กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 10-12-2009, 13:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,097
ได้รับอนุโมทนา 4,400,274 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default การเพ่งโทษผู้อื่น

ถาม : หลวงพ่อคะ การเพ่งโทษคนอื่น ทำอย่างไรจึงจะหายขาดคะ ?
ตอบ : เป็นพระอนาคามีเมื่อไรก็หาย ถึงเวลานั้นตัวกู ของกูเหลือนิดเดียวแล้ว ไม่เพ่งคนอื่นแล้ว เพ่งแต่ตนเอง

ถาม : ต้องกดไว้ก่อนหรือคะ ?
ตอบ : กดไว้ก่อน ถ้าสติยังไม่สมบูรณ์ ก็เอาจนได้แหละ
กิเลสบางตัวแฝงอยู่ลึกมาก อยู่ในลักษณะว่าเป็นห่วงเป็นใยเขา ทำไมเขาทำอย่างนั้น ทำไมเขาทำอย่างนี้ แล้วทำไมเขาไม่ทำอย่างนั้น ทำไมเขาไม่ทำอย่างนี้ หวังดีเต็ม ๆ คิดว่าเมตตากรุณา แต่จริง ๆ คุณกำลังเพ่งโทษคนอื่นอยู่ โปรดระวังให้ดี กิเลสหลอกให้คิดว่าเรากำลังปฏิบัติธรรมะ หารู้ไม่ว่าเขาลากเราจนจะถึงก้นเหวอยู่แล้ว

ยกตัวอย่าง ทำไมเลี้ยงหมาอย่างนั้น ทำไมไม่เลี้ยงหมาอย่างนี้ ทำไมไม่เอาแชมพูดี ๆ มาฟอกให้ ท่าทางดูเหมือนว่าเราเมตตาหมามากเลย แต่จริง ๆ แล้ว เรากำลังเพ่งโทษว่า เจ้าของเลี้ยงหมาได้ไม่ดีเท่าเรา เห็นหน้ากิเลสไหมว่าน่าเกลียดน่าชังแค่ไหน ? มองเห็นแล้วรู้ทันนี่เซ็งในอารมณ์เลย สุดยอดจริง ๆ กลายเป็นว่าเอาความหวังดี ปรารถนาดีไปให้คนอื่นเขา จนกระทั่งอาตมาสรุปว่า หวังดีแต่ประสงค์ร้าย กว่าจะสรุปได้แต่ละข้อนี่นาน ขอยืนยันว่านาน พวกเราถือว่าโชคดีที่มีคนให้ถาม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-02-2014 เมื่อ 13:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 93 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 10-12-2009, 13:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,097
ได้รับอนุโมทนา 4,400,274 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูเพิ่งเห็นตัวนี้เมื่อเดือนที่แล้วเองค่ะ พอรู้ตรงนี้แล้วเซ็งมาก ที่เราคิดว่าดี ดี ดี ปรากฏว่าทำไมโง่อย่างนี้ เลวอย่างนี้ ไป ๆ มา ๆ ยิ่งทำไปทำไมยิ่งเห็นว่าเลว ?
ตอบ : เคยสรุปไว้ตอนนั่งเถียงกับกิเลสมาร บอกว่าถ้าไม่มีพระพุทธเจ้ากูจะกราบมึง มึงโคตรเก่งเลย หลอกกูได้ขนาดนั้น ที่เคยบอกไว้ว่า มารกับความดีเดินมาพร้อมกัน มาก้าวเดียวกันเลย เพียงแต่ว่าอยู่ที่ก้าวสุดท้าย ซึ่งความดีพาเราก้าวขึ้นข้างบน แต่ความชั่วจะพาเราลงข้างล่าง ถ้าเราเห็นตรงจุดนี้แล้ว จะเห็นว่ากิเลสกับความดีขี่คอกันมาเลย หน้าตาเหมือนกันเป๊ะ แต่สำคัญอยู่ที่ก้าวสุดท้ายว่าจะเลี้ยวไปทางไหน

ถาม : เมื่อวานนั่งคุยกับพี่ คิดไปคิดมา เอ๊ะ การโมทนาก็เป็นกิเลสนี่ เพราะโมทนาในความรู้สึกที่ว่า เราอยากได้บุญอย่างเขา แล้วก็มาคิดว่า โมทนาอย่างไรไม่ให้เป็นกิเลส หรือโมทนาในลักษณะมุทิตาจิต คือ ยินดีที่เขาทำความดี ?
ตอบ : อย่างที่อาตมาสรุปว่า กูจะเอา จริง ๆ แล้ว จะต้องเกิดความยินดีจากน้ำใสใจจริงว่า โอ..หนอ ขณะที่เราไม่มีโอกาสที่จะได้ทำในบุญกุศลนั้น ๆ แต่คนอื่นเขามีโอกาส ช่างน่ายินดี ช่างน่าชื่นใจเหลือเกิน ความรู้สึกอย่างนี้จะขึ้นมาเต็ม ๆ ถ้าหากว่าไม่ใช่อย่างนี้แล้วไปสาธุ ก็แฝงความหมายว่า "กูจะเอาของมึง" ทั้งนั้น ค่อย ๆ ตามดูไปเถอะ

ถาม : ค่ะ
ตอบ : การปฏิบัติพอถึงระดับหนึ่ง เคยเปรียบเทียบไว้ว่า เหมือนกับเราตัดต้นไม้ใหญ่ เราโค่นลงได้ ล้มลงมาฟ้าสะท้านดินสะเทือน รู้สึกว่าเราได้อะไรเยอะแยะเลย ทีนี้ลองขุดตอดู เจอรากเยอะกว่ากิ่งข้างบนอีก ยิ่งขุดก็ยิ่งเจอ ทำไมเยอะอย่างนี้ ท้ายสุดก็จะแค่ เหลือดูที่ตัว แก้ที่ตัว ไม่ต้องสนใจใครแล้ว ตั้งหน้าตั้งตามุ่งไปสู่จุดมุ่งหมายปลายทางของเรา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-02-2014 เมื่อ 13:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 91 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 10-12-2009, 13:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,097
ได้รับอนุโมทนา 4,400,274 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม :หลวงพ่อคะ ยังติดใจเรื่องการเพ่งโทษอยู่ค่ะ หนูก็มานั่งคิดดู เวลาเราเพ่งโทษ เขาก็ไม่ได้มาทำอะไรเรา เป็นเราต่างหากที่ไปเพ่งโทษเขาเอง ?
ตอบ : ก็ใช่นะสิ

ถาม : ก็เลยคิดว่าแล้วเราจะตัดอย่างไร
ตอบ : สติต้องรู้เท่าทัน ทีนี้สติจะรู้เท่าทัน สมาธิจะต้องดี สำคัญก็คืออยู่กับลมหายใจเข้าออกของเรา จะได้ไม่ไปเพ่งโทษกับใคร เพราะจิตมีงานทำแล้ว

ถาม : ถ้าเผลอไปแล้ว เราจะมาคิดหักล้างได้อย่างไร
ตอบ : คิดไปก็กลับมา...คิดไปก็กลับมา ระยะแรกก็จะดึงกันไปดึงกันมา แต่พอนานไป ๆ เราพิจารณาเห็นโทษแล้วว่า การเพ่งโทษคนอื่นนอกจากไม่ช่วยให้เจริญขึ้นแล้ว ยังทำให้ใจของเรามันเสื่อมทรามตกต่ำไปอีก พอเห็นโทษ ก็จะค่อย ๆ คลายออก แล้วก็ไม่ไปยุ่งด้วย

ถาม : คือ ต้องบอกกับใจให้ได้ ให้ยอมรับว่าไม่ดี ?
ตอบ : ไม่ต้องไปบอกหรอก แต่ต้องเห็นจริง ๆ ว่าสิ่งนั้นไม่ดี


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ถาม-ตอบ ช่วงบ่าย ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันศุกร์ที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๕๒
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-02-2014 เมื่อ 13:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 92 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ

Tags
เพ่งโทษ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:24



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว