กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 04-05-2011, 01:04
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,411
ได้รับอนุโมทนา 206,448 ครั้ง ใน 3,180 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default ดับตั้งแต่เหตุ

ถาม : ในจิตเรามุ่งว่า ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายที่เราจะไปพระนิพพาน..ใช่ไหมครับ ? แล้วอะไรที่จะเข้ามาก็ให้จิตเรารู้ทัน ?
ตอบ : ไม่ใช่..คือว่าอะไรเกิดขึ้นก็ตาม ต้องพยายามใช้ปัญญาดูให้รู้ถึงเหตุนั้น ๆ

เช่น เงินนี่ถ้าเราสักแต่เห็นว่าเป็นเพียงธาตุ ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม เป็นกระดาษแผ่นหนึ่ง สิ่งนี้ก็คือเงิน จะทำอันตรายเราไม่ได้ แต่เราไปคิดต่อว่า เงินนี้เอาไปซื้อของเสียหน่อยก็ดี ซื้อข้าวกิน เออ...ดี เดี๋ยวจะไปกินร้านนั้น เพราะอาหารอร่อย..มีคนชวนชิม นั่น..กิเลสเริ่มเกิดแล้ว เราเคยชวนสาวไปกินร้านโน้นนี่ เอ้า..ยิ่งหนักเข้าไปอีก

ตัวราคะ โลภะ โทสะ โมหะ จะระดมมาเลย..ใช่ไหม ? ไปซื้อยาบ้าเสียหน่อยก็ดี ยิ่งหนักเข้าไปอีก เงินตัวเดียวถ้าคุณหยุดได้ แค่นี้ก็จบ ไม่อาจจะทำอันตรายอะไรได้

เราต้องตัดตั้งแต่ต้นเหตุ แต่ถ้าหากว่าเราสืบสาวราวเรื่องด้วยการปรุงแต่งด้วยจิตสังขาร เรื่องก็จะกว้างออกไปเรื่อย จนกระทั่งกลายเป็นไฟไหม้ป่า ไม่สามารถที่จะดับได้ แต่ถ้าเรารู้ต้นเหตุว่า สะเก็ดไฟนิดเดียวนี้ ถ้าเราปล่อยก็จะลาม เราก็รีบดับเสีย ก็หมดปัญหาไป

เพราะฉะนั้น..พระพุทธเจ้าท่านถึงได้ตรัสว่า "สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเกิดแต่เหตุ ตถาคตตรัสถึงเหตุและความดับแห่งธรรมนั้น" พระอัสสชิท่านว่า "เย ธัมมา เหตุปัพพวา เตสัง เหตุง ตถาคโต เตสัญจะ โย นิโรโธ จะ เอวัง วาที มหาสมโณ" ต้องดับตั้งแต่เหตุ ทุกอย่างอยู่ที่เหตุทั้งนั้น

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-10-2015 เมื่อ 17:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 119 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 04-05-2011, 01:12
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,411
ได้รับอนุโมทนา 206,448 ครั้ง ใน 3,180 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default

ถาม : เรารู้ว่าเป็นเงิน แต่เราพิจารณารู้อยู่ว่าเป็นโทษมาก แต่เราก็ต้องใช้ ?
ตอบ : ไม่ใช่คิดอย่างนั้น ปัญญาจะเกิดรู้ตลอดเลยว่า ถ้าเราคิดจะเป็นอย่างไร จะทำให้ รัก โลภ โกรธ หลง เราก็หยุดคิด

ถ้าเราหยุดความคิดได้ทัน กิเลสจะโดนจำกัดเขต ไม่สามารถที่จะงอกงามได้ ก็เลยกลายเป็นว่ารู้สักแต่ว่ารู้ เห็นสักแต่ว่าเห็น ได้ยินสักแต่ว่าได้ยิน

แต่ถ้าหากว่าเราไปเผลอคิดเมื่อไรก็จะพาเละเลย ต้องหยุดคิดให้ได้

ถาม : แต่ถ้าเราจะใช้ประโยชน์ เช่น เราไปซื้อข้าวกินแค่นั้นเอง ?
ตอบ : ก็แค่ประโยชน์เฉพาะหน้าแค่นี้เอง จบแล้วจบกันไม่ต้องไปคิดอะไรต่อ จะเห็นเหตุเลยว่าถ้าเราคิดแล้วจะเป็นทุกข์อย่างไร ก็หยุดเอาไว้แค่นั้นเลย

เหมือนกับแจกันดอกไม้ เราเอาไปไหว้พระ เอาไปบูชาครูบาอาจารย์ ก็ดี..ใช่ไหม ? กุหลาบแดงในแจกันเราเคยเอาไปให้สาว..ไปโน่นแล้ว..ใช่ไหม ? พอมองไปอีกที เราจะซื้อกุหลาบ แต่ดอกที่สวยกว่าโดนเขาซื้อตัดหน้าไป กลายเป็นโทสะไปอีกแล้ว

ยิ่งคิดก็ยิ่งกว้างออกไปเรื่อย แต่ถ้าเรารู้ทัน หยุดความคิดได้ กิเลสก็หยุดหมด ดับหมด


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ

ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๕

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-10-2015 เมื่อ 17:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 114 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ

Tags
วิปัสสนา


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:50



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว