กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 15-02-2009, 10:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default ชีวิตทหารกับการภาวนา

ตอนที่เข้าไปเป็นทหารใหม่ ๆ อยู่กองโรงเรียน ตี ๕ เขาก็ปลุกแล้ว กว่าจะได้พักก็ ๓ ทุ่ม เขาให้เวลาทำความสะอาด ซักเสื้อ ซักผ้า ขัดรองเท้า ขัดเครื่องหมายทุกชิ้นให้เงาวับภายในเวลา ๑๕ นาที แล้วเป่านกหวีดให้นอน แปลว่า ๓ ทุ่ม ๑๕ ต้องนอน ๔ ทุ่มจะเป่านกหวีดปลุกให้ไปฝึกยุทธวิธีการรบเวลากลางคืน แล้วจะจบประมาณตี ๒ คราวนี้รีบไปนอน ตี ๕ ปลุกใหม่ แปลว่าเราจะมีเวลาพักจริง ๆ ประมาณ ๓ ชั่วโมง หมายถึงว่า หงายหลังไปต้องหลับเลย..!

อาตมาเองเคยยืนหลับ กำลังฝึกท่าอาวุธอยู่ ครูฝึกสั่งเรียบอาวุธ ไม่ทันจะเข้าร่องไหล่ก็หลับ ส่วนอีกทีหนึ่งหลับแล้วได้ดี ก็คือ ช่วงเขาเป่านกหวีด เราต้องไปห้องน้ำห้องส้วม ล้างหน้าแปรงฟัน อาบน้ำ จนกระทั่งไปเข้าแถวให้เรียบร้อย ๓ นาที คราวนี้มักจะไม่ทัน เมื่อไม่ทันก็โดนซ่อม ซ่อมด้วยการลงโทษ นั่งกระโดด (สก๊อตจั๊มป์) บ้าง วิดพื้นบ้าง อาตมาก็แอบใส่ถุงเท้าไว้ก่อน ใส่ชุดไว้ก่อน ปรากฏว่าก่อนตี ๕ ครูฝึกดันมาไล่คลำตีนทีละคน พอเจอใครใส่ไว้ก่อนก็จดชื่อไว้ พอถึงเวลาคนอื่นนอน ก็ต้องไปซ่อม พี.ที.ต่างหาก อาตมาโดนจดชื่อ เพราะวันนั้นใส่ถุงเท้าไว้ก่อน

พอ ๓ ทุ่ม ๑๕ เสียงเป่านกหวีดให้นอน อาตมาหงายผลึ่งก็หลับไปเลย ไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหน ตื่นขึ้นมากระซิบถามเพื่อน "เฮ้ย...เขาไม่ได้เรียกซ่อม พี.ที.หรือ ?" เพื่อนบอกว่า "เรียก..แล้วมึงไปไหนมา ?" ก็บอกไปว่า "กูหลับ!!" ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ยังไม่มีใครกล้าเบี้ยว เขาก็เลยไม่ตรวจรายชื่อ คิดว่ามาครบ ถ้าเขารู้ว่าอาตมาเบี้ยว คงต้องโดนตัดหลายแต้ม ส่วนมากแล้วนักเรียนจะยอมโดนซ่อมมากกว่า เพราะถ้าแต้มหมดถึงเรียนครบก็ไม่ได้จบกับใคร..!

ตั้งแต่เข้าไปเรียน คุณได้ ๑๐๑ แต้ม แล้วจะโดนตัดไปเรื่อยตามความผิดหนักเบาของตน ต่อให้คุณสอบผ่านหมดทุกอย่าง ถ้าแต้มไม่เหลือเขาก็ปรับตก ส่วนที่ตัดแต้มมากที่สุด มักเป็นเรื่องของการเคารพอาวุโส หรือเคารพผู้เป็นครูบาอาจารย์ เพราะฉะนั้นระบบ seniority ของทหารจึงได้เข้มข้นมาก เพราะเขาฝึกกันมาตั้งแต่ตอนนี้ ไม่อย่างนั้นโดนตัดที ๓ แต้ม ๕ แต้ม แทบนั่งร้องไห้ เพราะอาจจะหมายถึงว่าเรียนฟรี...รุ่นของอาตมานี่ตกไป ๖ คน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-09-2013 เมื่อ 11:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 80 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 15-02-2009, 10:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ที่เล่าให้ฟังเพื่อที่จะย้อนกลับมาตรงที่ว่า มีเวลานอนแค่ ๓ ชั่วโมง แต่อาตมารู้ว่าจะต้องภาวนา เพราะฉะนั้น..ถึงเวลาตี ๓ ก็ต้องตื่นขึ้นมาภาวนา ต้องสละเวลานอนมาเพื่อภาวนา ไม่อย่างนั้นแล้วอารมณ์ที่รักษาไว้ดี ๆ จะพังบรรลัยหมด ถ้ากิเลสกินใจเราได้ กว่าจะไล่ออกไปเป็นเรื่องยากเหลือเกิน ใครที่เคยรักษาอารมณ์ผ่องใสได้นาน ๆ แล้วอยู่ ๆ ขุ่นมัวไป เพราะ รัก โลภ โกรธ หลง จะรู้ว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายขนาดไหน เพราะฉะนั้น..อาตมาจะไม่ยอมเด็ดขาดที่จะให้กิเลสมาแย่งเอาความผ่องใสของใจไป มีวิธีเดียวก็คือ ต้องสละเวลานอนขึ้นมา ขัดถูทำความสะอาดใจให้ผ่องใสให้ได้

ปรากฏว่าเพื่อน ๆ ก็มีความสามารถ ฉันทะเหลือเฟือ อาตมาตื่นตี ๓ เขาตื่นด้วย อาตมานั่งกรรมฐาน เพื่อนก็คลานมารอบเตียง "หลวงพ่อขอเลข ๒ ตัว" คิดดูแล้วกันว่าฉันทะขนาดไหน เหนื่อยจนรากเลือดมาด้วยกัน แทนที่จะนอน ก็ไม่นอนหรอก ดันตื่นมากวนอาตมา สุดยอดมนุษย์จริง ๆ ถึงได้บอกว่า จริง ๆ แล้วพวกเรามาถึงระดับนี้แล้ว กำลังใจทุกส่วนของเราเหลือเฟือแล้วที่จะสร้างความดี เพียงแต่ว่าเราเปลี่ยนจุดหน่อย ให้เห็นความสำคัญของการทำความดี

ให้เห็นว่าเวลาของเราที่มีสำคัญ เพราะเวลาของเรามีแค่ชั่วลมหายใจเดียว หายใจเข้า...ถ้าไม่หายใจออกก็ตายแล้ว หายใจออก...ถ้าไม่หายใจเข้าก็ตาย แล้วถ้าเราตายตอนที่ไม่มีความดีอยู่ในใจนั้น ลองว่าได้ลงอบายภูมิไป หนี้เก่าทั้งหมดมามะรุมมะตุ้ม เราต้องแย่แน่

พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ในกัปป์นี้ผ่านไปแล้วยังไม่แน่เลยว่าจะขึ้นมาได้ ในเมื่อเป็นอย่างนั้นเราจะนอนสบายดี หรือจะยอมลำบากลุกขึ้นมาภาวนาดี เพราะถ้าเรายอมลำบาก เราลำบากชาติเดียว เวลาความเป็นมนุษย์ไม่เกินร้อยปีตายแน่ เปรียบกับการเวียนตายเวียนเกิดนับกัปไม่ถ้วน ความทุกข์ยากลำบากแค่นี้ ทำไมเราจะทนลำบากไม่ได้ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-09-2013 เมื่อ 12:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 83 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 15-02-2009, 10:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระพุทธเจ้าตรัสว่า เราเหมือนอยู่ในเรือนที่ไฟกำลังไหม้ แทนที่เราจะตั้งหน้าตะเกียกตะกายหนีไฟ เรากลับไปนอนสบาย สมควรตายไหมล่ะ ?

ยิ่งไม่มีเวลาเรายิ่งต้องสละทุ่มเทให้ เหมือนกับที่อาตมาไม่มีเวลานอน เพราะยอมสละลุกขึ้นมาภาวนา พอถึงเวลารวมแถวก็เริ่มออกวิ่ง วันหนึ่ง ๑๕ กิโลเมตร แล้วแต่ครูฝึก แต่ก็ไม่หวั่น ซ้ายพุท ขวาโธ ลงตัวพอดีเลย วิ่งนานเท่าไรก็ภาวนาได้มากเท่านั้น

ทำอย่างไรที่พวกเราจะฉวยทุกอิริยาบถของเรา ทุกเวลาของเรา ยืน เดิน นั่ง นอน ดื่ม กิน คิด พูด ทำ ใช้เวลาทั้งหลายเหล่านั้นควบกับการภาวนาไปด้วย

การบ้านนี้อาจจะยากไปหน่อย แต่ขอยืนยันว่าถ้าทำการบ้านนี้ได้ พวกเราจะสอบได้ทุกคน ถึงแม้จะไม่ได้เกรด a อย่างน้อยไม่ขี้เหร่ถึง c ถึง d แน่นอน ช่วยรับไปแล้วทำด้วย

อาตมาเองก็รู้ตัวว่าแก่เต็มทีแล้ว เหนื่อย...เลิกงานพอหงายหลังก็สลบไปแล้ว ก่อนหน้านี้จะตื่นก่อนนาฬิกาปลุก ๕ นาที แต่เดี๋ยวนี้นาฬิกาดัง เสียงอะไรวะ..? เพลียจนไม่มีแรงจะลุก ก่อนหน้านี้พอหมดสภาพแล้วยังตื๊อต่อได้เป็นวัน ๆ แต่เดี๋ยวนี้หมดแล้วหมดเลย หงายลงไปได้ก็หลับเลย พุท ไม่ทันจะโธ ก็ไปแล้ว


เทศน์ ณ บ้านอนุสาวรีย์
เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-11-2016 เมื่อ 15:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 83 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:02



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว