กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 28-02-2024, 17:56
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 335
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 18,299 ครั้ง ใน 808 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 29-02-2024, 00:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,775 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปทำพิธีบวงสรวงเปิดงานประจำปีปิดทองหลวงพ่อตะเคียนทองและฉลองสัญญาบัตรพัดยศพระครูสุตกาญจนวัฒน์, ดร. (ทผจล.ชพ.) ที่วัดวังปะโท่ หมู่ที่ ๘ ตำบลห้วยเขย่ง อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

หลังจากนั้นแล้วก็ได้เดินทางไปเยี่ยมโครงการอบรมบาลีก่อนสอบ ที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) เมื่อไปถึง ทั้งบรรดาวิทยากรและผู้เข้ารับการอบรมก็ยังมีการต่อว่า "พระอาจารย์เล็ก..หายไปหลายวันเลย มัวแต่ทำอะไรอยู่ครับ ?" โดยที่ไม่ทราบว่ากระผม/อาตมภาพนั้นได้จัดให้มีการบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม ตลอดจนกระทั่งงานทำบุญประจำปีปิดทองรอยพระพุทธบาทวัดท่าขนุน และทำบุญอุทิศอดีต ๗ เจ้าเมืองหน้าด่านจังหวัดกาญจนบุรี

แต่ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้เราต้องเข้าใจว่า บุคคลส่วนใหญ่แล้วก็มักจะมองตนเองเป็นสำคัญ โดยที่บางคนใช้คำว่า "เอาตนเองเป็นศูนย์กลาง" ซึ่งในลักษณะอย่างนี้ ถ้าว่าไปแล้วก็ไม่ใช่เรื่องดี เพราะว่าเราต้องรู้จักคิดในลักษณะของการ "เอาใจเขามาใส่ใจเรา" อยู่ในลักษณะที่ว่า ถึงเวลาแล้วคนอื่นก็อาจจะมีภารกิจสำคัญ ไม่สามารถที่จะมาให้ท่านเห็นหน้าทุกวันได้

โดยเฉพาะในพิธีปิด พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ย้ำว่า ขอให้บรรดาเจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ มาร่วมกันในพิธีปิดโครงการอบรมบาลีก่อนสอบปี ๒๕๖๗ ในวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๗ นี้ โดยพร้อมเพรียงกัน เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าวันที่ ๒ มีนาคมนั้น กระผม/อาตมภาพเดินทางไปที่เมืองซาปา ประเทศเวียดนามแล้ว

เรื่องของการไปประเทศเวียดนามครั้งนี้ เกิดจากการที่ลูกกิฟท์ (นางสาวอันตรา ลักษณะ) เจ้าของบริษัทเติมเต็มทราเวล ได้จัดให้มีการเดินทางไปเพื่อสัมผัสความหนาวที่เมืองซาปา ของประเทศเวียดนาม ซึ่งสมัยก่อนที่ยังมีการแบ่งเป็นเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ สถานที่นี้ก็คือเมืองเล็ก ๆ ของเวียดนามเหนือ ที่อยู่เกือบจะติดชายแดนประเทศจีน จึงได้รับลมหนาวจากประเทศจีนเต็ม ๆ ทำให้มีหิมะตกอยู่บ่อย ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-02-2024 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 29-02-2024, 00:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,775 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การไปครั้งนี้ ก็จะเป็นการไปเปิดหูเปิดตาดู ว่าในประเทศอาเซียนของเรานั้น โดยปกติแล้วก็อยู่ในเขตเส้นศูนย์สูตร ซึ่งไม่มีทางที่หิมะจะตก แต่ว่าเราก็ยังมีเทือกเขาคากาโบราซี ของทางด้านรัฐกะฉิ่น ประเทศเมียนมาร์ และทางด้านเมืองซาปา ของประเทศเวียดนาม ที่มีหิมะตกกันอยู่บ่อย ๆ

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น โอกาสหนึ่งในชีวิตที่จะได้ไปสัมผัสกับเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ กระผม/อาตมภาพจึงไม่ปฏิเสธ รับนิมนต์แต่โดยดี ไม่เช่นนั้นแล้วจะมีคนกล่าวหาว่า "ขนาดไปฟรีแล้วยังเล่นตัวอีก..!" เป็นต้น

เพียงแต่ว่าการเดินทางไปสถานที่ซึ่งไม่เคยไปนั้น ขอให้ท่านทั้งหลายเข้าใจว่า เราไม่ได้เกิดมาชาติเดียว การที่เราเกิดแล้วเกิดอีก เพราะว่าไม่สามารถที่จะพาตนเองให้หลุดพ้นจากวัฏสงสารได้นั้น ต้องมีชาติใดชาติหนึ่ง หรือว่าหลายชาติ ที่เราไปเกิดยังสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง ครั้นถึงเวลาบุญสัมพันธ์ กรรมสัมพันธ์ลงตัวพอดี เราก็ต้องไปยังสถานที่นั้นอีก..!

คราวนี้การไปยังสถานที่เหล่านั้น อย่าลืมว่า ไม่ว่าเราอยู่ที่ใดก็ตาม ต่อให้มีคนรักมากมาย ก็ต้องมีคนที่ไม่ชอบหน้าเราอยู่บ้าง การไปยังสถานที่ต่าง ๆ จึงมีความเสี่ยงอยู่เหมือนกัน ก็คือถ้าไม่ระมัดระวัง ก็จะเป็นอย่างที่กระผม/อาตมภาพโดนมาเมื่อครั้งที่ไปหลวงพระบาง ไปแบบลืมไปว่า ประเทศลาวที่เราเห็นว่าเป็นประเทศที่สงบงาม เป็นมิตรแก่ทุกคนนั้น

ความจริงแล้วในอดีตชาติ กระผม/อาตมภาพเคยอยู่ในกองทัพ ที่ยกไปตีประเทศลาวจนยับเยินมาแล้ว..! ในเมื่ออยู่ ๆ โผล่หัวกลับไป มีหรือเจ้าหนี้จะไม่ทวง ด้วยความที่ลืมตัวและลืมไปว่าอดีตชาติเคยไปสร้างวีรกรรมอะไรไว้ จึงโดนทวงคืนอย่างชนิดที่ต้องถึงแก่ชีวิต แต่อาศัยว่ากรรมเก่ายังไม่สิ้น จึงแค่บาดเจ็บกลับมาเท่านั้น..!

ปัจจุบันนี้แม้ว่าจะรักษาตัวจนหายเป็นปกติ แล้วย้อนกลับไปประเทศลาวอีกรอบหนึ่งด้วยความระมัดระวังตัวมาแล้วก็ตาม กระผม/อาตมภาพเองก็ไม่แน่ใจในเรื่องของวาระบุญสัมพันธ์ กรรมสัมพันธ์ ว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าวาระบุญสัมพันธ์เกิดในช่วงนั้นพอดี ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะดีไปหมด แต่ถ้าในวาระกรรมให้ผล เราก็อาจจะพบกับอุปสรรคที่คาดไม่ถึงก็ได้..!

แต่ว่าส่วนใหญ่ที่ผ่านมานั้น ร้อยละ ๙๕ ก็ล้วนแล้วแต่ดีทั้งสิ้น มีเพียงการที่ไปประเทศพม่า โดนจับไป ๓ ครั้ง..! ซึ่งการที่ทหารพม่าจับไปก็เพราะเกรงว่ากระผม/อาตมภาพจะเป็นสายลับ ปลอมเป็นพระไปหาข่าวนั่นเอง หลังจากที่สอบสวนจนไม่มีปัญญาจะสอบสวนแล้ว ก็ปล่อยกลับมา โดยที่ทางด้านพระพม่าเจ้าถิ่นยังบอกว่า "ท่านอาจารย์ทำได้อย่างไร ? ปกติแล้วโดนในลักษณะนี้ มีแต่เขาส่งไปกินข้าวแดงอยู่ในคุกอินเส่งทั้งนั้น..!"

ส่วนในด้านของประเทศลาวนั้น กระผม/อาตมภาพแม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังคงไปจนครบสถานที่ต่าง ๆ ตามรายการที่กำหนดเอาไว้ จึงไม่ถือว่าเป็นอุปสรรคอะไร ?!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-02-2024 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 29-02-2024, 00:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,775 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนการไปเวียดนามในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการไปครั้งแรก ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าในสถานที่นั้น ผู้ใดที่เป็นใหญ่ในพื้นที่ ? แล้วขณะเดียวกันได้สร้างเวรสร้างกรรมเอาไว้แล้ว เขาจะมาตามทวงในวาระนี้หรือไม่ ? ก็ได้แต่ตั้งใจว่า ถ้าหากว่าไปก็คงต้องติดอาวุธ..!

แต่คราวนี้การ "ติดอาวุธ" นั้น ถ้าไปต่างประเทศ แม้กระทั่งพระเครื่อง บางทีเราก็ยังต้องเสียเวลาอธิบายกันนาน โดยเฉพาะถ้าเป็นประเทศแถวตะวันออกกลาง เห็นเป็นรูปพระ ก็ให้เราปลดโยนลงถังขยะไปเลย..! ถ้าเป็นทางยุโรป อเมริกาก็ถามแล้วถามอีก สอบแล้วสอบอีก เพราะเกรงว่าพวกเราจะเอายาเสพติดขึ้นรูปเป็นรูปพระ แล้วก็เลี่ยมกรอบแขวนไป เพื่อเอาไปแกะจำหน่ายทีหลัง..!

จะว่าไปแล้ว เรื่องพวกนี้จะโทษพวกเขาก็ไม่ได้ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าส่วนหนึ่งนั้น เขาไม่ได้เคารพนับถือพระพุทธศาสนา อีกส่วนหนึ่งประเทศไทยของเราก็เป็นทางผ่านของยาเสพติดที่โด่งดังไปจนทั่วโลก แล้วขณะเดียวกันวัสดุบางอย่าง ซึ่งก่อนหน้านี้นั้น ไม่ปรากฏว่าจะมีโทษทัณฑ์อะไร แต่ในปัจจุบันนี้อย่างพวกวัสดุที่เป็นชิ้นส่วนของสัตว์ต่าง ๆ โดยเฉพาะงาช้างนั้น แทบจะผิดกฎหมายทุกประเทศไปแล้ว

จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายต้องระมัดระวังเลือกหากันเอง ว่าถ้ารักจะ "ติดอาวุธ" ไป ก็หาสิ่งที่สามารถอธิบายให้เขาเข้าใจได้ง่ายสักหน่อย หรือว่านำเอาสิ่งที่เรามั่นใจว่าไม่ผิดกฎหมายบ้านเขาติดตัวไป เพื่อที่ถึงเวลาแล้ว เราจะได้ไม่ต้องไปเดือดร้อนเมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของเขา

โดยเฉพาะคณะที่ร่วมเดินทางไปซาปาในครั้งนี้ ส่วนที่จะต้องขึ้นไปยอดเขาฟานซีปันนั้น ท่านทั้งหลายโปรดเข้าใจว่า คำว่าอุณหภูมิเฉลี่ย ๑๐ องศาเซลเซียสนั้น เราสามารถเจอได้ทั้งที่มากกว่า ๑๐ องศาเซลเซียส และต่ำกว่า ๑๐ องศาเซลเซียส ก็แปลว่าท่านทั้งหลายควรที่จะมีเครื่องกันหนาวไปให้พร้อม

โดยเฉพาะบนยอดเขา ถ้าหากว่าลมแรง เครื่องกันหนาวนั้น บางทีก็สู้เครื่องกันลมไม่ได้ เพราะว่าถ้าเรามีเสื้อกันลมไป ไม่ต้องใส่เครื่องกันหนาวหนามากจนกลายเป็นหมี เราก็สามารถที่จะอบอุ่นได้ แต่ถ้าหากว่าเราไม่มีเสื้อกันลม ถึงเวลาใช้เสื้อกันหนาวอย่างเดียว บางทีก็ใส่จนกลมไปทั้งตัวแล้วก็ยังหนาวสะท้านอยู่เลย จึงต้องถือหลักที่ว่า
"มีเอาไว้ก่อนดีกว่า ถึงเวลาไม่ได้ใช้แต่เรามี ยังดีกว่าเวลาที่ต้องการใช้ แล้วเราไม่มี" เหล่านี้เป็นต้น

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-02-2024 เมื่อ 02:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:00



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว