กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #121  
เก่า 27-12-2014, 11:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าลาศีล ๘ เพื่อมาถือศีล ๕ ชั่วคราว ?
ตอบ : จริงแล้ว ๆ ทำได้ แต่ต้องดูด้วยว่ามีจุดมุ่งหมายอะไร ถ้าเราลามาเพื่อที่จะกินข้าวเย็นแล้วไปรักษาศีล ๘ ใหม่ อย่างนั้นจะมีโทษปรามาสพระรัตนตรัย เพราะทำเป็นเล่น ๆ แบบที่บาลีเรียกว่าสีลัพพตปรามาส รักษาศีลแบบลูบ ๆ คลำ ๆ ถ้าหากว่าจะทำก็ทำให้เด็ดขาดไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2014 เมื่อ 12:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #122  
เก่า 27-12-2014, 12:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลุมดำมีจริงหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : มีจริง

ถาม : รูปร่างเหมือนกับที่เขาเห็นหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เขาว่าได้ตามที่เขารู้สึกว่าเป็นอย่างนั้น ตัดสินกันไม่ได้เพราะว่าอยู่ไกลมาก แต่ว่าจริง ๆ แล้วลักษณะของหลุมดำเหมือนกะลาคว่ำ ด้วยความที่ว่าอากาศไปถึงตรงนั้นแล้วเหมือนเจอน้ำวน บรรดาดวงดาวต่าง ๆ เลยถูกดูดอยู่เข้าไปในกะลาคว่ำ เสียเวลาคุย..ต้องไปดูเอง

ถาม : ผมเห็นแต่ทฤษฎีของฮอว์กิ้ง ?
ตอบ : ที่อาตมาตั้งใจไปอ่าน เพราะอยากรู้ว่าเขารู้แค่ไหน

ถาม : ตกลงว่าใกล้เคียงใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ทฤษฎีต่าง ๆ ที่เขาตั้งไว้นั้นไม่ใช่ ที่เขาบอกว่าโดนดูดกลืนหายไปหมด ก็ไม่ได้หายไปหมด เพียงแต่นานเหลือเกินกว่าจะหลุดออกมา เพราะคลื่นอากาศที่หมุนวน พอหมุนไปนานเข้า ๆ สมมติว่าเป็นดวงดาวดวงหนึ่ง พอหลุดเข้าไป ในที่สุดก็ต้องออกมา อาจจะเป็นหลายร้อยปี ซึ่งเขาไม่มีปัญญาที่จะเฝ้าดูได้นานขนาดนั้น เขาก็เลยสรุปว่าไม่มีอะไรหลุดออกมาได้

ถาม : ตอนแรกมีมวลก้อนหนึ่งก้อนเล็ก แล้วกลายเป็นเหมือนน้ำวน ?
ตอบ : เราต้องลองนึกดูว่า ถ้าเป็นมวลสาร เมื่อดึงอย่างอื่นเข้าไปแล้วหายไป ฉะนั้น..จะเป็นมวลสารไม่ได้ ต้องเป็นพลังงาน เมื่อเป็นพลังงานแล้วแหล่งกำเนิดมาจากไหน ? เถียงกันไปก็ไม่จบ เพราะว่าเขาไม่ได้ไปเห็นจริง ๆ นั่นคือลักษณะที่คิดว่าคาดว่า จนกำหนดเป็นทฤษฎีขึ้นมา ถ้าตราบใดที่หาหลักฐานที่ดีกว่านั้นมาค้านไม่ได้ ก็ใช้ทฤษฎีนั้นไปเรื่อย ๆ พอถึงเวลาที่มีคนคัดค้านได้ ยกทฤษฎีใหม่ที่น่าเชื่อถือกว่าขึ้นมา ก็เอามาใช้ต่อ ทฤษฎีเก่าก็ตกไป นี่ก็คือหลักของวิทยาศาสตร์ทั่ว ๆ ไป

แต่หลักพุทธศาสตร์ของพระพุทธเจ้าไม่ใช่ทฤษฎี เป็นอริยสัจ ถ้าหากภาษาอังกฤษ ทฤษฎีเขาเรียกว่า Theory แต่ของพุทธศาสตร์ต้องเป็น Theorem ทฤษฎีสมบูรณ์ ไม่สามารถที่จะคัดค้านได้ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็เป็นความจริง อัจฉริยภาพของพระพุทธเจ้า ที่พระองค์ท่านประกาศว่ารู้ธรรม ไม่มีใครคัดค้านได้ เพราะสิ่งที่พระองค์ท่านรู้เป็นความจริงแท้ ต้องไปอธิบายให้ฝรั่งเขาเข้าใจให้ได้ พระองค์ท่านบอกว่าทุกคนเกิดมาไม่เที่ยง ก็ไม่เที่ยงจริง ๆ เพราะไม่มีใครอยู่ได้ในลักษณะเดิม

อย่าชวนคุยเรื่องนี้ เดี๋ยวน้ำลายแตกฟอง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2014 เมื่อ 13:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #123  
เก่า 27-12-2014, 12:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมเป็นคนอยากรู้อยากเห็น ผมจะทำลายความอยากรู้อยากเห็นได้อย่างไรครับ ?
ตอบ : ต้องรู้เห็นได้จริง ถ้ารู้เห็นได้จริง ๆ ก็หมดอยากแล้ว ฝึกทิพจักขุญานให้ประเภทใช้งานได้จริงไปเลย อยากรู้อยากเห็นไม่ใช่ความผิด แต่ต้องมีสติว่า สิ่งที่เรารู้เห็น จะช่วยให้เราพ้นทุกข์ได้อย่างไร ไม่ใช่รู้แล้วไปติดแหง็ก เหมือนแมลงติดใยแมงมุม ยิ่งดิ้นก็ยิ่งพันแน่นไปเรื่อย ไม่มีโอกาสหลุดได้เลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2014 เมื่อ 13:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #124  
เก่า 27-12-2014, 14:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สมัยโบราณ อาจจะเป็นเพราะจิตคนสงบไม่วุ่นวาย ความเป็นทิพย์เกิดง่าย เขาก็เลยเห็นผี เห็นเปรต เห็นเทวดา เป็นปกติ คนสมัยก่อนเวลาไปถามว่าเป็นใคร จะบอกว่าเป็นคน อย่างคำว่า "ไท" แปลตรง ๆ ก็แปลว่าคน ภาษาโบราณเขาว่า "มึงเป็นไทบ้านได๋ ?" มึงเป็นคนบ้านไหน "กูเป็นไทหนองบัว" กูเป็นคนหนองบัว

ก็แปลกที่ว่าคนทุกชาติทุกภาษาเรียกตัวเองว่าคน แม้กระทั่งพวกมอร์แกน ที่เราเรียกชาวเล เขาเรียกตัวเองว่า "อูรักลาโว้ย" แปลว่า "ข้าคือคน" เป็นเรื่องที่ประหลาดดีเหมือนกัน เพราะว่าเขาเห็นภพภูมิอื่นด้วย ก็ต้องยืนยันว่าตัวเองเป็นคน คงกลัวเขาเข้าใจผิดว่าเป็นนางฟ้าเทวดา หรือไม่ก็พวกเปรตอสุรกายไปเลย..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2014 เมื่อ 16:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #125  
เก่า 27-12-2014, 18:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่ได้ทิพจักขุญาณในด้านทิพโสต มักจะเจอผีแกล้ง โดยเขาจะใช้ความเป็นทิพย์ทางการได้ยินของเราเป็นช่องทางในการโจมตีเรา เราจะมีวิธีป้องกันอย่างไรครับ ?
ตอบ : อย่าไปสนใจเท่านั้นเอง ดูว่ามีเรื่องเกี่ยวอะไรกับเราหรือเปล่า ถ้าไม่เกี่ยวก็ไม่ต้องไปสนใจ

ถาม : คนที่มีนิสัยเป็นเด็กอย่างผม มีวิธีแก้นิสัยที่ติดความเป็นเด็ก ให้เป็นผู้ใหญ่ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าติดเป็นนิสัยจริง ๆ แก้ไม่ได้ พระอรหันต์ยังแก้ไม่ได้เลย ดูตัวอย่างพระสารีบุตร เรื่องของทิพจักขุหรือทิพโสต ถ้าเรารำคาญ ใช้วิธีเข้าสมาธิที่เกินกว่าอุปจารสมาธิ แต่อย่าให้ถึงฌาน ๔ ต้องมีความชำนาญในการเข้าออกฌานในแต่ละระดับ ในเมื่อเราขึ้นเกินอุปจารสมาธิแต่ไม่ถึงฌาน ๔ ความรู้เห็นต่าง ๆ จะไม่มา แต่ถ้าป้องกันตัวเองไม่ให้กิเลสกินได้ จำเป็นต้องเข้าสมาธิในระดับสูง ๆ ก็จะไม่ต้องไปสนใจ

ถาม : อย่างนี้ความสามารถด้านการรับรู้ที่เราได้ที่เรามี ก็เป็นดาบสองคมสิครับ ?
ตอบ : อยู่ที่ว่าคุณจะทำตัวอย่างไร ถ้าทำตัวผิดก็เป็นดาบสองคม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2014 เมื่อ 20:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #126  
เก่า 27-12-2014, 19:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมามีเครื่องวัดอากาศประจำตัวคือโรคมาลาเรีย อากาศเปลี่ยนทีไรเป็นไข้จับ ก็ต้องบอกว่าเป็นความเมตตา เพราะถ้าไม่ป่วยก็อาจจะหลงตัวเอง

พระพุทธเจ้าตรัสว่า คนเราเกิดมาเมา ๓ อย่าง ก็คือ เมาในความเป็นหนุ่มเป็นสาว เรียกว่าเมาวัย ไม่คิดว่าจะแก่ เมาในความไม่มีโรค ร่างกายแข็งแรงก็ประมาท และเมาในชีวิต คิดว่าจะอยู่จนอายุเท่านั้นเท่านี้่โดย ไม่ตาย ดังนั้น..ในเมื่อมีโรคประจำตัวก็ถือว่าเขาคอยเตือนอยู่เรื่อย

มีคนโพสต์รูปโลงศพลงอินเตอร์เน็ตแล้วเขียนว่า “พัสดุจากพระยามัจจุราช” เราส่งคำเตือนมาถึงท่านแล้ว..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2014 เมื่อ 20:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #127  
เก่า 27-12-2014, 19:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงนี้อาตมากำลังไล่เก็บประวัติตนเอง ต้องบอกว่าประวัติพระครูวิลาศกาญจนธรรมฉบับตัดปะ คือไปดูตามเว็บที่พูดเรื่องต่าง ๆ ไว้ แล้วจับมาต่อกันเป็นชีวิตของตัวเอง ไม่อย่างนั้นต้องเขียนประวัติตนเองใหม่ นี่เล่าไว้เยอะแล้ว

เดี๋ยวพออายุ ๖๐ ปีแล้วจะลงประวัติให้ดู ลงแล้วไม่มีอะไรใหม่เลย เพราะเล่าให้ฟังหมดแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2014 เมื่อ 20:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #128  
เก่า 29-12-2014, 18:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมมีพระวิสุทธิเทพเนื้อเงินยวง เอามาถวายเป็นพระสังฆทานเวียนได้ไหมครับ ?
ตอบ : เอามาจากไหน ?

ถาม : จำชื่อวัดไม่ได้ครับ
ตอบ : ถ้าหากว่าเป็นพระที่เข้าพิธีพุทธาภิเษกแล้ว ไม่ควรเอามาเป็นพระสังฆทาน เพราะว่ามีเทวดาท่านรักษาประจำอยู่แล้ว ไปยกขึ้นลง ข้ามไปมา เดี๋ยวท่านรำคาญจะสวนเอา..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-12-2014 เมื่อ 03:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #129  
เก่า 29-12-2014, 18:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ระหว่างผลของกรรมที่ทำมากับคำสอนของบิดามารดา ครูบาอาจารย์ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่เติบโตมา อย่างไหนมีผลมากกว่ากันครับ ?
ตอบ : กรรมในอดีตมีผลในปัจจุบัน กรรมในปัจจุบันมักจะมีผลในอนาคต แต่ว่าวินาทีข้างหน้าก็เป็นอนาคตแล้ว เพราะฉะนั้น..ให้ตั้งใจทำความดีให้ต่อเนื่องเข้าไว้ โดยเฉพาะบุญใหญ่จาก ทาน ศีล ภาวนา มีโอกาสที่จะได้รับผลในอนาคตคือชาตินี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-12-2014 เมื่อ 03:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #130  
เก่า 29-12-2014, 19:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เก็บตกเดือนธันวาคมปี ๕๗ หมดแล้วค่ะ
ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา คะน้า เถรี รัตนาวุธ และคะน้าอ่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:31



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว