กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 12-01-2010, 14:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default บวชแล้วสึก

ตอนนี้พระวัดท่าขนุนที่เหลืออยู่ติดวัดจริง ๆ ไม่ได้นับพวกที่ไปเรียนข้างนอก เหลือประมาณ ๑๙ รูป ส่วนหนึ่งออกมาเรียน ที่เหลือบวชแล้วสึก

ความจริงบวชแล้วสึกนั้นมีเหตุผลหลายอย่างด้วยกัน ประการที่หนึ่ง ก็คือ มีความจำเป็นจริง ๆ กำหนดเวลาบวชไว้แค่นั้น ส่วนใหญ่ก็ติดด้วยเรื่องของอาชีพการงาน ประการที่สอง กำลังใจสู้กิเลสไม่ได้ รู้ว่าอยู่ต่อไปอาจจะเกิดโทษขึ้นก็เลยสึก ประการที่สามคล้ายกับประการที่สอง กำลังของกิเลสแรงกว่า ชวนให้สึก แล้วก็เชื่อ ตามกิเลสไป

ในพระไตรปิฎกกล่าวถึงพระที่บวช ๆ สึก ๆ มีประวัติความเป็นมาคล้ายคลึงกันอยู่สองรูปด้วยกัน ก็คือ พระจิตตหัตถเถระ กับ พระนังคละกูฏะเถระ พระจิตตหัตถ์จำไม่ได้ว่าท่านประกอบอาชีพอะไร ส่วนพระนังคละกูฏะเถระท่านเป็นชาวนา ทำมาหากินด้วยความเหนื่อยยาก เห็นว่าพระสงฆ์สาวกของพระสมณโคดมไม่ต้องลำบากอะไร ถึงเวลาออกไปบิณฑบาต ชาวบ้านก็ถวายอาหารให้ จึงบวชเข้ามา ท่านจิตตหัตถ์ก็คล้าย ๆ กัน คราวนี้ทั้งสองท่าน พออยู่สบายกินสบายไประยะหนึ่ง รู้สึกว่าร่างกายเริ่มดี ก็เลยสึก แสดงว่าไม่ได้รับรู้และปฏิบัติในเรื่องของธรรมะเลย พระอุปัชฌาย์อาจารย์อาจจะสั่งสอน แต่ว่าไม่ได้ทำให้เกิดผล พอสึกแล้วก็ออกไปทำมาหากิน ผอมจนหัวโตก็เข้ามาบวชใหม่ ท่านทำอย่างนี้อยู่ถึง ๗ ครั้งด้วยกัน

ปรากฏว่าครั้งสุดท้ายกลับบ้านไป จะไปหาผ้ามาสึก ประวัติตอนนี้ของทั้งสองท่านเหมือนกันเลย เหมือนกันตรงที่ว่า พอกลับไปแล้วเจอเมียนอนหลับอยู่ ภรรยาคงจะอ้วนท้วนน่าดู ท่านเห็นภรรยาเหมือนศพที่กำลังขึ้นอืด ก็เลยตัดใจ บวชใหม่ดีกว่าพระ อุปัชฌาย์อาจารย์ก็เบื่อ บ่นว่า "นี่อยากจะเอาหัวมาเป็นหินลับมีดหรืออย่างไร? บวช ๆ สึก ๆ เดี๋ยวก็โกน..เดี๋ยวก็โกน" ทั้งสองท่านให้คำมั่นเหมือนกันว่า คราวนี้บวชไม่สึกแน่ พระอุปัชฌาย์ทนอ้อนวอนไม่ได้ ก็เลยบวชให้

ปรากฏว่าท่านจิตหัตถ์เจริญกรรมฐานแล้วกลายเป็นพระอรหันต์ ส่วนพระนังคละกูฏะเถระนั้น ท่านเอาผ้าของท่านไปแขวนไว้เป็นเครื่องเตือนใจ ว่าสึกออกไปเมื่อไรก็เหนื่อยอย่างนี้ ท่านไปยืนพิจารณาธรรมอยู่ในป่า เพื่อนก็เห็นว่าท่านพอฉันภัตตาหารเสร็จก็เดินหายเข้าป่า..ฉันแล้วก็หายเข้าป่า เพื่อนเลยถามว่า "ท่านนังคละไปไหนหรือ ?" ท่านตอบว่า " อ๋อ..ผมไปหาครูบาอาจารย์ครับ" ก็คือ ท่านถือว่าผ้าเก่านั้นเป็นครูบาอาจารย์ ก็ไปพิจารณาธรรมจนกระทั่งหลุดพ้นเป็นพระอรหันต์เหมือนกัน

พอหลุดพ้นท่านก็ไม่ได้ไปอีก เพราะใจหยุดดิ้นรนจนสุดแล้ว เพื่อนพระก็ถามว่า "ท่านนังคละ วันนี้ท่านไม่ไปหาอาจารย์ของท่านหรือ ?" พระนังคละกูฏะเถระบอกว่า "ขึ้นชื่อว่ากิจในการหาอาจารย์ของกระผมไม่มีอีกแล้วครับ" นักบวชสมัยนั้นแสบใช้ได้เลย ฟ้องว่าพระนังคละพยากรณ์ตัวเองว่าเป็นพระอรหันต์ พระพุทธเจ้าต้องทรงยืนยันให้ว่า พระนังคละกูฏะเถระเป็นพระอรหันต์ หมดกิเลสแล้ว จบพรหมจรรย์แล้ว


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงบ่ายสอง หลังพิธีสึกพระ ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันศุกร์ที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๓
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-06-2019 เมื่อ 08:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 16-06-2010, 19:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีพระที่วัดท่าขนุนสึกไปประมาณ ๔ รูป ช่วงก่อนสึก พระอาจารย์ท่านบอกว่า

"พระกับฆราวาสต่างมีความกดดันอยู่ด้วยกัน พระ...ถูกกดดันด้วยกรอบของศีล ฆราวาส..ถูกกดดันด้วยการทำมาหากิน ดังนั้น ไม่ว่าจะพระหรือฆราวาส ควรตั้งใจพยายามในหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด อย่างพระก็ตั้งใจปฏิบัติธรรมให้ถึงที่สุด ฆราวาสก็ตั้งใจทำมาหากินให้ร่ำรวยไปเลย อย่างพวกเราที่สึกออกไป ก็ยังมีศีลห้าคอยคุ้มครองอยู่"

เท่าที่เถรีจำมา ก็น่าจะครบถ้วนกระบวนความดังนี้แล
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-06-2019 เมื่อ 08:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 94 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ

Tags
บวช, พระจิตตหัตถ์, สึก


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:30



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว