กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 26-04-2017, 17:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๙ เมษายน ๒๕๖๐

ให้ทุกคนนั่งในท่าที่สบายของตัวเอง ตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ สิ่งที่อยากจะเตือนพวกเราในวันนี้ ก็คือ การปฏิบัติธรรมของพวกเรานั้น เหมือนกับการเข้าสู่สนามรบ ภาษาชาวยุทธจักรบอกว่า “มิใช่ท่านตายก็เป็นเราสิ้น” เพราะว่ากิเลสไม่เคยเมตตาปราณีกับเรา มีแต่ทุบตีฟาดโบยเราหนักที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าเราเองยังเหยาะแหยะอ่อนแออยู่ โอกาสที่จะชนะย่อมไม่มี

การปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องของบุคคลที่เข้าถึงปรมัตถบารมี คือกำลังใจขั้นสูงสุดแล้ว ดังนั้น...จึงต้องทุ่มเทจริงจัง ทำกันอย่างชนิดเอาชีวิตเข้าแลก ถ้าหากว่าทำไม่ได้ก็ให้ตายไปเลย ต้องวางกำลังใจในลักษณะอย่างนี้ ไม่ใช่ปฏิบัติกันในลักษณะแก้บน ภาวนาแค่ ๓ ครั้ง ๕ ครั้งแล้วจะให้เกิดผล...ย่อมเป็นไปไม่ได้


สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จะว่าไปแล้วพวกเราทุกคนรู้อยู่ แต่ก็ยังประมาทกันอยู่มาก เพราะว่าไปให้ความสำคัญกับสิ่งรอบข้างมากกว่าการปฏิบัติธรรม บางคนสามารถทุ่มเทสมาธิแชตกันได้ครึ่งค่อนวันติดต่อกัน แต่ให้ภาวนา ๓ นาที ๕ นาที ก็จะตายแล้ว ลักษณะอย่างนี้แสดงว่าเป็นการใช้สติสมาธิไปในทางที่ผิด ฉันทะในการปฏิบัติธรรมยังไม่เพียงพอ

แค่เราพลิกมุมกลับ มีความระลึกรู้อยู่เสมอว่าเราจะต้องตาย วินาทีนี้เรายังอยู่ วินาทีหน้าเราอาจจะตายแล้ว ถ้าหากว่าตายแล้วตกสู่อบายภูมิ ก็เท่ากับเราขาดทุนย่อยยับ อย่างน้อย ๆ ตายแล้วเราต้องได้ไปสู่ภพภูมิที่สูงกว่าเดิม จึงจะเรียกว่าไม่ขาดทุน ถ้าสามารถหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้ นั่นจึงเป็นจุดมุ่งหมายของเราทุกคน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 28-04-2017 เมื่อ 18:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 27-04-2017, 18:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่บุคคลที่ตั้งใจจะล่วงพ้นจากกองทุกข์ไปสู่พระนิพพาน แทนที่จะตัด จะละสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้ตนเองเบากายเบาใจมากที่สุด จะได้ปลด จะได้ปล่อยวางได้ง่ายที่สุด เรากลับไปแบกภาระสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมา แค่ขันธ์ ๕ ที่ประกอบไปด้วยร่างกายหยาบ ๆ ที่ประกอบไปด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ นี้ เราก็ดูแลไม่หวาดไม่ไหวแล้ว เรายังไปสร้างขันธ์โดยสมมติขึ้นมาอีก

อย่างเช่นว่าตัวตนในโลกโซเชียล เป็นต้น ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก ไลน์ อินสตาแกรม สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เมื่อสร้างมาแล้วเราก็ไปยึด การยึดมั่นถือมั่นย่อมมีการยินดียินร้าย รัก ชอบ เกลียด ชัง เป็นปกติ กลายเป็นเราสร้างเสริมกิเลสทับถมตนเองให้หนายิ่ง ๆ ขึ้นไป แทนที่จะละ จะวางกิเลส ก็กลายเป็นสร้างเสริมให้กิเลสเจริญงอกงาม

จึงเป็นเรื่องที่น่าห่วงเป็นอย่างมากว่า เราทั้งหลายตั้งใจว่าปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้นไปพระนิพพาน แต่สิ่งที่กระทำนั้นค้านกับสิ่งที่ตนเองตั้งใจเหลือเกิน มองดูแล้วแทบจะไม่มีหนทางที่เป็นไปได้เลยด้วยซ้ำไป ยกเว้นว่าจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสียใหม่

เรื่องของโทรศัพท์ใช้ในการติดต่อสื่อสาร เราก็สื่อสารเฉพาะวาระ เฉพาะเวลาที่จำเป็นเท่านั้น ซึ่งอาตมายืนยันว่าทุกคนถ้าตั้งใจก็ทำได้เหมือนกัน เพราะว่าอาตมาเองบางทีก็ลืมไปว่าโทรศัพท์อยู่ที่ไหน เนื่องเพราะว่าไม่ได้ใส่ใจ ถ้าไม่ได้ติดต่อกับใครก็แทบจะไม่ได้หยิบไม่ได้จับเลย บางที่ชาร์ตไฟเอาไว้จนกระทั่งไฟหมดยังไม่ได้ติดต่อกับใครเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-04-2017 เมื่อ 05:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 27-04-2017, 18:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นดังนี้ก็แปลว่า ถ้าเราตั้งใจจะละจะวางจริง ๆ ของหยาบ ๆ แค่โทรศัพท์มือถือทำไมเราจะวางไม่ได้ ? เพราะสิ่งที่ละเอียดกว่านี้ ก็คือคนที่เรารัก ลำดับต่อไปก็คือร่างกายนี้ที่เรารักมากที่สุด ถ้าเราวางสิ่งหยาบไม่ได้ สิ่งละเอียดทั้งหลายเหล่านี้เราก็ไม่สามารถที่จะวางได้เช่นกัน

การจะละวางนั้น เราต้องรักษาศีลทุกสิกขาบทของเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล ไม่ยินดีเมื่อผู้อื่นละเมิดศีล สติสมาธิจดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้าออก จดจ่ออยู่กับอารมณ์ปัจจุบันตรงหน้า ไม่ไปไขว้เขวกับสิ่งยั่วยวนต่าง ๆ ที่มาทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มีปัญญามองเห็นทุกข์เห็นโทษว่าร่างนี้หาความดีไม่ได้

ตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาจนหลับตาลงไปมีแต่ความทุกข์ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาทุกข์ก็ไม่ควรที่จะมีสำหรับเราอีก ถ้าหากว่าตายลงไปเมื่อไรเราควรไปพระนิพพานแห่งเดียว ถ้าหากว่าทุกท่านสามารถวางกำลังใจเช่นนี้ได้ ละวางเครื่องถ่วงต่าง ๆ รอบข้างเราลงไปได้ เราก็มีโอกาสที่จะหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพาน

ลำดับต่อไปก็ให้ทุกคนตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันอาทิตย์ที่ ๙ เมษายน ๒๕๖๐

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย รัตนาวุธ)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-04-2017 เมื่อ 05:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:02



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว