กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > เรื่องธรรมะ และการปฏิบัติ > ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ

Notices

ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 20-11-2020, 00:38
ชลธิดา ชลธิดา is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Mar 2020
ข้อความ: 1
ได้ให้อนุโมทนา: 528
ได้รับอนุโมทนา 1,525 ครั้ง ใน 74 โพสต์
ชลธิดา is on a distinguished road
Default ทำความสะอาดหิ้งพระ

กราบนมัสการหลวงพ่อเจ้าค่ะ
โยมขอเรียนถามหลวงพ่อว่าการเช็ดหิ้งพระที่บ้าน โยมสามารถเหยียบหิ้งพระขึ้นไปเช็ดทำความสะอาดด้านบนได้ไหมเจ้าคะ โยมเป็นผู้หญิงเกรงว่าจะบาป เนื่องจากหิ้งพระที่บ้านโยมทำเป็นชั้นลดหลั่นกัน มีขนาดใหญ่และสูง เอื้อมมือไปเช็ดก็ไม่ถึง ใช้บันไดก็ไม่ถึงเจ้าค่ะ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ชลธิดา : 22-11-2020 เมื่อ 10:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ชลธิดา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 24-11-2020, 22:16
สุพรรณหงส์'s Avatar
สุพรรณหงส์ สุพรรณหงส์ is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2013
ข้อความ: 22
ได้ให้อนุโมทนา: 41,458
ได้รับอนุโมทนา 6,006 ครั้ง ใน 200 โพสต์
สุพรรณหงส์ is on a distinguished road
Default

เหตุใดต้องขอขมาพระรัตนตรัย
ถาม : กลัวทำอะไรผิดไปโดยที่เราไม่รู้ แล้วเป็นบาปนะคะ ก็ขอกราบขมาอภัย
ตอบ : จ้ะ...เวลาจะทำอะไร ตั้งใจขอขมาต่อหน้าพระ โดยเฉพาะพระพุทธรูป พระสงฆ์ทุกรูปคือศากยบุตร ก็คือลูกของพระพุทธเจ้า ฉะนั้น..ขอขมาตรงต่อท่าน ท่านไม่ถือโกรธเราอยู่แล้ว แต่ถ้าจะเอาให้พ้นจริง ๆ ต้องขอขมาต่อพระรัตนตรัย โดยมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน

ก่อนสวดมนต์ไหว้พระ ก่อนทำกรรมฐานทุกครั้ง ควรจะกราบขอขมาพระรัตนตรัยก่อน หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสอนให้ปฏิบัติจนชิน จนกระทั่งทุกวันนี้ อาตมากราบพระเมื่อไรคนเขาจะเห็นว่ากราบหลายครั้ง คือครั้งแรกกราบก่อน หลังจากนั้นขอขมาพระรัตนตรัย แล้วก็กราบอีก สวดมนต์เสร็จก็กราบอีก อย่างน้อยต้องเก้ากราบไปแล้ว

โดยเฉพาะนักปฏิบัติ พอเริ่มเข้าเขตอุปจารสมาธิไปแล้ว มารเขารู้ว่าเราจะหนีห่างไปแล้ว เขาจะหาวิธีขวางเราไว้ทุกวิถีทาง
วิธีขวางที่ง่ายที่สุด ก็คือทำให้เราเกิดการลังเลสงสัย หรือทำให้เรามีความคิด มีคำพูด มีการกระทำ ที่เป็นการปรามาสในพระรัตนตรัย

พอเราเกิดความคิด มีคำพูด หรือมีการกระทำอย่างนั้น อย่าไปเสียอกเสียใจ อย่าไปหนีห่างจากความดีตรงจุดนั้น ให้คิดว่า ถ้าสติสัมปชัญญะของเราสมบูรณ์ ขึ้นชื่อว่าสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายเหล่านี้เราไม่ทำอยู่แล้ว แต่ว่าในขณะนี้ด้วยการชักนำของ กิเลส ตัณหา อุปาทาน และอกุศลกรรม พาให้เราทำสิ่งที่น่าเกลียดน่าชังเช่นนี้ ถึงไม่ใช่เจตนาโดยตรงของเราก็เถิด แต่เราก็เต็มใจกราบขอขมาพระรัตนตรัย แล้วก็ตั้งใจกราบขอขมาไป

พวกนี้เขากลัวคนหน้าด้าน ถ้าเราหน้าด้านตื๊อสู้อยู่ เขาก็ถอย ถ้ารู้ทันเขาก็ถอย ทุกคนที่ปฏิบัติอยู่ต้องผ่านจุดนี้ทั้งนั้น แล้วมารก็มีตัวตนจริง ๆ เขามาแต่ละทีน่ากลัวมาก อาตมาเจอเข้ามาแล้ว

ครั้งแรกที่เป็นเด็ก ๆ สวดสรภัญญะบทพาหุงฯ พญามารยกพลมาผจญพระพุทธเจ้าเหมือนอย่างกับคลื่นในมหาสมุทร เจอเข้าจริง ๆ ลักษณะนั้นเลย เขามาอย่างชนิดที่เหมือนกับว่า เราไม่มีทางที่จะต่อต้านเขาได้แม้แต่น้อย แต่เราถอยไม่ได้ ต้องสู้ เจอเข้าจริง ๆ

แต่ไม่ต้องกลัว ให้คิดเสียว่าเขาทำหน้าที่ของเขา เราทำหน้าที่ของเรา ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเอง เขาทำหน้าที่ขวาง เราทำหน้าที่หนี มารไม่ใช่ศัตรูแต่เป็นครูที่ขยันที่สุด เพราะเขาทดสอบเราอยู่ทุกวินาที เขาเป็นผู้มีอุปการคุณต่อเราอย่างยิ่ง ถ้าเราไม่ผ่านการทดสอบของเขา เราก็ยังคงติดอยู่ที่เดิม แต่ถ้าหากว่าเราผ่านตรงจุดนั้นไปได้ เราจะไม่แพ้อีก ครูที่ขยันออกข้อสอบขนาดนั้น น่าจะยกขึ้นหิ้งเป็นครูดีเด่นเสียด้วยซ้ำไป

คิดเสียว่าเป็นหน้าที่ของเขา เขามีหน้าที่ขวางให้เขาขวางไป เราทำหน้าที่ของเรา เราจะหนีให้พ้น เราก็หนีของเราไป ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ไม่มีใครดี ไม่มีใครชั่ว ต่างเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนกัน แผ่เมตตา อโหสิกรรมให้เขา เขาทำต่อไป ก็ตั้งใจแผ่เมตตาให้เขาต่อไป เราไม่มีทางสู้เขา ไม่ว่าวิธีไหนก็แล้วแต่ ยกเว้นว่าเลิกสู้ไปเลย

อาตมาโดนมาแล้วทุกวิถีทาง งานนั้นเกือบตาย..! ประมาณสิบกว่าวัน ไม่ได้กิน ไม่ได้นอน ตามที่อ่านในตำราที่บอกว่าเวลาเขามา มีลักษณะตัวดำเป็นนิล มาลักษณะนั้นจริง ๆ โอ้โฮ ! แล้วเวลาเขามานี่ พลังที่รุมล้อมรอบข้างนี่ เหมือนอย่างกับลูกไก่ไปเจองู ลุ้นไม่ขึ้นเลย ทำท่าจะยอมหมอบราบคาบแก้วแพ้อยู่ท่าเดียว ยกเว้นกำลังใจสุดท้ายที่คอยเตือนสติว่า ถ้าแพ้เราจะเป็นทาสเขาตลอดไป จึงได้ยืนหยัดสู้ต่อไป

แต่ก็อย่างว่าแหละ สู้ไปสู้มา สู้เท่าไร ก็สู้เขาไม่ได้ จะใช้ความสามารถพิเศษรบกับเขา เราก็แพ้ตั้งแต่ยกแรกเลย เพราะว่าสู้ก็คือเกิดโทสะ ก็เสร็จเขา ใช้กำลังใจแผ่เมตตาอย่างเดียวก็สู้เขาไม่ได้ เพราะว่ากำลังเขาสูงมาก ขนาดพระพุทธเจ้าเขายังไม่ยอมรับ ตรงจุดนี้ไม่ใช่ว่าพระพุทธเจ้าท่านไม่เก่งนะ ...(หัวเราะ)... เก่ง แต่ว่าเนื่องจากว่าให้เท่าไรเขาไม่รับ มีปัญญาก็ให้ไปสิ..เราก็แย่อยู่ฝ่ายเดียว ตื๊อกันเข้าไป..ฟาดกันอยู่นานเนกาเล คิดว่างานนี้แค่ตาย ปรากฏว่าตื๊อไปตื๊อมา อาจจะพ้นวาระกรรมพอดีก็ได้ เขาก็เลยถอยให้ แต่กว่าจะถอย เล่นเอางอมพระรามไปเลย..!

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๔
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุพรรณหงส์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 25-11-2020, 22:25
สุพรรณหงส์'s Avatar
สุพรรณหงส์ สุพรรณหงส์ is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2013
ข้อความ: 22
ได้ให้อนุโมทนา: 41,458
ได้รับอนุโมทนา 6,006 ครั้ง ใน 200 โพสต์
สุพรรณหงส์ is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ สุพรรณหงส์ อ่านข้อความ
เหตุใดต้องขอขมาพระรัตนตรัย
ถาม : กลัวทำอะไรผิดไปโดยที่เราไม่รู้ แล้วเป็นบาปนะคะ ก็ขอกราบขมาอภัย
ตอบ : จ้ะ...เวลาจะทำอะไร ตั้งใจขอขมาต่อหน้าพระ โดยเฉพาะพระพุทธรูป พระสงฆ์ทุกรูปคือศากยบุตร ก็คือลูกของพระพุทธเจ้า ฉะนั้น..ขอขมาตรงต่อท่าน ท่านไม่ถือโกรธเราอยู่แล้ว แต่ถ้าจะเอาให้พ้นจริง ๆ ต้องขอขมาต่อพระรัตนตรัย โดยมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน

ก่อนสวดมนต์ไหว้พระ ก่อนทำกรรมฐานทุกครั้ง ควรจะกราบขอขมาพระรัตนตรัยก่อน หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสอนให้ปฏิบัติจนชิน จนกระทั่งทุกวันนี้ อาตมากราบพระเมื่อไรคนเขาจะเห็นว่ากราบหลายครั้ง คือครั้งแรกกราบก่อน หลังจากนั้นขอขมาพระรัตนตรัย แล้วก็กราบอีก สวดมนต์เสร็จก็กราบอีก อย่างน้อยต้องเก้ากราบไปแล้ว

โดยเฉพาะนักปฏิบัติ พอเริ่มเข้าเขตอุปจารสมาธิไปแล้ว มารเขารู้ว่าเราจะหนีห่างไปแล้ว เขาจะหาวิธีขวางเราไว้ทุกวิถีทาง
วิธีขวางที่ง่ายที่สุด ก็คือทำให้เราเกิดการลังเลสงสัย หรือทำให้เรามีความคิด มีคำพูด มีการกระทำ ที่เป็นการปรามาสในพระรัตนตรัย

พอเราเกิดความคิด มีคำพูด หรือมีการกระทำอย่างนั้น อย่าไปเสียอกเสียใจ อย่าไปหนีห่างจากความดีตรงจุดนั้น ให้คิดว่า ถ้าสติสัมปชัญญะของเราสมบูรณ์ ขึ้นชื่อว่าสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายเหล่านี้เราไม่ทำอยู่แล้ว แต่ว่าในขณะนี้ด้วยการชักนำของ กิเลส ตัณหา อุปาทาน และอกุศลกรรม พาให้เราทำสิ่งที่น่าเกลียดน่าชังเช่นนี้ ถึงไม่ใช่เจตนาโดยตรงของเราก็เถิด แต่เราก็เต็มใจกราบขอขมาพระรัตนตรัย แล้วก็ตั้งใจกราบขอขมาไป

พวกนี้เขากลัวคนหน้าด้าน ถ้าเราหน้าด้านตื๊อสู้อยู่ เขาก็ถอย ถ้ารู้ทันเขาก็ถอย ทุกคนที่ปฏิบัติอยู่ต้องผ่านจุดนี้ทั้งนั้น แล้วมารก็มีตัวตนจริง ๆ เขามาแต่ละทีน่ากลัวมาก อาตมาเจอเข้ามาแล้ว

ครั้งแรกที่เป็นเด็ก ๆ สวดสรภัญญะบทพาหุงฯ พญามารยกพลมาผจญพระพุทธเจ้าเหมือนอย่างกับคลื่นในมหาสมุทร เจอเข้าจริง ๆ ลักษณะนั้นเลย เขามาอย่างชนิดที่เหมือนกับว่า เราไม่มีทางที่จะต่อต้านเขาได้แม้แต่น้อย แต่เราถอยไม่ได้ ต้องสู้ เจอเข้าจริง ๆ

แต่ไม่ต้องกลัว ให้คิดเสียว่าเขาทำหน้าที่ของเขา เราทำหน้าที่ของเรา ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเอง เขาทำหน้าที่ขวาง เราทำหน้าที่หนี มารไม่ใช่ศัตรูแต่เป็นครูที่ขยันที่สุด เพราะเขาทดสอบเราอยู่ทุกวินาที เขาเป็นผู้มีอุปการคุณต่อเราอย่างยิ่ง ถ้าเราไม่ผ่านการทดสอบของเขา เราก็ยังคงติดอยู่ที่เดิม แต่ถ้าหากว่าเราผ่านตรงจุดนั้นไปได้ เราจะไม่แพ้อีก ครูที่ขยันออกข้อสอบขนาดนั้น น่าจะยกขึ้นหิ้งเป็นครูดีเด่นเสียด้วยซ้ำไป

คิดเสียว่าเป็นหน้าที่ของเขา เขามีหน้าที่ขวางให้เขาขวางไป เราทำหน้าที่ของเรา เราจะหนีให้พ้น เราก็หนีของเราไป ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ไม่มีใครดี ไม่มีใครชั่ว ต่างเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนกัน แผ่เมตตา อโหสิกรรมให้เขา เขาทำต่อไป ก็ตั้งใจแผ่เมตตาให้เขาต่อไป เราไม่มีทางสู้เขา ไม่ว่าวิธีไหนก็แล้วแต่ ยกเว้นว่าเลิกสู้ไปเลย

อาตมาโดนมาแล้วทุกวิถีทาง งานนั้นเกือบตาย..! ประมาณสิบกว่าวัน ไม่ได้กิน ไม่ได้นอน ตามที่อ่านในตำราที่บอกว่าเวลาเขามา มีลักษณะตัวดำเป็นนิล มาลักษณะนั้นจริง ๆ โอ้โฮ ! แล้วเวลาเขามานี่ พลังที่รุมล้อมรอบข้างนี่ เหมือนอย่างกับลูกไก่ไปเจองู ลุ้นไม่ขึ้นเลย ทำท่าจะยอมหมอบราบคาบแก้วแพ้อยู่ท่าเดียว ยกเว้นกำลังใจสุดท้ายที่คอยเตือนสติว่า ถ้าแพ้เราจะเป็นทาสเขาตลอดไป จึงได้ยืนหยัดสู้ต่อไป

แต่ก็อย่างว่าแหละ สู้ไปสู้มา สู้เท่าไร ก็สู้เขาไม่ได้ จะใช้ความสามารถพิเศษรบกับเขา เราก็แพ้ตั้งแต่ยกแรกเลย เพราะว่าสู้ก็คือเกิดโทสะ ก็เสร็จเขา ใช้กำลังใจแผ่เมตตาอย่างเดียวก็สู้เขาไม่ได้ เพราะว่ากำลังเขาสูงมาก ขนาดพระพุทธเจ้าเขายังไม่ยอมรับ ตรงจุดนี้ไม่ใช่ว่าพระพุทธเจ้าท่านไม่เก่งนะ ...(หัวเราะ)... เก่ง แต่ว่าเนื่องจากว่าให้เท่าไรเขาไม่รับ มีปัญญาก็ให้ไปสิ..เราก็แย่อยู่ฝ่ายเดียว ตื๊อกันเข้าไป..ฟาดกันอยู่นานเนกาเล คิดว่างานนี้แค่ตาย ปรากฏว่าตื๊อไปตื๊อมา อาจจะพ้นวาระกรรมพอดีก็ได้ เขาก็เลยถอยให้ แต่กว่าจะถอย เล่นเอางอมพระรามไปเลย..!

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๔
อ้างอิง :

https://www.watthakhanun.com/webboar...ead.php?t=1595
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 22 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุพรรณหงส์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 05-12-2020, 03:21
สุธรรม's Avatar
สุธรรม สุธรรม is offline
ผู้ตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 4,751
ได้ให้อนุโมทนา: 268,238
ได้รับอนุโมทนา 837,240 ครั้ง ใน 12,756 โพสต์
สุธรรม is on a distinguished road
Default

ถาม : การเช็ดหิ้งพระที่บ้าน โยมสามารถเหยียบหิ้งพระขึ้นไปเช็ดทำความสะอาดด้านบนได้ไหมเจ้าคะ ? โยมเป็นผู้หญิงเกรงว่าจะบาป เนื่องจากหิ้งพระที่บ้านโยมทำเป็นชั้นลดหลั่นกัน มีขนาดใหญ่และสูง เอื้อมมือไปเช็ดก็ไม่ถึง ใช้บันไดก็ไม่ถึงเจ้าค่ะ ?
ตอบ : ได้..ทำแล้วให้กราบขอขมาพระรัตนตรัยทุกครั้ง
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 21 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:31



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว