กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เรื่องเล่าต่าง ๆ โดยพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > มิงกะละบาร์ เมียนมาร์

Notices

มิงกะละบาร์ เมียนมาร์ มิงกะละบาร์ เมียนมาร์ โดยพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 22-01-2013, 21:10
คิมหันต์ คิมหันต์ is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 663
ได้ให้อนุโมทนา: 26,519
ได้รับอนุโมทนา 88,317 ครั้ง ใน 1,256 โพสต์
คิมหันต์ is on a distinguished road
Default มิงกะละบาร์ เมียนมาร์ ตอนที่ ๔

แม่นแล่วละตี๊...มาลาเรียอีหลีเด๊...ฝืนใจลุกขึ้นภาวนา ต่อด้วยทำวัตรเช้า อุทิศส่วนกุศล ญาติโยมแห่กันมาใส่บาตรแต่เช้า ฉันยาพอนไดโอพินลงไปรวดเดียว ๒ เม็ด จากนั้นนอนเมายาไปเกือบสามโมงเช้า พอโงเงขึ้นมาได้ครูบาน้อยก็ชวนไปดูเขาปั้นอิฐกัน

ทางพม่าไม่มีอิฐสำเร็จรูปวางขาย ต้องการใช้เท่าไรก็จ้างเขาปั้นเอา ผู้ใหญ่องไลสละที่นาของตนให้เขาขุดดินไปปั้น และขอแรงลูกบ้าน ๑๐๐ ครอบครัว ช่วยหาฟืนสำหรับเผาอิฐครอบครัวละ ๔ เกวียน รวม ๔๐๐ เกวียนต่ออิฐ ๔๐๐,๐๐๐ ก้อน ราคาก้อนละ ๓.๔๐ จั๊ต

เฉพาะอิฐอย่างเดียวเป็นเงินหนึ่งล้านสามแสนหกหมื่นจั๊ตเข้าไปแล้ว หม่องอ่องโซเป็นผู้รับเหมา (อ่อง = ชนะ, โซ = กล้าหาญ) ยังไม่ทันจะขยับออก คุณวีรชัยก็ยิ้มฟันขาวมาแต่ไกล แกเป็นแขกลังกา บรรพบุรุษถูกกวาดต้อนมาสมัยอังกฤษยึดครองพม่า ตัวแกเองเกิดที่บ้านหนองบัวนี่แหละ

ครูบาน้อยนัดจ่ายค่าแรงเป็นงวด งวดละหนึ่งแสนห้าหมื่นจั๊ต สิบวันจ่ายที งวดนี้ไปไทยเสียสิบห้าวัน คุณมืดวีรชัยคงร้อนใจเต็มที อาตมาให้ท่านนาวินบอกกับเขาให้เบาใจว่า ครั้งนี้มีเงินมาเหลือพอที่จะจ่ายค่าอิฐทั้งหมดเลยทีเดียว แกจึงยิ้มอย่างสบายใจ
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-01-2013 เมื่อ 02:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 94 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 22-01-2013, 21:13
คิมหันต์ คิมหันต์ is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 663
ได้ให้อนุโมทนา: 26,519
ได้รับอนุโมทนา 88,317 ครั้ง ใน 1,256 โพสต์
คิมหันต์ is on a distinguished road
Default

พระทุกรูปเดินผ่านหมู่บ้าน จากนั้นลัดทุ่งไปยังจุดที่หม่องอ่องโซตั้งกองปั้นอิฐอยู่ อิฐเตาแรกประมาณเจ็ดหมื่นห้าพันก้อนเผาเสร็จแล้ว เตาที่สองประมาณหนึ่งแสนก้อนกำลังรอเผาอยู่ ส่วนที่ตากเรียงรายไปทั้งทุ่งยังมีอีกหลายหมื่นก้อน

กระท่อมน้อยมุงด้วยใบตาลแบบอยู่ชั่วคราวเรียงรายอยู่หลายหลัง จุดที่ผลิตทำเป็นเพิงหลังใหญ่ไม่มีฝา คนงานทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แบ่งออกเป็นหกชุดด้วยกัน ชุดแรกขุดดินท้องนามาใส่เครื่องบดอัด เพื่อนวดดินให้เหนียวได้ที่ ชุดที่สองคอยไล่วัวให้หมุนเครื่องบดอัดดิน พอดินล้นออกมา ชุดที่สามก็ตักใส่รถเข็นส่งไปให้ชุดที่สี่

ชุดที่สี่ ชุดที่ห้า และชุดที่หก แบ่งออกเป็นสามจุดด้วยกัน ชุดที่สี่ปั้นดินเป็นแท่งกลมยาวได้ขนาด ชุดที่ห้าซัดฝุ่นกันดินติดแบบ แล้วเอาแท่งดินทุ่มพลั่กลงในแบบ ใช้ลวดปาดตัดส่วนเกินคืนให้ชุดที่สี่ ชุดที่หกซัดฝุ่นใส่แผ่นรองอิฐ เอาอิฐเปียกวางเรียงลงแล้วเข็นไปเรียงตากแดด

อาตมาและทุกรูปชมการผลิตอย่างเพลิดเพลิน พวกเขาทำงานกันน่ารวยจริง ๆ ประมาณสามวินาทีจะได้อิฐสามก้อนจากสามจุดพร้อมกัน ไม่มีแรงงานสูญเปล่าแม้แต่น้อย ขนาดเด็กอายุสามขวบห้าขวบยังช่วยต้อนวัว ช่วยเรียงอิฐ บางคนกำลังหัดปั้นดินเป็นแท่งบ้าง ดูท่าว่าอนาคตไกลกันทั้งนั้น ไกลจากบ้านเกิดเมืองนอนนะ..!
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-01-2013 เมื่อ 02:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 89 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 22-01-2013, 21:17
คิมหันต์ คิมหันต์ is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 663
ได้ให้อนุโมทนา: 26,519
ได้รับอนุโมทนา 88,317 ครั้ง ใน 1,256 โพสต์
คิมหันต์ is on a distinguished road
Default

หลังจากถ่ายรูปทุกขั้นตอนของการผลิต คุณวีรชัยนำอาตมากับครูบาน้อยไปตรวจผลงานจากเตาเผาแรก อิฐพม่าก้อนโตกว่าอิฐไทยถึงสามเท่าเศษ อาตมาหยิบก้อนบนสุดขึ้นมาฟันด้วยสันมือ ฉับเดียวหักสะบั้น..! ทำไมเปราะขนาดนี้วะ..?

หม่องลังกาหยิบก้อนใหม่ส่งให้ อาตมารับมาฟันฉับ แฮ่..มือแทบหัก..! ที่แท้อาตมาเสียดายของ ไม่กล้าหยิบก้อนสวย ๆ มาลอง ไปหยิบก้อนปิดหน้าที่ถูกเผาดำปี๋มาแทน พวกก้อนบนสุดจะสุกแค่ครึ่งเดียวจึงเปราะ เตาต่อไปเขาจะเอาก้อนบนนี้เรียงไว้ข้างในเพื่อเผาต่อ

ตรวจงานเรียบร้อยแล้วเดินกลับ ไอ้หมาเลียมันทำพิษ ระยะทางแค่นี้จะเดินไม่ถึงเอา กลับถึงวัดพบครูบาอินพานมารออยู่ ไม่นึกว่าท่านจะกล้ามาอีก เพราะได้ข่าวว่าไปใส่ไฟอาตมากับท่านนาวินจนยับเยิน แต่อาตมาไม่ได้ใส่ใจ ยังคงทักทายท่านตามปกติ

ครูบาอินพานเป็นลูกบ้านหนองบัว ตอนพระอาจารย์แสง เจ้าอาวาสวัดหนองบัวรูปก่อนหนีไปอยู่ไทย เขาประชุมกันเพื่อหาคนแก่มาบวชเฝ้าวัด ครูบาอินพานจับได้สลากต้องบวช แต่ท่านทนลำบากไม่ไหว หนีข้ามไปฝั่งไทยเหมือนกัน ประจวบกับท่านนาวินบวชที่ฝั่งไทยได้ครบพรรษา ชาวบ้านทราบข่าวจึงไปนิมนต์ครูบาน้อยมาเป็นเจ้าอาวาสแทน ปิดหนทางกลับของครูบาอินพานไปเลย..!
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-01-2013 เมื่อ 02:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 94 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 29-01-2013, 23:00
คิมหันต์ คิมหันต์ is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 663
ได้ให้อนุโมทนา: 26,519
ได้รับอนุโมทนา 88,317 ครั้ง ใน 1,256 โพสต์
คิมหันต์ is on a distinguished road
Default

ครูบาน้อยเป็นคนทำอะไรทำจริง ค่อย ๆ พัฒนาวัดมาเป็นลำดับ พอดีอาตมาได้มาพบท่านเข้า ชอบในอัธยาศัย จึงทุ่มเทเงินทองมาให้ท่านสร้างวัด ตั้งเป้าหมายว่าจะสร้างใหม่ทุกอย่าง เพื่อทดแทนของเก่าที่อายุเกือบสี่ร้อยปีทั้งหมด

สองแรงแข็งขันบวกกับความศรัทธาจากชาวบ้าน ที่เชื่อในความเอาจริงเอาจังของครูบาน้อย ทำให้กฐินวัดหนองบัวทำยอดเงินสูงสุดในอำเภอสองแควมาติดกันสองปีแล้ว โดยเป็นเงินจากชาวบ้านล้วน ๆ ไม่ได้นับรวมกับที่อาตมาช่วยเลยแม้แต่น้อย

เมื่อเป็นเช่นนี้ครูบาอินพานก็กลับมา แต่ความประพฤติที่ขนเงินขนของไปให้ญาติของตัว ทำให้ชาวบ้านไม่ยินดีต้อนรับ ท่านอยากได้ผลประโยชน์แต่ไม่ได้อย่างใจ จึงคอยกีดมือขวางเท้ามาเรื่อย แต่อาตมากับท่านนาวินทำเฉยเสีย

มาคราวนี้ท่านนาวินได้เงินจากอาตมาพอสมควร จัดการรื้อศาลา หอพระ ลงฐานลงเสาของใหม่เสียใหญ่โต จนจากที่อาตมาตั้งงบไว้ยี่สิบแสนพม่า ชาวบ้านร้านตลาดเอาไปลือกันว่าจะทำในราคาสองร้อยแสน..!
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-01-2013 เมื่อ 02:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 78 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 29-01-2013, 23:03
คิมหันต์ คิมหันต์ is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 663
ได้ให้อนุโมทนา: 26,519
ได้รับอนุโมทนา 88,317 ครั้ง ใน 1,256 โพสต์
คิมหันต์ is on a distinguished road
Default

ครูบาอินพานได้ทีจึงถล่มอาตมากับครูบาน้อยจนยับเยิน ว่าเงินขนาดนี้ตายแล้วเกิดใหม่ก็ไม่มีทางหาได้ ศาลาดี ๆ รื้อลงมาแล้วทำไว้แต่ตอม่อ ชาวบ้านจะใช้ก็ไม่ได้ใช้ เดือดร้อนท่านสุมังคะละต้องมายืนยันกับครูบาญาณ เจ้าคณะแขวงสองแควแทนอาตมา

เมื่อท่านสุมังคะละบอกว่า อาตมาสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมเกาะพระฤๅษีทั้งหมดเสร็จสิ้นในปีเดียวเท่านั้น อย่าว่าแค่วัดหนองบัวที่อาตมาจะทำให้เสร็จภายในสามปีเลย ท่านเสียท่าไม่อาจอยู่สู้หน้า จึงหนีไปอยู่วัดสองแคว เดือดเนื้อร้อนใจจนไปขอลาสึก แต่ครูบาญาณไม่ยอมสึกให้..!

ท่านมาขอให้ท่านสุโภคะสึกให้แต่ไม่สำเร็จอีก คราวนี้มาจะนำความเดือดร้อนอะไรมาให้อีกก็ไม่รู้..? ท่านขึ้นศาลามากราบ อาตมาปฏิสันถารตามปกติ ท่านก็คุยด้วยดี พอฉันเพลครูบาน้อยมาร่วมวง ท่านกลับเงียบสนิทเป็นพิรุธขึ้นมาเอง

ตอนบ่ายอาตมาตระเวนถ่ายรูปสิ่งก่อสร้างทั้งที่เสร็จและไม่เสร็จ ครูบาน้อยง่วนอยู่กับหนังสือนิมนต์พระมาวางศิลาฤกษ์ในวันศุกร์ ขึ้นเก้าค่ำ เดือนยี่ ท่านญาณะกับท่านจันทะไปเยี่ยมญาติ ครูบาอินพานทนเงียบไม่ไหวหายเข้าบ้านโยมตัวเองบ้าง

จนทำวัตรเย็นท่านก็ไม่มาร่วมทำวัตร เห็นหอบเสื่อหอบหมอนไปนอนในศาลาพระนอน “คงอยากให้อาจารย์สึกให้ แต่ติดที่ผมอยู่ด้วย เลยไม่กล้าเอ่ยปาก...” ท่านนาวินว่า “เฮ้อ...ช่างน่าสงสารแท้ ๆ ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว

คลิกเพื่ออ่านตอนต่อไป
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย คิมหันต์ : 11-02-2013 เมื่อ 20:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 72 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ

ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:40



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว