กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 24-05-2015, 16:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,475
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,736 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๘

ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติเอาไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอย่างไรก็ได้ตามที่เราถนัดมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ เมื่อครู่ก่อนกรรมฐาน มีผู้ถามว่า "สภาพจิตในการปฏิบัติธรรมเหมือนกับไฟไหม้ฟาง ก็คือมักจะปรากฏอยู่แค่วูบ ๆ วาบ ๆ แล้วก็หายไป ทำให้ไม่มีความแน่วแน่พากเพียรอย่างแท้จริง ผลการปฏิบัติจึงไม่เกิด ทำอย่างไรจะไม่ให้เป็นไฟไหม้ฟางอย่างที่ว่ามา ?"

ถ้าไม่ต้องการให้เป็นไฟไหม้ฟางก็ต้องมีความพากเพียรในการปฏิบัติธรรม ซึ่งไม่ต้องมาก เอาแค่ให้ถึงระดับของปีติเท่านั้น ยังไม่ทันจะทรงถึงระดับเป็นฌานเลยด้วยซ้ำไป บุคคลที่การปฏิบัติเริ่มเข้าถึงปีติ จะไม่เบื่อไม่หน่ายในการปฏิบัติธรรม บางครั้งก็อาจจะทำจนเกินเลย ไม่ได้พักไม่ได้ผ่อนก็มี

ท่านที่ไม่อยากปฏิบัติแบบไฟไหม้ฟาง จึงต้องพยายามภาวนาให้ถึงระดับปีติ ซึ่งยังไม่ทันจะเข้าถึงสุข และยังไม่ทันจะเป็นเอกัคตารมณ์ ถ้าท่านสามารถทำดังนี้ อานิสงส์อย่างน้อยจะทำให้ท่านไปเกิดในดาวดึงสเทวโลก แล้วถ้าไม่เบื่อไม่หน่ายในการปฏิบัติจนกำลังของท่านทรงปฐมฌานได้ ถ้าเป็นปฐมฌานอย่างหยาบก็ไปเกิดเป็นปริสัชชาพรหม ปฐมฌานอย่างกลางไปเกิดเป็นปโรหิตาพรหม ปฐมฌานอย่างละเอียดไปเกิดเป็นมหาพรหม

ถ้าก้าวขึ้นสู่ฌานที่สอง อย่างหยาบไปเกิดเป็นปริตตาภาพรหม ฌานที่สองอย่างกลางไปเกิดเป็นอัปปมาณาภาพรหม ฌานที่สองอย่างละเอียดไปเกิดเป็นอาภัสราพรหม ถ้าสามารถก้าวถึงฌานที่สามได้ ฌานที่สามอย่างหยาบ จะไปเกิดเป็นปริตตสุภาพรหม ฌานที่สามอย่างกลางไปเกิดเป็นอัปปมาณสุภาพรหม ฌานที่สามอย่างละเอียดจะไปเกิดเป็นสุภกิณหพรหม

ถ้าหากว่าสามารถทรงฌานที่สี่ได้ ฌานที่สี่อย่างหยาบจะไปเกิดเป็นเวหัปผลาพรหม ฌานที่สี่อย่างละเอียดจะเกิดเป็นอสัญญีสัตตาพรหม ณานที่สี่มีแค่ ๒ ระดับเท่านั้น ไม่มีระดับกลาง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-05-2015 เมื่อ 12:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 66 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 25-05-2015, 14:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,475
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,736 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนอานิสงส์ที่พึงได้มากกว่านั้นก็คือ ถ้ากำลังใจของท่านทรงปฐมฌานอย่างละเอียดได้ ท่านจะมีกำลังในการตัดกิเลสได้ในระดับของพระโสดาบันและพระสกทาคามี ถ้าท่านทรงฌานสี่ละเอียดได้ กำลังของท่านสามารถตัดกิเลสได้ระดับพระอนาคามีหรือว่าพระอรหันต์

ดังนั้น..จะเห็นว่าสมาธิที่เราทำกันอยู่นั้น เป็นพื้นฐานใหญ่ในการช่วยให้บรรลุธรรม แต่ขณะเดียวกันถ้าเผลอเมื่อไรก็ทำให้ยึดติดได้ง่าย เพราะว่าการจะเข้าถึงสมาธิในแต่ละระดับ ก็จะมีสุขในสมาธินั้น ๆ อยู่ ซึ่งเป็นความสุขเยือกเย็นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ไม่สามารถจะบอกจะกล่าวเป็นภาษามนุษย์ได้

เนื่องจากว่าปกติแล้ว เราโดนไฟใหญ่ ๔ กอง คือ รัก โลภ โกรธ หลง เผาอยู่ตลอดเวลา เมื่อกำลังสมาธิก้าวถึงระดับฌาน จะมีกำลังในการกด รัก โลภ โกรธ หลง ให้ดับลงชั่วคราว บุคคลที่โดนไฟเผาอยู่ตลอดเวลา อยู่ ๆ ไฟดับไป จะมีความสุขสบายขนาดไหน ย่อมไม่สามารถบอกกล่าวเป็นภาษามนุษย์ได้ เป็นปัจจัตตัง คือเรื่องที่รู้เฉพาะตนของนักปฏิบัติเท่านั้น แล้วยิ่งถ้าท่านทั้งหลายสามารถดับกิเลสได้ด้วยอำนาจของสมาธิ ก็ถือว่าเป็นบุญใหญ่ เป็นกำไรมหาศาล ไม่เสียทีที่ได้พากเพียรปฏิบัติมา

ดังนั้น..ในการปฏิบัติของเรา เมื่อภาวนาไปแล้วต้องหมั่นพินิจพิจารณาด้วย ถ้าเราคิดนึกตรึกอยู่ว่าจะภาวนา ลมหายใจแรงหรือเบา ยาวหรือสั้น ใช้คำภาวนาอะไรรู้อยู่ มีอาการขนลุกหรือน้ำตาไหล กายโยกโคลง มีอาการลอยขึ้นทั้งตัว รู้สึกตัวพองตัวใหญ่ ตัวแตกระเบิดอย่างใดอย่างหนึ่งปรากฏขึ้น หรือมีความสุขเยือกเย็นใจอย่างที่ไม่เคยปรากฏขึ้น หรือว่ามีความแน่วแน่มั่นคงในการภาวนา ถ้าสิ่งทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ปรากฏขึ้นให้รู้ว่าขณะนี้ท่านเข้าถึงปฐมฌานแล้ว

ทั้ง ๕ อย่างที่ว่ามานี้อาจจะเกิดขึ้นภายในพริบตาเดียวก็ได้ แต่ถ้าจิตของท่านละเอียดพอจะเห็นว่าเกิดขึ้นทีละขั้น ๆ ลักษณะช้า ๆ แต่เป็นความช้าเพราะสภาพจิตของเราเร็วพอ ถ้าบุคคลที่สภาพจิตหยาบก็จะรู้สึกว่าเกิดขึ้นทีเดียวครบถ้วนสมบูรณ์ทั้ง ๕ อย่าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-05-2015 เมื่อ 15:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 63 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 26-05-2015, 17:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,475
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,736 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าเกิดขึ้นครบถ้วนสมบูรณ์ ก็ให้ท่านทั้งหลายประคับประคองกำลังใจให้มีความละเอียดยิ่ง ๆ ขึ้น เพื่อที่จะได้มีกำลังพิจารณาตัดกิเลสในระดับของพระโสดาบันหรือพระสกทาคามี ถ้ารู้สึกว่าลมหายใจเบาลงหรือว่าหายไป คำภาวนาหายไป ให้รู้ว่าขณะนี้ท่านกำลังก้าวเข้าสู่ฌานที่สอง

ถ้ารู้สึกเหมือนอย่างกับตัวแข็งกลายเป็นหิน หรือรู้สึกเหมือนโดนมัดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า กระดิกกระเดี้ยไม่ได้ ไม่รับรู้อาการต่าง ๆ ภายนอก ให้รับรู้ว่าท่านกำลังเข้าสู่ฌานที่สามแล้ว ถ้าหากว่ามีสภาพความสว่างโพลงเยือกเย็นอยู่ภายในอกก็ดี ตรงหน้าของเราก็ดี สภาพจิตปักมั่นไม่คลอนแคลนไปไหน ลมหายใจไม่มี คำภาวนาไม่มี นอกจากความสุขสว่างไสวเยือกเย็นเฉพาะหน้าของตน ไม่รับรู้อาการใด ๆ ภายนอก ขอให้ทราบว่าท่านได้ก้าวเข้าถึงฌานที่สี่ มีกำลังในการตัดกิเลสระดับพระอนาคามีและพระอรหันต์

เพราะฉะนั้น..การภาวนาของท่านจึงควรที่จะทบทวนขั้นตอนเหล่านี้ให้รู้เอาไว้ ถึงเวลาจะได้ทราบว่าขณะนี้ตนเองก้าวเข้าสู่สมาธิขั้นไหน แล้วจะได้นำไปใช้ประโยชน์ได้ตามที่ต้องการ

ลำดับต่อไปก็ให้ทุกท่านภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันอาทิตย์ที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๘

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยรัตนาวุธ)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-05-2015 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 51 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 27-05-2015, 12:20
อัครชัย อัครชัย is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Apr 2011
สถานที่: กรุงเทพมหานคร
ข้อความ: 1
ได้ให้อนุโมทนา: 16,836
ได้รับอนุโมทนา 375 ครั้ง ใน 27 โพสต์
อัครชัย is on a distinguished road
Post

ควรแก้เป็น ปุโรหิตาพรหม และ สุภกิณหาพรหม ครับ
และ อสัญญีสัตตาพรหม ควรแก้เป็น อสัญญสัตตาพรหม อีกแห่งครับ

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เถรี อ่านข้อความ
...
ท่านที่ไม่อยากปฏิบัติแบบไฟไหม้ฟาง จึงต้องพยายามภาวนาให้ถึงระดับปีติ ซึ่งยังไม่ทันจะเข้าถึงสุข และยังไม่ทันจะเป็นเอกัคตารมณ์ ถ้าท่านสามารถทำดังนี้ อานิสงส์อย่างน้อยจะทำให้ท่านไปเกิดในดาวดึงสเทวโลก แล้วถ้าไม่เบื่อไม่หน่ายในการปฏิบัติจนกำลังของท่านทรงปฐมฌานได้ ถ้าเป็นปฐมฌานอย่างหยาบก็ไปเกิดเป็นปริสัชชาพรหม ปฐมฌานอย่างกลางไปเกิดเป็นปโรหิตาพรหม ปฐมฌานอย่างละเอียดไปเกิดเป็นมหาพรหม

ถ้าก้าวขึ้นสู่ฌานที่สอง อย่างหยาบไปเกิดเป็นปริตตาภาพรหม ฌานที่สองอย่างกลางไปเกิดเป็นอัปปมาณาภาพรหม ฌานที่สองอย่างละเอียดไปเกิดเป็นอาภัสราพรหม ถ้าสามารถก้าวถึงฌานที่สามได้ ฌานที่สามอย่างหยาบ จะไปเกิดเป็นปริตตสุภาพรหม ฌานที่สามอย่างกลางไปเกิดเป็นอัปปมาณสุภาพรหม ฌานที่สามอย่างละเอียดจะไปเกิดเป็นสุภกิณหพรหม
...

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย อัครชัย : 27-05-2015 เมื่อ 12:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 24 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ อัครชัย ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 27-05-2015, 15:38
สุธรรม's Avatar
สุธรรม สุธรรม is offline
ผู้ตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 4,767
ได้ให้อนุโมทนา: 268,903
ได้รับอนุโมทนา 838,103 ครั้ง ใน 12,779 โพสต์
สุธรรม is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ อัครชัย อ่านข้อความ
ควรแก้เป็น ปุโรหิตาพรหม และ สุภกิณหาพรหม ครับ
และ อสัญญีสัตตาพรหม ควรแก้เป็น อสัญญสัตตาพรหม อีกแห่งครับ
พระอาจารย์ว่าตามบาลี ไม่ผิดหรอกครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:03



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว