กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 07-04-2009, 14:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,063 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default สิ่งที่นักปฏิบัติควรระวัง

ต้นเดือนที่ผ่านมา พระอาจารย์บอกว่าในเรื่องการปฏิบัติมีสิ่งที่เราควรพึงระวัง อันเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติ ดังนี้

"อย่างแรกก็คือ พอปฏิบัติไปถึงจุดหนึ่งแล้ว มีความรู้สึกที่อยากจะบอกอยากจะสอนคนอื่น เพื่อให้เห็นว่าที่เราทำมาแล้วนั้นดีอย่างไร ตรงจุดนี้ ถ้าเจอคนที่เขาไม่เชื่อหรือไม่ศรัทธาในสิ่งที่เราบอก ก็จะกลายเป็นว่าเขาจะไม่พอใจหรืออาจทำให้ผิดใจกัน

แต่ถ้าไปเจอที่คนเขาฟังเราแล้วเขาเชื่อ เขาก็จะบอกว่า ถูกใจ ตรงใจ โดนใจสุด ๆ เขาก็จะชื่นชมสรรเสริญ แล้วพาคนแห่กันมาหา ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข จะพากันหลั่งไหลมา จนเราไม่มีเวลาปฏิบัติเป็นของตนเอง ที่เราพูดได้ตรงใจ โดนใจนั้น ก็เพราะว่ากิเลสเราเหมือนกัน ตรงกัน เลยพูดได้ถูกใจอีกฝ่าย เพราะฉะนั้น..สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราควรพึงระวัง

อย่างที่สองก็คือ ญาณอันเป็นเครื่องรู้ เวลาที่เราปฏิบัติไปเรื่อย ๆ ญาณอันเป็นเครื่องรู้จะบังเกิดขึ้น ตรงนี้มารเขาสามารถพลิกวิธี ใช้หลอกให้เราเขวไปจากทางตรงได้ มีพระรูปหนึ่งที่ปฏิบัติจนไม่ได้กินไม่ได้นอน ครอบครัวต้องพาเข้าโรงพยาบาล ไปเจอสมุดบันทึกที่ท่านเขียนในเรื่องการปฏิบัติไว้ว่า "พระมาบอกให้กินน้อย นอนน้อย ทำความเพียรให้มาก เร่งการปฏิบัติให้มาก แล้วจะเข้าถึงมรรคผล "

"ฟังแล้วมีตรงไหนบ้างที่ไม่ถูก ไม่มีใช่หรือไม่ ?" เหมือนกับพระมาบอกจริง ๆ พระรูปนั้นก็ทำตาม ไม่กินข้าว ไม่นอนเป็นเวลาสองเดือน เอาแต่เดินจงกรม จนสภาพร่างกายทนไม่ไหว กลายเป็นเบลอ ๆ เสียสติไป เพราะฉะนั้น..เรื่องญาณหรือคุณวิเศษที่เกิดขึ้นกับเรา เป็นสิ่งที่ควรพึงระวังด้วย

"แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า พระหรือมารกันแน่ที่มาบอก" "ต้องโดนหลอกบ่อย ๆ เดี๋ยวก็รู้เอง"

เรื่องที่สามก็คือ การคิดแตกแขนงไปเรื่อย ๆ โดยไม่หยุด ประมาณว่า เจอนั่นก็คิด เจอนี่ก็คิด แตกความรู้ไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีจุดสิ้นสุด ไม่มีเป้าหมายอันเป็นเครื่องการหลุดพ้น ผู้หญิงคนหนึ่งเธอบอกว่า เวลาเธอเจออะไรก็คิดไปเรื่อย ๆ ไม่หยุด เหมือนการลับสมองให้ตัวเองเก่ง จนต้องถามว่าคิดไปทำไม ผู้หญิงเขาก็มองว่าสิ่งที่เขาทำนั้นถูก จนสุดท้ายต้องย้อนถามเขากลับว่า เราทุกข์เพราะอะไร ? เขาก็เลยอึ้งไปเลย ตอบไม่ได้ เพราะคิดแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง "จินตนาการบรรเจิด กิเลสจะเกิดตามมา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2016 เมื่อ 03:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:28



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว