กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 08-08-2009, 16:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default อุปสรรคต้องฝ่าฟัน

ถาม : มีปัญหากับพวกที่ทำงานด้วยกัน ?
ตอบ : การงานทุกอย่างถามว่าอุปสรรคเกิดขึ้นได้อย่างไร โยมบอกว่าเป็นเจ้ากรรมนายเวร คราวนี้เราก็ต้องมาดูว่า เจ้ากรรมนายเวรนั้น เขาสามารถที่จะมาขัดขวาง กลั่นแกล้งเราได้ด้วยสาเหตุอะไร ก็คือ เราต้องเคยทำสิ่งที่ไม่ดีเหล่านั้นกับเขามาก่อน ถ้าไม่เคยทำผลกรรม ไม่เคยมีกรรมเนื่องกันมา เขาก็ทำอะไรเราไม่ได้ ในเมื่อเป็นอย่างนั้นก็แปลว่าเรารับในสิ่งที่เราทำนั่นเอง ในเมื่อเราทำเอง...ทำไมเราจะรับไม่ได้ จะชาตินี้ ชาติหน้า จะช้า จะเร็วก็ต้องรับอยู่แล้ว มาให้หมดเสียทีเดียว หมดเรื่องไปเลยก็ดี

มีอะไรก็ต่อสู้ฟันฝ่าไป ไม่รู้ว่าเคยได้ยินหรือเปล่า เขาบอกว่า

อุปสรรคมากมีที่ขัดขวาง
ต้องถากถางบุกบั่นไม่หวั่นไหว
ถึงทุกข์ยากลำบากสักเพียงใด
ต้องฝ่าฟันพ้นไปได้สักวัน

ของสิ่งใดการได้มาถ้าลำบาก
ต้องทุกข์ยากมักมีค่ามหาศาล
ดุจเหล็กกล้าผ่านการทุบชุบเป็นนาน
จึงตระการเป็นอาวุธสุดแหลมคม

บอกแล้วว่าอุปสรรคสร้างความแข็งแกร่ง ทุกสิ่งทุกอย่างที่พระพุทธเจ้าบอกมัชฌิมาปฏิปทา พอดิบพอดี ถ้าเยอะเกินก็เป็นโทษ

ตอนนี้เสียดายอยู่อย่างหนึ่ง เสียดายความบ้าที่หมดไปเยอะ สมัยก่อนออกธุดงค์ สารพัดอุปสรรค โดยเฉพาะตอนที่อยู่ในป่าแสนจะลำบาก บางทีเดินเป็นวัน ๆ หาน้ำไม่ได้เลย

ตอนขึ้นเขาก็ว่าขึ้นเขาแค่สามยอด แต่ตอนลงเจ็ดสิบกว่ายอดก็ยังไม่ถึงพื้นเสียที กว่าจะรู้เหลียวกลับไป ยิ่งกว่ากำแพงเมืองจีนเสียอีก แสดงว่าขึ้นผิดข้าง ไปขึ้นด้านที่สูงแล้วไปลงด้านที่ต่ำ ถ้าขึ้นด้านที่สูงตั้งแต่ทีแรกอาจจะไม่ไปก็ได้ บางครั้งเดินอยู่สิบกว่าวันไม่เจอบ้านคนเลย ลำบากขนาดนั้น แต่ใจไม่ได้คิดท้อสักนิด ไปข้างหน้าอย่างเดียว

ความมุ่งมั่นอยู่ที่ว่า ให้รู้ไปว่าจะผ่านได้ไหม ไม่น่าเชื่อว่าตัวเองจะมีความดื้อ ความบ้าได้ขนาดนั้น จนกระทั่งสิบกว่าวันผ่านไปเพิ่งมานึกขึ้นได้ว่า แล้วทำไมไม่พิจารณาให้เห็นว่า ความทุกข์นี้เป็นปกติของร่างกาย ในเมื่อมีความทุกข์เป็นปกติของอย่างนี้ ความทุกข์ที่เกิดขึ้นก็แสดงว่าเต้องเคยสร้างกรรมนี้ไว้จึงต้องมารับ ในเมื่อทำมาเอง ทำไมจะรับเองไม่ได้

พอคิดตรงนี้ อ๋อ..เป็นธรรมดาอย่างนี้เอง กว่าจะมายอมรับได้ ยังมานึก ๆ เลยว่า ตกระกำลำบากมาไม่ได้มีคิดสักนิดเดียวว่าจะถอย มีแต่มุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2014 เมื่อ 09:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 116 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 08-08-2009, 17:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ไปนึกถึงที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ในสังสารวัฏอันยาวไกลที่หาต้นหาปลายไม่เจอ เมื่อตถาคตปรารถนาพระโพธิญาณไว้ ขึ้นชื่อคำว่าท้อถอยแม้แต่น้อยหนึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในใจ ได้ยินแล้วอยากจะยกท่านขึ้นเหนือหัวไว้ตรงนั้นเลย ของเราเองห่างจากท่านจนประมาณไม่ได้ ยังบ้าได้ขนาดนี้

แล้วกำลังใจที่มุ่งเพื่อคนส่วนใหญ่ พระองค์ท่านตรัสว่าต่อให้เห็นจักรวาลที่ไฟลุกท่วมปราศจากช่องว่าง ยังกล้าเดินลุยไปเพื่อช่วยคนอื่นที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งได้ ถ้าอย่างนั้นจึงควรปรารถนาโพธิญาณ ของอาตมาไม่ได้เศษเสี้ยวของพระองค์ท่านคนเขายังว่าบ้าเลย ของพระองค์ท่านต้องสุดยอดอยู่แล้ว พอได้ยินตรงนี้อยากจะยกพระองค์ท่านไว้เหนือเศียรเหนือเกล้าเดี๋ยวนั้นเลย กำลังใจของพระองค์ท่านไม่มีอะไรเปรียบได้จริง ๆ พระองค์จึงเป็นพระพุทธเจ้าได้ ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนาได้

ดังนั้น..กำลังใจของพวกเราในปัจจุบันนี้ มีอุปสรรคอะไรเกิดขึ้นก็ตาม ให้คิดว่าอย่างน้อย ๆ เราเกิดมาทั้งทีได้พบพระพุทธศาสนา กำลังใจเราไม่ได้อย่างองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ขอสักส่วนหนึ่งก็ยังดี ๑ เปอร์เซ็นต์ของมหาเศรษฐี คนจนอาจจะใช้ไปทั้งชาติ ดังนั้น..เอาแค่ ๑ เปอร์เซ็นต์นี่แหละ เอาให้รู้ไปเลยว่าจะมีงานอะไรที่เราจะทำไม่ได้

งานทางธรรมยากเสียยิ่งกว่ายาก เรายังตั้งหน้าตั้งตาทำ งานทางโลกจะไปยากอะไร ดังนั้น..กลับไปเข็นข้างฝาไม่ได้ก็เดินให้ทะลุไปเลย ถ้ามั่นใจว่าเราทำดีแล้ว ทำถูกต้องแล้ว พิจารณารอบคอบแล้ว ลุยทำให้เต็มที่ ถึงไม่สำเร็จก็ยังตอบตัวเองได้ว่าเราทุ่มเทสุดชีวิตแล้ว แต่ถ้าสำเร็จจะเป็นความภาคภูมิใจ เป็นความปีติของตัวเอง แล้วจะส่งให้เรามีกำลังใจกระทำในสิ่งที่ยากกว่านั้นขึ้นไปอีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2014 เมื่อ 10:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 109 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 08-08-2009, 17:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แต่ผู้นำ...
ตอบ : ไม่เป็นไร ในเวสารัชชการณธรรม มีความเชื่อมั่นในพระรัตนตรัย เชื่อมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เชื่อมั่นในผู้นำ เชื่อมั่นในตนเอง ทั้งหมด ๔ ส่วน ใน ๔ ส่วนเราได้ไป ๓ ส่วนก็ลุยไปเลย สมัยก่อนอาตมาต้อง ๘๐-๙๐ ส่วน จึงจะเอา สมัยนี้ ๑ ต่อ ๙๙ ยังเอาเลย ต้องค่อย ๆ สั่งสมกำลังใจให้มากขึ้น ลองทำไปดูก่อน ทำไป ๆ เราอาจจะกลายเป็นคนชักหุ่นกระบอกก็ได้ ทำไป..ยากนักใช่ไหม เราก็อยู่เบื้องหลัง ชักใยไปเลย ผู้นำไม่ได้เรื่อง เราก็อาศัยอำนาจท่านจัดการเองเลย

ถาม : ใช่เลย ใช่เลย หลวงพ่อตอบโจทย์หนูเลย
ตอบ : ให้มั่นใจว่าเราทำดีจริง ทำถูกจริง ไม่เป็นไร เราชักใยได้ ถ้าหากว่าจะเป๋วันไหนก็ถอยออกมา เพราะว่าเราอาจจะสร้างความเสียหายได้มากกว่าที่คิด อันนี้อยู่ที่เรารักษากำลังใจ เราจะทำแต่ในสิ่งที่ดี ในเมื่อดีและเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม ถึงจะต้องเล่นใครเป็นหุ่นยนต์ก็ต้องยอม

ถาม : ไม่เสี่ยงหรือคะ
ตอบ : ไม่เสี่ยงหรอก เพราะเราทำดี ทุกอย่างอยู่ที่เจตนา จะมีสักกี่ร้อยคนก็ชักใยไปเถอะ


เทศน์ช่วงเช้า ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันอาทิตย์ที่ ๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๒
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2014 เมื่อ 10:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 106 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 08-08-2009, 17:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อบอกว่า "จริง ๆ โยมเขาเป็นคนแม่นประเด็น น่าสรรเสริญ แต่เขาไม่เข้าใจเรื่องของธรรมะที่บางอย่างเราบอกตรงไม่ได้ เราเลี้ยวข้าง แกก็โดดไปดักหน้าอีก

เขาลังเลว่าสิ่งที่เขาทำจะผิดหรือเปล่า ในเมื่อผู้นำไม่ได้เรื่อง ก็ให้เขาจับซ้ายหันขวาหันไปเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2014 เมื่อ 10:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 100 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:17



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว