กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 25-03-2010, 00:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default ท่องคาถาจนได้อภิญญา

ตอนนี้พวกทหารจากกองร้อยเฉพาะกิจนราธิวาส จะโทรมาปรึกษาเป็นประจำ ครั้งล่าสุดที่เขาโทรมาเกิดจากว่า มีอิสลามคนหนึ่ง เขาท่องคัมภีร์อัลกุรอานแบบกลับหลังแล้วเกิดอภิญญาขึ้นมา เพียงแต่ว่าเขากลายเป็นบ้า ๆ บอ ๆ แล้วไปก่อคดีตามแรงบ้าของเขา ตำรวจทหารจะไปจับเขาก็จับไม่ได้ เพราะถึงเวลาเหมือนกับเขาหายไปเฉย ๆ พ้นวงล้อมตำรวจไปแล้วถึงได้เห็นตัวอีกที

พอโจรรายนี้เข้าไปในเขตของ ผบ.ร้อยท่านนี้ เขาก็ต้องออกไปปิดล้อมและตรวจค้นว่าผู้ร้ายอยู่ที่ไหน พอรู้ว่าโจรมันหนีเข้าไปในสวนยาง เขาก็โทรมาถามอาตมาว่า "ผมจะทำอย่างไรดี ?" อาตมาถามเขาว่า "ในตัวของเอ็งมีอะไรบ้าง ?" เขาบอกว่า "มีพระกริ่งพิชัยสงครามกับตะกรุดมหาสะท้อน"

"เอ็งอาราธนาตามวิธีที่ให้ไปเลยนะ คาถามีกี่บทว่าให้หมด ขอบารมีพระท่านแค่ว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ต้องสำเร็จ" ไม่ขออย่างอื่น พอเขาวางกำลังล้อมเสร็จ เขาก็อธิษฐานขอให้ปฏิบัติการครั้งนี้สำเร็จ ปรากฏว่าไอ้โจรบ้านั่นเดินออกมาเฉย ๆ เดินออกมาให้จับตัวเลย เดินออกมาเห็น ๆ ด้วย เขาคงจะเดินออกมาลักษณะแบบที่ฝ่าวงล้อมคนอื่น แต่คนอื่นไม่เห็น อย่างที่เคยทำได้ทุกที แต่ครั้งนี้เขาเห็น ก็เลยจับตัวได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าป่านนี้เขาเอาไปไว้ที่ไหน ?

ถาม : แล้วเขาจะหลุดจากกรงไหมนี่ ?
ตอบ : ไม่แน่ใจ

บางเวลาท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็จะโทรมา พอเขาโทรมาจะเวลาไหนก็ตาม อาตมาต้องสละเวลาให้เขา เพราะว่าถ้าไม่ฉุกเฉินจริง ๆ เขาก็ไม่โทรมาหรอก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2014 เมื่อ 14:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 25-03-2010, 00:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ท่องคัมภีร์อัลกุรอานอย่างไรครับ ?
ตอบ : ที่จะพูดถึงคือเรื่องนี้ แม้แต่คนอิสลามก็ตาม เขาท่องคัมภีร์ตามความเชื่อถือของเขา ท่องบ่นด้วยความเชื่อมั่นศรัทธาและจริงจัง ก็ยังเกิดอภิญญาได้ แล้วของเราเอง..ศาสนาพุทธ วิธีสร้างอภิญญามีนับไม่ถ้วน สู้เขาไม่ได้นี่น่าขายหน้านะ..!

ลองไปท่องกลับหลังบ้าง อันดับแรกเอาอิติปิ โสฯ ถอยหลังก่อน ถึงเวลาก็ท่องอิติปิ โส ภะคะวาฯ แล้วเดินถอยหลังไปเรื่อย ๆ ตอนลงบันไดระวังให้ดี ถ้าถอยผิดจังหวะจะตกบันได..!

เรื่องนี้อาตมาเคยแกล้งรุ่นน้องที่วัดท่าซุงมาแล้ว รุ่นน้องบวชใหม่ไฟแรง ตอนที่เขาเป็นนาค อาตมาเป็นพระพี่เลี้ยงให้เขา

เขาก็ถามว่า "หลวงพี่ครับ...ทันทีที่บวชเสร็จ เราจะทำอย่างไรจึงจะได้อานิสงส์สูงสุดครับ ?" ก็เลยบอกว่า "เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน คุณเดินออกจากโบสถ์แล้ว ให้ตั้งใจเดินถอยหลัง สวดอิติปิ โสฯ ไปเรื่อย ๆ คุณเคยได้ยินไหม ? อิติปิ โสฯ ถอยหลัง"

"เคยได้ยินครับ" "เออ..นั่นแหละ เดินสวดอิติปิ โสฯ ถอยหลังไปเรื่อย ๆ จนถึงกุฏิ ใครทักห้ามพูดอย่างเด็ดขาด ถ้าสมาธิเคลื่อนเดี๋ยวคุณจะได้บุญน้อย"

ถาม : ใจร้าย..!
ตอบ : ไม่ได้ใจร้ายเว้ย อยากจะรู้ว่าเขามีประสบการณ์แค่ไหน..!

ถาม : แล้วเป็นอย่างไรครับ ?
ตอบ : เขาก็ทำจริง ๆ

ถาม : ถึงกุฏิหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ไม่รู้ถึงหรือเปล่า เพราะอาตมาเผ่นไปก่อน..!

อิติปิ โสฯ ถอยหลังของอาตมาเป็นอย่างนี้ ต้องใช้สมาธิมาก เพราะถ้าเผลอ..จะไปชนอย่างอื่นเข้า ต้องระวังทุกอย่าง บุญก็จะมากไปด้วย อธิบายให้น่าเชื่อ เพื่อน ๆ ก็เชื่อกันหมด น้องเขาก็เชื่อด้วย

ถาม : จะให้ได้อานิสงส์เยอะ ก็ต้องนั่งสวดอิติปิ โส ฯ ถอยหลัง ?
ตอบ : ก็ลองดู ไถไปกว่าจะถึงกุฏิ สบงอาจจะขาดไปแล้ว บางอย่างก็เกิดจากความซนเก่า ๆ ที่กลับมา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2014 เมื่อ 14:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 25-03-2010, 01:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกเรื่องก็ หลวงพี่สุธน ท่านสึกไปแล้ว ตอนอยู่วัดท่านปฏิบัติดีมาก สึกไปเพราะว่าทางบ้านขอร้องให้กลับไปช่วยทำมาหากิน

วันนั้นท่านฉันอาหารแล้วก้างปลาติดคอ มาเจอกันตอนทำวัตรเย็นเสร็จแล้ว ราว ๆ ทุ่มครึ่ง เห็นหลวงพี่สุธนลูบคอ อาตมาก็ถามว่า "หลวงพี่เป็นอะไรครับ ?" ท่านก็บอกว่า "ก้างปลาติดคอตั้งแต่เช้าแล้ว ผมแก้ทุกวิธีก็แก้ไม่ได้ บางคนก็บอกให้ปั้นข้าวกลืนบ้าง กลืนกล้วยทั้งลูกบ้าง เอาแมวมาข่วนบ้าง บีบมะนาวใส่บ้าง ลองทำดูหมดแล้ว ไม่หายสักที"

อาตมาก็บอกว่า "อ๋อ...มีอีกวิธีครับหลวงพี่ เขาบอกให้ดื่มน้ำร้อน" อาตมาก็หันไปกดน้ำร้อนใส่แก้วให้ ตอนกดก็ว่าคาถาสะเดาะก้าง แล้วก็ส่งแก้วน้ำร้อนให้ไป บอกว่า "ฉันได้เลย น้ำร้อนจะทำให้กระดูกอ่อน แล้วก็หลุดออกมา" พี่เขาก็กลืนเอื๊อก "ลองกลืนน้ำลายดู" "เอ๊ะ..หายจริง ๆ" "ก็หายจริง ๆ สิครับ ผมมั่นใจ..เพราะน้ำร้อนทำให้กระดูกอ่อนแล้วหลุดออกมา" ต่อไปถ้าพี่เขาก้างติดคออีก ก็คงกินน้ำร้อนหมดเป็นกา..!

ถาม : ยาวไหมครับคาถาสะเดาะก้าง ?
ตอบ : คาถาบทนี้ได้จากหลวงปู่มหาอำพัน แต่แปลกมากเลย แปลกตรงที่อาตมาได้มาไม่เหมือนคนอื่นเขา คาถาว่า พญานกออก ช่วยบอกพญานกเป็ดน้ำ ขอนขวางอยู่ในถ้ำ สะวะหะ สะวะหาย สะวะหะ สะวะหาย สะวะหะ สะวะหาย

แต่คนอื่นได้จากหลวงปู่ แม้กระทั่งลายมือหลวงปู่เขียนว่า "พญานกกรด" แต่อาตมาเป็น "พญานกออก" และไม่ได้จดด้วย ฟังครั้งเดียวจำเลย ก็เลยสงสัยว่าของอาตมาใช้ได้ผลเพราะคำว่า "ออก" หรือเปล่า ?

ลองไปใช้ดู บางทีฉุกเฉินขึ้นมาจะไปมาหาหมอกลางดึกก็ลำบาก สำคัญตรงที่ว่า เรื่องของคาถานั้น ห้ามลังเลสงสัยเด็ดขาด ใส่ไปเต็ม ๆ ด้วยความมั่นใจเลยถึงจะได้ผล
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2014 เมื่อ 14:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 25-03-2010, 14:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีคาถาแก้สะอึกไหม ?
ตอบ : อมน้ำตาลปีบ ควักน้ำตาลปีบมาก้อนหนึ่ง ใส่ปากอมเลย ทันทีที่น้ำตาลแตะลิ้น ไม่เกินสามวินาที จะหายสะอึก

ถาม : หลอกหรือเปล่า ?
ตอบ : นี่เรื่องจริง..ไม่ได้หลอก ลองดู..หายแน่นอน ถ้าหลอกต้องให้อมบอระเพ็ดแทน ตอนแรกเขาบอกมาก็ไม่เชื่อ พอลองดูเองแล้วหาย เลยต้องเชื่อ

ในเรื่องที่เขาท่องคัมภีร์อัลกุรอานแล้วเกิดอภิญญาขึ้นมาได้ เราจะเห็นว่าเกิดจากความเชื่อมั่นและศรัทธาของเขา ในตัวศรัทธาเชื่อมั่น เป็นส่วนหนึ่งของเวสารัชชกรณธรรม ธรรมที่ทำให้คนเกิดความกล้า เพราะว่ามีสิ่งที่ให้ยึดถือ

มีเชื่อมั่นในคุณพระรัตนตรัย ก็คือ เชื่อมั่นในคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เชื่อมั่นในสิ่งศักดิสิทธิ์ เป็นเครื่องรางของขลังอะไรก็ได้ที่ตนเองมีอยู่ เชื่อมั่นในผู้นำ ถ้าผู้นำเก่ง มีความสามารถ ทำอะไรประสบความสำเร็จทุกอย่าง มีประสบการณ์สูง บอกแล้วเราไปทำสำเร็จ สองครั้ง..สามครั้ง..สี่ครั้ง..ครั้งที่ห้าก็เชื่อว่าสำเร็จ จะเกิดความมั่นใจ และท้ายที่สุดก็จะเชื่อมั่นในตนเอง

ถ้าใครมาถึงจุดเชื่อมั่นในตนเองได้ ทำอะไรก็สำเร็จทุกอย่าง เพียงแต่ว่าต้องเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์จริง ๆ อย่าไปกั๊กไว้ ถ้าหากว่ามีความเชื่อมั่นในลักษณะนี้ ความดีที่เราทำ จะเป็นศีล เป็นสมาธิ เป็นปัญญา ก็จะไม่ใช่ของยาก เพราะคนที่เชื่อมั่นก็จะทำไป ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งมัวแต่ลังเลสงสัยอยู่ เอ๊ะ..จะจริงไหม ? จะได้ไหม ? กลายเป็นว่าคนหนึ่งข้าวอยู่ตรงหน้า กินได้ก็ลุยเลย อีกคนหนึ่งมัวแต่สงสัย จะกินได้ไหม ? จะเป็นพิษหรือเปล่า ? จะปวดท้อง จะถ่ายท้องไหม ? ก็ไม่ต้องกินสักที

เพราะฉะนั้น..ใครที่มัวแต่ลังเลอยู่ว่า ในส่วนของ ศีล สมาธิ และปัญญา จะช่วยให้เรามีความเจริญก้าวหน้า จนกระทั่งสามารถตัดกิเลสเข้าสู่พระนิพพานได้จริงหรือเปล่า ? ขอให้เลิกสงสัยได้แล้ว นักปฏิบัติอย่างพวกเราทั้งหมด ในเรื่องตัวสงสัยจริง ๆ จะเหลือน้อยมาก เพราะถ้าหากมีอยู่เราก็จะไม่มาทำ เพียงแต่ว่าเราทำ แต่ยังไม่เกิดผลเป็นที่ประจักษ์แก่ตา ก็ยังมีความสงสัยตะขิดตะขวงใจเล็กน้อยเท่านั้นเอง ไม่ใช่ตัวสังโยชน์ใหญ่ที่แท้จริง แต่ว่าเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น

ประเภทมาเช้า มากลางวัน มาเย็น ตัวลังเลสงสัยมีน้อยแล้ว ก็เหลืออยู่อย่างเดียว ขอสามตัวเจ๋ง ๆ ทีเถอะ แหม..ถ้าบอกได้บอกไปนานแล้ว หลวงพ่อวัดท่าซุงไม่น่ามาตัดทางทำกินเลย ถ้าไม่โดนท่านสั่งห้ามนี่ การสร้างบ้านวิริยบารมี งวดสองงวดก็ได้แล้ว ท่านบอกว่ารู้ ๆ อยู่แล้วไปทำ เท่ากับไปช่วยเขาปล้น ท่านจะปรับปาราชิกขาดความเป็นพระไปเลย เป็นพระรูปเดียวในวัดที่โดนอยู่สองเรื่อง เรื่องแรกห้ามให้หวย เรื่องที่สองก็คือห้ามบอกว่าคนตายแล้วไปไหน


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงก่อนทำกรรมฐาน ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันเสาร์ที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๓
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-01-2015 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:37



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว