กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #101  
เก่า 29-11-2011, 11:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,546 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : บางทีเราเจริญกรรมฐาน รู้สึกปวดท้องเข้าห้องน้ำ พอเดินไปถึงห้องน้ำอาการหายไป เป็นอยู่อย่างนี้ ๒ ครั้ง ก็เลยอาราธนายันต์เกราะเพชร แล้วอาการก็หายไป สงสัยว่าระหว่างที่เรากำลังเจริญพระกรรมฐาน กำลังใจเราก็ทรงตัวอยู่ แต่ทำไมเรื่องแบบนี้เข้ามาได้?
ตอบ : เขาเรียกว่าขันธมาร ไม่ใช่ไสยศาสตร์ มารเขาเล่นทุกทางแหละ ขนาดคนเข้าสมาบัติ ๘ ยังแกล้งเลย


ถาม : เข้ามาในระหว่างสมาบัติ ๘ หรือครับ?
ตอบ : บางทีมารเขาต้องการให้ติดอยู่แค่นี้ ติดอยู่แค่อรูปพรหม เขาเรียกว่า อภิสังขารมาร ตายไปตอนนั้นนี่คุณไม่มีทางจะหลุดพ้นไปนิพพานได้เลย ไปเป็นอรูปพรหม ๘๔,๐๐๐ มหากัป พอหมดอายุขัยแล้วอาจจะลงนรกไปเลยก็ได้ เพราะบุญเก่าหมด ถือว่าเป็นความแสบของมาร

ตราบใดที่ยังไม่หลุดพ้น มารยังสามารถครอบงำได้ทุกคน แต่ครอบงำพระอริยเจ้าได้เล็กน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นส่วนของเศษกรรมที่ทำให้ขันธมารอาละวาดได้ หรือไม่ก็ดึงให้ติดอยู่ในความสุขในระดับของพระอริยเจ้าเบื้องต้น ไม่ให้ก้าวล่วงไปมากกว่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-11-2011 เมื่อ 02:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #102  
เก่า 30-11-2011, 09:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,546 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทหารสมัยก่อนที่ถือดาบกับทหารสมัยนี้ที่ถือปืน ต่างกันไหมครับ ?
ตอบ : ความกล้าหาญของทหารสมัยนี้หายไป อย่างครั้งแรกที่ฝึกการเข้าตี ผู้กองเขาบอกว่า “ทหาร..ติดดาบ..ตามข้าพเจ้ามา” แต่ผู้กองอยู่ข้างหลัง พวกเราก็เลยยืนงงกันหมด เขาก็ด่าว่า “บุกไปข้างหน้าสิโว้ย..!” พวกเราจะไปกันอย่างไร ก็เขาบอกตามข้าพเจ้ามาแล้วดันไปอยู่ข้างหลัง ?

อาตมาถึงได้เข้าใจว่ารูปแบบธรรมเนียมเปลี่ยนไปแล้ว ถ้าสมัยขุนรองปลัดชูพวกนี้ตายหมด ความกล้าต่างกันมาก สมัยก่อนถืออาวุธขาววับวิ่งเข้าใส่กัน ถ้าทหารหนังไม่เหนียว ฝีมือไม่ดีนี่ตาย ๑๐๐ %

ถาม : กว่าจะฝึกผ่าน กว่าจะเก่งได้ ไม่บาดเจ็บกันหรือครับ ?
ตอบ : ตอนแรกเขาฝึกโดยใช้ดาบหวายก่อน กว่าจะถึงขั้นใช้ดาบเหล็กต้องอาจารย์ไว้ใจแล้ว แรก ๆ ถ้าเป็นดาบก็ยังเป็นดาบเหล็กไม่มีคมก่อน แล้วถึงจะใช้ดาบของจริง

ถาม : แล้วจะเหมาะมือหรือครับ ? เพราะน้ำหนักต่างกันมากเลย
ตอบ : ถ้าฝึกกระบวนท่าคนเดียวก็ใช้ของจริงเลย แต่ถ้าซ้อมคู่ก็ใช้ดาบหวาย ดาบไม้ หรือไม่ก็ดาบเหล็กไร้คม เคยอ่านนิยายจีนเรื่องหนึ่ง จำชื่อเรื่องไม่ได้แล้ว พระเอกตกหลุมส้วมแล้วไปเจอสุดยอดตำราฝีมือของสำนักซ่อนอยู่ในนั้น สุดยอดฝีมือของสำนักท่านนั้นก็มีนิสัยเดียวกับพระเอก คือไม่ค่อยยอมรับกฎเกณฑ์อะไร พระเอกเข้าส้วมแล้วฝึกแทงแมลงวัน แทงไปแทงมาเผลอตกหลุมส้วม พอตกลงไปก็เจอก้อนหินใหญ่มีหนังสือสลักว่า "..เจ้าตกลงมาใช่ไหม ? แสดงว่าเจ้านิสัยเดียวกับเรา ให้ตามไปทางนี้.."

ตำราสุดยอดฝีมือไปอยู่ก้นหลุมส้วม ใครที่ไหนจะตามลงไปฝึก ถ้าไม่ใช่พวกบ้าเกินเหตุ พระเอกฝึกทุกวัน ทุกเวลา ฝึกจนกระทั่งมีฝีมือเหนือกว่าที่อาจารย์สอนให้ แต่ก็ไม่กล้าใช้ เพราะว่าไปยึดติดกับตำรา ที่อาจารย์บอกว่าต้องใช้ท่าอย่างนี้ไปรับท่าอย่างนั้นเท่านั้น แต่ตอนแทงแมลงวันไม่ต้องใช้ท่าพวกนั้น เพราะใช้แล้วแทงไม่ถูก ท้ายสุดก็ไปเจอปรมาจารย์นิสัยเดียวกัน ไม่ยอมรับกฎเกณฑ์อะไร แหกคอกอย่างเดียว เลยกลายเป็นคนเก่ง แต่ก็ถูกเขาหลอกใช้จนได้ เพราะซื่อจนเกินไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-11-2011 เมื่อ 15:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #103  
เก่า 30-11-2011, 09:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,546 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ประวัติศาสตร์สมัยอยุธยานี่ไม่ค่อยตกทอดมาถึงเรานะครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าไม่ได้บันทึกของต่างประเทศอย่างพม่า เราก็ไม่รู้ว่าเรามียอดนักรบท่านหนึ่งชื่อมหาเทพ จารึกเขาใช้คำว่า มหาเทวะ ก็คือมหาเทพนั่นแหละ ตอนเจดีย์ไจ๊ตาลานถล่มลงมาเขาเลยเจอแผ่นจารึกนี้

ตอนกรุงศรีอยุธยาแตกท่านมหาเทพป้องกันเจ้านาย หนีทหารพม่าเป็นวันเป็นคืน ปะทะกันไปตลอดทาง ไม่มีใครเข้าใกล้ขบวนได้เพราะท่านมหาเทพรั้งท้ายอยู่ ไล่ไปไล่มาไปเจอวัด ก็ให้เจ้านายกับครอบครัวหนีเข้าประตูวัด ตัวเองยืนขวางประตู ทหารพม่าก็ได้แต่ยืนล้อมอยู่ไกล ๆ เพราะใครเข้าใกล้ก็ตาย..!

ทหารพม่ารออยู่ครึ่งค่อนวัน ก็แปลกใจว่าทำไมทหารไทยถึงยืนนิ่งไม่กระดิกเลย ยั่วยุอย่างไรก็ไม่กระดิก ท้ายสุดก็มีคนขยับเข้าไปจนถึงรัศมีแล้วก็ยังไม่กระดิก ก็เลยตั้งใจดูถึงได้รู้ว่าทหารไทยไม่หายใจไปตั้งนานแล้ว เพราะเหนื่อยที่ต้องรบกับคนหลายร้อยพันมาเป็นวันเป็นคืน หมดแรงตายไปตั้งนานแล้ว

คราวนี้พอระยะเวลานานพอ เขามั่นใจว่าเจ้านายกับเพื่อนพ้องหนีรอดแน่แล้ว กำลังใจจึงคลายตัวออกมาก็เลยตายในท่ายืนนั่นแหละ พม่าเขาก็บันทึกไว้เป็นการสรรเสริญว่า ถ้าทหารไทยทุกคนเป็นอย่างนี้ พม่าตีเมืองไทยไม่ได้หรอก

ถาม : กำลังใจอย่างนั้นตายแล้วไปไหนครับ ?
ตอบ : ดูท่าว่าจะไปเกิดแถว ๆ จาตุมหาราช เตรียมลงมาใหม่

ถาม : ท่านน่าจะไปพาพวกเขาลงมาได้แล้วครับ เดี๋ยวไม่ทันใช้
ตอบ : ทิดตู่...วันนี้คุณมีข้อผิดพลาดใหญ่หลวง ไม่ได้ออกไปแจกของผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพราะฉะนั้น..ต้องไถ่โทษโดยการไปเชิญเขาลงมาเกิด..! ฟังดูเหมือนประวัติพระนาคเสนอย่างไรไม่รู้ ?..(หัวเราะ)..

ถาม : มีเจ้านายท่านใดได้บันทึกไว้หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เขาไม่ได้เขียนไว้ เขารู้แต่ว่าฝ่ายที่หนีไปมีครอบครัวของเจ้านายที่ต้องปกป้องสุดชีวิต ทหารพม่าไม่ได้มากินมานอนบ้านเรานี่ จึงจะได้รู้ว่าใครเป็นใคร เขียนได้ขนาดนั้นก็ถือว่าดีมากแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-11-2011 เมื่อ 15:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #104  
เก่า 30-11-2011, 10:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,546 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมสมัยอยุธยาเขาต้องแย่งชิงแผ่นดินกันเยอะขนาดนั้นเล่าครับ ?
ตอบ : เขายังมีแนวความคิดว่า ถ้าเป็นพระมหากษัตริย์ต้องแสดงออกซึ่งพระราชอำนาจด้วยการตีบ้านตีเมืองอื่น การตีบ้านตีเมืองอื่นได้ทั้งสมบัติ ได้ทั้งทรัพยากร ได้ทั้งผู้คน ได้ทั้งช้างม้าวัวควาย ซึ่งก็คืองบประมาณสำหรับหล่อเลี้ยงประเทศตัวเองนั่นแหละ เพราะว่าผู้คนกวาดต้อนมา ก็เอามาเป็นทาสทำไร่ทำนา ยุคนั้นสังคมเป็นอย่างนั้น ค่านิยมเป็นอย่างนั้น

ถาม : จริง ๆ แล้วก็โจรดี ๆ เลยนะครับ
ตอบ : ก็เรียกว่าโจรนั่นแหละ แต่โจรที่ลักษณะตรงไปตรงมา จะปล้นก็คือปล้น จะเอาก็คือเอา ไปลุยกันซึ่ง ๆ หน้า ไม่ได้ใช้เล่ห์เหลี่ยมแอบยักยอกกันทีเป็นพัน ๆ ล้าน..!

ถาม : ทำไมสมัยอยุธยาบรรดาราชวงศ์ถึงได้เยอะอย่างนั้นเล่าครับ ?
ตอบ : สมัยอยุธยายาวนานถึง ๔๑๗ ปี เพราะฉะนั้น..จะว่าราชวงศ์เยอะก็ไม่ใช่หรอก เพิ่งจะมาเยอะช่วงท้าย ๆ นี่เอง ที่เขาเข่นฆ่าแย่งชิงแผ่นดินกัน ตอนต้น ๆ ก็ไม่มีปัญหา


ถาม : สมเด็จพระนารายณ์โดนปลงพระชนม์หรือไม่ครับ ?
ตอบ : โดนปลงพระชนม์ สมเด็จพระนารายณ์ท่านไม่ได้แสดงฝีมือเลย แต่ลูกน้องเก่งถึงได้เป็นมหาราช ต้องบอกว่าเจ้านายคุมนโยบายและใช้คนเป็น ติดต่อทำการค้ากับต่างประเทศ สร้างความร่ำรวยมหาศาลเข้าท้องพระคลัง กล้าใช้แม้กระทั่งคนต่างชาติที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า อย่างเจ้าพระยาวิชาเยนทร์เป็นชาวกรีซ ออกญาเสนาภิมุขก็เป็นชาวญี่ปุ่น

พอวิทยาการสมัยใหม่ของต่างประเทศเข้ามา ขนาดพระราชวังที่ลพบุรียังมีหอดูดาว แล้ววิชาการเหล่านี้มาได้ดีในสมัยรัชกาลที่ ๔ พระองค์ท่านศึกษาคำนวณเส้นทางการโคจรของดวงอาทิตย์และดวงดาวต่าง ๆได้ ท่านคำนวณวันเกิดสุริยุปราคาได้แม่นยำจนกระทั่งชาวยุโรปต้องทึ่ง

ถาม : เป็นตำราเดียวกันเลยหรือครับ ?
ตอบ : ก็สืบเนื่องมาจากสมัยอยุธยานั่นแหละ


ถาม : ทำไมก่อนหน้านั้นไม่มีใครทำได้เลยครับ ?
ตอบ : มี..เพียงแต่ว่าไม่ได้เปิดเผยออกมา ส่วนใหญ่เขาก็แค่สืบทอดในวงศ์ตระกูล ถึงเวลาก็รับหน้าที่เป็นปุโรหิตาจารย์ รับหน้าที่โหราจารย์ สำหรับรัชกาลที่ ๔ ท่านโดดเด่นออกมาเพราะว่าต่างชาติเข้ามาร่วมรับรู้ด้วย

ลองไปดูจดหมายเหตุที่พระองค์ท่านติดต่อกับต่างชาติดูสิ พระองค์ท่านเขียนภาษาอังกฤษคล่องมาก พระองค์ท่านบวชอยู่ ๒๐ กว่าพรรษา สึกมาตอนอายุ ๔๗ ครองราชย์แล้วยังมีลูกอีก ๗๗ คน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-12-2011 เมื่อ 02:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #105  
เก่า 30-11-2011, 10:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,546 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ปัจจุบันนี้ที่เขาทำนายสุริยุปราคา ก็ตำราเดิมหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เขาพัฒนาขึ้นมา ที่พัฒนาขึ้นมาเพราะเขามีกล้องดูดาวที่ส่งไปในอวกาศ ทำให้เห็นเส้นทางโคจรชัดเจนกว่า ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ต้องมาเล็งมารอว่า อีกนานเท่าไรจึงจะมา

ถาม : ทำไมหลังสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชบ้านเมืองถึงได้แย่ลงเล่าครับ ?
ตอบ : จะบอกว่าแย่ลงก็ไม่ใช่ เพราะเขามัวแต่รบราฆ่าฟันกันอยู่ เวลาแย่งชิงราชสมบัติแล้วจะต้องฆ่าคนของฝ่ายตรงข้ามให้หมด คนของฝ่ายตรงข้ามก็มีแต่บรรดาหัวกะทิ พอพวกหัวกะทิตายหมด ก็เหลือแต่หางกะทิแบบรัฐบาลสมัยนี้แหละ..!

ถาม : ไม่เห็นต้องฆ่าเลยนะครับ น่าจะเก็บเอาไว้ใช้
ตอบ : กำลังใจไม่กว้างพอ ลองนึกถึงเจงกีสข่านสิ พอเจงกีสข่านจับเจอเปได้ จึงถามว่าจะยอมรับใช้เราไหม ? พอเขายอมรับใช้ ก็ความไว้วางใจ ให้คุมกองทัพออกรบเลย ตอนหลังกลายเป็น ๑ ใน ๓ นายพลที่คุมอำนาจใหญ่ที่สุด มีกำลังพลหลายแสน เขาไว้ใจขนาดนั้น เวลาเจงกีสข่านยกไปตีเผ่าไหนได้ กำลังคนของเผ่านั้นก็เอามาเข้ากองทัพใช้งานหมด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-11-2011 เมื่อ 15:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #106  
เก่า 30-11-2011, 16:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,546 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่เขารู้ว่าการดื่มเหล้าไม่ดี แต่เขายังเลิกไม่ได้ เขาดื่มเหล้าอยู่ที่บ้าน ไม่รบกวนใคร ไม่วุ่นวายกับใคร ผิดศีลหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ผิดอยู่ดี เพราะว่าเบียดเบียนทั้งตัวเองและครอบครัว ต่อให้คุณกินเหล้าในบ้าน ถามหน่อยสิว่าลูกเมียจะยิ้มได้ไหม ? เขาก็ทุกข์ใจอยู่ทุกวัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-11-2011 เมื่อ 16:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #107  
เก่า 30-11-2011, 16:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,546 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ได้พระธาตุมาแล้วเอามาไว้ในบ้าน จากนั้นน้องชายก็เกิดอาละวาดขึ้นมา ไม่ทราบว่าเกิดจากที่นำพระธาตุเข้าบ้านหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : เขาเรียกว่าเอาเรื่องดี ๆ ไปปนกับเรื่องระยำ..! ไปสรุปว่าเอาพระธาตุเข้าบ้านแล้วน้องชายอาละวาด แล้วก็ว่าพระธาตุเป็นเหตุ ถ้าไม่มั่นใจก็อัญเชิญไปไว้ที่เดิม ของอย่างนี้พิสูจน์ได้ แต่อัญเชิญไปไว้ที่เดิมแล้วน้องยังเหมือนเดิมก็แสดงว่าน้องชั่วเอง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-11-2011 เมื่อ 16:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #108  
เก่า 01-12-2011, 09:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,546 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "จำไว้นะ...สำหรับเด็กแล้วทุกเรื่องของเขาเป็นเรื่องสำคัญ ปัญหาของเด็กเป็นเรื่องใหญ่ทุกเรื่อง พวกเราโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ผ่านประสบการณ์มามาก ความตายด้านในชีวิตมีเยอะ เราจะเห็นว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องเล็ก ๆ ของพวกเรา แต่เด็กเพิ่งจะเคยเจอก็เลยเป็นเรื่องใหญ่ของเขา"

ถาม : ถ้าตามใจเด็กมากไปจะไม่ดีหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ตามใจมากไปก็ไม่ดี ต้องชี้ผิดชี้ถูกก่อนแล้วค่อยตีเข้ากรอบ ไม่ใช่ถึงเวลาก็สั่งให้ทำอย่างเดียว เหตุผลไม่มี มีเด็กคนหนึ่งเขาทำผิดแล้วพ่อตีเขา เด็กก็ถามพ่อตีหนูทำไม ? อีกฝ่ายหนึ่งก็คิดว่าเด็กหัวหมอ ความจริงเขาถามเพราะต้องการรู้จริง ๆ ว่าตีเขาเพราะอะไร ก็แค่บอกเด็กก่อนว่า อย่างนี้ผิด ถ้าทำผิดแบบนี้อีกจะโดนตี อย่างนั้นเวลาผิดแล้วเราตีเขาเด็กจะรับได้

แต่ถ้าตีแบบไร้เหตุผลไปเรื่อย ๆ ต่อไปเด็กจะดื้อ เพราะเขาไม่เข้าใจว่าผู้ใหญ่ตีเขาทำไม แบบเดียวกับหมากัดรองเท้านั่นแหละ ถ้าหมาวิ่งหนีไปจากตรงนั้นสัก ๓ ก้าว แล้วเราไปตีหมา คราวนี้เราจะผิด เพราะหมาจะไม่รู้ว่าทำผิดอะไร ต้องตีตอนหมากัดรองเท้าเลย ถ้าอย่างนั้นหมาจะรู้ว่าต่อไปจะกัดรองเท้าไม่ได้

ถาม : ตอนตีลูก ร้องไห้กันทั้งบ้านเลยครับ แต่ลูกไม่ร้อง
ตอบ : แสดงว่ากำลังใจแย่มาก ถ้าไปทำอย่างนั้นเด็กจะดื้อ เพราะเด็กรู้ว่าผู้ใหญ่ไม่เอาจริง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 04-12-2011 เมื่อ 02:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #109  
เก่า 01-12-2011, 09:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,546 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : จะมีคนเอาประวัติศาสตร์ชาติไทยมาแต่งเป็นเรื่องสนุก ๆ บ้างไหมครับ ?
ตอบ : อาตมาตั้งใจจะแต่งแต่มาบวชเสียก่อน พอบอกให้คุณลลิตาไปแต่งแทน เขาบอกว่าเขาจินตนาการไม่ถึง ทั้ง ๆ ที่อาตมาอธิบายโครงสร้างของเรื่องให้แล้ว อาตมาจะแต่งจอมทัพมหาราช ๓ ภาค ภาคที่ ๑ พระเจ้าพรหมมหาราช ภาคที่ ๒ พระนเรศวรมหาราช ภาคที่ ๓ พระเจ้าตากสินมหาราช

อธิบายโครงสร้างทั้งหมดให้แล้ว แต่เขาบอกว่าเขาจินตนาการไม่ถึง เขาบอกให้อาตมาแต่งเสร็จแล้วใช้ชื่อเขาลงหนังสือก็ได้ อาตมาก็ว่า "แล้วทำไมต้องใช้ชื่อคุณ ในเมื่อชื่ออาตมาก็ขายได้" สมัยนั้นอาตมาเขียนก็ได้หน้าละ ๗๕ บาทแล้ว

ถาม : เคยเขียนหนังสือด้วยหรือครับ ?
ตอบ : เขียนหากินมาเยอะแล้ว เพียงแต่ไม่ยอมบอกว่าเขียนเรื่องอะไรใช้นามปากกาว่าอะไรเท่านั้นแหละ..กลัวดัง

ถาม : ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าหนังสือในตลาดตอนนี้ก็ต้องมีหนังสือที่ท่านแต่งอยู่ด้วยสิครับ ?
ตอบ : ก็คงจะพอมีหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ต้องเป็นตลาดหนังสือเก่านะ เพราะว่านานแล้ว หลังจากอาตมาที่ไปเป็นทหาร จบสิ้นการฝึก ๖ เดือนออกมาแล้วมาเขียนต่อจากของเดิม

ของเดิมเรื่องสุดท้ายเขียนไว้ ๒ บท พอมาเขียนบทที่ ๓ แล้วก็เริ่มอ่านทวนใหม่ตั้งแต่บทที่ ๑ บทที่ ๒ เพื่อให้เนื้อหาเชื่อมกัน ปรากฏว่าบทที่ ๓ สำนวนการเขียนเป็นคนละคนกันเลย เพราะว่าช่วงประสบการณ์ชีวิต ๖ เดือนที่เป็นทหารอยู่ แนวความคิดเปลี่ยนไป ก็เลยยกโครงเรื่องให้คนอื่นเขาไปเขียนแทน แล้วเรื่องนั้นก็ดันได้รางวัลดีเด่นของอะไรก็ไม่รู้..!

ถาม : นามปากกาอะไรครับ ?
ตอบ : ถ้าจะบอกก็บอกไปนานแล้ว ตอนนั้นเขียนเรื่องแรกก็ได้ลงเลย เพราะอะไรรู้ไหม ? เพราะอยากอ่านเรื่องอย่างนั้นแล้วไม่มีใครเขียน ถึงขนาดว่าถ้าไม่เกรงใจคงแต่งเรื่องกำลังภายในไปแล้ว เพราะอ่านจนเซ็ง โครงเรื่องมีแต่ซ้ำ ๆ กัน

ถาม : ใช้หลักการอะไรเขียนล่ะครับ ? เพราะท่านไม่ได้เรียนมาทางด้านนี้เลยนี้ครับ
ตอบ : ไม่ได้เรียน บอกแล้วว่าใช้คำว่าจินตนิยายอิงประวัติศาสตร์ อย่างจอมทัพมหาราช ภาค ๑ คุณลองนึกถึงภาพท้องฟ้ามืดมิด มีแต่หมู่ดาวระยิบระยับ อยู่ ๆ ก็มีดาวตกดวงใหญ่พุ่งลงมา แล้วก็มีท่านผู้เฒ่ายืนมองอยู่ไกล ๆ พร้อมกับรำพึงรำพันว่า “ในที่สุดผู้มีบุญก็มาเกิดจนได้”

พอผู้เฒ่ารำพึงรำพันเสร็จก็มีเสียงเด็ก ๆ ดังขึ้นข้างหลังว่า “ตา ๆ หมายถึงอะไรหรือ ?แล้วคุณตาก็เล่าย้อนหลังไป ว่าต้องมาลำบากยากเข็ญขนาดไหนกับการกดขี่ข่มเหงของพวกขอมดำ ตอนนี้ผู้มีบุญเขามาเกิดแล้ว เอ็งต้องเร่งศึกษาวิชาการต่าง ๆ เพื่อไว้คอยรับใช้ท่าน..พอโตเป็นหนุ่ม ไอ้หนูนี่ก็จะไปเป็นทหารเอกคู่พระทัย เป็นต้น

คราวนี้ที่อาตมาเขียนไม่ได้ เพราะความเป็นพระบังคับอยู่ ถ้ามีฉากรัก ๆ ใคร่ ๆ ดูจะไม่เหมาะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 01-12-2011 เมื่อ 12:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #110  
เก่า 01-12-2011, 12:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,546 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ช่วงหลัง ๆ เวลาทำกรรมฐานแล้วสติหลุดหายไปครับ ตอนสมาทานพระกรรมฐานก็แจ่มใสดี พอเริ่มเราก็ขึ้นไปพระจุฬามณี พออุทิศส่วนกุศลก็ อ้าว..ครึ่งชั่วโมงกว่า กลายเป็นประโยคต่อกันเลย
ตอบ : แสดงว่าสมาธิทรงตัวอยู่ในระดับปฐมฌานหยาบ แล้วสติตามไม่ทันก็เลยขาดไป

ถาม : มีวิธีแก้ไหมครับ ?
ตอบ : เอาสติจดจ่ออยู่กับลมหายใจ จี้ติด ๆ ไว้เลย ห่างไม่ได้ ห่างเมื่อไรก็หายอีก สังเกตดูว่าตอนที่สติหายคือตอนที่ลมหายใจเริ่มเบาลงไป ถ้าลมหายใจเริ่มเบาแล้ว ให้เอาสติจ่อติดไปเลย

ถาม : เพื่อนบางคนเวลาเขานอน ปลุกอย่างไรเขาก็ไม่รู้ตัวเลยครับ เขาไม่ได้ฝึกสมาธิ
ตอบ : สมาธิลึก

ถาม : ถ้าอย่างนั้นถือว่าเข้าสมาธิไหมครับ ?
ตอบ : ก็ถือว่าเป็นสมาธิ แต่เป็นสมาธิที่ไม่มีอานิสงส์ เป็นลักษณะของกัมมวิปากชาฤทธิ์ ฤทธิ์ที่เกิดจากวิบากกรรม ถ้าเข้าไม่ถึงจุดนั้นก็ไม่ได้พักผ่อน ทำโดยไม่มีเจตนาที่จะละกิเลส อานิสงส์เลยไม่มี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-12-2011 เมื่อ 12:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #111  
เก่า 01-12-2011, 12:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,546 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พระพุทธเจ้าท่านสอนว่าให้เชื่อกรรม เชื่อผลของกรรม เชื่อการส่งผลของกรรม และเชื่อในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าว่าพระองค์ท่านรู้จริง

กรรม คือ การกระทำของเรา ทำดีต้องได้ดี ทำชั่วต้องได้ชั่ว
ผลของกรรม คือ ทำดีได้ดีตอบ ทำชั่วได้ชั่วตอบ การส่งผลของกรรม คือ อดีตทำอย่างไร ปัจจุบันรับอย่างนั้น จริง ๆ แล้ว ๓ ข้อนี้ต่อเนื่องกัน แล้วท้ายสุดก็คือเชื่อการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ถ้าหากว่าท่านรู้จริง สิ่งที่ท่านสอนมาก็จะต้องถูกต้องตามความเป็นจริง

เพราะฉะนั้น..จากการที่ท่านบอกว่า ถ้าบุคคลในอดีตเคยสร้างกรรมอทินนาทานไว้ ปัจจุบันกรรมนั้นก็จะส่งผลให้ทรัพย์สินเสียหายด้วยอำนาจของดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นต้น"

ถาม : ถ้าอดีตเราเคยทำกรรมอทินนาทานมา แล้วชาตินี้เราไปช่วยคนที่เขารับผลของกรรม จะช่วยเบากรรมลงบ้างไหมครับ ?
ตอบ : ชาติหน้าจะได้มีคนมาช่วยเราบ้าง

ถาม : แสดงว่าผลของบุญกับบาปนี่แยกกันให้ผลชัดเจนเลยใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ใช่...ถึงเวลาถ้ากระแสบุญส่งผลก็รับความดีไป ถึงเวลาถ้ากระแสบาปส่งผลก็รับความชั่วไป แต่คราวนี้เราไม่ได้ทำดีตลอดและไม่ได้ทำชั่วตลอด สลับไปสลับมา ชีวิตจึงขึ้น ๆ ลง ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-12-2011 เมื่อ 15:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #112  
เก่า 01-12-2011, 16:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,546 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "จำไว้เลยว่า...ถ้ารถตกน้ำให้รีบคุมสติไว้ก่อน อย่ารีบเปิดประตูหรือเปิดกระจก เพราะว่าถ้าน้ำยังไม่ทันเข้ารถจะลอยได้อยู่พักหนึ่ง ให้ค่อย ๆ หมุนกระจกลง หรือถ้าเป็นแบบติดตายก็ทุบกระจกแล้วมุดออกมา ถ้ารีบไปเปิดประตู น้ำทะลักเข้ามา แรงดันน้ำจะทำให้ตัวเราออกไปไม่ได้ แล้วจะจมฮวบลงไปทีเดียว ส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตกันเพราะอย่างนี้

แต่ถ้าเรือจม ออกมาได้แล้วให้รีบตะกายไปให้ห่างจากเรือ ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะไกลได้ เพราะเวลาเรือจมลงจะเกิดแรงดูดเราตามลงไปด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-12-2011 เมื่อ 17:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #113  
เก่า 02-12-2011, 09:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,546 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยก่อนที่อาตมาอยู่วัดท่าซุง ถ้ามีเรือหางยาววิ่งมาแล้วลากเรือพายมาด้วย พอผ่านหน้าวัดอาตมาให้ทหารยิงทุกลำเลย ถ้าทหารไม่กล้ายิงอาตมาจะแย่งปืนมายิงเอง เพราะพวกระยำนั้นมาตีอวนเอาปลาหน้าวัด..!

ถ้าหากว่าใช้เฉพาะเรือหางยาวอย่างเดียวจะลากอวนไม่ได้เพราะอวนจะไปพันหางเรือ เขาก็เลยโยงเรือธรรมดามาด้วย ใช้อวนผูกตรงท้ายเรือแล้วลากไป แต่เอาปลาไปขายในอุทัยธานีไม่ได้เพราะเขารู้ว่าเป็นปลาวัด ต้องเอาไปขายถึงนครสวรรค์โน่น...

ถ้าหากว่าเด็ดขาดเสียทุกอย่างก็จบ ไม่อย่างนั้นแล้วก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้ ที่ขำที่สุดก็คือพอกลายเป็นเขตหวงห้ามแล้ว พวกเรือหางยาววิ่งเสียงดังมาแต่ไกล พอถึงหน้าโบสถ์วัดยางก็ดับเครื่อง ใช้พายเอา เขารู้ว่าวิ่งผ่านหน้าวัดโดนยิงแน่นอน อาตมาไม่ปล่อยเอาไว้หรอก..! เอ็งจะเคยขโมยปลาหรือไม่ก็ตาม แต่กลางคืนเรือเครื่องห้ามวิ่ง..!

เขาเห็นว่าอาตมายิงทีไรโดนทุกที จนเขาไปลือกันว่าอาตมาใช้คาถากระสุนคด เวรกรรม...เรือลำมหึมาขนาดนั้น สมัยอาตมายิงปืนนี่ยิงดับเทียน ยิงตัดเส้นลวดมาแล้ว เรือลำขนาดนั้นทำไมจะยิงไม่ถูก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-12-2011 เมื่อ 10:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #114  
เก่า 02-12-2011, 09:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,546 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"พออาตมาออกจากวัดมา ๘ เดือน พวกหาปลาเริงร่าหน้าบานกัน หลวงพี่ละอองท่านส่งข่าวมาบอกว่า ตอนนี้พวกนั้นเว้นให้ตรงหน้าวัดหน่อยเดียว เขตอื่นที่อาตมาเคยประกาศไว้เขาหาปลากันกระจายเลย

พอวัดมีงานประจำปี อาตมากลับวัด แล้วไปเดินเลาะตรวจดูชายน้ำตามความเคยชิน คนที่เป็นขาประจำหาปลาเดินหาบของมาจะขายหน้าวัด พอเจอหน้าอาตมาถึงกับเข่าอ่อน หาบร่วงลงไปกองกับพื้น ยกมือไหว้แล้วว่า “หลวงพี่มาแล้วหรือครับ ?” อาตมาก็ว่า “เออ..บอกพวกมึงด้วย คืนนี้เจอกัน..!” ปรากฏว่าคืนนั้นเงียบฉี่ ไม่มีเรือสักลำ แสดงว่ากิตติศัพท์ความโหดของอาตมายังขายได้

ส่วนหลวงพี่ละอองท่านปวดหัวมากเลย เพราะห้ามเท่าไรพวกเขาก็ไม่สนใจ พอไปไล่เขาก็ยิงเอา แต่พอมาเจอคนที่เคยเอาจริงด้วยก็เป็นอย่างที่เห็น อาตมาถึงได้สรุปว่า “คนทั่วไปไม่กลัวความดีหรอก กลัวแต่คนที่ชั่วกว่า” ตัวนี้แหละที่ไม่ดี ไม่ดีตรงที่ว่าถึงเวลาตัวสักกายทิฐิจะมา ตัวมานะจะมา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-12-2011 เมื่อ 10:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #115  
เก่า 02-12-2011, 09:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,546 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ตอนไปอยู่เกาะพระฤๅษีปีแรก สร้างศาลาหลังใหญ่มีห้องกระจกอยู่ ช่างที่รับงานห้องกระจกรับเงินไป ๓๐,๐๐๐ บาทแล้วก็หายไปไม่มาทำงาน โทรไปตามกี่ครั้งได้แต่ครับ ๆ แต่ไม่มาสักที

เช้าวันนั้นนั่งกรรมฐานอยู่ ตัวมานะก็โผล่ขึ้นมา “มึงไม่รู้จักกู..คนอย่างกูไม่รังแกมึงก็นับเป็นบุญของมึงแล้ว..!” ตอนนั้นคิดว่ากินข้าวเช้าเสร็จ จะนั่งรถไปกระทืบมันให้ถึงร้านเสียที ให้รู้ว่าใครเป็นใคร ปรากฏว่าคิดไม่ทันจะจบ "พระ" ท่านก็มา

ท่านมาแล้วก็บอกว่า“จิตที่ประกอบไปด้วยบุญ เมื่อปฏิสนธิแล้วก็ตั้งหน้าสร้างสมบุญบารมีต่อไป…จิตที่ประกอบไปด้วยบาป เมื่อปฏิสนธิแล้วย่อมทำแต่ความชั่วด้วยแรงบาปที่ย้อมจิตอยู่…เราก้าวมาถึงเพียงนี้แล้ว จะตั้งหน้าก้าวต่อไป หรือจะถอยหลังกลับไป จ่อมจมอยู่กับความชั่วนั้นอีก…?”

พอได้ยินแล้วความคิดที่ไปกระทืบมันนี้หายเกลี้ยงเลย รู้ว่าท่านด่า แต่ท่านด่าไพเราะมาก ไม่มีคำหยาบสักคำ จำไว้นะทุกคน... เราก้าวมาถึงเพียงนี้แล้ว จะตั้งหน้าก้าวต่อไป หรือจะถอยหลังกลับไป จ่อมจมอยู่กับความชั่วนั้นอีก…?

อาตมาได้ยินแล้วซึมเลย ความตั้งใจจะไปกระทืบให้ระบือลือลั่นนี่หายเลย ทุกวันนี้ที่เห็นนั่งปั้นหน้ายิ้มอยู่ ไม่ได้ถอดเขี้ยวถอดเล็บนะ เพียงแต่เก็บเอาไว้ ยังไม่ได้แยกเขี้ยวกางเล็บ วันไหนถ้าตัวมานะโผล่ขึ้นมาละก็ “มึงไม่รู้จักกูซะแล้ว” มานะเต็ม ๆ เลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-12-2011 เมื่อ 10:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #116  
เก่า 02-12-2011, 09:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,546 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เก็บตกเดือนนี้จบแล้วค่ะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:33



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว