กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 08-08-2016, 08:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,029 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนสิงหาคม ๒๕๕๙

ถาม : โดยปกติหนูจะสวดพระคาถาเงินล้านทุกวัน วันละ ๓๐๐ จบ เนื่องจากไม่ได้ทำงาน หลังจากที่สวดพระคาถาเงินล้านมาได้ระยะหนึ่ง ก็เกิดความคล่องตัวทั้งเรื่องงาน เรื่องเงินพอสมควร แต่ถ้าหนูทำงานคงไม่มีเวลาสวดพระคาถาเงินล้านได้วันละ ๓๐๐ จบเท่าเดิมแน่นอนเจ้าค่ะ หากหนูจะลดจำนวนลงเหลือเพียงวันละ ๑๐๘ จบ จะมีผลให้ความคล่องตัวเรื่องงาน เรื่องเงินลดลงไหมเจ้าคะ ? ควรทำอย่างไรคะ ?
ตอบ : ถ้ากังวลก็ลดจำนวนลงได้ เพราะสภาพจิตไม่เป็นสมาธิเท่าเดิมแล้ว ความจริงจะทำการทำงานอะไรก็ภาวนาได้อยู่แล้ว เพียงแต่พวกเราไม่ค่อยจะซักซ้อมให้คล่องตัว จึงมักจะภาวนาได้เฉพาะเวลาที่นั่งเฉย ๆ

การยืน เดิน นั่ง นอน ดื่ม กิน คิด พูด ทำอะไรก็ตาม ถ้าเราภาวนาควบไปด้วย เป็นเรื่องที่สามารถทำได้และไม่ยากเกินไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2016 เมื่อ 10:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 235 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 08-08-2016, 08:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,029 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เกี่ยวกับศีลข้อสอง ตอนสมัยเรียนหนังสือ ได้ทำการถ่ายเอกสารหนังสือเรียนไว้หลายเล่ม เนื่องจากตอนนั้นไม่ได้สนใจเรื่องของศีลมากนัก พอมาตอนหลังกำลังจะไปเรียนต่อ มาเห็นหนังสือที่ถ่ายเอกสารไว้ ไม่ทราบว่าควรจะทำอย่างไร หรือควรจะนำไปทิ้ง หรือทำลาย ?
ตอบ : ถ้าคิดมากเกินไปก็เอาไปชั่งกิโลขาย หรือไม่ก็ไปซื้อหนังสือใหม่เสียก็หมดเรื่อง ของเก่าที่ถ่ายเอกสารไว้ก็ตั้งไว้เฉย ๆ เอาไว้เป็นที่ระลึก

ถาม : สมัยที่เกณฑ์ทหาร เพื่อนทหารที่ย้ายสังกัด หรือวันที่ปลดประจำการ ได้ทิ้งของใช้ เช่น ถังน้ำ ผ้าห่ม ไว้ตามตึก ตามโรงนอน ของเหล่านี้จะถือว่าได้กลายเป็นของหลวงแล้วหรือไม่ ? ถ้าเรานำมาใช้ที่บ้านจะเป็นการผิดหรือไม่ ?
ตอบ : ไม่เป็นของหลวง แต่ไม่ควรที่จะเอามาใช้ที่บ้าน การที่เขาทิ้งแสดงว่าเจ้าของเขาไม่ต้องการแล้ว แต่ทิ้งไว้ในสถานที่ไหนก็ควรจะไว้ในที่นั้น ไม่ใช่เราไปกอบโกยกลับมาไว้ที่บ้านตัวเอง

ถาม : หากเรานำของหลวงมาใช้ ทั้งที่ตั้งใจก็ดี ไม่ได้ตั้งใจก็ดี สามารถชดใช้หนี้โดยการบริจาคให้กับมูลนิธิของหลวง หรือโครงการในพระบรมราชูปถัมภ์ เช่น ราชประชานุเคราะห์ สายใจไทย ได้หรือไม่ แล้วก็ใช้ของเหล่านั้นต่อไป ?
ตอบ : เรียกว่าทดแทนกันไป...ว่าอย่างนั้นเถอะ เอาที่คุณสบายใจก็แล้วกัน ของหลวงก็เหมือนกับสังฆทาน เพราะเป็นของเพื่อประชาชนทั้งประเทศ ถ้าติดใจว่าเราไปเอาของหลวงมาใช้ เป็นการเบียดบังทรัพย์สินของหลวง ได้บริจาคคืนมูลนิธิที่เป็นของหลวงไปก็นับว่าทำถูกต้องแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2016 เมื่อ 10:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 225 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 08-08-2016, 08:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,029 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หากมีความจำเป็นที่จะต้องช่วยบิดาหรือมารดาตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด โดยใช้เครื่องมือที่ใช้เข็มเจาะเลือดและเราต้องเป็นผู้ที่ลงมือเจาะเลือด อยากทราบว่าในกรณีนี้กรรมจะส่งผลลบกับตัวของบุตรที่เจาะเลือดให้บิดาหรือมารดาหรือไม่ โดยที่บุตรได้รับอนุญาตและได้รับคำสั่งให้ทำหน้าที่นี้ ถ้ามีผลลบเกิดขึ้น กราบขอคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมด้วยครับ ?
ตอบ : เรียกว่ากังวลเกินไป ถ้าเขาบอกให้เจาะเลือดแล้วคุณใช้มีดกรีดเอาก็ว่าไปอย่าง ในเมื่อเป็นการรักษาและได้รับการอนุญาตแล้วก็เป็นอันไม่มีกรรมต่อกัน ยังจะพยายามคิดหานรกอีก...!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2016 เมื่อ 10:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 08-08-2016, 08:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,029 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กระผมจะออกวิ่งเพื่อลดน้ำหนักตอนเย็น โดยเวลาวิ่งจะภาวนาคาถาเงินล้านสลับกับบทสวดพระจักพรรดิของหลวงปู่ดู่ โดยรู้สึกว่า ขณะที่วิ่งไปและภาวนาไปด้วยรู้สึกว่าอารมณ์ไม่ส่ายไปไหน จะจับจุดกับคำภาวนามาก แต่ไม่ได้จับลมหายใจเข้าออก เพราะเวลาวิ่งจะหายใจแรงและเร็วครับ อยากจะกราบเรียนถามหลวงพ่อว่าจะมีผลไหมครับ ? สำหรับการภาวนาในขณะวิ่งครับ
ตอบ : ถ้ามีสติอยู่ตลอดถือว่าเป็นการภาวนาเหมือนกัน ความจริงอาตมาหากินทางวิ่งภาวนามาหลายปี ขอยืนยันว่าถ้าทำจนคล่องตัวจริง ๆ และสามารถจับลมหายใจไปด้วยได้ ทำให้เหนื่อยช้าลงหลายเท่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2016 เมื่อ 10:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 08-08-2016, 09:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,029 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมอยากเรียนถามว่า พระเจ้าจักรพรรดิชื่อ "มันตุราช" ทำบุญอะไร จึงเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวในพระไตรปิฎก ที่สามารถขึ้นไปครองสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ได้ และมีอายุนานถึง ๑ อสงไขยครับ ?
ตอบ : "พระเจ้ามันตุราช" ไม่ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดินะ พระเจ้ามันตุราชเป็นต้นตระกูลองค์หนึ่งของพระพุทธเจ้า กว่าจะมาถึงเจ้าชายสิทธัตถะ น่าจะเป็น "พระเจ้ามันธาตุราช" มากกว่า

ต้องไปถามท่านเองว่าทำบุญอะไรมา เพราะว่าท่านไม่ได้ครองแค่ดาวดึงส์เฉย ๆ ในพระไตรปิฎกบอกว่า เมื่อพระเจ้ามันธาตุราชได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิแล้ว ยึดครองทวีปทั้งสี่ มีทวีปน้อยอีกสองพันเป็นบริวาร ก็แปลว่ายึดดวงดาวไปอย่างน้อยก็สองพันดวง ท่านก็ยังรู้สึกว่าไม่พอ ถามบรรดาเสวกามาตย์ว่ามีสมบัติอะไรที่ยิ่งไปกว่านี้อีก ? ข้าราชบริพารก็บอกว่าสวรรค์ ท่านจึงขึ้นจักรแก้วลุยขึ้นไป ท้าวมหาราชทั้งสี่ก็มอบราชสมบัติให้ ครองราชสมบัติจนกระทั่งเบื่อ ถามท้าวมหาราชว่ามีที่ดีกว่านี้อีกไหม ? ท้าวมหาราชก็บอกว่าต้องสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

พอขึ้นไปถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พระอินทร์ก็แบ่งสมบัติให้ครึ่งหนึ่ง ครองสมบัติร่วมกัน จนกระทั่งพระอินทร์จุติไปสามสิบกว่าพระองค์ ท่านเองยังไม่หมดอายุเลยนะ แล้วท่านก็เบื่อ คิดว่ามีอะไรยิ่งกว่านี้หรือเปล่า ? พอเกิดพระอินทร์องค์ใหม่ขึ้นมาอีกเพื่อครองสมบัติต่อ พระเจ้ามันธาตุราชอยากจะได้สมบัติคนเดียว ไม่ต้องแบ่งครึ่ง จึงคิดไม่ดีจะทำร้ายพระอินทร์องค์นั้น ตนเองก็เลยร่วงตกกลับมาที่โลกมนุษย์ตามเดิม บรรดาเสวกามาตย์เห็นเข้า อาตมารับประกันว่าไม่เคยรู้จักหรอก ขนาดพระอินทร์ยังผ่านไปสามสิบกว่าพระองค์ แต่เขาก็รู้ว่านี่คือพระเจ้าจักรพรรดิ จึงถามว่าจะให้ปฏิบัติกับพระองค์อย่างไร ท่านก็บอกว่าท่านแก่มากแล้ว ใกล้จะตายแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2016 เมื่อ 10:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 08-08-2016, 09:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,029 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนที่อยากจะบอกกับทุกท่านก็คือ ความอยากของคนไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าไม่สามารถควบคุมความอยากได้ ชีวิตนี้จะหาความสุขที่แท้จริงไม่ได้ แล้วจะเดือดร้อนเหมือนกับพระองค์ท่านเอง

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประชุมชาดกว่า พระเจ้ามันธาตุราชนั้นเกิดมาเป็นตถาคตในปัจจุบันนี้ ท่านไม่ได้บอกรายละเอียดว่าทำบุญอะไรไว้ แต่บุคคลที่จะเป็นพระเจ้าจักรพรรดินั้น ต่ำสุดต้องเคยถวายสังฆทานไว้ในพุทธศาสนา ถ้าใครอยากเป็นก็สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ๆ หน้าตักสัก ๔ ศอกก็ได้แล้ว ไม่ได้เป็นครั้งเดียวด้วย เป็นจนเบื่อไปเอง

อย่าจำสับสนกันนะ พระเจ้ามันธาตุราช กับ พระเจ้ามันตุราช เป็นคนละท่านกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2016 เมื่อ 10:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 08-08-2016, 16:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,029 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ข้าพเจ้าและบุตรของข้าพเจ้าสวดพระคาถาเงินล้านวันละ ๓๐๐ จบ บุตรของข้าพเจ้าสวดได้ประมาณ ๒๐ กว่าวัน ได้ถูกเรียกตัวให้ไปทำงานจากสถานที่ที่ได้ไปสมัครงานไว้หลายแห่ง และตอนนี้ได้ไปทำงานแล้ว แต่ไม่สามารถสวดครบ ๓๐๐ จบได้ โดยลดลงเหลือ ๑๐๘ จบ ส่วนตัวข้าพเจ้าเองสวดวันละ ๓๐๐ จบ โดยไม่ได้ขาด ผลปรากฏว่าในระยะ ๒ เดือนแรก จนถึงขณะปัจจุบันนี้ จากที่เป็นคนจ่ายเงินทุกอย่างอยู่คนเดียว กลับกลายเป็นว่ามีคนมาช่วยจ่ายให้บ้าง อาชีพของสามีรับจ้างซ่อมรถ จากที่ไม่ค่อยมีงานซ่อม ตั้งแต่ที่ข้าพเจ้าสวดพระคาถาเงินล้าน กลับมีงานเข้ามาแทบจะไม่ได้ขาด จึงอยากทราบว่า ข้าพเจ้าสวดพระคาถาเงินล้านแต่สามีไม่ได้สวด แต่ทำไมงานของสามีถึงได้เยอะ เกี่ยวข้องกับการที่ข้าพเจ้าสวดพระคาถาเงินล้านหรือเปล่า ?
ตอบ : เรื่องของพระคาถาเงินล้าน เป็นการอำนวยความคล่องตัวในเรื่องทรัพย์สินเงินทอง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครก็ตาม แต่ถ้าทำให้เราได้รับความสะดวกสบายจากทรัพย์สินนั้น ถือว่าเป็นผลของพระคาถาทั้งหมด

สามีคืออะไร ? ผัวหรือเปล่า ? คนข้างตัวแท้ ๆ กระเป๋าเงินของผัวก็กระเป๋าของเรานั่นแหละ ล้วงบ่อย ๆ หน่อยก็แล้วกัน

ถาม : ส่วนตัวข้าพเจ้าเองเชื่อในคำพูดของท่านในเรื่องของการสวดพระคาถาเงินล้าน โดยยังสวดวันละ ๓๐๐ จบ ไม่ได้ขาด ข้าพเจ้าหวังความไพบูลย์ของชีวิตเพราะยังมีหนี้สินอยู่ อยากมีความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิต อยากทราบว่าจะต้องทำอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ?
ตอบ : อยากทำจริงหรือ ? ถ้าอยากทำจริง ๆ ก็สวดภาวนาโดยจับลมหายใจไปด้วย จะได้ผลมากกว่านั้น นี่สักแต่ว่าสวดให้จบ ๆ ไปเท่านั้น ผลจึงน้อยไปนิดหนึ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2016 เมื่อ 17:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 08-08-2016, 20:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,029 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๙ เพื่อนชวนไปรับตุ๊กตาที่มีวิญญาณลูกของเขา ที่แท้งจากอุบัติเหตุคืนกลับมาจากหมอดูไพ่ยิปซี ที่อ้างว่าจะส่งวิญญาณไปเกิดให้ แต่กลับจะนำไปให้ผู้อื่นเช่าเป็นกุมาร ข้าพเจ้าถามเขาว่า เด็กตายก่อนอายุขัย ส่งไปเกิดได้ด้วยหรือ ? เขานิ่งไม่ตอบ แต่คืนให้ค่ะ

วันต่อมาข้าพเจ้าจะรู้สึกร้อนตามร่างกายมาก เหงื่อไหล หงุดหงิด อารมณ์เสียง่ายวันละหลาย ๆ ครั้ง ข้าพเจ้านึกถึงคาถาที่อ่านพบจากเก็บตกบ้านวิริยบารมี มาใช้เมื่อเกิดอาการดังกล่าวก็ลดลง ข้าพเจ้าตั้งใจบูชาพระขุนแผนเกราะเพชรตะกรุดทองคำ แต่เมื่อเกิดสิ่งผิดปกติกับร่างกายขึ้น จึงเปลี่ยนมาบูชาพระขุนแผนเกราะเพชรตะกรุดนากแทนค่ะ ได้รับวัตถุมงคลวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๙ และอาราธนาติดตัวทุกวัน อาการที่เกิดกับร่างกายลดลง ทำให้มั่นใจมากขึ้น

วันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๙ วันอาสาฬหบูชาไปทำบุญ นั่งฟังเทศน์จนเกิดเหน็บชาก็ยังไม่จบ จึงนำคำสอนหลวงพ่อช่วงกรรมฐานมาใช้ โดยดึงให้คำเทศนาไหลตามลมหายใจเข้าออกจนจิตนิ่ง รู้สึกได้ว่ามีร่างบางเบาร่างหนึ่ง ล้มออกจากตัวข้าพเจ้าไปทางขวามือ เมื่อกลับจากทำบุญ ขณะนั่งดูภาพงานบุญวัดท่าขนุน ก็มีเสียงดังที่อกด้านซ้าย คล้ายแรงดันให้ของกระเด็นออก บริเวณที่พระขุนแผนเกราะเพชรห้อยอยู่ ตรวจดูคิดว่าตะกรุดดีดตัวออกจากองค์พระ แต่คงอยู่ในสภาพปกติค่ะ

ข้าพเจ้าโดนทำของใส่หรือเปล่าคะ ? ปัจจุบันไม่มีอาการร้อนตามร่างกายแล้วค่ะ
ตอบ : ประการแรก...ถ้ารู้สึกร้อน หงุดหงิดง่าย เหงื่อออกบ่อย อารมณ์เสียวันละหลาย ๆ รอบ ต้องดูว่าอายุเกิน ๓๕ หรือเปล่า ? ถ้าเกินก็แสดงว่าเริ่มเป็นวัยทอง..! ประการที่สอง...จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมด มีแววเหมือนกันว่าอาจมีใครทำไสยศาสตร์ให้ แสดงว่าเป็นที่รักของคนอื่นมาก เขามีอะไรถึงได้แบ่งปันให้กับเรา...!


ถาม : หากรอบด้านที่เราอยู่ มีร่างทรง เจ้าพ่อ เจ้าแม่ หมอดูที่ปล่อยของดึงลูกค้า คนเล่นของ หลวงพ่อช่วยแนะนำวิธีป้องกันให้ด้วยค่ะ ?
ตอบ : วิธีที่ทำมาก็ใช้ได้แล้ว คือ ภาวนานึกถึงพระให้เป็นปกติ แล้วอธิษฐานภาพพระครอบตัวเราเอาไว้ก็จะปลอดภัย ตรงจุดนี้เป็นอุทาหรณ์ที่อาตมาเคยพูดมาหลายครั้งแล้วว่า อย่าเที่ยวไปวิ่งหาร่างทรง ตำหนักทรง หรือพวกหมอผีต่าง ๆ เพราะคนเหล่านี้ไม่ค่อยมีจรรยาบรรณ ถึงเวลาเขาอยากได้เราเป็นบริวารหาเงินให้เขา เขาก็จะใช้ผีหรือไสยศาสตร์คุม ฉะนั้น...ส่วนใหญ่พวกที่หน้ามืดไปตามสถานที่นี้ก็มักจะได้ของแถมกลับมาเสมอ

จากกรณีนี้เดี๋ยวคงต้องขึ้นราคาพระขุนแผนตะกรุดนาก เพื่อเป็นการป้องกันการกักตุน...!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2016 เมื่อ 02:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 08-08-2016, 20:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,029 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมผมสวดมนต์หลายบทสวดแล้วอาการอยากบริกรรมภาวนาหายไปเลย ? เพราะปกติจะบริกรรมพุทโธหรือไม่ก็คาถาเงินล้านครับ ?
ตอบ : เกิดจากสองสาเหตุด้วยกัน สาเหตุที่หนึ่ง...การสวดมนต์ก็คือการภาวนา ในเมื่อเราสวดจนเต็มที่แล้วก็เหมือนกับภาวนาจนเต็มที่แล้ว ก็เลยไม่อยากที่จะภาวนาต่อ

สาเหตุที่สอง....สักแต่ว่าสวด ๆ ไป สภาพจิตไม่ได้เป็นสมาธิ เริ่มฟุ้งซ่าน จึงไม่อยากภาวนา เพราะปกติแล้วบุคคลที่สวดมนต์ไปเรื่อย ๆ สภาพจิตทรงตัว มักจะต้องการภาวนาต่อไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2016 เมื่อ 02:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #10  
เก่า 08-08-2016, 21:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,029 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าหนูนั่งสมาธิแล้วสวดคาถาเงินล้านในใจ ๑ ชั่วโมง บางทีเคลิ้ม ๆ ไป จะได้ผลเหมือนกับสวดคาถาเงินล้าน วันละ ๑๐๘ จบไหมคะ ?
ตอบ : ก็ต้องดูว่าสภาพจิตตอนนั้นแบบไหนมีคุณภาพมากกว่ากัน เรื่องของจำนวนจบบางทีก็ไม่สำคัญเท่ากับสภาพจิตที่มีคุณภาพในขณะที่เราภาวนาพระคาถา

ถ้าสภาพจิตทรงตัวได้สูง แม้ว่าจะใช้เวลาน้อยในการภาวนาก็เกิด
ผลมาก แต่ถ้าเราภาวนานานแต่สภาพจิตทรงตัวในขั้นต่ำ ผลก็จะมีน้อยกว่า แต่จะมากจะน้อยก็เกิดผลทั้งนั้น ขอให้ทำจริงจังและสม่ำเสมอเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2016 เมื่อ 02:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #11  
เก่า 08-08-2016, 21:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,029 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : รู้สึกว่าเจ้ากรรมนายเวรตามทัน คือ ทำอะไรติดขัดไปหมด ไม่สำเร็จ ต้องตั้งอารมณ์อย่างไรเจ้าคะ ?
ตอบ : ตั้งใจภาวนาให้เป็นปกติ เพราะตัวภาวนาเป็นบุญใหญ่ที่สุดในพระพุทธศาสนา ถ้าอารมณ์ใจของเราทรงตัว ผลบุญใหญ่นี้จะทำให้เราหนีห่างจากกรรมเก่าไปได้ โดยเฉพาะถ้าภาวนาพระคาถาเงินล้าน ความคล่องตัวต่าง ๆ จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ เนื่องจากว่าในตัวพระคาถามีทั้งคาถาปัดอุปสรรค มีทั้งคาถาให้ลาภสารพัดรวม ๆ กันอยู่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2016 เมื่อ 02:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #12  
เก่า 08-08-2016, 21:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,029 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันนี้เห็นพระครูหน่อยเปิดคลิปที่เด็กอนุบาลเถียงกับแม่ค้า มีใครได้ดูบ้างหรือยัง ? พระครูหน่อยไม่ได้ดูเอามันตรงนั้นหรอก ท่านถามว่า “หลวงพ่อครับ เขาเอากำลังใจที่ไหนมาสู้ผู้ใหญ่ครับ ?”

เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่ข้ามชาติข้ามภพ บุคคลที่เคยฝึกสมาธิมา ความเข้มแข็งของกำลังใจจะมีมาก คิดดู...เด็กคนนั้นยังเป็นเด็กวัยก่อนเกณฑ์นะ ไม่ใช่เข้าอนุบาลแล้ว กล้าเถียงป้าอายุ ๕๐-๖๐ ปีแล้ว เถียงมีเหตุมีผลด้วย แล้วลงท้ายว่าเรื่องนี้ไม่จบง่าย ๆ เด็กเขาฝากไว้อย่างนั้น โอ้โห...สุดยอดจริง ๆ

การฝึกฝนกำลังใจเป็นเรื่องข้ามชาติข้ามภพ พอถึงเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา ก็จะแสดงออกมาเองโดยอัตโนมัติ คนก็ถ่ายคลิปไปหัวเราะไป ดูเด็กกับผู้ใหญ่ทะเลาะกัน แต่ถึงเด็กเขาโกรธแต่เขาพูดไพเราะนะ เขาไม่ด่าไม่หยาบคาย ต้องบอกว่าควบคุมตัวเองได้ดีกว่าผู้ใหญ่มากทีเดียว ผู้ใหญ่เวลาโกรธบางทีขาดสติยังด่าบ้าง หยาบคายบ้าง อันนี้เขาหาเหตุผลมาเถียง เพื่อปกป้องเด็กอีกคนหนึ่ง

แม่ค้าบอกว่าเด็กทะเลาะกับแม่ เด็กบอกว่าเป็นไปไม่ได้หรอก ทะเลาะกับแม่ก็บาปตายเลย ยิ่งใกล้วันแม่แล้วด้วย ต้องทำแต่ความดี นี่เป็นเหตุผลแบบเด็ก ๆ ที่ในใจมีแต่ความดี"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2016 เมื่อ 02:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #13  
เก่า 08-08-2016, 21:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,029 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "จากคำถามของวันนี้ ส่วนที่เห็นชัด ๆ เลยก็คือ บุคคลที่ตั้งใจภาวนาพระคาถาเงินล้าน จะมีความคล่องตัวในความเป็นอยู่มากขึ้นจริง ๆ

แต่ส่วนที่อยากจะเสริมก็คือ
ให้พวกเราฝึกหัดภาวนาให้ได้ในทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะทำงานทำการอะไรก็ต้องภาวนาได้ ถ้าอย่างนั้นกำลังใจถึงจะมีโอกาสที่จะชนะกิเลสได้บ้าง ถ้าต้องรอให้มีเวลานั่งสมาธิแล้วถึงจะภาวนาได้ มีหวังโดนกิเลสก็กินตาย เพราะกิเลสเขาไม่ได้รอให้เรานั่งสมาธิก่อนแล้วค่อยมากินเรา เขากินเราอยู่ทุกอิริยาบถ

อีกส่วนหนึ่งก็คือเรื่องของไสยศาสตร์ต่าง ๆ ไม่สามารถที่จะสู้คุณพระได้อยู่แล้ว เพียงแต่วัตถุมงคลนั้นเป็นเหมือนกับเครื่องส่งพลัง วัตถุมงคลส่งพลังอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าเครื่องรับของเราคือใจไม่เปิดรับ โอกาสที่วัตถุมงคลนั้นจะช่วยเราได้ก็มีน้อย การที่ใจเราจะเปิดรับพลังวัตถุมงคลนั้น ต้องประกอบไปด้วยศรัทธาเลื่อมใส มีการอาราธนาระลึกถึงเป็นปกติ ถ้ากำลังใจทรงตัว นึกถึงภาพวัตถุมงคลครอบตัวเราไว้ได้ก็ยิ่งดี"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2016 เมื่อ 02:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #14  
เก่า 08-08-2016, 22:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,029 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อีกเรื่องหนึ่งก็คือ บรรดาร่างทรงต่าง ๆ ตลอดจนพวกหมอผี เป็นอะไรที่หลีกให้ห่างได้เท่าไรก็ดีเท่านั้น ในส่วนที่ถามมานี้ก็คือ มีคนไปหาเพราะความจำเป็น เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุจนแท้งลูก แล้วก็ยังห่วงยังกังวลอยู่ ก็เลยให้หมอผีเรียกวิญญาณลูกเข้าไปอยู่ในตุ๊กตาแทน ยังโชคดีที่เขาไม่เอาไปขายเสียก่อน เพราะเจ้าของเขารู้ว่าเอาไปทำเป็นกุมาร ก็เลยไปขอคืน ทำให้เขาขาดรายได้ไป เขาจึงแถมของแถมมาให้เยอะทีเดียว...!

ช่วงก่อนมีงานเป่ายันต์ฯ มีโยมคณะหนึ่ง ๔ คนเดินเข้ามาทำบุญ อุ้มตุ๊กตาลูกเทพติดเอวมาด้วย นี่เขายังไม่หายเห่อกันอีกหรือ ? ตอนแรกอาตมาก็นึกว่าอุ้มเด็ก มองไปอีกที อ้าว...ตุ๊กตานี่นา แต่ถ้าเอามาเข้าพิธีเป่ายันต์ฯ ก็จะกลายเป็นลูกเทพจริง ๆ ที่ไปให้บรรดาสำนักต่าง ๆ เสกมา อาจจะได้ลูกผีลูกซาตานมาก็ได้ เรื่องพวกนี้ต้องระมัดระวังไว้ให้มาก

ไม่แต่เพียงสำนักต่าง ๆ แม้แต่กระทั่งวัดวาต่าง ๆ ก็มี ที่ใช้ผีหรือไสยศาสตร์คุมเพื่อให้คนเข้าวัดไปทำบุญอยู่ตลอดเวลา บางรายเป็นผู้หญิงหน้าตาดี ๆ ก็มีการดึงไปเพื่อเหตุอื่นด้วย เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังให้มาก อาตมาเกรงว่าถ้าพวกเราเผลอ อยู่ในช่วงวาระกรรมเข้ามา อาจจะหลุดวงโคจรไปชนิดกู่ไม่กลับ

เหมือนกับลูกศิษย์บางคน ทั้ง ๆ ที่รู้ แต่เนื่องจากโดนคุมจนไม่มีสติที่จะแก้ไขตัวเอง ถึงเวลาแต่ละเดือนก็เอาเงินไปให้เขาสามหมื่นสี่หมื่นบาท ไม่อย่างนั้นจะกินไม่ได้นอนหลับ อาตมาก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร เพราะเขาไม่ยอมไปงานที่วัดท่าขนุน เนื่องจากว่าได้ที่ซึ่งเหมาะสมกับวาระบุญวาระกรรมของตัวเองแล้วก็เป็นได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2016 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #15  
เก่า 08-08-2016, 22:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,029 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"จะว่าไปแล้วบรรดานักบวชที่แสบสุดยอดก็มีเยอะมาก หลายท่านก็เบากว่านั้นหน่อยหนึ่ง แค่ใช้วิธีโทรจิกทุกวัน เดี๋ยวก็จะทำบุญอย่างนั้น เดี๋ยวก็ทำบุญอย่างนี้ เดี๋ยวก็ขอให้เป็นประธานงานนั้นงานนี้ ต้องบริจาคเงินเท่านั้นเท่านี้ จนกระทั่งบางทีโยมทนไม่ไหวก็บริจาคซื้อรำคาญไป

อีกประเภทหนึ่งไม่ได้รู้จักกันหรอก แต่รู้ว่าโยมคนนี้ฐานะดี ท่านก็บุกไปยันบ้านเลย ตื๊อให้เป็นเจ้าภาพกฐิน เจ้าภาพผ้าป่า ให้เป็นเจ้าภาพสร้างศาลาสารพัด มีแต่จะสร้างความเสื่อมศรัทธาให้กับญาติโยม

อีกประเภทหนึ่ง โยมเคยไปทำบุญวัดของตัวเอง พอไปทำบุญที่อื่นถึงกับโทรไปด่า สมัยนี้ไม่ค่อยโทรด่าหรอก แต่ไปด่าลงเฟซบุ๊กแทน อาตมาก็ยังสงสัยเหมือนกันว่า ถ้าไปวัดของตัวเองแล้วนี่ห้ามไปที่อื่นเลยหรือ ? อาตมาเองไม่เคยหวงนะ ใครจะไปทำบุญวัดไหนก็ไปเถอะ เดี๋ยวก็กลับมาตายรังเองแหละ...!

เรื่องที่ว่ามาให้ถือเป็นอุทาหรณ์อย่างหนึ่ง ถ้าเป็นพวกร่างทรงหมอผีก็ถือว่าเป็นการหากินของเขา แต่ในส่วนของบุคคลในผ้าเหลืองนั้น บางสิ่งไม่ควรที่จะทำก็ทำกัน จะต้องเป็นหน้าที่ของพระอุปัชฌาย์อาจารย์ที่จะต้องว่ากล่าวสั่งสอน แต่ถ้าพ้นนิสัยมุตตกะไปแล้ว ไม่ต้องฟังคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์แล้ว ก็คงต้องรอท่านได้สติกันเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2016 เมื่อ 02:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #16  
เก่า 08-08-2016, 22:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,029 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"วิธีที่จะปลอดภัยในสมัยนี้ ไปวัดก็อย่าไปทิ้งเบอร์โทรศัพท์ อย่าไปทิ้งที่อยู่ไว้ให้ อาจจะปลอดภัยสัก ๕๐ เปอร์เซ็นต์ ถ้าใครแอดไลน์มา ถ้าหากว่าเป็นพระก็อย่ารับเป็นเพื่อน ถ้ารับแล้วก็อันเฟรนด์หรือบล็อกไปเลย..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2016 เมื่อ 02:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #17  
เก่า 08-08-2016, 22:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,029 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์ "มีใครไปไล่จับโปเกม่อนบ้าง ? ระวังรถจะชนตาย อาตมาเคยบอกอยู่เสมอว่า เทคโนโลยีเป็นผลงานของมาร ที่สร้างมาเพื่อดึงเราให้ติดอยู่กับโลก ถ้าเรามีฉันทะไปไล่จับโปเกม่อนทั้งวัน เราแค่เปลี่ยนฉันทะตัวนั้นมาภาวนาทั้งวันก็จบแล้ว จับโปเกม่อนได้แค่สนุก แต่ถ้าจับลมหายใจเข้าออกมีโอกาสที่จะพ้นทุกข์ จะเอาอย่างไรดี ? ตั้งตาตั้งตามาก...ขนาดในคูหากาบัตรยังจะไปจับโปเกม่อน ฉะนั้น...จับลมหายใจเข้าออกแทนน่าจะมีผลมากกว่า

บ้านเรามักจะเห่อตามกระแส อาตมาไม่เคยเล่นเกมก็เลยไม่เคยรู้ว่าเกมนี้ต้องเสียเงินให้เขาหรือเปล่า เวลาเราจะโหลดแอพฯ โหลดข้อมูลอะไร เราคงต้องจ่ายเงินเขาก่อน คาดว่าคงไม่สามารถที่จะแบ่งปันให้กับเพื่อนได้ ต้องต่างคนต่างโหลด ต่างคนต่างจ่าย

โปเกม่อนเป็นของญี่ปุ่นใช่ไหม ? แสดงว่าบ้านของเรานี่วัฒนธรรมเกาหลี ญี่ปุ่น ครองไปเรียบร้อยแล้ว พอถึงเวลาก็ต้องให้พวกร็อกเกอร์เกาหลีมาโกยเงินบาทกลับไปบ้านเขา พวกเราก็ไปกรี๊ด ถ้าทำแล้วมีความสุขก็ทำไปเถอะ
แต่ในเรื่องของโลกียสุข พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดว่า ความสุขนั้นมีน้อย แต่ความทุกข์นั้นมีมาก ในเมื่อความสุขมีน้อย ความทุกข์มีมาก ถ้าเราไปหลงใหลได้ปลื้ม ความทุกข์ที่มีมากเกิดขึ้นมา เราก็จะเดือดร้อนเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2016 เมื่อ 02:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #18  
เก่า 08-08-2016, 22:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,029 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีคนตาบอดจูงมือกันมา "พวกเขาไปไหนไปด้วยกัน ไม่มีทิ้งกัน ที่อาตมาพูดไม่ได้หมายความว่าต้องให้พวกเราพิการทางสายตานะ แต่ที่พูดเพื่อให้พวกเราดูตัวอย่างของผู้พิการทางสายตา เขามีอะไรก็ต้องอิงอาศัยกัน ฉะนั้น...จะโกรธกันไม่ได้ เกลียดกันไม่ได้ บ้านเราเมืองเราทำอย่างไรจึงจะให้เป็นอย่างนี้บ้าง ?

ทำอย่างไรที่จะเห็นคนอื่นเป็นเหมือนเพื่อนร่วมหมู่บ้าน เหมือนคนร่วมชายคา ทำอย่างไรจะอนุเคราะห์สงเคราะห์คนอื่นได้เท่ากับที่เราอยากให้เขาทำให้กับเราเอง ต้องบอกว่าให้ทำไปก่อน ถ้าเชื่อพระพุทธเจ้าก็คือเราต้องทำก่อน วนฺทโก ปฏิวนฺทนํ ผู้ไหว้ย่อมได้รับการไหว้ตอบ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2016 เมื่อ 02:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #19  
เก่า 08-08-2016, 23:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,029 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมืองพระนิพพานเป็นอย่างไรคะ ? ...(เด็กถาม)...
ตอบ : ก็เป็นเมืองนิพพาน...! เป็นที่พ้นบุญพ้นบาปแล้ว ไม่ต้องทุกข์อีก ถ้าไม่ซนมากก็ไปได้ ถ้าซนมากไปไม่ได้ ไม่ให้ซนหนูยอมตายดีกว่า...ใช่ไหม ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2016 เมื่อ 02:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #20  
เก่า 08-08-2016, 23:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,029 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ขออภัยด้วย เมื่อคืนอาตมาด่า ค.ส.ช.เยอะไปหน่อย (งานสวดพระคาถาเงินล้าน) เลยมีคนในเครื่องแบบมาขอแสดงความนับถือ ฉวยโอกาสได้ออกทีวีก็เลยด่าประจาน รู้สึกปลื้มใจมากที่ทหารเห็นคุณค่าของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2016 เมื่อ 02:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:45



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว