กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์

Notices

เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 09-06-2010, 23:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ปีนี้สีอะไรเป็นแชมป์บอลโลกครับ ?
ตอบ : ไม่ได้อยู่ในความคิดเลย ขนาดถามว่าวันที่ ๒๐ นี้ใครเตะกับใคร ยังตอบกันไม่ได้เลย แล้วจะรู้ไปทำไม ? จะดูว่าถ้าวันงานสืบชะตาคนหายไป แสดงว่าเขาคิดว่าอยู่ดูบอลดีกว่า

ถาม : แล้วอังกฤษจะสมหวังไหมครับ ?
ตอบ : เมื่อก่อนนี้คนยังไม่รู้เราก็ยังพอบอกได้ ตอนนี้บอกไปเจ้ามือเดือดร้อนแน่..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-06-2010 เมื่อ 01:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 10-06-2010, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์บอกว่า พระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้าน เลียนแบบมาจากพระปิดตานะมิ ของหลวงปู่สีค่ะ



พระปิดตานะมิ หลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุนนาค
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg 502645.jpg (65.9 KB, 1071 views)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 10-06-2010, 11:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาเราคุยกับเพื่อน แล้วเราอธิบายธรรมให้เพื่อนโดยใช้ความจำของเรา เราอธิบายให้เขาผิด ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ตั้งใจจะบอกผิดเลย อันนี้มันผลมีไหมครับ ?
ตอบ : ทำให้เขาเป็นมิจฉาทิฐิ ต้องตามไปแก้

ถาม : ปล่อยเอาไว้ไม่ได้ด้วยใช่ไหม ?
ตอบ : ปล่อยเอาไว้เขาก็ผิดไปเรื่อย เพราะเขาเชื่อเรานี่

ถาม : แล้วถ้าเกิดผมบอกถูกแล้วเขาเข้าใจผิดเอง ?
ตอบ : นั่นเป็นเรื่องของเขา

ถาม : แล้วถ้าผมบอกผิด แล้วเขาเข้าใจถูกละครับ ?
ตอบ : แสดงว่าเขาเก่ง..!

ถาม : แล้วควรจะต้องตามไปแก้ไหมครับ?
ตอบ : ไปบอกเขาว่าคราวที่แล้ว ที่เราบอกไปอย่างนั้นผิด แต่ถ้าเขาบอกว่าเขาเข้าใจถูกตั้งแต่แรก แสดงว่าเขาเก่งกว่าเรา (หัวเราะ)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-06-2010 เมื่อ 14:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 10-06-2010, 11:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าอยู่ ๆ ผมนึกจับอารมณ์พระนิพพานแล้วเป็นสุขเหลือเกิน ผมควรจะทำต่อไปเรื่อย ๆ หรือควรจะไปนั่งสมาธิก่อน
ตอบ : ถ้านั่งสมาธิก็จับอารมณ์พระนิพพานต่อ คือ สภาพจิตที่ไร้กิเลส เบาบางจาก รัก โลภ โกรธ หลง มีความผ่องใสเป็นปกติ ใคร ๆ ก็ต้องการ ในเมื่อผ่องใสอยู่แล้ว เราก็ประคองไว้สิ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-06-2010 เมื่อ 14:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 10-06-2010, 11:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อครู่ผมขับรถไปเรื่อย ๆ นึกถึงพ่อ นึกถึงพี่ ชาติที่ผมเลว ๆ ท่านยังอุตส่าห์มาประคับประคองเรา แล้วเราควรทำต่อไปหรือเปล่าหนอ ? อุตส่าห์มีคนมาทำให้ขนาดนี้ ทำไมเราไม่ทำเพื่อคนอื่นเขาบ้าง ? จัดเป็นตัวฟุ้งซ่านหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถือว่าคิดได้ อย่างน้อย ๆ การคิดของเราก็อยู่ในด้านที่ห่าง รัก โลภ โกรธ หลง ถ้าถือว่าฟุ้ง ก็ยังฟุ้งอยู่ในเกณฑ์ดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-06-2010 เมื่อ 14:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 10-06-2010, 11:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ลูกสาวครับ ผมจับสวดมนต์ก็ทะเลาะกันบ้านแตก เขาไม่ยอม ผมไม่รู้จะใช้กุศโลบายอย่างไรดี ?
ตอบ : ไม่ต้องไปบังคับเขา เราทำของเราไป

ถาม : ไม่ต้องดึงเขาหรือครับ หรือว่าถึงเวลาแล้วเขาจะมาเอง ?
ตอบ : กรอกหูเขาไปเรื่อยว่า วันนี้พ่อสวดมนต์ไหว้พระมา มีอานิสงส์อย่างนี้ ๆ หนูโมทนานะ แต่ถ้าหนูรออยู่ ว่าจะให้พ่อหุงข้าวให้กินอยู่เรื่อยไป ถ้าพ่อตายแล้วใครจะหุงให้ หนูก็ต้องทำเองบ้าง

ถาม : ทะเลาะกันใหญ่โตเลย กลายเป็นผมอารมณ์ร้อนไป เขาร้องไห้เลย
ตอบ : นั่นเกิดจากว่าเราหวังดี แต่ไม่เข้าใจจิตวิทยาเด็ก เด็กต้องเชิญชวน ถ้าหากบังคับอย่าหวังว่าจะสำเร็จ โดยเฉพาะคนเป็นพ่อเป็นแม่ ลูกเขารู้ว่าถ้าแหกปากร้อง พ่อแม่ก็เลิกบังคับแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-06-2010 เมื่อ 14:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 10-06-2010, 12:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อยากทราบที่มาที่ไปของวันอัฐมีบูชา และวัดในปัจจุบันมีการเวียนเทียนในวันนี้หรือเปล่าคะ ?
ตอบ : วันอัฐมีบูชา จะตรงกับวันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๖ หรือถ้ามี ๘ สองหน ก็เป็น แรม ๘ ค่ำ เดือน ๗

เป็นวันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ชาวพุทธจำนวนหนึ่งก็เลยถือว่าเป็นวันสำคัญที่ควรแก่การระลึกนึกถึง ก็จะมีการจัดการทำบุญ โดยเฉพาะมีการเวียนเทียนด้วย แต่จะมีบางวัด น่าจะเป็นวัดพระแท่นศิลาอาสน์ เขาจะจัดให้มีการถวายพระเพลิงพระบรมศพจำลองทุกปี


ถาม : แล้ววัดอื่น ๆ ในประเทศไทยละคะ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่วันอัฐมีบูชาจะไม่เป็นที่นิยมกัน เขาจะนิยมเฉพาะวันมาฆะ วันวิสาขะ วันอาสาฬหะ เป็นต้น ดูง่าย ๆ คนเขามักจะคิดว่าเป็นวันที่ควรแก่การเศร้าโศกมากกว่า ก็เลยไม่ได้จัดอยู่ในเทศกาลทำบุญอย่างเป็นทางการ แต่จัดอยู่ในวันสำคัญวันหนึ่งในทางพระพุทธศาสนา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-06-2010 เมื่อ 14:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 10-06-2010, 13:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เรื่องวันอัฐมีบูชาที่โยมเขาถามเมื่อครู่นี้ เกี่ยวเนื่องด้วยการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ ส่วนนี้ต้องบอกว่าเป็นความรอบคอบของพระอานนท์ ถ้าพระอานนท์ไม่สอบถามไว้ก่อน จะไม่มีใครรู้ว่า ควรจะจัดการกับพระสรีระขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อปรินิพพานแล้วอย่างไร

เรื่องนี้ต้องไปดูในมหาปรินิพพานสูตร ทีฆนิกาย พระสุตตันตปิฎก พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ให้นำรางเหล็ก ใส่น้ำมันหอมให้เต็ม แล้วนำสรีระของพระองค์ท่านห่อด้วยผ้าขาว...ซ้อนด้วยสำลี...ห่อด้วยผ้าขาว...ซ้อนด้วยสำลี ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนได้ ๕๐๐ ชั้น แล้วใส่ลงในรางเหล็กที่เต็มไปด้วยน้ำมันหอม ยกขึ้นบนจิตกาธาน

เป็นความรอบคอบมากอีกอย่างหนึ่งที่ใส่ไว้ในรางเหล็ก เพราะถ้าเป็นคนทั่ว ๆ ไป เวลาเผากระดูกก็กระจัดกระจาย ถ้าเป็นเมรุทั่วไป ก็ไม่รู้กระดูกใครต่อกระดูกใครที่เหลือตกหล่นปนกันอยู่ แต่การเผาด้วยวิธีนี้ ต่อให้เผาคนอื่นที่ไม่ใช่พระพุทธเจ้า กระดูกหรืออัฐิธาตุก็ไม่กระจัดกระจายไปไหน เพราะอยู่ในรางเหล็ก

แต่ของพระพุทธเจ้าท่านพิเศษตรงที่ว่า ไฟไหม้แล้วเว้นเอาไว้ชั้นหนึ่ง ดังนั้น..พระบรมสารีริกธาตุทั้งหมดก็เลยอยู่ในห่อผ้าขาวและสำลีชั้นสุดท้าย

จากการที่เผาพระพุทธสรีระภายใน ๗ วัน ก็เลยเป็นแบบอย่างที่เขายึดถือกันต่อ ๆ มาว่า เมื่อพระมรณภาพก็ควรจะเผา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-06-2010 เมื่อ 14:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 10-06-2010, 17:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อดีตเจ้าคณะจังหวัด ท่านพูดหลายทีว่า "ท่านเล็ก..ปรึกษาคณะกรรมการวัดว่าเผาหลวงปู่สายซะทีสิ" ก็ถามว่า "ทำไมละครับ ?" ท่านบอกว่า "พระพุทธเจ้ายังไว้แค่ ๗ วันเอง"

ตามที่ท่านว่ามาก็ใช่ แต่ถ้าเรามาคิดดูอีกที องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้มีคำสั่งไว้ว่า บรรดารุ่นหลัง ๆ จะจัดการกับสังขารอย่างไร โดยเฉพาะในยุคที่เขายึดวัตถุมากกว่าหลักธรรม การมีสังขารครูบาอาจารย์อยู่ อย่างน้อยก็เป็นเครื่องยึดเกาะให้เขาได้

หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านก็บอกว่า ถ้ายังเก็บสังขารท่านอยู่ ตราบนั้นก็ยังเลี้ยงวัดได้ ท่านบอกว่า คนคิดถึงข้า เขาก็มาไหว้ อย่างน้อย ๆ เขาก็เอาสตางค์ใส่ตู้ พวกแกก็จะได้มีเงินไว้ สำหรับเลี้ยงดูหรือว่าซ่อมแซมถาวรวัตถุในพระพุทธศาสนาได้

ดังนั้น..ความเห็นในข้อนี้ที่ว่า แม้แต่พระพุทธเจ้ายังเผาก็ใช่ แต่ขณะเดียวกันหลายต่อหลายท่าน ก็ได้รับคำสั่งมาโดยตรงเช่นกันว่าให้เก็บไว้ เพียงแต่ว่าท่านที่พูดในลักษณะนี้ มักจะไม่รู้ตรงจุดนี้ ในเมื่อไม่รู้...ก็เลยถือเอาเป็นมาตรฐานว่า แม้แต่พระพุทธเจ้ายังตั้งพระศพไว้เพียง ๗ วัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-06-2010 เมื่อ 17:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 10-06-2010, 17:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเก็บพระศพของพระพุทธเจ้าไว้เกิน ๗ วันจะเป็นเรื่องไหมคะ ?
ตอบ : เมืองกุสินาราอาจจะจนไปเลย เพราะคนแห่กันมาเป็นหมื่นเป็นแสน จะเอาอะไรให้เขากิน

หลวงปู่มั่น ก่อนท่านจะมรณภาพ ท่านยังบอกให้เอาศพท่านเข้ามาในเมือง เพราะว่าในเมืองมีตลาด มีข้าวปลาอาหารให้ซื้อหาได้ ถ้าเอาไว้ในวัดเล็ก ๆ ในป่า เวลาคนแห่กันไปเป็นพันเป็นหมื่น เขาต้องเอาหมูเอาไก่ ไปเชือดไปเลี้ยงกัน ท่านเกรงว่าสัตว์จะตายอีกเยอะ และเป็นการตายโดยเจตนาด้วย นั่นเป็นความรอบคอบของท่าน

แต่เราลองนึกถึงพระสังขารอายุ ๘๐ แล้วป่วยหนักขนาดนั้น โดนย้ายเดินทางขนาดนั้น ไม่มีรถเบนซ์หรือเครื่องบินอย่างสมัยนี้ อย่างดีก็ขี่เกวียน เวลาเดินทางก็คงทรมานสังขารน่าดู
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 14-02-2016 เมื่อ 14:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 10-06-2010, 21:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"สมัยก่อนทางภาคเหนือ ครูบาอาจารย์ท่านเดียวที่ไม่ได้เผา คือ หลวงปู่ครูบาอภิชัย (ขาวปี) เพราะเขาถือว่าท่านไม่ใช่พระ จับท่านสึกกลายเป็นผ้าขาวไปแล้ว เขาจึงเก็บสังขารท่านเอาไว้ และในที่สุดก็พบว่าสังขารท่านไม่เน่าเปื่อย

องค์ต่อมาที่เขาเก็บตามแบบลูกศิษย์ของหลวงพ่อ ก็คือ ถ้าหากสังขารอยู่ก็เลี้ยงวัดได้ เราจึงได้มีสังขารของหลวงปู่ครูบาธรรมชัย สังขารหลวงปู่ครูบาไชยวงศ์ สังขารหลวงปู่เกษม วัดสุสานไตรลักษณ์ ไม่อย่างนั้นทางเหนือเขานิยมเผากันเกลี้ยง..!

ถ้าจะเอาอย่างที่หลายท่านถือพระพุทธเจ้าเป็นเกณฑ์ ว่ายังไว้แค่ ๗ วัน คงต้องไปขุดภูเขาเพื่อเอาพระมหากัสสปะออกมาเผาด้วย..! สองพันกว่าปีแล้วสังขารท่านยังอยู่มาจนถึงทุกวันนี้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-01-2019 เมื่อ 20:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 10-06-2010, 21:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ครูบาอภิชัยขาวปี ทำไมถึงโดนสึกเป็นผ้าขาวคะ ?
ตอบ : ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ครูบาศรีวิชัย เป็นมือขวาเลย

เขากล่าวหาว่าหลวงปู่ครูบาศรีวิชัยซ่องสุมผู้คนเพื่อจะก่อการกบฏ เนื่องจากว่าท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ คนจะตามท่านไปบวชมาก ฆราวาสไปปฏิบัติธรรมกับท่านมากด้วย

ตัวอย่างที่ชัดที่สุด ก็คือ การสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ ครูบาศรีวิชัยประกาศว่า ถ้าทางไม่เสร็จ ครูบาจะนั่งไม่ลุก เท่านั้นแหละ คนก็แห่กันมามืดฟ้ามัวดิน ทำทางขึ้นดอยสุเทพโดยที่รัฐบาลไม่ต้องจ่ายเงินจ้างแม้แต่บาทเดียว แย่งกันทำด้วย

ที่ขำ ๆ ก็คือ เขาบอกว่า บางคนจับจองที่เอาไว้แล้ว ถากถางจนเหนื่อยแล้วก็หลับ ตื่นขึ้นมาปรากฏว่าคนอื่นถางที่ตัวเองเรียบร้อยไปแล้ว เพราะเขาหาที่ไม่ได้ ในเมื่อเหลือที่อยู่ เขาเห็นเขาก็จัดการถางเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-06-2010 เมื่อ 03:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 10-06-2010, 21:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ผู้ปกครองสมัยนั้น บางทีก็อยากได้หน้า อยากได้ผลงาน และอาจจะไม่ชอบปฏิปทาอะไรบางอย่างของหลวงปู่ครูบาศรีวิชัย อาจจะรู้สึกขัดหูขัดตาหรือไม่ยอมให้ผลประโยชน์ต่อเขา ก็เลยฟ้องร้องเข้ามาทางกรุงเทพฯ

สมัยนั้นพวกโทษกบฏ โดนตัดหัวถึงเจ็ดชั่วโคตร ตอนแรกบรรดาพระเณรและฆราวาสทั้งหลายก็จะแห่ลงมากรุงเทพฯ กัน เพื่อช่วยแก้ต่างให้ แต่หลวงปู่ครูบาท่านบอกว่าขอมาคนเดียว เพราะไม่อย่างนั้นจะโดนคนเขากล่าวหาหนักขึ้นว่า ใช้กำลังมาบังคับกัน จะเป็นลักษณะกบฏชัดเจน

พอมาสอบสวนแล้ว ก่อนที่ครูบาศรีวิชัยจะกลับขึ้นไปก็หลายเดือน ช่วงนั้นเขาก็ตามกวาดล้างบุคคลที่เป็นกำลังสำคัญของครูบา หลวงปู่ขาวปีก็เลยโดนจับสึก

สภาพการจับสึกต้องบอกว่าใจคนมันด้าน ก็คือ เขาถอดสังฆาฏิที่ถือว่าเป็นเครื่องหมายของพระออก หลวงปู่ครูบาขาวปีท่านอธิษฐานให้เทวดาฟ้าดินเป็นพยานว่า ถ้าท่านไม่ผิดอย่างที่เขาว่า ขอให้แสดงอะไรเป็นประจักษ์พยานด้วย ท่านถอดสังฆาฏิพาดไว้บนต้นไม้ที่ยืนแห้งตาย ต้นไม้แตกใบใหม่เดี๋ยวนั้นเลย..!

แต่คนก็ยังไม่เชื่อ จับท่านสึกจนได้ เอาผ้าขาวให้ท่านนุ่ง พอท่านนุ่งผ้าขาวเสร็จ กะเหรี่ยงก็เอาช้างมาแห่ท่านไปเลย กะเหรี่ยงบอกว่า "ตุ๊เหลืองตุ๊พวกเจ้า แต่ตุ๊ขาวตุ๊ของเฮา" เพราะกะเหรี่ยงเขานิยมพวกฤๅษีซึ่งนุ่งขาวห่มขาวอยู่แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-06-2010 เมื่อ 14:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 16-06-2010, 10:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงปู่ครูบาท่านอยู่ในสภาพไหนท่านก็เป็นพระอยู่แล้ว ท่านก็ไปสร้างประโยชน์ให้เขาทุกที่ และที่ร้ายที่สุด ระยะหลัง ๆ พวกทางการ พวกอำเภอไปขอร้องให้ท่านสร้างโรงเรียน สร้างสาธารณสุขบ้าง ไม่ได้คิดถึงตอนที่พวกเขาจับท่านสึกเลย..!

ฉะนั้น...หลวงปู่ครูบาอภิชัยขาวปี เป็นสังขารแรกของพระสุปฏิปันโนทางภาคเหนือที่รอดจากการเผามาได้ เพราะว่าส่วนหนึ่งเขาไม่ถือว่าท่านเป็นพระ เขาถือว่าท่านเป็นผ้าขาว ถ้าหากเรียกเต็ม ๆ ก็คือ "ครูบาผ้าขาวจำปี" แต่เขาเรียกสั้น ๆ ว่า "ครูบาขาวปี" เพราะท่านชื่อจำปี

ถาม : ขนาดต้นไม้แสดงปาฏิหาริย์แตกใบออกมาใหม่แล้วเขายังไม่เชื่ออีก ?
ตอบ : เขาจะสึกท่านให้ได้ แต่ขอให้เชื่อที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า บุคคลผู้ประทุษร้ายผู้ซึ่งไม่ประทุษร้ายตอบ จะพบกับความวิบัติ ๑๐ ประการ

ถาม : ครูบาขาวปีตอนนี้อยู่วัดไหนเจ้าคะ ?
ตอบ : วัดพระพุทธบาทผาหนาม อยู่ใกล้ ๆ กับวัดหลวงปู่ครูบาไชยวงศ์ สมัยที่หลวงปู่ครูบาไชยวงศ์ยังมีชีวิตอยู่ ท่านจะไปเปลี่ยนผ้าครองให้ทุกปี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-06-2010 เมื่อ 10:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 16-06-2010, 10:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ปัจจุบันพระส่วนหนึ่งที่ได้รับการศึกษาสูง ๆ มักจะขาดความเชื่อ ความเลื่อมใส เกี่ยวกับคุณของพระรัตนตรัย เพราะว่าเขาสอนให้สงสัยทุกอย่างที่พระพุทธเจ้าสอน ถ้าไม่สงสัยเขาก็ไม่คิดที่จะทำวิจัย

บรรดานักวิชาการกลุ่มหนึ่งเขาไม่ยอมรับในเรื่องปาฏิหาริย์ เขาถือว่าไม่เป็นสากล เขาก็เลยพยายามจับพระพุทธเจ้าให้ลงมาเดินดินเหมือน ๆ กับเขา โดยการใช้ความคิดของตัวเองไปคาดว่า ควรจะเป็นอย่างนั้น ควรจะเป็นอย่างนี้ ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น ไม่น่าจะเป็นอย่างนี้ เรื่องอภินิหารต่าง ๆ เป็นสิ่งที่คนรุ่นหลังจับยัดเข้าไปในพระไตรปิฎก เพื่อที่จะยกย่องพระศาสดาของตนเท่านั้น"


ถาม : แล้วอย่างนี้ผลที่พวกเขาจะได้รับเป็นอย่างไรคะ ?
ตอบ : ก็คงจะประสบความเจริญมาก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-06-2010 เมื่อ 11:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 151 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 16-06-2010, 21:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราฝึกสติปัฏฐานสี่ไปเรื่อย ๆ เราจะมีสิทธิ์บรรลุได้ไหมครับ ?
ตอบ : ผู้ที่ปฏิบัติในสติปัฏฐาน ๔ นั้น พระพุทธเจ้าตรัสว่าหวังผลแค่สองอย่าง คือ พระอนาคามีและพระอรหันต์ แล้วคุณว่ามีสิทธิ์บรรลุไหมเล่า ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2010 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 141 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 16-06-2010, 22:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องการไหว้ผู้อื่นนั้น พระอาจารย์สอนว่า ถ้าเขายังวุ่นด้วยงานอยู่ โดยไม่ทันมองเห็นเรา ก็อย่าเพิ่งไปไหว้เขา

"พระมีศีลอยู่ข้อหนึ่งว่า ถ้าพระผู้ใหญ่ยังวุ่นด้วยกิจของท่านอยู่ อย่าเพิ่งไหว้ เพราะว่าถ้าหากท่านไม่รับ เดี๋ยวเราจะไปโกรธท่าน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2010 เมื่อ 02:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 142 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 16-06-2010, 23:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมไม่แน่ใจว่านั่งสมาธิผิดหรือเปล่า คือ เวลานั่งจะมีแสงอยู่ในตา เคยไปถามพระที่อื่น เขาบอกว่าเป็นตัวรบกวน แต่ผมว่าไม่น่าจะใช่ครับ ถ้านั่งดี ๆ แสงในตามันจะจ้า สวย ๆ ถ้าสมมติว่าเป็นแสงสวย ๆ อย่างนี้แล้ว เราจะต้องทำอย่างไรต่อไปครับ ?
ตอบ : ถ้านับเป็นการเรียนหนังสือ ก็อยู่ประมาณอนุบาลสาม..! ถ้าเราติดอยู่ตรงนั้น ชาตินี้ทั้งชาติก็ไม่ต้องได้อะไร ที่พระท่านบอกว่าเป็นสิ่งรบกวน ท่านบอกถูกแล้ว พอจิตเป็นสมาธิจะเกิดความเป็นทิพย์ขึ้น พวกแสงสีจะมา ถ้าเรามัวไปสนใจอยู่ จะไม่เป็นสมาธิสูงขึ้นไปและติดอยู่แค่นั้นแหละ

ถาม : แล้วเราควรจะทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : อยู่กับลมหายใจเข้าออกของเรา อยู่กับคำภาวนาของเรา แสงสีจะมาอย่างไร ไม่ต้องไปใส่ใจ

ถาม : แล้วการนั่งสมาธิจะไปสุดที่ตรงไหนครับ ?
ตอบ : ถ้าหากเป็นรูปฌานก็ฌานสี่ ถ้าเป็นอรูปฌานก็ฌานแปด

ถาม : แล้วเราจะสังเกตได้อย่างไร ว่าเราได้ฌานสี่หรือฌานขั้นไหนแล้ว ?
ตอบ : ไปศึกษาเอาว่าแต่ละอารมณ์ฌานว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้าง แล้วจะรู้

ถาม : คือสังเกตที่อารมณ์หรือครับ ?
ตอบ : เปิดตำราดูว่าแต่ละขั้นตอนเป็นอย่างไรบ้าง อธิบายตอนนี้แล้วยาว เสียเวลาคนอื่นเขา

ถาม : แล้วการเพ่งกสิณใช่ตัวนี้หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เพ่งกสิณเขาดูวัตถุ หลับตาลง จำภาพแล้วนึกถึง ถ้าหากว่าหายไปก็ลืมตาดูแล้วนึกถึงใหม่ จนกระทั่งหลับตาก็เห็น ลืมตาก็เห็น

ถาม : ภาพนี้จะเป็นภาพในใจหรือภาพที่ติดตา ?
ตอบ : ถ้าหากว่าถามอย่างนี้ก็ต้องบอกว่า เป็นภาพในใจเพราะว่าหลับตาก็เห็น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2010 เมื่อ 03:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 138 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 17-06-2010, 01:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทรงฌานเดินแล้วหนัก ๆ
ตอบ : ก็ทำให้ไม่หนักสิ..!

ถาม : ก็ต้องเป็นไปด้วยความระวังตลอด
ตอบ : นั่นมันเด็กหัดใหม่ ถ้าทำให้คล่องตัวถึงขนาดไม่ต้องระวังก็จะไม่หนัก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2010 เมื่อ 03:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 136 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 17-06-2010, 01:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เห็นตัวเองร้ายทุกวันค่ะ ดูเฉย ๆ ใช่ไหมคะ ?
ตอบ : รู้แล้วอย่าคล้อยตามไป ถ้าเราคล้อยตามไป ยอมให้กิเลสอยู่เหนือเรา ก็พาเราเละไปเรื่อย ๆ หัดดื้อกับกิเลสบ้างสิ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2010 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:18



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว