กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ในวาระสำคัญต่าง ๆ

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 17-08-2023, 18:16
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 335
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 18,300 ครั้ง ใน 808 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default ปกิณกธรรมสัปดาห์วันแม่ วันอาทิตย์ที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๖ - ช่วงบ่าย

ปกิณกธรรมสัปดาห์วันแม่ วันอาทิตย์ที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๖ - ช่วงบ่าย



แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พิชวัฒน์ : 17-08-2023 เมื่อ 19:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 19 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 23-08-2023, 19:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,775 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ที่เหลือหายไปไหนกัน มาด่วน ๆ เลย..! คราวนี้รู้หรือยังว่าการทำความดีนี่ยากแค่ไหน ? พาตัวเองมาให้ถึงที่ปฏิบัติธรรมยังยากเลย..!

การฝึกฝนตนเองเป็นของยาก อาตมาเองก็เป็นลูกหลานสุนทรภู่เหมือนกัน สมัยก่อนถึงเวลามีอะไรก็คร่ำครวญเป็นโคลงเป็นกลอนระบายอารมณ์ ดีกว่าไปด่าชาวบ้านตั้งเยอะ..! เขียนกลอนท่อนหลังไว้ แล้วเกือบ ๒๐ ปีต่อมา ค่อยไปเขียนท่อนแรก..ตลกไหม ? เขียนท่อนหลังไว้ว่า

ของสิ่งใดการได้มาถ้าลำบาก..........ต้องทุกข์ยากมักมีค่ามหาศาล
ดุจเหล็กกล้าผ่านการทุบชุบเป็นนาน.....จึงตระการเป็นอาวุธสุดแหลมคม

ปลอบใจตัวเองว่าสู้ ๆ แล้วหลังจากนั้นเกือบ ๒๐ ปีให้หลัง ก็นึกได้ว่ายังไม่พอ ก็เลยเขียนท่อนแรกเพิ่มเข้าไป

อุปสรรคมากมีที่ขัดขวาง...........ต้องถากถางบุกบั่นไม่หวั่นไหว
ถึงทุกข์ยากลำบากสักเพียงใด..........ย่อมฝ่าฟันพ้นไปได้สักวัน

ของสิ่งใดการได้มาถ้าลำบาก.................ต้องทุกข์ยากมักมีค่ามหาศาล
ดุจเหล็กกล้าผ่านการทุบชุบเป็นนาน............จึงประการเป็นอาวุธสุดแหลมคม

สรุปง่าย ๆ ว่าไม่มีอะไรหรอกที่ทำแล้วจะได้เดี๋ยวนั้น พวกเราส่วนใหญ่ฝันให้ไกลแต่ไปไม่ถึง เพราะว่าขาดความเพียร ขาดความอดทน

โดยเฉพาะเด็กรุ่นหลัง หลายคนเห็นว่าหลวงพ่อเล็กโคตรขยันเลย ขอยืนยันว่าขยันที่โยมเห็นนี่ อาตมาโดนพ่อแม่ตีตูดลายมาเยอะต่อเยอะแล้วว่าขี้เกียจ..! แล้วไอ้เด็กขี้เกียจสุด ๆ ของยุคนั้นนั่นแหละ คือคนที่ในยุคนี้เขาบอกกันว่าโคตรขยันเลย..! เราจะเห็นว่าแต่ละยุค สมรรถนะของคนลดลงไปเรื่อย สมรรถนะคือความสามารถ ความสามารถจะลดลงไปเรื่อย ๆ

เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าอยากเก่งก็ต้องขยัน โบราณเขาบอก "อยากสูงให้เขย่ง อยากเก่งต้องขยัน" อย่างพวกเราก็ขยันได้สามวัน บางคนก็วันเดียวแค่นั้นแหละ วันที่สองก็ไม่เอาแล้ว อยู่ใกล้หลวงพ่อขยันขึ้นมาหน่อย แต่พอหันหลังจากวัดไป สามชั่วโมงลืมหมดแล้ว..! กลับไปกิน ไปเที่ยวต่อ กลายเป็นลูกกิเลสตามเดิม ไม่ยอมเป็นลูกพระสักที..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2023 เมื่อ 17:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 23-08-2023, 19:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,775 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อาตมาก็อยากทำอย่างโยมทั้งหลาย แต่ทำไม่ได้ เพราะว่าโดนบังคับมา ตอนที่ตะเกียกตะกายจะลงมาเกิด วิ่งไปหาปู่ ย่า ตา ทวดให้ช่วยรับรองให้หน่อย คือถ้าไม่มีผู้ค้ำประกันเขาไม่ให้ลงมาเกิดนะ พวกชิงหมาเกิดนี่ต้องมีผู้ค้ำประกัน เพราะว่าเป็นคิวของหมาไม่ใช่คิวของเรา เราต้องชิงหมาเกิดให้ได้..!

โบราณบอกว่า "อยากเป็นหนี้ให้เป็นนายหน้า อยากเป็นขี้ข้าให้เป็นนายประกัน" ปู่ ย่า ตา ทวด ก็กลัวว่าจะต้องไปเป็นขี้ข้า เพราะว่าช่วยเป็นนายประกันของเรา ท่านไม่อยากจะประกันให้ ก็ต้องไปอ้อนวอน ทำสัญญาก็คือ "ลงไปเกิดแล้วต้องกลับไปให้ดีกว่าเดิมนะ" โห..ยาก พอ ๆ กับถ้าหากว่าเป็นธนินท์ เจียรวนนท์ ไปเกิดใหม่ต้องรวยกว่านั้นนะ..!

เขาบอกว่า "อันว่าชายหมายมาดว่าชาติเชื้อ ถึงปะเสือก็จะสู้ดูสักหน" ลองดูสักตั้ง ก็เลยไม่มีเวลาทำชั่ว ถ้าขืนเอาเวลาไปทำชั่วนี่ตายแน่ กลับไปไม่ได้ดีเท่าเดิม โดนเหยียบจมธรณีเด็ดขาดเลย..! ใครที่ชิงหมาเกิดแบบอาตมภาพนี่เข็ดทุกราย เพราะโดนบังคับว่ากลับไปต้องดีกว่าเดิม

เพราะฉะนั้น..ก็ไม่มีเวลาไปทำความชั่ว พยายามทำอย่างไรก็ไม่สำเร็จ ตอนเป็นวัยรุ่นอยากลองดูดบุหรี่บ้าง เห็นรุ่นพี่ ๆ เขาเท่เหลือเกิน สมัยนั้นเขามีไฟแช็คยี่ห้อ Zippo จะมี Zippo เงิน Zippo ทอง ราคาแพงหรือไม่แพงให้ดูที่ก้นไฟแช็ค จะมีขีดอยู่ ยิ่งขีดมากยิ่งแพง อาตมภาพแอบขโมยบุหรี่พ่อไปลองสูบหนึ่งตัว อุตส่าห์มุดแอบไปสูบในพุ่มไม้เพราะว่ากลัวพ่อเห็น สูบไปได้ครึ่งตัวเท่านั้นแหละ ขมไปทั้งปาก น้ำลายยืดเลย..เมาบุหรี่..!

สมัยนั้นบุหรี่มีอยู่แค่ ๒ ยี่ห้อ ก็คือเกล็ดทองกับรวงข้าว ส่วนอย่างอื่นมาทีหลัง ต่อมามียี่ห้อพระจันทร์ สามิต กรุงทอง สายฝน สายฝนนี่คนบอกว่าเป็นบุหรี่ผู้หญิงชัด ๆ เพราะว่ารสชาติจืดชืดไม่เอาอ่าว ขนาดบุหรี่ผู้หญิงอาตมายังสู้ไม่ได้เลย เมาน้ำลายยืด เข็ด..ไม่แตะบุหรี่อีกเลย

เพื่อนเขาบอกว่า "ลูกผู้ชายต้องกินเหล้าสิวะ..!" ก็ลองดู สรุปก็คือแค่ได้กลิ่นก็หงายหลังตึงแล้ว เพราะว่าสมัยนั้นเป็นเหล้า ๔๐ ดีกรี ๔๕ ดีกรี ถ้าหากว่าต้มเองก็ ๖๐ - ๗๐ ดีกรี ประเภทจุดไฟลุกพรึ่บ..กินเข้าไปได้อย่างไรกันวะ ? แอลกอฮอล์เติมตะเกียงชัด ๆ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2023 เมื่อ 00:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 23-08-2023, 20:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,775 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพื่อนยุต่อ "กินเบียร์ก็ได้ ไม่แรงหรอก" ลองบ้าตามเพื่อนดู เพื่อนเทมาให้หนึ่งแก้ว เขาบอกว่า "ต้องเทแบบนี้ เอียงแก้วรับ ถ้าเทไม่เป็น ได้ฟองครึ่งค่อนแก้ว กินเข้าไปท้องอืดตายห่..เลยมึง..!" เทมาให้แก้วเบ้อเร่อ ยกขึ้นไม่ทันจะกิน ดมเท่านั้นแหละ..วางเลย..!

เพราะว่าสมัยนั้นต้องถักแหถักอวนเอาไว้ใช้งาน ถ้าอยากจะให้ใช้งานได้นาน ๆ ก็ต้องเอาเปลือกไม้มาต้มแล้วก็ย้อม ด้ายจะได้ทน โดนน้ำแล้วไม่เปื่อย เปลือกไม้ต้มย้อมแหย้อมอวน ทิ้งคาเอาไว้ ๒ - ๓ วันก็บูดฟองฟอด กลิ่นเบียร์กับกลิ่นไม้บูดเหมือนกันเปี๊ยบเลย "มึงกินของเน่า ๆ แบบนี้เข้าไปได้อย่างไรวะ..?!"

อยากจะทำอะไร ทำไม่ได้สักอย่าง..สมน้ำหน้า..! ไม่ได้เจตนาจะบริสุทธิ์ผุดผ่องหรอกนะ แต่ว่าทำไม่ได้..!

ตอนเป็นทหารไปอยู่ชายแดน ปกติแล้วเขาก็ไปอยู่กันปีเดียว ปรากฏว่าอาตมภาพโดนไปปีกว่า เพราะว่าขึ้นไปหลังเหตุการณ์ที่โนนหมากมุ่นใหม่ ๆ เลย เขมรแดงของเฮง สัมรินที่มีทหารญวนสนับสนุนยุยง บุกเข้ามาตีไทยที่โนนหมากมุ่น ปะทะกันตายไป ๓๐๐ กว่าศพ..! อาตมภาพต้องขึ้นไปรับพื้นที่ต่อจากกรมทหารราบที่ ๑๑ ที่เขาเรียกว่า "ร.๑๑ รอ." ร. มาจากทหารราบระดับกรม ถ้าหากว่า ม. ก็กรมทหารม้า รอ. ก็ รักษาพระองค์

คราวนี้ก็เลยรบติดพัน ย้ายกำลังไม่ได้ เพราะว่าถ้าย้ายแล้วเขารุกเข้ามาพอดีก็บรรลัย กว่าจะเอาเขาออกได้ก็ไม่รู้อีกนานเท่าไร..? ติดอยู่หน้าชายแดนปีกว่า ทหารก็หนุ่มกับหนุ่มด้วยกันทั้งหมดนั่นแหละ อยู่ด้วยกันก็กลัดมัน อกจะระเบิด..! ถึงเวลาก็ขออนุญาตเจ้านายไปเที่ยวซ่อง..!

สมัยนั้นหยาบคายสิ้นดี ไม่มีผับ ไม่มีบาร์ ไม่มีเลานจ์ มีแต่ซ่อง เป็นที่รู้ ๆ กันว่าเขาเอาไว้ทำอะไร คราวนี้จะไปตามเวลาก็ไม่ได้ เพราะว่าทหารไปทีไปกันเป็นกองร้อย..! ถ้าไปตามเวลา ชาวบ้านก็ได้แตกตื่นกันหมด ไม่ต้องทำมาหากินกันแล้ว จึงต้องไปนอกเวลา

ออกจากกองร้อยไปประมาณบ่ายโมง เพื่อนก็ลากแขนขึ้นรถ "เฮ้ย..ไปด้วย
กลัดมันแบบนี้เดี๋ยวอกแตกตายหรอกมึง..!" ด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็ไปกับเขาหน่อย ปรากฏว่าผู้หญิงทั้งหลายเหล่านั้น เวลาทำกินของเขาก็คือกลางคืน ตอนกลางวันแม่เจ้าประคุณก็ต้องนอน เหมือนพวกนกฮูก กว่าจะตื่นก็ราว ๆ ๕ - ๖ โมงเย็น อาบน้ำอาบท่า แต่งเนื้อแต่งตัว จนสวยเช้งวับ แล้วไปนั่งตู้ เข้าแสงไฟก็สวยเชียว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2023 เมื่อ 00:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 23-08-2023, 20:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,775 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ตอนที่บรรดาแม่เล้าไปทุบประตูเรียกออกมานี่ดูไม่ได้เลย เพราะว่าตอนนั้นเป็นเวลานอนของเขา บ่ายสองโมงของเขาก็เหมือนกับตี ๑ ตี ๒ ของเรา แต่ละคนออกมานี่หัวเป็นกระเซิง ซีดเป็นผีตายซาก นุ่งกระโจมอกออกมา..! บางคนนี่เบ้าตาดำเหมือนหมีแพนด้า น่ารักมาแต่ไกลเชียว เห็นแล้วนึกว่ากำลังดูหนังผี..!

อาตมานั่งหมดอาลัยตายอยาก เพื่อนว่า "เฮ้ย..ไปเลือกสิ" ตอบไปว่า "มึงไปเถอะ กูนั่งเฝ้าหน้าห้องให้ เห็นแล้วกูกลัว ซอมบี้จะกินกูหรือเปล่าก็ไม่รู้..!" โอ๊ย..เรื่องอย่างนี้ยังทำไม่ได้อีก..! พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ทวด อะไรจะบังคับกันขนาดนี้..! ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าท่านทำให้เห็นภาพเกินจริงหรือเปล่า ? แต่เห็นแล้วเหมือนกับศพชัด ๆ..! ดูไม่ได้เลย แม่เจ้าประคุณเอ๊ย..ลูกใครหลานใคร ถ้าไม่ใช่ลำบากยากแค้นจริง ๆ ใครจะมาทำอาชีพนี้ ? ไปนั่งปลงอนิจจัง ท้ายสุดก็ "แห้ว" กลับมาคนเดียว ทำไมเป็นอย่างนั้นไปได้..?

การพนันก็เล่นไม่ได้ ตอนเด็ก ๆ ไปนั่งเฝ้าข้างวงไพ่ เวลางานศพจะมีตั้งวงเล่นไพ่ เขย่าไฮโลว์ โดยอ้างว่าอยู่เป็นเพื่อนศพ ศพยังต้องการเพื่อนอีกหรือวะ..? อยู่เป็นเพื่อนศพ..ทำไมมึงไม่ไปนอนในโลงเป็นเพื่อนกันเลย มานั่งเล่นอยู่หน้าโลงทำไม ? อาตมาก็ไปนั่งดูเขาเล่นกัน พอง่วงขึ้นมาก็ไปนอน..นอนไม่ได้ โพธิ์ดำ โพธิ์แดง ดอกจิก ข้าวหลามตัดบินว่อนเต็มสายตาไปหมด..! ครึ่งค่อนคืนยังไม่หายไปไหนเลย

ตอนนั้นไม่รู้ว่านั่นคือกสิณ คิดอยู่อย่างเดียวว่า "ทำไมถึงติดตาแท้วะ ? ไม่ยอมไปไหนสักที" เขาเปิดศพให้ดูก็ โอ้โห..ผีหลอก กลัวเสียจนกระทั่งแทบจะออกไปฉี่ไม่ได้ ภาพศพติดตาไปสองวันสามวัน ตอนนั้นไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นคือกสิณ ซึ่งเป็นความสามารถที่ติดมาแต่อดีต ทำให้มองอะไรแล้วจำติดตา ก็เลยทำให้กลัวพวกนี้ไปเลย ไม่กล้าไปนั่งข้างวงไพ่ เพราะว่าไม่อย่างนั้นกว่าจะนอนได้ก็เกือบสว่าง..!

"ชาตินี้กูจะทำอะไรได้บ้างวะ..!?" อยากจะทำชั่ว แต่เหมือนกับมีคนถือไม้เรียวคอยบังคับ ห้ามชั่วเด็ดขาด ได้แต่ถอนหายใจ..!

ออกนอกทางไปไกลแล้ว ที่บอกก็คือเรื่องของการฝึกตัวเองนั้นยากมาก แต่ถึงยากก็ต้องทำ พยายาม "เข็นครกขึ้นภูเขา" ไปเรื่อย ๆ ถ้าไม่ถูกทับตายไปก่อน ต้องมีสักวันหนึ่งที่ถึงยอดเขาได้ แต่ก่อนที่จะถึงยอดเขาก็จะลำบากหน่อย

อดทน..พากเพียร..พยายาม..ปรับให้กรรมฐานเข้ากับชีวิตประจำวันของเราให้ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2023 เมื่อ 00:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 12 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 23-08-2023, 20:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,775 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตั้งกำลังใจไว้ว่าตั้งแต่ตื่นขึ้นมาจนไปถึงที่ทำงาน..เราจะไม่ยอมให้ศีลขาด ในระหว่างทำงานอาจจะมีขาดบ้าง..ก็ช่างมัน ตั้งแต่เลิกงานกลับบ้านจนกว่าจะนอน..เราจะไม่ยอมให้ศีลขาด ไปลองดู แค่นี้แหละ..ทำให้ได้ก่อน ใครทำได้ถือว่าประสบความสำเร็จ

พวกเราคนเก่า ๆ ส่วนใหญ่ไม่หนักใจเรื่องศีลแล้ว ก็เหลือแต่การภาวนา ทำอย่างไรจะไม่ฟุ้งซ่าน ? หยุดคิด..หยุดเมื่อไรก็เลิกฟุ้งซ่านเมื่อนั้นแหละ พวกเราส่วนใหญ่แล้วจะฟุ้งซ่านเห็นอะไรก็ไปเรื่อย ยกตัวอย่างแค่เรื่องโทรศัพท์เครื่องเดียว

"สาวคนนั้นสวยดีนะ ขอไลน์เขาหน่อยดีกว่า" ราคะมาแล้ว คิดนิดเดียวนี่แหละ..ใช่ไหม ?
"ไอ้ห่..นั่น วันนั้นมองเราหัวถึงตีน ต้องแชทไปด่าเสียหน่อย" โทสะ..ใช่ไหม ?
"กูอุตส่าห์อัพสเตตัส ทีมึงอัพ กูไปกดไลค์ให้ แต่กูอัพมาตั้งชาติแล้ว มึงอ่านอย่างเดียว ไลค์สักนิดก็ไม่กดให้ เดี๋ยวด่าเลย" โทสะมาแล้ว
"เห็นบอกกันว่าถ้าเราเจาะระบบนั้นแล้ว เราจะโกยสตางค์ของเขามาได้ ลองทำดูหน่อยดีกว่า ความสามารถของเราก็ไม่น้อยกว่าใครนี่หว่า..!" โลภ..ใช่ไหม ?

โทรศัพท์เครื่องเดียว รัก โลภ โกรธ หลง มาหมดเลย เพราะอะไรล่ะ ? เพราะว่าเราคิด ทำอย่างไรถึงจะเห็นเป็นแค่โทรศัพท์ ตามองแล้วหยุดเอาไว้แค่นั้นอย่าคิดต่อ เห็นเป็นโทรศัพท์นี่ก็แย่มากแล้วนะ เผลอเมื่อไรกิเลสกินตายชักแล้ว..!

ลักษณะเดียวกันว่าทำอย่างไรเราจะเห็นผู้หญิง เห็นผู้ชาย แล้วสักแต่ว่าเห็น ? อย่าไปคิดต่อว่า "สวย ไม่สวย" "สเป็กเราหรือเปล่า ?" "ยายนี่ทำจมูกมาแหลมเปี๊ยบเลย สู้ยายนั่นก็ไม่ได้..อึ๋มดี..!" คิดเมื่อไรแพ้เมื่อนั้น หยุดได้ไหม ? สักแต่ว่าเห็นไว้ก่อน

ถามว่า "แล้วทำอย่างไรถึงจะหยุดได้ ?"
ให้อยู่กับลมหายใจตรงนี้ ไม่ต้องไปไหนเลย หลุดจากตรงนี้เมื่อไร รัก โลภ โกรธ หลง ตีตายเลย..! ตอนนี้เราตกเหวอยู่ ลมหายใจตรงหน้าเราก็คือเถาวัลย์เส้นเดียวที่เราดึงเอาไว้ได้ รีบตะกายขึ้นไปบนยอดเขาให้ทัน ไม่อย่างนั้นนาน ๆ ไปเกิดเถาวัลย์ขาดก็เรียบร้อย..!

เพราะฉะนั้น..หยุดคิดด้วยการอยู่กับลมหายใจตรงนี้ก่อน ถ้าทรงสมาธิได้ปัญญาจะเกิด แล้วเราจะรู้ว่าคิดอย่างไรแล้วเป็นประโยชน์ คิดอย่างไรแล้วเป็นโทษ อย่างที่บอกไปตอนช่วงเช้าก็คือ เราก็เลือกคิดแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ ให้คุณงามความดีเจริญรุ่งเรือง ตัดเอาสิ่งที่คิดแล้วไม่ดีเป็นโทษออกไป ระมัดระวังไว้อย่าให้เข้ามาอีก..ก็จบแล้ว ทำมาทั้งชีวิต งานมีแค่นี้เอง แต่ไปทำอะไรกันก็ไม่รู้..?!

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
ปกิณกธรรมสัปดาห์วันแม่
ช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ ๑๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทะเล)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2023 เมื่อ 00:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:40



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว