลาภก็จะเห็นผลทันตามากเลย
ตอบ : ทำต่อไป อยากได้เร็วก็เอาคาถาขอลาภ อยากได้เรื่อย ๆ ก็คาถาเงินล้าน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-01-2010 เมื่อ 13:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #51  
เก่า 18-01-2010, 07:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คาถาที่ขอดูบารมีพระครับ อย่างปลุกพระ ผมก็ลองจนเป็นฌานแล้วก็ยังไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย ?
ตอบ : ก็เพราะเป็นฌาน เขาต้องการแค่อุปจารสมาธิ กติกามันเกิน เขาต้องการความรู้แค่ ป. ๑ คุณทำข้อสอบดันเอาความรู้ปริญญาตรีไปตอบ เขาก็ปรับตก ภาษาพระเรียกว่า "เกินครู" ภาษาชาวบ้านเรียกว่า "เสือกรู้เกินรู้อาจารย์..!"

ถาม : ก็เห็นบางคาถาหลวงพ่อก็บอกว่าทำให้เป็นฌานก็ได้เลย
ตอบ : นั่นไม่ใช่คาถาธรรมดา การทดสอบถ้าคุณไม่ทรงฌาน ๔ ไปเลย ก็ต้องอยู่ในระดับอุปจารสมาธิ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-01-2019 เมื่อ 01:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #52  
เก่า 18-01-2010, 09:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อ่านในหนังสือหลาย ๆ เรื่องของวัดท่าซุง ท่านบอกว่าถ้าอยากมีลูกให้ไปล้างห้องน้ำวัด?
ตอบ : เฮ้ย..ตายแล้วหว่า ตูแย่แล้ว เพราะล้างห้องน้ำวัดบ่อย อันนี้อ่านมาผิดแน่

ถาม : อ๋อ ถ้าอยากมีลูกนี่ ต้องบวงสรวงขอพระอินทร์อย่างเดียวใช่ไหมครับ?
ตอบ : ไม่ใช่ขอพระอินทร์อย่างเดียว อยู่กับเมียด้วย ไปขอพระอินทร์อย่างเดียวท่านก็คงกลุ้มใจ บอกแล้วว่าไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้

ถาม : แล้วแต่วาระด้วย
ตอบ : แล้วแต่วาระเหมือนกัน อย่างโพธิราชกุมาร บวงสรวงครบ ๑๐๘ รอบก็คงไม่ได้ สมัยที่เรือแตก พระโพธิราชกุมารท่านไปติดเกาะ เกาะนั้นมีนกเยอะ ท่านก็กินไข่นก กินไข่นกหมดก็ยังไปไหนไม่ได้ ท่านก็เลยกินลูกนก กินลูกนกหมดก็ยังไปไม่ได้อีก ก็เลยกินพ่อนกแม่นกอีก กว่าเรือจะแวะผ่านมาเจอก็ปาไปหลายปี

พอมาเกิดชาติใหม่ท่านเป็นเจ้าเมือง มีสนมเป็นร้อยเป็นพันแต่ไม่มีลูก ท่านได้ยินว่าพระพุทธเจ้ารู้ทุกเรื่อง ก็เลยนิมนต์พระพุทธเจ้ามา แล้วก็ปูผ้าขาวตั้งแต่ประตูวังเข้าไป อธิษฐานว่า ถ้าท่านจะมีลูกขอให้พระพุทธเจ้าเหยียบลงมาบนผ้าขาว พระพุทธเจ้าสั่งพระอานนท์รื้อเกลี้ยงเลย ท่านก็เลยนั่งร้องไห้ เพราะรู้แล้วว่าตนเองไม่มีลูกแน่ พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสเล่าบุรพกรรมให้ฟังว่า ถ้าเธอกินแต่ไข่นก...ในวัยหนุ่มสาวไม่มีลูก อาจจะไปมีลูกในวัยกลางคน ถ้ากินไข่นกและลูกนก..ในวัยหนุ่มสาวในวัยกลางคนไม่มี จะมีลูกในวัยชรา นี่เธอกินทั้งไข่นก ลูกนก พ่อแม่นกเกลี้ยง...เลยไม่มีลูกแน่นอน กรรมมันตัดไป เพราะฉะนั้น...ไม่ใช่ขอแล้วได้แน่นอน ขึ้นอยู่กับวาระบุญวาระกรรมที่เราสร้างด้วย แต่จริง ๆ คนไม่มีมันสบายจะตาย จะตะกายไปขอทำไม

ถาม : แล้วไปบวงสรวง ขอให้ไม่มีลูกได้หรือเปล่าครับ?
ตอบ : ไม่ต้อง ไปหาหมอง่ายกว่า

ถาม : มันเสียเงินเยอะครับ
ตอบ : ของพระทำหมันไม่ได้ ท่านห้าม ถ้าทำหมันมาแล้วไม่เป็นไร แต่ถ้ายังไม่ได้ทำก็อย่าไปทำ อันนี้รายละเอียดจะอยู่ในเรื่องของจุลศีล มหาศีล มัชฌิมศีล ต้องไปอ่านในพรหมชาลสูตร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #53  
เก่า 18-01-2010, 12:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อารมณ์ของฌานสาม ฌานสี่ ที่มีหยาบละเอียด ผมหาช่องไม่ได้เลยว่า หยาบเป็นอย่างไร ละเอียดเป็นอย่างไร ?
ตอบ : ไม่ต้องหา..ทำ

ถาม : มันแยกไม่ออก
ตอบ : พอถึงแล้วเดี๋ยวชัดเอง จำไว้ว่าถ้าหยาบยังมีความหนักอยู่ ถ้าละเอียดจะมีความเบา เอาแค่นั้นแหละ แบบที่เราบอกว่ารู้สึกแห้งแล้งแข็งทื่อ ถ้าละเอียดแล้วจะเบาสบาย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-01-2010 เมื่อ 16:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #54  
เก่า 18-01-2010, 14:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพี่เคยได้ยินเรื่องวิธีสวดตัดญาติไหมครับ ?
ตอบ : ไม่เคย แล้วทำไมต้องไปตัดด้วย ? การตัดอยู่ที่การวางกำลังใจ ไม่ได้อยู่ที่การสวด

ถาม : ในบ้านเพิ่งมีคนเสียชีวิตติด ๆ กัน เขาบอกว่าต่างฝ่ายต่างดึงกันไป ก็เลยต้องสวดตัดญาติ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวดึงกันหมดบ้าน
ตอบ : ถ้าหากเป็นวาระจริง ๆ สวดไปเท่าไรก็ตาย..! เรื่องแบบนี้อาตมาไม่เคยได้ยิน ถ้ามีคนทำได้ บอกช่วยทำให้หน่อย ตอนนี้ญาติเยอะเหลือเกิน โดยเฉพาะญาติธรรม สวดตัดให้ทีเถอะ ตูเบื่อมันแล้ว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-01-2010 เมื่อ 16:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #55  
เก่า 18-01-2010, 15:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อกี้ที่น้องเขาถามไป เป็นความคิดของผมเอง คุณแม่ผมเพิ่งเสีย และเพิ่งเผาไปเมื่อวันที่ ๒๐ แล้วพี่ชายผมกำลังจะหมดลม ไม่ทราบว่าท่านมีอะไรแนะนำเพิ่มเติมไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่ากลัว ก็ไปปล่อยชีวิตสัตว์ โดยเฉพาะถ้ากรรมหนัก ก็ปล่อยพวกวัวควายไปเลย ซื้อจากโรงฆ่า อย่างนี้ตัดได้ทุกอย่างของกรรมหนักประเภทจะถึงตาย

ถาม : ถ้าพี่น้องหลายคนร่วมกันทำ
ตอบ : ทำพร้อมกันได้ ปล่อยวัวตัวหนึ่งก็ราคาหมื่นห้าถึงสองหมื่น แล้วแต่ว่าตัวใหญ่หรือเล็ก
วาระกรรมเขาสร้างมาใกล้เคียงกัน จึงมาเกิดเป็นครอบครัวเดียวกัน เมื่อมาเกิดเป็นครอบครัวเดียวกัน ถึงวาระก็ไปใกล้ ๆ กัน ถ้าช่วงนั้นเราไม่ได้ทำร่วมด้วยก็ไม่เป็นไร

ถาม : แล้วอย่างนี้ไถ่ชีวิตโคกระบือ สู้พวกนั้นได้หรือเปล่า ?
ตอบ : ได้ แต่ว่าบางคนกำลังใจเขาไปอยู่ตรงที่ว่า ถ้าได้ทำเองแล้วจะรู้สึกว่าดีกว่า พาไปปล่อยได้เลย ที่โรงฆ่าสัตว์ปทุมธานี เพราะฝั่งตรงข้ามโรงฆ่าสัตว์จะเป็นธนาคารโคกระบือของในหลวง เราก็ซื้อตรงนั้นจูงข้ามถนนไป เจ้าหน้าที่เขาก็จะลงทะเบียนรับ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-01-2010 เมื่อ 16:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #56  
เก่า 18-01-2010, 21:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนเด็ก ๆ ผมเคยตอบปัญหาธรรมะ แข่งมาหลายที่เหมือนกัน ผมรู้สึกว่าการแข่งขันตอบธรรมะ บางทีก็เป็นการปรามาสพระธรรม การแข่งขันก็ใช้ความรู้พระพุทธศาสนา พวกพุทธประวัติเอามาแข่งขันกัน บางทีเราอาจจะคิดว่าข้อนี้ง่าย การคิดแบบนี้เป็นการปรามาสหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถ้าคิดก็เป็น

ถาม : อันนี้ผมก็เผลอคิดเยอะมากเลย
ตอบ : เขาเรียกว่า เรื่องไม่น่าจะลงนรก..ก็คิดจนลง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-01-2010 เมื่อ 03:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 134 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #57  
เก่า 19-01-2010, 06:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาจะจับลมหายใจ เมื่อตั้งใจจะจับ ลมมันก็หายไปแล้ว ?
ตอบ : ถ้าหากคล่องตัวระดับนั้น เราก็แค่กำหนดรู้ต่อไปแค่นั้นเอง ว่าตอนนี้มันหายไปแล้ว

ถาม : มันจะไปตะกายหาเอา ?
ตอบ : ดีจังเลย..ขึ้นไปครึ่งค่อนบันไดแล้ว กลับไปตั้งต้นนับหนึ่งขั้นแรก..!

ถาม : นั่นคือตัวฌาน ๓ ละเอียด หรือว่าเป็นฌาน ๔ ?
ตอบ : ไม่แน่ อาจจะเป็นแค่ปฐมฌานละเอียด ขึ้นอยู่กับสภาพจิตของเราตอนนั้น ถ้าจิตหยาบมากก็จะรู้สึกได้น้อย บางทีแค่ทรงปฐมอย่างกลางหรืออย่างละเอียด ลมหายใจก็หายไปเลย

ถาม : เมื่อก่อนเวลาเหนื่อยมาก ๆ ผมจะอาศัยไปเข้าฌาน ๒ แล้วพัก ให้พอรู้สึกอิ่มเอิบ ตอนนี้พอมาพักแล้วก็รู้สึกเฉย ๆ ไม่ได้อะไรมาก เป็นเพราะว่าเราขาดวิปัสสนาหรือเปล่า ?
ตอบ : เป็นเพราะเราเคยชิน ใหม่ ๆ เรายังตื่นเต้น ยังแยกแยะได้ง่าย พอทำไป ๆ ชินแล้วตายด้าน เลยไม่รู้สึกว่ามันมีอะไรแตกต่างไปจากเดิม คราวนี้เราต้องมาจับความรู้สึกทางร่างกายว่า ทำแล้วหายเหนื่อยไหม ? สามารถที่จะทำงานต่อไปได้ในลักษณะร่างกายสดชื่นมีกำลังไหม ? ไม่ใช่ไปจับแค่อาการอย่างเดียว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-01-2019 เมื่อ 01:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 129 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #58  
เก่า 19-01-2010, 06:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีพระคาถาหนึ่ง คนที่เขาให้มา บอกว่าสามารถตัดกรรมได้ ให้ภาวนาว่า พุทโธ ธัมโม สังโฆ หลวงพ่อ ปภัสโร นะโมพุทธายะ
ตอบ : คาถาไหนก็ตัดกรรมได้ ขอให้ทำจริง ๆ เถอะ เพราะว่าบุญใน ทาน ศีล ภาวนา เป็นบุญใหญ่มาก โดยเฉพาะบุญการภาวนา ถ้าให้ทานมีผลเป็นร้อย รักษาศีลมีผลเป็นหมื่น ภาวนาจะมีผลเป็นล้าน เราทำความดีใหญ่ขนาดนั้น ถ้าอารมณ์ใจทรงตัวจริง ๆ กรรมอื่นจะตามได้ยาก คาถาอะไรก็ได้ เพียงแต่ว่าเราไม่ได้ทำต่อเนื่องเท่านั้นเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-01-2010 เมื่อ 06:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 130 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #59  
เก่า 19-01-2010, 06:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมหลวงพ่อบอกว่า ถ้าคิดพิจารณาอย่างนี้ทั้งวันจึงดี ?
ตอบ : อารมณ์ใจที่ทรงตัวอยู่ในความดีได้โดยอัตโนมัติ แสดงว่าเป็นโดยธรรมชาติแล้ว ไม่ต้องไปบังคับ เท่ากับว่าเราทรงความดีอยู่ทั้งวัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-01-2010 เมื่อ 07:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 132 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #60  
เก่า 19-01-2010, 06:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราจริตเราชอบจับภาพพระสงฆ์ แต่ใจเราชอบพุทโธ ถ้าเราทำทั้งคู่นี่..?
ตอบ : จับภาพพระพุทธเจ้าที่มีลักษณะเป็นพระสงฆ์ อย่างภาพวาดของคุณคำนวณ ชานันโท อาตมาใช้ลักษณะนั้นมาก่อน

ถาม : แต่ถ้าจับภาพพระพุทธรูป ให้เป็นกสิณจะได้ไหมครับ ?
ตอบ : ได้ ต้องการกสิณสีไหนก็ใช้พระพุทธรูปสีนั้น เขาเรียกประกันความเสี่ยง ถึงทรงกสิณไม่ได้ แต่พุทธานุสติได้แน่นอน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-01-2010 เมื่อ 07:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 135 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:14



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว