กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > กระทู้ธรรม > ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 27-04-2011, 10:11
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,848 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default หมดโง่ คือ หมดอวิชชา

หมดโง่ คือ หมดอวิชชา
หรือหมดสังโยชน์ ๑๐ ก็หมดจุติ

สมเด็จองค์ปฐม ทรงมีพระเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ดังนี้

๑. “พระพุทธเจ้าทั้งสองพระองค์ก็เป็นพ่อของคุณหมอนะ (ทรงหมายถึงพระพุทธวิปัสสีหรือหลวงพ่อปราโภ กับพระพุทธโกนาคมหรือหลวงพ่อคามวาสี) แล้วคนในโลกนี้มีใครบ้างที่ไม่ใช่ญาติกันมีไหม” (ก็รับว่า ไม่มี)

๒. “ทุกคนล้วนแต่เป็นญาติกันแต่ผูกพันมากน้อย ใกล้ชิดหรือห่างไกล นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง คนเราแต่ละคนเกิดกันมานับแสนอสงไขยกัป เปลี่ยนภพเปลี่ยนชาติ จุติกันมาอย่างนับไม่ถ้วน มีหรือที่จักหนีความเป็นญาติไปได้พ้น

๓. “แต่การที่ต้องจุตินั้นเป็นการจุติเพราะความโง่ คือ จิตตกอยู่ภายใต้อำนาจของอวิชชา ถ้าไม่โง่เสียอย่างเดียวก็ไปพระนิพพานกันนานแล้ว ตัวที่โง่หนักคือ อารมณ์จิตที่คิดว่าตนเองดีแล้ว นี่แหละเป็นสำคัญ”

๔. “เจ้ายังมีอารมณ์นี้อยู่หรือเปล่าในจิตของตน” (รับว่าบางขณะมี บางขณะไม่มี) ทรงตรัสว่า “ก็ยังไม่หมดโง่นะซิ” (รับว่า ยังไม่หมด)

๕. “นั่นแหละเป็นความประมาทอย่างยิ่ง เพราะตราบใดที่ยังมีอารมณ์คิดว่าตนเองดีแล้ว ก็จักนิ่งนอนใจ ไม่ทำความดีเพิ่มขึ้นอีกต่อไป จึงเป็นการหมดดี หรือดีไปหมด เหลือแต่ความเลวในขณะที่มีความคิดนั้น เท่ากับประมาทเพราะยังตัดสังโยชน์ได้ไม่ถึงที่สุด จักดีขึ้นมาได้อย่างไร ให้ปรามตนเองอยู่อย่างนี้ อารมณ์นี้ใช่จักเป็นอยู่แต่เพียงเจ้าเท่านั้น นักปฏิบัติทุกคนมักจักมีอารมณ์เผลอ คิดอยู่เช่นนี้ทุกราย ให้สำรวจจิตของตนให้ดีเถิด ถ้าหากไม่เข้าข้างตนเองแล้ว รับรองว่าพบทุกคนไม่มากก็น้อย

๖. “ให้วัดอารมณ์จิตของตนเองดูทุก ๆ ขณะจิต แล้วจักรู้ว่าอารมณ์นี้ของตนเองนั้นมีอยู่ ยิ่งจิตปุถุชน ยิ่งคิดว่าตนเองดีมาก ขนาดได้แสดงออกซึ่งความโกรธ-โลภ-หลง ยังคิดว่าเป็นของดีเลย ไม่ต้องอะไรมาก อย่างกรณีถูกคนอื่นเขาด่าก็มีความคิดว่าตนเองดีแล้ว นี่มาด่าคนดีอย่างฉันทำไม นี่เมื่อคิดว่าตนเองดีก็เลยไม่ยอม ต้องไปด่าเขาตอบ เพราะคิดว่าเป็นของดี คนเราถ้ารู้ว่าไม่ดี ก็จักไม่ทำ แต่นี่จิตมันคิดว่าดีจึงทำ ให้หาอารมณ์นี้ให้เจอ แล้วหาเหตุหาผลที่จิตมีอารมณ์ยึดมั่นถือมั่นอารมณ์นี้ให้พบ เมื่อพบแล้วก็เพียรละที่ต้นเหตุแห่งอารมณ์นั้น เมื่อนั้นแหละจิตจักรู้สึกหมดดีได้ทันที

(ขออนุญาตเรียกอารมณ์นี้ว่า อารมณ์ดีไปหมด จึงเหลือแต่อารมณ์เลว หรือความไม่ดี)


ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๗
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:57



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว