กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 09-10-2015, 16:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,097
ได้รับอนุโมทนา 4,401,179 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๘

ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกทั้งหมดของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เราเคยถนัดมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ ระยะนี้นอกจากภัยธรรมชาติต่าง ๆ โดยเฉพาะน้ำท่วม เกิดขึ้นหลายแห่งทั้งในและนอกประเทศแล้ว สภาพเศรษฐกิจของบ้านเราก็ยังเริ่มฝืดเคืองขึ้น ถ้าท่านทั้งหลายมีการปฏิบัติภาวนาจนกำลังใจทรงตัว ก็จะไม่หวั่นไหวไปกับสิ่งต่าง ๆ ภายนอกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการประสบพบเหตุน้ำท่วมด้วยตนเองก็ดี หรือว่าสภาพความเป็นอยู่ที่ฝืดเคืองขึ้น ตามสถานการณ์ของประเทศชาติและโลกก็ดี

แต่ถ้าท่านทั้งหลายไม่สามารถที่จะทำกำลังใจให้ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ได้ ก็จะรู้สึกทุกข์ยาก กลัดกลุ้ม ขอให้ทุกท่านฉวยโอกาสนี้ ที่บางคนเห็นว่าเป็นวิกฤติ ทำให้เรามองเห็นชัด ๆ ว่า สภาพการเกิดมาในโลกมนุษย์ มีความทุกข์เช่นนี้เป็นปกติ ขึ้นชื่อว่าบุคคลที่เกิดมาแล้วไม่ทุกข์นั้นไม่มี ในเมื่อโลกเต็มไปด้วยความทุกข์ยากเช่นนี้ ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาในโลกอย่างนี้ สำหรับท่านทั้งหลายยังต้องการอยู่อีกหรือไม่ ?

ถ้าเราไม่ต้องการการเกิดมาพบกับความทุกข์ยากเร่าร้อนแบบนี้ ก็จำเป็นที่จะต้องมุ่งขวนขวายเพื่อความหลุดพ้นจากกองทุกข์ ซึ่งหลักธรรมที่จะนำเราพ้นจากกองทุกข์ก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-10-2015 เมื่อ 18:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 58 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 10-10-2015, 13:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,097
ได้รับอนุโมทนา 4,401,179 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น ในการปฏิบัติทุกครั้งเราต้องทบทวนดูว่า ศีลทุกสิกขาบทของเราบริสุทธิ์บริบูรณ์หรือไม่ ? ท่านรักษาศีล ๕ รักษาได้ครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ ? ท่านที่รักษาศีล ๘ รักษาได้ครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ ? ถ้าท่านที่รักษาศีล ๑๐ หรือศีล ๒๒๗ นั้นยิ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะต้องรักษาสิกขาบทของเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์

คำว่า "บริสุทธิ์บริบูรณ์" ในที่นี้ก็คือว่า เราไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล และไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีล เมื่อมีความมั่นใจว่า ณ ที่นี้ เวลานี้ วินาทีนี้ เรามีศีลทุกสิกขาบทบริสุทธิ์บริบูรณ์ ให้ทุกคนทำกำลังใจให้มีความเคารพมั่นคงในคุณพระรัตนตรัย คือมีความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างจริงใจ ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง

แล้วทบทวนดูว่าตัวเราก็ดี ตัวคนอื่นก็ดี สัตว์อื่นก็ดี มีใครที่ล่วงพ้นจากความตายได้บ้าง ? สรรพชีวิตทั้งหลายเกิดขึ้นในเบื้องต้น แปรปรวนในท่ามกลาง แล้วก็สลายตายไปในที่สุด เรามีความตายเป็นของธรรมดา ไม่สามารถจะล่วงพ้นจากความตายไปได้ แต่ถ้าตายไปแล้วเรามาเกิดใหม่ทุกข์ยากลำบากเช่นนี้ หรือว่าทุกข์ยากลำบากกว่านี้ ก็ขึ้นชื่อว่าเราเกิดมาแล้วขาดทุน เพราะฉะนั้น..การเกิดใหม่สำหรับเราจะไม่มีอีกแล้ว เพราะเราไม่ปรารถนาความเกิดที่เป็นทุกข์เช่นนี้อีก มีสถานที่เดียวที่ทำให้เราพ้นทุกข์อย่างแน่นอน คือพระนิพพาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2015 เมื่อ 20:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 54 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 11-10-2015, 18:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,097
ได้รับอนุโมทนา 4,401,179 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อตัวเราจะต้องตายอย่างแน่นอน เราก็ต้องทบทวนศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ทำความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อย่างจริงใจ ตั้งใจว่าตายเมื่อไรเราขอไปพระนิพพานแห่งเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นก็กำหนดดู กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก พร้อมด้วยคำภาวนาของเรา ถ้าหากว่าเราเผลอสติไปคิดเรื่องอื่น หลุดไปจากคำภาวนา รู้ตัวเมื่อไรให้ดึงกลับเข้ามาที่ลมหายใจเข้าออกเสียใหม่ มาอยู่กับลมหายใจและคำภาวนาของเราใหม่

ต้องพยายามต่อสู้กันอยู่ในลักษณะอย่างนี้อยู่ระยะหนึ่ง จนกำลังใจของเราทรงตัวมั่นคงอยู่กับการภาวนา ต่อไปแค่เราคิดอารมณ์ใจก็ทรงตัว กิเลสหยาบต่าง ๆ กินใจของเราไม่ได้ แล้วตั้งใจว่า ขึ้นชื่อว่าการเกิดมามีความทุกข์เช่นนี้สำหรับเราไม่มีอีกแล้ว เราต้องการที่เดียวคือพระนิพพานเท่านั้น

หลังจากนั้นก็เอาใจของเราจดจ่ออยู่ที่พระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่ง ที่เรารักเราชอบมากที่สุด ว่านั่นคือองค์แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่บนพระนิพพาน ถ้าหากเราหมดอายุขัยตายลงไปเมื่อไร เราขอไปอยู่กับพระองค์ท่านที่พระนิพพานแห่งเดียวเท่านั้น ให้รักษาการภาวนา และการกำหนดนึกถึงภาพพระของเราเอาไว้เช่นนี้ จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันศุกร์ที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๘

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-10-2015 เมื่อ 19:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:13



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว