กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 04-01-2024, 20:28
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,548
ได้ให้อนุโมทนา: 216,772
ได้รับอนุโมทนา 744,324 ครั้ง ใน 36,270 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 05-01-2024, 00:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,586
ได้ให้อนุโมทนา: 151,727
ได้รับอนุโมทนา 4,411,637 ครั้ง ใน 34,176 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๔ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพมีภารกิจสำคัญก็คือ ไปถวายมุทิตาสักการะในงานอายุวัฒนมงคล ๙๐ ปี พระเดชพระคุณพระธรรมพุทธิมงคล (สะอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จังหวัดสุพรรณบุรี

หลังจากที่กราบถวายสักการะแล้ว พระเดชพระคุณท่านก็ยังกำชับว่า "ตอนเย็นให้ไปเจริญชัยมงคลคาถา ในงานยกพระเกตุมาลา พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ ที่พุทธมณฑลสุพรรณบุรี ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรีด้วยนะ" เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ากระผม/อาตมภาพถือว่าเป็นเจ้าภาพรายใหญ่ที่ร่วมในการสร้างมาตั้งแต่ต้นเช่นกัน

หลังจากนั้นก็ได้ขอตัววิ่งตรงไปยังวัดทุ่งกฐิน หมู่ที่ ๖ ตำบลบ่อกรุ อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อนำปัจจัยไปร่วมงานบุญปิดทองฝังลูกนิมิตของวัดทุ่งกฐิน ซึ่งพระครูสุขุมปัญญากร เจ้าอาวาสวัดทุ่งกฐิน เจ้าคณะตำบลหนองกระทุ่มนั้น ท่านเป็นเพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์มาด้วยกัน เมื่อเดินดูงานเขาจนทั่วถึงแล้ว ก็ขอตัววิ่งมาฉันเพลกลางทาง

หลังจากนั้นก็ตรงไปยังบ้านแม่เบ็ญ (อาจารย์เบ็ญจา วิบูลย์พันธุ์) ที่อำเภออู่ทอง เข้าไปพักกลางทางที่นั่น เนื่องเพราะว่าอยู่ห่างจากพุทธมณฑลสุพรรณบุรีประมาณ ๔ กิโลเมตรเท่านั้น เมื่อรับการทำบุญจากคนแก่และพักผ่อนจนพอเพียงแล้ว ก็ตรงเข้าไปยังพุทธมณฑลสุพรรณบุรี ปรากฏว่าบรรดารถต่าง ๆ นั้น เมื่อส่งพระเถระแล้วก็ต้องวนออกมา จอดที่ด้านลานจอดรถด้านนอกกันหมด บังเอิญว่า
กระผม/อาตมภาพมีญาติโยมที่รู้จักกำลังทำหน้าที่อยู่ จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่เขาเปิดกรวยกั้นถนน ให้กระผม/อาตมภาพจอดรถอยู่ใกล้ ๆ บริเวณลานพิธีได้ แล้วก็ยังช่วยนำไปยังที่พักพระเถระ

เมื่อกราบทักทายบรรดาพระเถรานุเถระทั้งหลายแล้ว ก็ได้นั่งคุยกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณสมบูรณ์ - พระเทพสาครมุนี (สมบูรณ์ ปญฺญาวุโธ ป.ธ.๙) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ เจ้าอาวาสวัดเจษฎาราม (พระอารามหลวง) จนกระทั่งได้เวลา ทางเจ้าหน้าที่ก็นิมนต์ให้ขึ้นยังอาสนะสงฆ์ เพื่อเจริญชัยมงคลคาถาในงานยกพระเกตุมาลาถวายหลวงพ่อพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันง่าย ๆ ว่า หลวงพ่อโตอู่ทอง

โดยที่กระผม/อาตมภาพนั่งห้อยอยู่ท้ายสุด หัวแถวก็คือพระเดชพระคุณพระพรหมโมลี (สุชาติ ธมฺมรตโน ป.ธ.๙) เจ้าคณะภาค ๕ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ซึ่งทางผู้จัดก็ยังเมตตาบอกว่า กระผม/อาตมภาพเป็นพระครูรูปเดียวบนอาสนะสงฆ์ในครั้งนี้..!

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า
กระผม/อาตมภาพได้ถวายปัจจัยร่วมสร้างหลวงพ่อโตพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิไป ๑ ล้านบาท และเป็นเจ้าภาพสร้างพระมหาเจดีย์จุฬามณี ซึ่งประดิษฐานอยู่เบื้องบนพระเศียรหลวงพ่อโตอีก ๑ องค์ เป็นจำนวนเงิน ๒ ล้านบาท จึงทำให้กลายเป็นเจ้าภาพหลักรายหนึ่ง ที่ทางพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระธรรมพุทธิมงคลท่านจะลืมเสียไม่ได้ จึงได้นิมนต์มาร่วมงานเจริญชัยมงคลคาถาในครั้งนี้ด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-01-2024 เมื่อ 01:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 05-01-2024, 00:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,586
ได้ให้อนุโมทนา: 151,727
ได้รับอนุโมทนา 4,411,637 ครั้ง ใน 34,176 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยมีพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี (สมชาย วรชาโย ป.ธ.๘) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑ - ๒ - ๓ - ๑๒ - ๑๓ (ธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส เป็นประธานสงฆ์ในครั้งนี้ ซึ่งกับพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนีนั้น กระผม/อาตมภาพคุ้นเคยกับท่านตั้งแต่ยังเป็นเจ้าคุณชั้นสามัญที่พระอมราภิรักขิต เนื่องเพราะว่าได้ไปดูแลหลวงปู่มหาอำพัน - พระภาวนาปัญญาวิสุทธิ์ (อำพัน อาภรโณ บุญ-หลง) ที่วัดเทพศิรินทราวาสเป็นเวลาถึง ๔ ปี ตอนหลังท่านก็มีความเจริญในสมณศักดิ์และหน้าที่การงานขึ้นมา จนกระทั่งเป็นถึงสมเด็จพระราชาคณะอีกรูปหนึ่งของวัดเทพศิรินทราวาส

เมื่อถึงเวลาที่มีการยกพระเกตุขึ้นสวมบนพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ ซึ่งถ้าหากว่าจำไม่ผิด ยอดพระเกตุมาลานั้น กว้าง ๑.๒๐ เมตร น้ำหนักประมาณ ๕ ตัน..! เมื่อรถยกยกขึ้น พวกเราก็ทำการเจริญชัยมงคลคาถา หรือที่ชาวบ้านเรียกง่าย ๆ ว่าบทชยันโต ฯ แล้วต่อด้วยบทมงคลจักรวาลใหญ่ ที่ขึ้นด้วยสิริธิติมติเตโช ฯ เป็นต้น จนกระทั่งเสร็จแล้วก็ปิดด้วยสัพเพ พุทธา พะลัปปัตตา ฯ อีก ๓ จบ ครั้นรับการถวายไทยธรรมเรียบร้อยและได้ให้พร แล้ว กระผม/อาตมภาพก็ขอตัวต่อพระเถระทั้งหลาย แจ้งท่านว่ายังต้องใช้เวลาอีกเกือบ ๔ ชั่วโมงในการเดินทางกลับไปวัดท่าขนุน

แล้วก็เป็นความโชคดีอย่างยิ่ง ที่โยมซึ่งรู้จักนั้นจัดให้จอดอยู่ติดถนนด้านนอก เมื่อยกกรวยจราจรที่ขวางหน้าออก ก็สามารถที่จะวิ่งออกมาได้เลย ไม่เช่นนั้นก็ยังคงติดขัดกันอีกหลายยก ขณะที่พระเถระรูปอื่น ๆ ซึ่งรถทั้งหลายทั้งปวงนั้น โดนไล่ไปจอดที่ลานจอดรถด้านนอก เมื่อถึงเวลาเริ่มงาน บรรดาพลขับก็จะขับรถมาจ่อรออยู่บริเวณหน้างาน เพื่อที่จะให้หลวงปู่หลวงพ่อของตนขึ้นรถ แล้วถึงจะได้ขับวนออกมา ถ้าลักษณะแบบนั้นก็แปลว่ายังต้องติดกันอยู่บริเวณนั้นกันอีกนาน..!

กระผม/อาตมภาพได้ให้นโยบายกับน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า งานแบบนี้ไม่กลัวเดินไกล แต่กลัวรถติดนาน เพราะฉะนั้น..ให้จอดรถในที่ซึ่งออกได้ง่ายที่สุด แม้ว่าบางงานเคยเดินเกือบ ๒ กิโลเมตรก็ยอม เพื่อที่ถึงเวลาแล้ว ขาออกเราจะได้ออกก่อนคนอื่นเขา ถ้าไปจอดอยู่หน้างานแล้วมีรถขวางอยู่แม้แต่คันเดียว ก็แปลว่าต้องรอรถทุกคันออกจนหมด เราถึงจะออกมาได้..!

กระผม/อาตมภาพเป็นคนที่ไม่กลัวลำบากอย่างหนึ่ง แล้วขณะเดียวกันก็เอาความสะดวก ไม่เอาความสบายอีกอย่างหนึ่ง จึงทำให้ไปงานที่ไหนก็ตาม มักจะออกจากงานได้ก่อนคนอื่น เนื่องเพราะว่าหลวงปู่หลวงพ่อหลายรายนั้น บรรดาลูกศิษย์ก็อำนวยความสะดวกด้วยการไปรับถึงหน้างาน แต่ว่าเมื่อนั่งสบายอยู่บนรถแล้ว ยังต้องติดอยู่อีกเป็นครึ่งค่อนชั่วโมง แล้วบางงานก็ห่างจากห้องน้ำห้องส้วมมาก ต่อให้ปวดปัสสาวะสักเท่าไร ก็ต้องรอจนกว่ารถหลุดออกจากงานได้ แล้วค่อยไปหาห้องน้ำในสถานีบริการน้ำมันแทน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-01-2024 เมื่อ 01:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 05-01-2024, 00:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,586
ได้ให้อนุโมทนา: 151,727
ได้รับอนุโมทนา 4,411,637 ครั้ง ใน 34,176 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเป็นเช่นนั้น จึงทำให้ได้รับความลำบากมาก กระผม/อาตมภาพได้บทเรียนแบบนี้ครั้งเดียวก็จำไปจนวันตายแล้ว เมื่อถึงเวลาจึงขอให้ออกมาทางด้านนอกได้ก่อนใคร ดีกว่าที่จะไปติดอยู่ข้างในแบบคนอื่นเขา จนสามารถที่จะหลุดออกมาทางด้านนอกได้ก่อน เมื่อขึ้นรถได้ก็ทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนของวันนี้

ในส่วนที่ขอเล่าเป็นเรื่องขำ ๆ ส่งท้ายก็คือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระธรรมพุทธิมงคลนั้น ซึ่งใคร ๆ เรียกกันง่าย ๆ ว่า "หลวงพ่อเล็ก" เนื่องเพราะว่าก่อนหน้านี้ มีพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระธรรมมหาวีรานุวัตร (ฉลอง จินฺตาอินฺโท ป.ธ.๕) หรือว่าหลวงพ่อฉลอง อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร อดีตเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรีรูปก่อนอยู่ ใคร ๆ ก็เรียกท่านว่า "หลวงพ่อใหญ่" เพราะว่าท่านเป็นเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี แล้วเรียกหลวงพ่อพระธรรมพุทธิมงคล รองเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรีในขณะนั้นว่า "หลวงพ่อเล็ก" จนกระทั่งปัจจุบันนี้ บางคนก็ยังเรียกท่านว่า "หลวงพ่อเล็ก" อยู่ดี

ท่านบอกในตอนที่เกษียณอายุจากตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรีว่า "เล็ก..ข้าจะอยู่ถึง ๑๒๐ ปีนะ" เมื่อกราบเรียนถามท่านว่า "หลวงพ่อมั่นใจได้อย่างไรครับ ?" ท่านบอกว่า "ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับความตั้งใจ แกสังเกตไหมว่าบรรดาข้าราชการที่เกษียณอายุแล้ว พอไม่มีงานก็มักจะเฉา แล้วบางรายก็ตายลงในระยะเวลาอันรวดเร็ว ?"

"ข้าตั้งใจสร้างหลวงพ่อโตพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ "หนึ่งเดียวในไทย ยิ่งใหญ่ในโลก มรดกคู่ฟ้าดิน" เอาไว้ ถ้าหากว่าสร้างเสร็จแล้ว ข้ายังมีโครงการเจาะถ้ำ เพื่อให้เป็นที่ทำสังฆกรรมของพระทั้งจังหวัดได้ แล้วก็ยังจะสร้างพระในลักษณะของปางประสูติและปางปรินิพพานอีก ต้องใช้ระยะเวลานานมาก เมื่อกำลังใจยังจดจ่อมุ่งมั่นอยู่กับงาน ข้ามั่นใจว่ามโนสัญเจตนาตรงนี้ จะทำให้ข้าอยู่ถึง ๑๒๐ ปีได้"

แต่เมื่อมาตอนอายุ ๘๕ ปี พระเดชพระคุณท่านป่วยหนัก เมื่อเจอหน้าท่านบอกว่า "เล็ก..ดูท่าข้าจะอยู่ไม่ถึง ๑๒๐ ปีแล้วว่ะ..!" เมื่อกระผม/อาตมภาพกราบเรียนถามว่า "แล้วงานไหนที่หลวงพ่อยังเป็นห่วงอยู่ ?" ท่านบอกว่า "งานสร้างพระจุฬามณีเจดีย์สถาน เพื่อเปรียบเหมือนมงกุฎของหลวงพ่อโตพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ" ก็คือท่านจะสร้างพระจุฬามณีเจดีย์สถานไว้บนหน้าผา เบื้องบนหลวงพ่อโต เหมือนกับเป็นมหามงกุฎสวมบนเศียรของหลวงพ่อโตอีกอย่างหนึ่ง

เมื่อกราบเรียนถามท่านว่า "ราคาเท่าไรครับ ?" ท่านบอกว่า "๒ ล้านบาท" กระผม/อาตมภาพยังท้วงว่า "หลวงพ่อ..จุฬามณีเจดีย์ทั้งหลัง ๒ ล้านบาท สร้างมา ๓ วันพังหรือเปล่า ?" ท่านก็บอกว่า "เฮ้ย..ไม่ใช่ ลูกศิษย์ข้าทำแข็งแรง แต่คิดแค่ ๒ ล้านบาทเท่านั้นเอง เขาทำถวาย" กระผม/อาตมภาพจึงปวารณาเป็นเจ้าภาพสร้างพระจุฬามณีเจดีย์สถานถวายท่าน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-01-2024 เมื่อ 01:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 05-01-2024, 00:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,586
ได้ให้อนุโมทนา: 151,727
ได้รับอนุโมทนา 4,411,637 ครั้ง ใน 34,176 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ปรากฏว่าเมื่อสร้างพระจุฬามณีเจดีย์สถานเสร็จ ท่านกลับแข็งแรง ดีวันดีคืน จนอายุกาลผ่านวัยมาจนถึง ๙๐ ปีในปีนี้ ทำให้ท่านยังคิดจะสร้างประโยชน์ต่าง ๆ ให้กับสถานที่แห่งนี้ต่อไป โดยที่ทำเป็นพุทธมณฑลจังหวัดสุพรรณบุรี โดยที่ท่านมีความตั้งใจว่า "ทำเพื่อตนเอง อยู่แค่สิ้นลม ทำเพื่อสังคม อยู่คู่ฟ้าดิน" กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่อนุโมทนากับความตั้งใจของท่าน ท่านจะอยู่กี่ปีก็แล้วแต่ท่านเถอะ กระผม/อาตมภาพถ้าหากว่ามีความสามารถก็จะช่วยเหลือมาเป็นระยะ ๆ ไป แต่ถ้าให้อยู่นานแบบหลวงพ่อ เห็นทีจะไม่รับประทานแน่..!

เมื่อพูดเช่นนั้น เจอหน้าก็มักจะโดนท่านเขกกบาลอยู่เสมอ โดยที่ท่านบอกว่า "หลวงพ่อฤๅษีลิงดำท่านเก่งขนาดไหนข้าไม่รู้ แต่ข้ารู้ว่าต้องมีฤทธิ์มีเดชแน่นอน เพราะว่าข้าดูจากพวกแกนี่แหละ" แล้วท่านก็ยกตัวอย่าง ท่านเจ้าคุณหลวงตาวัชรชัย (พระราชภาวนาพัชรญาณ วิ.) วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) หลวงพ่อวิรัช (พระปลัดวิรัช โอภาโส) วัดธรรมยาน หลวงพ่อชลอ (พระครูสาครสิทธิวิมล) วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ ตัวกระผม/อาตมภาพเอง และท่านเจ้าคุณองอาจ (พระภาวนาประชานุกูล วิ.) วัดวีระโชติธรรมาราม

ท่านบอกว่า "พวกแกไปอยู่ที่ไหนก็สร้างความเจริญเหมือนกับเนรมิตให้ที่นั่น ถ้าหากว่าหลวงพ่อแกไม่มีฤทธิ์ ไม่มีทางที่จะมีลูกศิษย์ที่มีฤทธิ์ขนาดนี้ได้หรอก" ดังนั้น..เวลาเจอใคร ท่านให้คำแนะนำก็มักจะบอกว่า "ไอ้ท่าขนุนมันมีฤทธิ์" จึงทำให้กระผม/อาตมภาพเป็นที่รู้จักของบรรดาพระผู้ใหญ่จำนวนมากไปด้วย

ในส่วนที่เล่าเพิ่มเติมมาตอนท้าย เพราะขำที่ท่านบอกว่า ดูท่าจะอยู่ไม่ถึง ๑๒๐ ปี แต่พอแข็งแรงขึ้นมา ท่านก็ไม่ปล่อยวางงานสักที งานนี้เท่ากับว่าหลวงพ่อโตพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิสำเร็จเรียบร้อยลงสมความตั้งใจของท่านแล้ว ต่อไปสิ่งที่ท่านทำอื่น ๆ ถ้าหากว่าญาติโยมมีกำลังพอก็ร่วมบุญกัน จะมากจะน้อยก็แล้วแต่ความสามารถของตนเอง


นึกว่าช่วยกันสานงานของพระพุทธศาสนา โดยมีพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระธรรมพุทธิมงคลท่านนำหน้า เราก็แค่เดินตามรอยไปเท่านั้น ไม่ได้เป็นคนที่เหนื่อยมาก เรียกว่าทำงานแบบสบาย คอยสนับสนุนให้ท่านออกหน้าไป เราเองคอยอนุโมทนา บุญใหญ่ทั้งหมดก็เป็นของเราไปด้วย


ระลึกถึงเมื่อไร ภาพหลวงพ่อโตก็เด่นชัดอยู่ในใจ เป็นพุทธานุสติ ที่ไม่ต้องใช้กำลังมากมายในการระลึกถึง ก็สามารถที่นึกได้ตลอดเวลา แค่คิดว่านี่เป็นภาพพุทธนิมิต แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน เราเห็นรูปนี้ ก็เท่ากับว่าเราอยู่ใกล้พระพุทธเจ้า เราอยู่ใกล้พระพุทธเจ้า ก็คือเราอยู่บนพระนิพพาน ถ้าท่านทั้งหลายสามารถรักษากำลังใจแบบนี้เอาไว้ได้ โอกาสที่จะไปพระนิพพานในชาตินี้ก็มีสูงมาก

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๔ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-01-2024 เมื่อ 01:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:07



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว