กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 11-07-2023, 19:39
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,530
ได้ให้อนุโมทนา: 216,747
ได้รับอนุโมทนา 743,635 ครั้ง ใน 36,232 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 12-07-2023, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,566
ได้ให้อนุโมทนา: 151,678
ได้รับอนุโมทนา 4,410,894 ครั้ง ใน 34,156 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพตั้งใจว่าจะไปร่วมงานศพหลวงพ่อจอน (พระอธิการพรพจน์ (ฐกฤต) กิตฺติวณฺโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดดงโคร่ง แต่เจอฝนทั้งวันแบบนี้ ก็เป็นอันว่าไปไม่รอด มาลาเรียขึ้นเสียก่อน แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ

ตอนช่วงบ่าย ดร.หนึ่ง (พระวินัยธรจิตศิลป์ เหมรํสี, ดร.) ประธานสงฆ์สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี มารับเงินค่าติดตั้งจุดเช็คอินตลาดริมแควเมืองท่าขนุน บอกว่า "หลวงพ่อหน้าแดงมาก" ก็ได้บอกกับท่านไปว่า "มาลาเรียกำลังขึ้นสมอง" ถ้ามาลาเรียขึ้นสมอง ความดันจะสูง หน้าแดงเป็นปกติ พอลดแล้วก็เหมือนกับไม่ได้เป็นอะไรเลย แต่ถ้าลงกระเพาะ ปกติก็จะอาเจียนหนัก

แต่เนื่องจากว่าสมัยที่เป็นใหม่ ๆ กระผม/อาตมภาพยังอายุน้อย ร่างกายแข็งแรง ตอนนั้นอายุแค่ ๒๒ ปีเท่านั้น พอจะอาเจียนก็ไปกลั้นเอาไว้ แล้วด้วยความที่แข็งแรงมากก็เลยกลั้นอยู่ กลายเป็นว่าอาเจียนไม่ได้ ร่างกายจึงเปลี่ยนเป็นถ่ายหนักแทน เพราะฉะนั้น..ระยะนี้ถ้าหากว่ามาลาเรียลงกระเพาะ ก็จะต้องวิ่งส้วมกันทีหนึ่ง ๔ รอบ ๕ รอบ..!

วันนี้ช่วงบ่ายเด็กนักเรียนโรงเรียนอนุบาลทองผาภูมิมารับรางวัล ที่ไปประกวดการสวดมนต์หมู่ทำนองสรภัญญะ ชิงถ้วยรางวัลสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย แล้วได้รางวัลชนะเลิศ รับถ้วยมาทั้งทีมหญิง ทีมชาย ต้องบอกว่าเป็นการเพิ่มกำลังใจให้กับเด็ก ๆ

แต่ว่าส่วนหนึ่งที่ได้เตือนไปก็คือว่า การขึ้นที่สูงว่ายากแล้ว การรักษาระดับนั้นยากกว่า ถ้าขาดการฝึกซ้อมเมื่อไร คนอื่นจะแซงเราทันที แล้วโดยเฉพาะให้มองหารุ่นน้องที่มีแวว ฝึกซ้อมสำรองเอาไว้ด้วย เพราะว่าทุกคนโตขึ้นไปทุกวัน ท้ายที่สุดพอเรียนจบที่นี่แล้ว ก็ต้องไปต่อโรงเรียนอื่น ไม่สามารถที่จะรวมทีมกันได้เหมือนเดิมอีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-07-2023 เมื่อ 01:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 12-07-2023, 00:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,566
ได้ให้อนุโมทนา: 151,678
ได้รับอนุโมทนา 4,410,894 ครั้ง ใน 34,156 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องพวกนี้ เราท่านทุกคนต้องตระหนักไว้ให้ดี คือการประสบความสำเร็จนั้นไม่ใช่ของยาก ใครที่มีความพากเพียร มีความอดทน ประสบความสำเร็จได้ทุกคน แต่ทำอย่างไรจะรักษาความสำเร็จนั้นให้ยาวนาน เป็นเรื่องที่ยากมาก เราจะเห็นว่า บรรดาผู้ที่ประสบความสำเร็จ เอาง่าย ๆ แค่ในวงการกีฬา พอมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา หลายต่อหลายคนก็เสียผู้เสียคนไปเลย เนื่องเพราะว่าจัดการกับตัวเองไม่ถูก หลงระเริงไปกับ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ที่เข้ามา แล้วก็จะมีปัญหากันทุกคน

อยากจะยกตัวอย่างดาราคนหนึ่งก็คือ คีอานู รีฟส์ เป็นดาราที่ประสบความสำเร็จมาก ไม่ว่าจะในเรื่อง เดอะ เมทริกซ์ หรือว่า จอห์น วิค ก็ตาม แต่คีอานู รีฟส์นั่งรถเมล์ นั่งรถไฟ เดินเท้า เขาไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องไปซื้อข้าวของอะไรแพง ๆ เลย

ขณะเดียวกัน นักกีฬาบางคน พอประสบความสำเร็จ ชื่อเสียงโด่งดัง ซื้อรถหรูราคาแพง ๆ คนหนึ่งสามคันสี่คัน คีอานู รีฟส์ เอาเงินไปทำอะไร ? เขาบริจาคช่วยสารพัดเรื่อง บางทีก็เอาไปให้ทีมช่างแต่งหน้า แต่งผม ทีมสตันท์แมนที่ช่วยงานเขา อยู่ในลักษณะเป็นเงินพิเศษให้กับทีมงานที่ค่อนข้างจะได้เงินน้อย แต่ตัวเองเป็นซูเปอร์สตาร์ เล่นหนังเรื่องหนึ่งรับเงินมา ก็ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมดอยู่แล้ว

หรือไม่ก็มีนักฟุตบอลอยู่คนหนึ่ง กระผม/อาตมภาพจำชื่อไม่ได้ เพราะไม่ใช่แฟนบอล ใช้โทรศัพท์หน้าจอแตกยับเยิน ลายเป็นใยแมงมุม แต่ค่าตัวเดือนละ ๓๐๐,๐๐๐ ปอนด์..! เพื่อนถามว่าทำไมไม่เปลี่ยนโทรศัพท์ ? เขาบอกว่าไม่มีความจำเป็น ยังใช้งานได้อยู่ เขาเอาเงินไปช่วยเด็ก ๆ ทางบ้านเขาให้ได้เรียนหนังสือ แจกเงินเดือนคนหมู่บ้านเดียวกันกับเขาทั้งหมู่บ้าน แม้ว่าจะแค่ ๗๐ ปอนด์ต่อคน ต่อเดือนก็ตาม แต่ว่าช่วยให้เศรษฐกิจของทั้งหมู่บ้านดีขึ้น

เขาบอกว่าเขาเป็นคนจนมาก่อน เพราะฉะนั้น..เรื่องข้าวของหรูหราอะไรไม่มีความจำเป็นสำหรับเขา หากแต่ว่าการช่วยเหลือคนอื่นให้พ้นจากความลำบากยากจน จึงเป็นหน้าที่ที่เขาควรจะทำ กำลังใจพวกนี้ ท่านจะเห็นว่ามาสายพระโพธิสัตว์แน่ ๆ แต่ว่าเขาทั้งหลายเหล่านี้จะรู้ตัวหรือว่าไม่รู้ตัวก็ตาม เขาได้ทำหน้าที่นั้นอย่างเต็มที่แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-07-2023 เมื่อ 02:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 12-07-2023, 00:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,566
ได้ให้อนุโมทนา: 151,678
ได้รับอนุโมทนา 4,410,894 ครั้ง ใน 34,156 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้ก็มาวัดกับพวกเราที่ถือว่าเป็นนักปฏิบัติธรรมแล้ว กลับสู้เขาไม่ได้ เพื่อนของกระผม/อาตมภาพบางคนนี่ เปลี่ยนโทรศัพท์รุ่นใหม่ทุกครั้งที่ออก เปลี่ยนรถใหม่ป้ายแดงเกือบทุกปี อย่าลืมว่านักบวชของเรา พระพุทธเจ้าจัดสถานภาพให้อยู่ในลักษณะของขอทาน ปัจจัย ๔ ได้มาจากการขอจากผู้อื่น ขอทานถ้าร่ำรวย ก็ไม่มีใครสนใจให้ทาน

เพราะฉะนั้น..พวกท่านอาจจะเห็นว่ากระผม/อาตมภาพช่วยที่นั่นช่วยที่นี่ ช่วยไปเรื่อย จนกระทั่งเพื่อนพระสังฆาธิการหลายต่อหลายรูปมาขอยืมเงิน แล้วกระผม/อาตมภาพบอกว่าไม่มี โดยบอกกับเขาไปว่า "ผมเป็นคนใช้เงินไม่คิด พรุ่งนี้จะมีหรือไม่ ไม่ได้อยู่ในหัวเลย ส่วนใครที่ไม่ได้ใช้เงินลักษณะแบบผม พูดง่าย ๆ ว่า ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย มีเงินทุกคนแหละ ไปยืมเขาตรงโน้นเถอะ"

เมื่อวานนี้เถ้าแก่ยุง (นายพยุง เพ็งเลา) เจ้าของร้านทองผาภูมิอิงค์เจ็ท มาเก็บค่าป้ายประชาสัมพันธ์คร่อมถนน ก็คงจะซาบซึ้งดี เพราะว่ากระผม/อาตมภาพควักแทบจะบาทสุดท้าย วันนี้แม่ชีชื่นเบิกค่าไฟฟ้า ยื่นบิลมาก็คือ ๔๘,๐๐๐ กว่าบาท แต่ขอเบิกแค่ ๓๙,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือจะเอาเงินที่ได้จากตู้สังฆทานไปผสม แล้วท่านบางคนก็จะเห็นว่า ๓๙,๐๐๐ บาท ที่กระผม/อาตมภาพให้ไปนั้น แทบจะเป็นแบงค์ยี่สิบล้วน ๆ..! พูดง่าย ๆ ว่าควักให้จนหมดตัว..!

เรื่องพวกนี้ไม่ใช่กระผม/อาตมภาพทำแบบนี้คนเดียว ท่านเจ้าคุณอาจารย์บุญชิต - พระธรรมวชิรมุนี วิ., รศ.ดร. (บุญชิต ญาณสํวโร ป.ธ.๙) เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการสถาบันวิปัสสนาธุระ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ท่านก็ทำแบบนี้

ท่านเจ้าคุณอาจารย์บุญชิตท่านหนักกว่าอีก ก็คือถ้าเงินมาวันนี้ต้องใช้ให้หมดในวันนี้ ท่านไปที่ไหนก็ควักกระเป๋าร่วมงานบุญกับเขาเท่าที่มี ได้มากก็ให้มาก ตรงนั้นก็โชคดีไป ได้น้อยก็ให้น้อย แล้วท่านยังเป็นพระเถระระดับเจ้าคุณชั้นธรรม เป็นเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ที่ออกบิณฑบาตทุกวันอีกด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-07-2023 เมื่อ 02:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 12-07-2023, 00:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,566
ได้ให้อนุโมทนา: 151,678
ได้รับอนุโมทนา 4,410,894 ครั้ง ใน 34,156 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านสอนเอาไว้ว่า "อย่าให้มีเงินเหลือ เงินปีนี้อย่าให้มีข้ามไปถึงปีหน้า ถ้ามีเงินเหลือข้ามถึงปีหน้า ให้คิดหางานที่มากกว่าเงินทำเข้าไว้ เวลาเงินมาถึง เราจะได้ไม่คิดว่าเป็นของเรา" ไม่เช่นนั้นแล้วพระภิกษุสามเณรของเรา เสียหายไปเท่าไรไม่รู้เท่าไรก็เพราะเรื่องเงิน

ท่านจะเห็นว่าอดีตเจ้าคุณวัดป่าที่ถูกฟ้อง เสียหายเรื่องเงินไปชนิดที่เรียกว่ามีเป็นร้อยล้าน นั่นท่านใช้เงินไม่เป็น ถ้าใช้เงินเป็นเหมือนกระผม/อาตมภาพ จะไม่พลาดแบบนั้นหรอก

หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านบอกว่า เสือสองตัว คือ สตางค์กับสตรี พาพระเณรเสียง่ายที่สุด มีสตางค์เมื่อไรสตรีจะมา ถ้ามีแต่บัญชีติดตัวแดงอย่างกระผม/อาตมภาพ เขาไม่มาให้เสียเวลาหรอก มาก็ไม่ได้เงิน ที่อื่นนี่เขาถึงขนาดวางแผน ทำอย่างไรที่จะส่งคนของตัวเองเข้าไป ถึงขนาดตั้งกันเป็นขบวนการ แล้วก็มาใช้คำว่า "นารีพิฆาต" ไม่จริงหรอกครับ..ถ้าหากว่าเราไม่มีเงิน เขาไม่มาให้เสียเวลาหรอก

เรื่องพวกนี้เราที่เป็นนักปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะพระภิกษุ สามเณร แม่ชี ต้องตระหนักเอาไว้ ครูบาอาจารย์ที่ท่านทำตัวเป็นตัวอย่างมีให้เห็นอยู่แล้ว ส่วนเราท่านทั้งหลายจะทำอย่างไรก็เชิญเลือกกันเองตามอัธยาศัย

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๑๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-07-2023 เมื่อ 02:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 47 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:46



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว