กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 28-05-2011, 00:32
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,411
ได้รับอนุโมทนา 206,450 ครั้ง ใน 3,180 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default ๙ รัชกาลราชวงศ์จักรี

ถาม : เมื่อก่อน โบราณเขาบอกว่ารัชกาลที่ ๑๐ ไม่มี ?
ตอบ : ไม่มีได้อยางไร ถ้าคุณไม่ตายเสียก่อนเดี๋ยวก็ได้รู้..!

อาตมารับประกัน ราชวงศ์จักรีอายุยาวมาก เป็นร้อย ๆ รัชกาลทีเดียว ต่อไปในภายภาคหน้าพวกประเทศต่าง ๆ ที่มีกษัตริย์อยู่ เห็นว่าระบบกษัตริย์แบบไทยดี ช่วยให้ประเทศชาติร่มเย็น ประชาชนเป็นสุข ก็พยายามจะฟื้นระบบกษัตริย์ของตัวเองคืนมา ประเทศที่ไม่มีเห็นว่าดีก็อยากจะมีบ้าง อาจจะมีการตั้งราชวงศ์กันขึ้นมา

ถ้าหากว่าใครเกิดใหม่ก็ตามดู ต่อไประบบกษัตริย์จะปกครองเยอะมาก พื้นฐานใหญ่มาจาก ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ท่านกลายเป็นคนของโลกไปแล้ว

ไปเจอฝรั่งเดนมาร์กคนหนึ่งห้อยเหรียญในหลวง อาตมาถาม "เฮ้ย..ยูเอาคิงของไอไปห้อยได้อย่างไร ? "
เขาตอบว่า "ยูใจคับแคบ ไม่ใช่คนของคนไทยเพียงอย่างเดียว ในหลวงเป็นคนของโลก ไอย่อมมีสิทธิ์ห้อยเหรียญท่านได้"
เขาว่าอย่างนั้น..เขาว่าจนอาตมาเสียหมาไปเลย ...(หัวเราะ)....

อาตมาก็ปากเสีย เจอฝรั่งความคิดเขาอิสระดี เขาเห็นว่าอะไรดีอะไร อะไรเหมาะสม เขาก็รับไว้เลย เขาไม่มีการมาดัดจริตกัน เห็นว่าสมควรก็เอา เขาเห็นว่าพระมหากษัตริย์ไทยของเราดี เขาก็แขวนเหรียญไว้เป็นที่ระลึก เหรียญที่เราใช้ซื้อของกันนี่แหละ ก็ไม่ได้เลือกที่ดีที่เด่นอะไรหรอก อาตมาอุตส่าห์หาเหรียญพระมหาชนกเอาไว้ ของเขาไม่หาหรอก แสดงว่ากำลังใจเต็มกว่าเรา เอาเหรียญบาทมาเลี่ยมใส่คอเลย

ทุกประเทศพูดถึงในหลวงก็มีแต่ชื่นชม จนกระทั่งบางประเทศบอกว่า ถ้าหากว่าคนไทยทำงานให้ได้ครึ่งหนึ่งของในหลวง รับรองว่าไม่มีประเทศไหนในโลกสู้ได้ แต่ญี่ปุ่นแสบที่สุด ญี่ปุ่นเขาทำวิจัยแล้วบอกว่า "คนไทยนอกจากในหลวงแล้ว โกงทั้งนั้น..!" ...(หัวเราะ)... เหมารวมพระอย่างอาตมาไปด้วย ... (หัวเราะ)... คำว่าโกงของเขา เขาใช้คำว่า "คอร์รัปชั่น" คอร์รัปชั่นฟังดูแล้วเบา คำว่า "โกง" จะแรงหน่อย นอกจากในหลวงแล้วคอร์รัปชั่นทั้งนั้น เล่นเหมาหมดทุกวงการเลย

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2015 เมื่อ 02:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 28-05-2011, 00:32
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,411
ได้รับอนุโมทนา 206,450 ครั้ง ใน 3,180 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default

อย่างน้อย ๆ ประเทศไทยของเรา ตั้งแต่เริ่มตั้งแต่ราชวงศ์จักรีมา เรามีแต่พระมหากษัตริย์ที่ทรงทศพิธราชธรรม เป็นพระมหากษัตริย์ที่เหมาะกับยุคสมัยตลอดมา

ตั้งแต่สมัย รัชกาลที่ ๑ ยังมีศึกเสือเหนือใต้อยู่เป็นปกติ ต้องรบทัพจับศึกอยู่เป็นปกติ เราก็มีรัชกาลที่ ๑ ที่เข้มแข็งเก่งกล้าในการรบ

พอมาถึงรัชกาลที่ ๒ แผ่นดินเริ่มสงบลง พระองค์ท่านก็มาทางด้านศิลปวัฒนธรรม วรรณคดี ดนตรีการ จนขนาดฝากฝีมือเอาไว้ที่บานประตูวัดสุทัศน์ โอ้โฮ..แกะสลักลายแบบว่าแทบจะหลุดจะบินออกมาจากข้างในได้เลย

พอมาถึง รัชกาลที่ ๓ พวกฝรั่งต่างชาติเข้ามาเยอะ พระองค์ท่านมองการณ์ไกล ค้าขายกับต่างประเทศถึงขนาดมีกองเรือพาณิชย์ของตนเอง ค้าขายกับจีนหาเงินเข้าท้องพระคลังเอาไว้ เตรียมให้เมื่อรัชกาลที่ ๔ ขึ้นครองราชย์ จะได้มีเงินส่วนนี้เอาไว้กอบกู้ประเทศชาติ เวลาที่ฝรั่งยุโรปมาเบียดเบียน

พอ รัชกาลที่ ๔ ขึ้นมา พวกฝรั่งเยอะแล้วนี่ แล้วรัชกาลที่ ๔ เก่งภาษาอังกฤษมาก เก่งอย่างชนิดที่ฝรั่งเขาทึ่ง เขาบอกว่านึกไม่ถึงว่าคนที่อยู่ไกลขนาดนี้จะใช้ภาษาได้ดีอย่างนี้ แล้วก็ยังมีการเอาพวกฝรั่งมารับราชการ ทำการสำรวจ ทำแผนที่บอกเขตประเทศให้ชัดเจน

บังเอิญว่ายังทำไม่สำเร็จ พอมา รัชกาลที่ ๕ พวกบรรดาอังกฤษ ฝรั่งเศสก็แย่งกันครอบครองดินแดน เราก็มีพระมหากษัตริย์ที่เปรื่องปราชญ์ปรีชาสามารถ สามารถตัดสินใจยอมเสียสละส่วนน้อยเพื่อรักษาส่วนมากได้ มีการเลิกทาส มีการนำความเจริญสมัยใหม่มา ไม่ว่าจะเป็นโทรเลข โทรศัพท์ ไฟฟ้า รถไฟ ฯลฯ

มาถึง รัชกาลที่ ๖ สมัยนี้แผ่นดินจนหน่อย เพราะว่ารัชกาลที่ ๕ ทุ่มเทเพื่อแผ่นดินมาก รัชกาลที่ ๖ ก็จะมีการดุลข้าราชการ คือว่าปรับสมดุล สมัยนี้ก็เหมือนกับการให้ออกก่อนเกษียณอายุ เพื่อให้ส่วนที่เหลืออยู่สามารถทำงานได้ พระองค์ท่านถือว่าเป็นนักปราชญ์เอก แต่งหนังสือหนังหาเอาไว้เยอะมาก

พอมาถึง รัชกาลที่ ๗ เป็นยุคสมัยของประชาธิปไตย โดยพระองค์ท่านเองตั้งใจจะให้ประชาธิปไตยมานานแล้ว กำลังรอระยะเวลาที่เหมาะสม แต่คณะราษฏร์ใจร้อนไปหน่อย รีบพลิกฟ้าแปลงดินไปเลย พระองค์ท่านก็ไม่ได้หวงพระราชอำนาจ วินิจฉัยได้ถูกต้องด้วยซ้ำไปว่า ทรงมอบพระราชอำนาจให้ประชาชนทั้งประเทศ ไม่ได้ให้แก่หมู่คณะใดขณะหนึ่ง

มาถึงรัชกาลที่ ๘ ช่วงสงครามโลกพอดี เราก็มีพระราชาที่เรียกว่าเป็นหนุ่มน้อยน่ารัก ใครเห็นก็รัก ใครเห็นก็ชม พระองค์ท่านสามารถวางพระองค์ได้ถูกต้องกับเหตุการณ์ได้ทุกอย่าง จนคนเขาทึ่งว่า ครองราชย์ตั้งแต่ยังเด็ก ๆ ทำไมถึงทำได้ดีขนาดนี้ อันนี้ต้องยกคุณความดีทั้งหมดให้กับสมเด็จย่า เพราะสมเด็จย่าอบรมมาดี

พอมาถึงรัชกาลที่ ๙ พระชนมายุของพระองค์ท่านยืนยาวมาก ต้องทำงานเหมือนกับสองรัชกาลเลย พี่สวรรคตตั้งแต่อายุยังน้อยอยู่ น้องขึ้นครองราชย์เท่ากับว่าทำงานของพี่ด้วย ยาวมาถึงปัจจุบันนี้

ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ เหมือนกับว่าเป็นไปตามวาระตามเวลา ถึงกรรมจะมีแต่บุญก็แรงอยู่ เราจึงมีพระมหากษัตริย์ที่เหมาะสมกับยุคสมัยตลอดมา เพราะฉะนั้น..รัชกาลที่ ๑๐ ก็ต้องเหมาะสมเช่นกัน


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ

ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๕

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-04-2016 เมื่อ 17:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ

Tags
กษัตริย์, รัชกาล, ราชวงศ์


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:17



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว