กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #141  
เก่า 23-06-2019, 18:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พูดถึงรูปภาพประกอบคำสอนธรรมะ "เนื้อหาเยอะเกินไปไหม ? คุณจำไว้ว่าสมัยนี้คนไทยอ่านหนังสือไม่เกิน ๘ บรรทัด ตัดสั้น ๆ เอาเฉพาะเนื้อหาใจความ และต้องเป็นเนื้อหาใจความที่คนทั่วไปอ่านเข้าใจ ไม่ใช่เราอ่านเข้าใจ ขยายตัวให้ใหญ่หน่อยก็ได้ อย่ามาก เพราะว่าถ้ามาก แค่มองเขาก็หมดความสนใจ...กูไปละ..!

ส่วนใหญ่แล้วพวกเรามีพื้นฐานการปฏิบัติธรรมมาก่อน เราคิดว่าเราอ่านเข้าใจ แต่คนอื่นอ่านไม่รู้เรื่อง ต้องคิดอยู่เสมอว่าคนใหม่อ่านต้องรู้เรื่อง คนไม่มีพื้นฐานอ่านต้องรู้เรื่อง บางอย่างถ้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ ปรับแก้เล็กน้อยเพื่อให้เขารู้เรื่องก็ปรับได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2019 เมื่อ 02:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #142  
เก่า 23-06-2019, 18:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"สมัยก่อนตอนทำหนังสือประวัติหลวงปู่ปาน หนังสือคู่มือกรรมฐาน ๔๐ ของวัดท่าซุง มีปัญหาอยู่ว่าลูกศิษย์หลวงพ่อเก่า ๆ หลายคน เคารพธรรมะเกินเหตุ ไม่กล้าแก้ไขต้นฉบับแม้แต่คำเดียว กระทั่งเสียงกระแอมกระไอยังถอดลงไปเลย ลักษณะอย่างนั้นปัญญาอ่อนชัด ๆ..! อะไรที่แก้ไขแล้วเนื้อความเดิมไม่เสีย ทำให้คนเข้าใจง่ายขึ้น เว้นวรรคตอนให้คนอ่านง่ายขึ้น ทำได้ทั้งนั้น แทนที่จะบาปกลับได้บุญเสียด้วยซ้ำไป

ส่วนพวกประเภทถอดไปทั้งดุ้น พอถึงเวลาคนอ่านรำคาญขึ้นมา พาให้นรกเกิดกับเขาอีก ถ้าไปเจอพวกนิติศาสตร์ทั้งแท่งนี่น่าเบื่อ เขาเรียกว่าประยุกต์ใช้ไม่เป็น คนจีนเขาบอกเอาไว้ว่า คนเก่งคือเรียนรู้ได้ตามที่อาจารย์สอน ส่วนบุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิต จะต้องสามารถปรับสิ่งที่อาจารย์สอนไปใช้ในชีวิตจริงได้ แต่ถ้าอัจฉริยะนี่ให้บัญญัติใหม่เอง ไม่ต้องไปพึ่งพาอาจารย์ คาดว่าคนพูดต้องเป็นพุทธภูมิแน่นอน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2019 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #143  
เก่า 23-06-2019, 19:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ทำตนเป็นเรือนว่าง ไม่มีหลังคา ไม่มีข้างฝา ใครขว้างอะไรมาก็เลยไป อาตมาสรุปได้ตั้งแต่ตอนประมาณพรรษา ๓ ว่า “วางก่อน สบายก่อน กูไม่เอาอะไรแล้ว”

พระพุทธเจ้าตรัสว่า
"ทำใจให้เหมือนกับแผ่นดิน แผ่นดินย่อมรองรับทั้งสิ่งที่สะอาดและไม่สะอาดโดยเสมอหน้ากัน
ทำใจให้เหมือนกับสายน้ำ สายน้ำย่อมขึ้นเปี่ยมฝั่ง ไม่ว่าฝั่งไหนก็ขึ้นโดยเสมอหน้ากัน
ทำใจให้เหมือนกับเปลวไฟ ย่อมไหม้ของที่สะอาดและไม่สะอาดโดยเสมอหน้ากัน
ทำใจให้เหมือนกับสายลม ย่อมพัดไปยังสถานที่ต่าง ๆ ไม่ติดอยู่ ณ ที่ใด"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2019 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #144  
เก่า 23-06-2019, 19:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พระสมเด็จแหวกม่านของหลวงพ่อกวย นอกจากดูเนื้อแล้วยังต้องดูอีกว่ามีจุดหรือเปล่า ? รุ่นนี้ปลอมได้สะเด็ดยาดมาก ตำหนิก็ปลอมได้ แต่ไม่คมชัดเหมือนกับของจริง ลองเล็ง ๆ ดู ถ้าหากว่าไม่มั่นใจก็วางเลย อย่าไปเสี่ยง โลภเมื่อไรโอกาสเจ๊งมีสูง

เล่นวัตถุมงคลนี่ข้อสำคัญที่สุด ต้องมีหลักธรรมของพระพุทธเจ้านำหน้า ห้ามโลภ อย่าเห็นแก่ของถูก ประเภทดี ๆ ถูก ๆ หายาก ไม่มีทางได้ง่าย ๆ หรอก

วัตถุมงคลของท่านมีสักชิ้นก็พอ ขอให้เคารพท่านจริง ๆ เถอะ ประเภทประกาศตัวชัด ๆ ว่าข้าจะมาเกิดอีกไม่ค่อยมี เห็นมีก็หลวงพ่อคูณอีกรูป ข้าจะมาเกิดอีก จะมาสร้างบารมีต่อ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2019 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #145  
เก่า 23-06-2019, 19:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีคนท้องมาทำบุญ "อาตมาค่อนข้างจะชอบคนท้องมาตั้งแต่ไหนแต่ไร สมัยไปเฝ้าไข้หลวงปู่มหาอำพันที่โรงพยาบาลทหารเรือ (โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า) มีเรือเอกหญิงยุวดี สุวรรณประดิษฐ์ เรียกชื่อเล่นว่าโอ ไอ้โอท้องใกล้คลอด คุยกับไอ้โออยู่ได้ทั้งวัน บรรดาพยาบาลนายเรือหญิงสาว ๆ ค้อนกันตากลับ "คนท้องคนไส้คุยอยู่นั่นแหละ ทีเราสาวโสดไม่มองเลย"

ทั้ง ๆ ที่เห็นว่าอาตมาเป็นพระนะ ก็เลยบอกว่า "อ๋อ...ที่ชอบคุยกับคนท้องเพราะมั่นใจว่าเขามีผัวแล้ว" ตอนนี้แม่โอเขาก็เลยแยกเขี้ยวแทน "ไม่รู้จักแม่ซะแล้ว" สรุปก็คือไปห่าง ๆ ดีกว่า เดี๋ยวกลายเป็นวัวพันหลัก ยิ่งมายิ่งใกล้ พวกพยาบาลเขาคุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้ ไม่ถือไม่สาอะไร อาตมาเองก็คุยไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีเขินไม่มีอายก็ไปกันใหญ่ อาตมาก็ไปแค่กรอบ คุณเล่นนอกกรอบเมื่อไร อาตมาก็เฉย แปลกใจว่าคุยกันได้เป็นเดือน ๆ

ช่วงที่อยู่บ้านวิริยบารมียังมากันหลายครั้ง เกษียณกันหมดแล้ว นัดกันมา สมัยโน้นเป็นเรือเอก เป็นนาวาตรี อายุก็ต้องประมาณ ๔๐ ขึ้นทั้งนั้น อาตมาเองตอนนั้นก็ ๒๐ ปีกว่า ๆ ยังไม่ ๓๐ ปี ต่างกันเกือบครึ่ง เขามานี่เกษียณกันหมด เป็นคุณป้ากันหมดแล้ว

ฉะนั้น...ในเรื่องของพระ จะไปรอให้โยมระวังแทนนั้นไม่ได้ เราต้องระวังตัวของเราเอง ต้องรักษาตัวเอง ระวังตัวเอง ต้องมีเส้นที่แน่นอน ใครล้ำเส้นก็เลิกคบ ถ้าไม่เด็ดขาดเขาจะใกล้เข้ามาเรื่อย เดี๋ยวแนวป้องกันก็พัง"


__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2019 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #146  
เก่า 23-06-2019, 20:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนพันเอกพิเศษเสนาะ จินตรัตน์ ตายแล้วฟื้นใหม่ ๆ มาเล่าให้คนอื่นฟังว่าตัวเองตายไปแล้วไม่มีน้ำกิน เพราะว่าไม่เคยทำบุญไว้ ไปขอคนอื่น ๆ กินก็ไม่ได้ พอหยิบขึ้นมาก็หายหมด

อาตมาไปบิณฑบาตเจอน้ำมาทีละโหลเลย ไม่ได้นึกเลยว่าพระต้องเดินตั้ง ๕ กิโลเมตร บ้านแรกมาหนึ่งโหล บ้านที่สองมาอีกหนึ่งโหล ก็ไม่ต้องไปไหนแล้ว

ถามว่าการทำบุญแบบนั้นดีไหม ? ก็ดี..แต่ต้องใช้ปัญญาด้วย พระท่านยังต้องเดินอีกตั้งหลายกิโลเมตร ไม่ใช่ต้นทางเจอน้ำไปแล้ว ๒ โหล แล้วจะแบกอีท่าไหน ? สมัยนั้นพระวัดท่าซุงไม่มีลูกศิษย์เดินตาม ต้องดูแลตัวเองทั้งนั้น

ทำแค่พอสมควร คนละขวด ถ้าจะเมตตาก็เอาขวดเล็กสุด ๒๐๐ ซีซีก็พอ ตอนที่เขาออกน้ำขวดละ ๒๐๐ ซีซีแล้วแจกบนรถทัวร์นี่ชอบใจมาก เอ็งเข้าใจคิด ขวดใหญ่ก็กินไม่หมด อุตส่าห์ย่อลงมาพอดี ๆ คราวนี้พวกเราประเภททำเผื่อ ทำเผื่ออีท่าไหน เผื่อจะไม่ได้ทำ เล่นกันทีละเป็นโหล เกินพอดีไปมาก

อย่าลืมนะว่า..ส่วนเกินและขาดมีมาตั้งแต่โบร่ำโบราณสมัยพุทธกาล พอพระพุทธเจ้าเสนอทฤษฎีสายกลางคือความพอดีขึ้นมา ถึงได้ถูกใจคน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2019 เมื่อ 02:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #147  
เก่า 23-06-2019, 20:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"พระองค์ท่านตรัสว่า เทฺวเม ภิกขะเว อันตา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ส่วนสุดทาง ๒ อย่างนี้
เทฺวเม อันตา เป็นส่วนสุด ๒ อย่าง อันตาคือที่สุด
ปัพพะชิเตนะ นะ เสวิตัพพา ซึ่งบรรพชิตไม่ควรที่จะไปซ่องเสพเสวนาด้วย
โย จายัง กาเมสุ คือ การเกี่ยวข้องกับกาม
กามะสุขัลลิกานุโยโค เรียกว่ากามะสุขัลลิกานุโยค
หิโน เป็นของหยาบ
คัมโม เป็นของผู้ครองเรือน
โปถุชชะนิโก เป็นของผู้หนาด้วยกิเลส
อะนะริโย ไม่ใช่ความเจริญ
อะนัตถะสัญหิโต ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์
โย จายัง อัตตะกิละมะถานุโยโค อีกอย่างหนึ่งก็คืออัตกิลมถานุโยค
ทุกโข ประกอบไปด้วยทุกข์
อะนะริโย ไม่ใช่ทางแห่งความเจริญ
อะนัตถะสัญหิโต ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2019 เมื่อ 02:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 142 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #148  
เก่า 23-06-2019, 20:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ต่างกันตรงไหน ? พระองค์ท่านตรัสว่า กามะสุขัลลิกานุโยโค ไม่มีทุกโข
ทำไมกามสุขัลลิกานุโยคไม่ทุกข์หรือ ? ทุกข์...แต่คนเข้าใจว่ากามเป็นสุข เพราะฉะนั้น..ถ้าไปตรัสว่ากามเป็นทุกข์นี่ ใจคนจะค้าน

เสร็จแล้วท่านก็เสนอ เอเต เต ภิกขะเว ดังนี้..ภิกษุทั้งหลาย
อุโภ อันเต ในระหว่างทั้งสองนี้
อะนุปะคัมมะ มัชฌิมา ปะฏิปะทา ก็คือทางสายกลาง
ตะถาคะเตนะ อะภิสัมพุทธา คือพระตถาคตเจ้าผู้บรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณค้นพบ

ในเมื่อพระพุทธเจ้าตรัสมา ๒,๐๐๐ กว่าปี เป็นทฤษฎีที่นักปราชญ์ยุคนั้นยอมรับกันทั้งนั้น เราต้องยอมรับว่าคนยุคนั้นเก่งกว่าเรา แต่ปรากฏว่าถึงเวลาเรากลับไม่เอาทางสายกลางเสียเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2019 เมื่อ 03:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 139 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #149  
เก่า 23-06-2019, 20:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เดือนที่แล้วไปบวชพระให้ที่วัดวังปะโท่ ด้วยความที่ว่าเวลามีน้อย อาตมาก็เลยให้บวชแบบเอสาหังฯ ปลัดนกก็นั่งตาปริบ ๆ "หลวงพ่อ...ผมลืมไปหมดแล้วครับ" บอกว่า "ไม่เป็นไรหรอก ก็สวดเหมือนกันนั่นแหละ เพียงแต่ว่าขั้นตอนต่างกัน เรื่องขั้นตอนเดี๋ยวผมจัดการเอง" จึงสวดจนเสร็จ อะไรวะ...พักเดียวลืมหมดแล้ว ของตู ๓๐ กว่าปีแล้วยังไม่ลืมเลย

พอหลวงพ่อวัดท่าซุงขอให้บวช ด้วยความที่เข้าใจว่าวัดท่าซุงเป็นวัดมหานิกาย ก็น่าจะบวชแบบอุกาสะฯ อาตมาก็ซ้อมขานนาคแบบอุกาสะฯ ไปเต็มที่เลย ปรากฏว่าไปถึงโน่น พระพี่เลี้ยงบอกว่า "วัดเราบวชแบบเอสาหังฯ" ก็ไปเปลี่ยนเอสาหังฯ อยู่ ๒ วัน พอท่องได้ ก็พอดีพี่เลี้ยงท่านบอกว่า "เฮ้ย...บวชหมู่ ต้องใช้ เอเต มะยัง ภันเตฯ" เจริญ...คราวนี้จะบวชแบบไหนขอให้บอก ท่องได้หมดแล้ว

คนก็สงสัยอะไรนักหนา เขารู้หรือเปล่าว่าอาตมาบวชเสร็จก็เป็นคู่สวดได้เลย ถึงเวลาเขาต้องสวดญัตติใช่ไหม ? รูปละ ๓ รอบ รุ่นของอาตมาบวชตั้ง ๓๖ รอบ ก็เท่ากับ ๑๒ ชุด ชุดละ ๓ รูป สวดญัตติไป ๓๖ รอบ จำไม่ได้ก็บ้าแล้ว"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2019 เมื่อ 03:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 144 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #150  
เก่า 23-06-2019, 20:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"สมัยที่โยมพ่อตายก็เหมือนกัน พระท่านมาสวดพระอภิธรรม ๗ วัน พอสวดครบ ๗ วันอาตมาก็ได้พระอภิธรรมไปด้วย สรุปว่าสวดได้ตั้งแต่ก่อนบวช..!

หลวงพ่อวัดท่าซุงพอเห็นอย่างนั้น ท่านก็เล่าให้ฟังว่าท่านชอบดนตรีไทย แต่มีอยู่เพลงหนึ่งที่สมัยฆราวาส ครูเขายังไม่ยอมถ่ายทอดให้ ท่านก็ไปบวชเสียก่อน แต่พอบวชไปแล้ว เจอเขาจ้างวงนั้นแหละไปเล่นหน้าศพ ถึงเวลาเขาตีประโคมศพครั้งหนึ่งก็จำ จำได้เยอะเลย ตอนพระฉันเขาประโคมอีกครั้งก็จำได้เกินครึ่ง พอฉันเสร็จ ยถา สัพพีฯ เสร็จ เขาประโคมอีกครั้ง ท่านบอกว่าเสร็จข้า..จำได้หมดแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2019 เมื่อ 03:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 142 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #151  
เก่า 23-06-2019, 20:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เป็นอานิสงส์โดยตรงของการทำสมาธิไหมครับ ?
ตอบ : ถ้ามีพื้นฐานสมาธิมาแล้วจะจำอะไรได้ง่าย และจำแม่นมากอีกด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2019 เมื่อ 03:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 142 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #152  
เก่า 23-06-2019, 20:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดดีเด่นนี่ ทางคณะกรรมการของจังหวัดกาญจนบุรีเขาให้วัดท่าขนุนสละสิทธิ์มา ๓ ปีติดกันแล้ว ก็คือขอเมื่อไรวัดท่าขนุนต้องได้ แต่เขาบอกว่าขอให้วัดอื่นแทนเถอะ เพื่อให้เขามีกำลังใจ

เอาไปเถอะ...อาตมาไม่ได้ต้องการหรอก ประเภทเงินหมื่นกว่าสองหมื่นแล้วต้องทำรายงานปีละ ๔ เล่ม ไตรมาสละ ๑ เล่มว่าคุณทำงานอะไรบ้างเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม ตรงนี้เป็นเรื่องปกติเลยที่ต้องส่งรายงาน"


ถาม : ตั้งแต่หลวงพ่อจัดงานบวชฟรี หลวงพ่อเริ่มมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ ใช่ไหมครับ หรือก่อนหน้านั้น ?
ตอบ : ก่อนหน้านั้น ตั้งแต่ปี ๒๕๔๔ แต่ไม่ได้เก็บงานไว้ รู้สึกจะเริ่มมามีงานเก็บประมาณปี ๒๕๔๘ ขอกลับไปดูอีกที ส่งรายงานทีไรคนรับก็บ่นทุกที อะไรจะบวชเยอะขนาดนี้ ไปหาคนที่ไหนมานักหนา ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2019 เมื่อ 03:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 141 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #153  
เก่า 23-06-2019, 20:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันก่อนหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดนครปฐมบอก "โอ้โฮ...อาจารย์เล็ก ทำไมหาบุคลากรได้สุุดยอดขนาดนี้ พระที่คุณส่งไป เรียนบาลีก็เก่ง สนใจการเรียนไม่เคยทิ้ง ปฏิบัติธรรมก็ได้ นำปฏิบัติก็ได้ เป็นโฆษกก็ได้ เทศน์ก็เอา เอาทุกเรื่อง"

กราบเรียนท่านว่า "ผมไม่ได้หาครับหลวงพ่อ เขามากันเอง เขามีความสนใจด้านไหน ผมสนับสนุนหมด" ท่านบอกว่าท่านอยากได้บุคลากรแบบนี้ หายากมาก แต่ของเราส่งไป ใช้ได้ทุกรูปเลย ส่งไปคุมปฏิบัติธรรม ๑๕ วัน ไม่มีหนีเลย คนอื่นส่งไป เดี๋ยวหาย ๆ คนของเราเขารักการปฏิบัติธรรม ของวัดอื่นไม่ค่อยเอา พอไม่เอาก็หนีหมด ชุดนี้ถ้าหากว่ากลับมา ทางวัดก็มีกำลังขึ้นมาหน่อย เพราะว่าตอนนี้ที่มีอยู่ เขาเอาไปเป็นเจ้าอาวาสจวนจะหมดอยู่แล้ว

วันก่อนหลวงพี่ชู้ต เขาขอไปเป็นรองเจ้าอาวาสวัดตะเคียนงาม ก็คือเตรียมว่าที่เจ้าอาวาส พระครูบ่าวก็มาเป็นเจ้าอาวาสวัดท่ามะขาม ต้องเอาวินัยธรกอล์ฟไปเป็นเจ้าอาวาสวัดพุทธมณฑลอรัญญิกาวาสแทน ปลัดตั้มก็ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดห้วยปากคอก เดี๋ยวนี้หาเจ้าอาวาสไม่ได้ มาเล็งลงที่วัดท่าขนุนหมด ถ้าอายุพรรษาเริ่มได้ตามกติกาไม่รอดหรอก ต้องเป็นจนได้แหละ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2019 เมื่อ 03:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 143 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #154  
เก่า 23-06-2019, 20:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

(พูดกับทิดกวาง) อย่างไรก็ขออนุโมทนาด้วย คุณมีส่วนอย่างมากเลยที่ทำให้เขาเป็นได้อย่างทุกวันนี้ ก็คือสิ่งที่คุณช่วยอบรมไป ทำให้เขารู้ตั้งแต่ต้นว่าบวชไปแล้วต้องทำอย่างไร สิ่งที่เขาได้ไป พอเขารักษาเอาไว้ ก็กลายเป็นแบบอย่างแก่คนอื่น

พระเณรอื่นเขาบอกต่อกันว่า "อย่าไปอยู่เลย..คณะ ๒ วัดพระปฐมเจดีย์ เคร่งฉิบหา.." ผมกราบเรียนหลวงพ่อจังหวัดนครปฐมท่านว่า “ไม่จริงหรอกครับ ที่วัดผมทำอย่างนี้ทุกวัน” สวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต กรรมฐาน วัดของเราทำทุกวัน ส่วนของเขาประเภททำพอเป็นพิธี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2019 เมื่อ 03:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 145 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #155  
เก่า 23-06-2019, 21:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ปรึกษาเรื่องจัดรถตู้ไปวัด "เรื่องรถตู้มีอยู่ ๒ อย่างด้วยกัน อย่างแรกก็คือว่าเราจะทำเป็นการกุศลเหมือนเดิม หรือว่าจะทำเป็นการค้า ? (การกุศลครับ)

ถ้าการกุศลก็ยืนราคาเก่าเขาเอาไว้ ว่าวันหนึ่งเท่าไร สองวันเท่าไร สามวันเท่าไร แล้วรถหมุนเวียนระหว่างที่อยู่ที่วัด อย่างเช่นว่าที่เขาเคยจัด วิ่งจากในวัดออกไปหน้าวัดมีเหมือนเดิมไหม ? (เหมือนเดิมครับ) หรือไม่อย่างนั้นก็ลองดูก่อนว่าช่วงสองสามงานนี้เป็นอย่างไร อย่าให้ติดขัดก็แล้วกัน ไม่ใช่หายไปคนหนึ่ง มาแทน ๕ คน แล้วก็ยังไม่ได้เรื่อง"


ถาม : ขอพรด้วยครับหลวงพ่อ
ตอบ : ไปตะเกียกตะกายเอาเอง เอะอะก็จะขอพรจะง่ายไป ไม่ยอมให้ชีวิตลำบาก จะเอาสบายทีเดียว สร้างบารมีมาขนาดนี้แล้ว ไม่ลำบากนี่ก็ไม่สมกับบารมีสิวะ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2019 เมื่อ 03:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 141 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #156  
เก่า 23-06-2019, 21:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องของรถเป็นเรื่องของความสะดวกสบาย ถ้าทำต่อเนื่องไปสักระยะหนึ่ง อานิสงส์ตรงนี้จะกลายเป็นว่าทำอะไรก็สำเร็จง่ายกว่าคนอื่นเขา แต่ต้องทำบุญเป็นบุญจริง ๆ ถ้าทำเพื่อการค้า ทำเพื่อหวังกำไร อานิสงส์ตรงนี้จะไม่ได้

อำนวยความสะดวกให้คนอื่น ถือว่าเป็นส่วนของเวยยาวัจจมัยด้วย ก็คือขวนขวายเพื่อช่วยให้คนอื่นสำเร็จในการบุญการกุศล แล้วขณะเดียวกัน อานิสงส์พิเศษตรงที่ช่วยให้เขาได้รับความสะดวก ความคล่องตัว ถึงเวลาตัวเองทำอะไรก็จะสะดวก คล่องตัว

เราจะเห็นว่าหลังจากคุณชยาคมน์ทำหน้าที่นี้มาระยะหนึ่ง ความคล่องตัวทุกอย่างก็เริ่มปรากฏ ทำอะไรก็ดูเหมือนกับว่าสะดวกไปหมด แค่บอกก็มีคนร่วมมือทุกประการ คราวนี้พวกเรามาแทนก็ต้องสะสมไปสักระยะหนึ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2019 เมื่อ 03:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 139 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #157  
เก่า 23-06-2019, 21:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมเอาชามาถวาย "ชาอินเดียหรือชาซีลอน ส่วนใหญ่เขาทำเป็นชากลิ่นผลไม้ ฝีมือยังไม่ถึง ถึงเวลาทำไปแล้วบางทีกลิ่นสารเคมีออกมาเลย

เรื่องของใบชา ถ้ากลิ่นหอมต้องหอมธรรมชาติของเขา ญี่ปุ่นเอาข้าวคั่วใส่ลงไปด้วย เวลาฉันเข้าไปแล้วนึกถึงลาบเมืองไทย ส่วนชาที่อาตมาไม่สนใจเลยคือชากลิ่นมะลิ เพราะว่าไปกันไม่ได้ ฝรั่งเขาชอบ Jasmine Tea กันมาก แต่อาตมาว่าไปกันไม่ได้ คือกลิ่นชาหอมธรรมชาติ กลิ่นดอกไม้ก็หอมธรรมชาติ แต่สองอย่างเข้ากันไม่ได้เขาก็เอามาเข้ากัน

ชานี่เราจะเปลี่ยนรสเปลี่ยนกลิ่นได้อย่างเดียวคือน้ำ ถ้าน้ำคนละแหล่งกัน บางทีรสกับกลิ่นจะเปลี่ยนไปตามแร่ธาตุที่อยู่ในน้ำนั้น ๆ พวกเราอาจจะสงสัยว่าชาหลงจิ่งคืออะไร ? บ่อมังกรก็ต้องน้ำบ่อนั้นเลย ถึงจะได้รสที่ดีที่สุด แต่คราวนี้พอมีชื่อเสียงขึ้นมา ไปที่อื่นก็เรียกหลงจิ่งเหมือนกันหมด แต่ไม่ได้เรื่องแล้ว คือหลงแต่ชา น้ำไม่ได้หลงตามไปด้วย ก็แบบเดียวกับเงาะโรงเรียน พอหลุดจากบ้านนาสารไป พอปลูกที่อื่นก็เปลี่ยนแปลงไปตามดินฟ้าอากาศ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2019 เมื่อ 03:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 135 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #158  
เก่า 23-06-2019, 21:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อย่างไปทองผาภูมิก็กลายเป็นเงาะทองผาภูมิ กลายเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ดีกว่าเขา แต่ว่าสีสันไม่น่ากิน ออกเขียว ๆ เหลือง ๆ แต่ถ้าคนกินสักหน่อยก็จะหลงเสน่ห์ไปเลย เพราะว่าทั้งหวาน ทั้งล่อน ทั้งกรอบ แต่ถ้าดูสีสันภายนอก จะดูไม่ได้เลย ลูกเล็ก ๆ เขียว ๆ เหลือง ๆ หาแดงไม่ค่อยจะเจอ

ทำไมทุเรียนต้องนนทบุรี ? ทำไมลิ้นจี่ต้องตรอกจันทน์ ? ทำไมสับปะรดต้องศรีราชา ? เพราะว่าแร่ธาตุในดินเหมาะกับพืชผลชนิดนั้น ๆ ออกมารสชาติจะดีกว่าที่อื่น แต่ไม่ต้องไปประมูลกับเขานะ ลูกละสองแสนนั่นเขาตั้งใจทำบุญ ก็ให้เขาทำไปเถอะ ถ้าจะซื้อทุเรียนกิน ไปซื้อที่อื่นดีกว่า

สมัยก่อนแตงโมต้องบางเบิด ไป ๆ มา ๆ เขาเอาไปขายริมถนนแถวรังสิตมาก ก็เลยกลายเป็นแตงโมรังสิต แต่จริง ๆ ไม่ใช่ของรังสิต เอาจากที่อื่นไปขายที่รังสิต"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2019 เมื่อ 03:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 135 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #159  
เก่า 23-06-2019, 21:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับโยม "อย่าไปจริงจังกับชีวิตมากแล้วจะดีเอง ในเมื่อไม่มีอะไรสมบูรณ์พร้อม ไปเรียกร้องความสมบูรณ์พร้อมก็ประเภทหาเรื่องทุกข์เอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2019 เมื่อ 03:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 135 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #160  
เก่า 23-06-2019, 21:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พูดกับพระนักเรียนบาลี "เมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๒ หลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดนครปฐมชมพวกคุณเสียยกใหญ่เลย ว่าอาจารย์เล็กหาบุคลากรพวกนี้มาจากไหน ขยัน เรียนเก่ง เป็นงานทุกเรื่อง โฆษกก็ได้ เทศน์ก็ได้ นำปฏิบัติก็ได้ ไปเฝ้างานปฏิบัติ ไม่หนีอีกต่างหาก

ต่อไปห้ามหนี หนีนี่เสียชื่อหมด ท่านชมเอาไว้เยอะ กลายเป็นช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับสำนักไปแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2019 เมื่อ 03:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 136 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:12



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว